Your Wishlist

เกิดใหม่ยอดหญิงนักธุรกิจ (Chapter 11: เครดิตครึ่งหนึ่ง)

Author: AKS Team แปล

ชีวิตในชาติก่อน เธอถูกทำให้อับอายและถูกรังแกทุกวัน ญาติพี่น้องดูถูก เพื่อน ๆ ก็เล่นตลกกับเธอ! แม่และพี่ชายเสียชีวิตทีละคนก่อนวัยอันควร เธอจำเป็นต้องกัดฟันสู้และเอาชีวิตรอดจากความทุกข์ยากเพียงลำพัง แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียง 26 ปีเท่านั้น! เมื่อเธอลืมตาอีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองย้อนเวลากลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน เธอควรกล้ำกลืนคำดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเงียบๆ และปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างนั้นหรือ? หากไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ เธอจะเกิดใหม่ไปเพื่ออะไร! เธอขอท้าทายโชคชะตาด้วยตัวเองอีกครั้ง ต่อหน้าคนอื่น เธอเป็นนักเรียนธรรมดาที่มีบุคลิกเฉยเมย โดดเดี่ยว ไม่แยแสใคร เธอทำงานทีละขั้นตอนเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและไม่ธรรมดา

จำนวนตอน : N/A

Chapter 11: เครดิตครึ่งหนึ่ง

  • 11/10/2564

เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของเจียนอ้าย ซูเจียวเจียวก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา เธอแอบเยาะเย้ยเจียนอ้ายที่แกล้งทำเป็นอยู่ห่างๆ แต่แสร้งทำว่าเป็นมิตร เธอพูดกับเจียนอ้ายว่า “แค่ยอมรับมันยากตรงไหน? พวกเราเห็นหลินอีซื้อข้าวเที่ยงให้เธอ อย่ามาทำเป็นอายแล้วไม่ยอมรับ!”

 

ความคิดแรกเจียนอ้ายไม่ต้องการอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้ใครฟัง ท้ายที่สุดถ้ามันใช่ก็คือใช่ ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ความคิดที่สองคือแทนที่จะปล่อยให้คนอื่นแพร่ข่าวลือเท็จและสร้างเรื่องซุบซิบ คงดีกว่าถ้าใช้ปากของซูเจียวเจียวเผยแพร่ความจริง เธอก็จะได้ไม่เหนื่อย ถึงอย่างไรหลินอีก็มีคนชื่นชอบไม่น้อย มันน่ารำคาญที่จะจัดการกับบรรดาสาวๆของเขาด้วยตัวเอง

 

เมื่อคิดได้แล้ว เจียนอ้ายก็หยุดสิ่งที่เธอทำและมองซูเจียวเจียวอย่างจริงจัง “เธอคิดมากไปแล้ว หลินอีซื้ออาหารเที่ยงให้ฉันเพียงเพื่อขอโทษฉัน มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอกนะ ขอโทษทีที่ทำให้เธอผิดหวัง”

 

ซูเจียวเจียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลุดจากความงุนงง “เป็นแบบนี้เองเหรอ! ฉันว่าแล้ว! ไม่ว่าฉันจะมองยังไง เธอสองคนก็เข้ากันไม่ได้ พวกเธออยู่กันคนละโลก.....”

 

พูดได้ครึ่งทาง ซูเจียวเจียวแสร้งทำเป็นพูดผิดและรีบปิดปากของเธอ อย่างไรก็ตาม ความหมายเบื้องหลังคำพูดของเธอนั้นชัดเจน เธอแอบเยาะเย้ยเจียนอ้ายว่าไม่ดีพอสำหรับหลินอี และหลินอีจะไม่ตกหลุมรักคนอย่างเจียนอ้ายแน่นอน

 

“เจียนอ้าย ฉันไม่เก่งเรื่องคำพูด ฉันไม่ได้หมายความถึงอย่างอื่น อย่าคิดมากเลยนะ” ซูเจียวเจียวแสร้งทำเป็นขอโทษ แต่เธอจับตาดูการแสดงออกของเจียนอ้าย เธอต้องการดูว่าเจียนอ้ายจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม เจียนอ้ายทำให้เธอผิดหวัง เจียนอ้ายแค่ยิ้มและพยักหน้าอย่างเฉยเมย “เธอพูดถูก ฉันไม่ใช่คนประเภทเดียวกับเขา ดังนั้นเธอไม่ควรเอาฉันกับเขามารวมกันอีก”

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเจียนอ้าย ซูเจียวเจียวก็พึมพำในใจ เธอคิดว่าเจียนอ้ายจงใจทำเป็นเข้มแข็ง และอาจกำลังร้องไห้ในใจแปดร้อยครั้ง

 

มันเป็นไปตามที่เจียนอ้ายคิดไว้ ซูเจียวเจียวผู้รู้ความจริงกำลังเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าวแทนเธอ ในบ่ายวันหนึ่งทุกคนก็รับรู้กันทั่วว่าหลินอีเลี้ยงข้าวเจียนอ้ายเพื่อขอโทษ และเขาไม่มีเจตนาอื่นใด

 

หลังเลิกเรียนในช่วงบ่าย เจียนอ้ายและกวนเตาพูดคุยและหัวเราะขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ พวกเธอเดินไปได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดเดิน

 

หลี่หยุนเหม่ยเป็นหัวโจก และมีผู้หญิงสี่คนที่เจียนอ้ายไม่รู้จัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเธอเป็นผู้ติดตามของหลี่หยุนเหม่ย

 

ทั้งห้าคนยืนเรียงแถวขวางทาง เห็นได้ชัดว่าพวกเธอกำลังจะหาเรื่อง

 

เจียนอ้ายหยุดนิ่งกับที่และดึงกวนเตาตามสัญชาตญาณไปข้างหลังเธอ หลี่หยุนเหม่ยเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย เธอพูดกับเจียนอ้ายว่า “เจียนอ้าย ลำพังตัวเองก็แทบปกป้องไม่ได้ ยังคิดจะปกป้องยายบ๊องนั่นอีก”

 

 “ต้องการอะไร?” ดวงตาของเจียนอ้ายขรึมลง เธอไม่หวาดกลัวกับภาพตรงหน้า

 

“ฮ่า ฉันต้องการอะไร?” หลี่หยุนเหม่ยเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างดูถูก "แน่นอนว่าฉันกำลังสอนบทเรียนให้แกยังไงล่ะ! เจียนอ้าย คนอย่างแกไร้ยางอายเกินไปแล้ว แกกล้าขอให้หลินอีเลี้ยงข้าวแกตั้งหนึ่งเดือน ทำไมถึงไม่มองดูตัวเองบ้าง? แกมีค่าพองั้นเหรอ?”

 

เจียนอ้ายยิ้มแทนที่จะโกรธ เธอมองไปที่หลี่หยุนเหม่ยและตอบอย่างยั่วยุว่า “ฉันต้องขอบคุณเธอสำหรับเรื่องนี้ ถ้าเธอไม่ผลักฉันลงไปในสระ หลินอีก็คงไม่มาขอโทษฉันและฉันคงไม่ได้กินข้าวฟรี จะว่าไปแล้วเครดิตครึ่งหนึ่งสำหรับอาหารกลางวันฟรีนี้ก็เป็นของเธอด้วยนะ หลี่หยุนเหม่ย!”

 

 

ทุกวัน
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป