Your Wishlist

เกิดใหม่ยอดหญิงนักธุรกิจ (Chapter 10: คนหนึ่งเต็มใจจะสู้ อีกคนเต็มใจที่จะทนทุกข์)

Author: AKS Team แปล

ชีวิตในชาติก่อน เธอถูกทำให้อับอายและถูกรังแกทุกวัน ญาติพี่น้องดูถูก เพื่อน ๆ ก็เล่นตลกกับเธอ! แม่และพี่ชายเสียชีวิตทีละคนก่อนวัยอันควร เธอจำเป็นต้องกัดฟันสู้และเอาชีวิตรอดจากความทุกข์ยากเพียงลำพัง แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียง 26 ปีเท่านั้น! เมื่อเธอลืมตาอีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองย้อนเวลากลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน เธอควรกล้ำกลืนคำดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเงียบๆ และปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างนั้นหรือ? หากไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ เธอจะเกิดใหม่ไปเพื่ออะไร! เธอขอท้าทายโชคชะตาด้วยตัวเองอีกครั้ง ต่อหน้าคนอื่น เธอเป็นนักเรียนธรรมดาที่มีบุคลิกเฉยเมย โดดเดี่ยว ไม่แยแสใคร เธอทำงานทีละขั้นตอนเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและไม่ธรรมดา

จำนวนตอน : N/A

Chapter 10: คนหนึ่งเต็มใจจะสู้ อีกคนเต็มใจที่จะทนทุกข์

  • 09/10/2564

โต๊ะอีกฝั่ง หลินอีอดไม่ได้ที่จะมองเจียนอ้ายที่กำลังกินข้าวอยู่

 

สามคนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือเด็กชายร่างสูงผอมบาง สวมแว่น ดูสง่างาม เขาชื่อเกาหยาง

 

อีกคนหนึ่งผิวสีแทน ตัวเตี้ย ผมเรียบ เขามีรูปร่างแข็งแรง และถูกเรียกว่าหยวนเถียน

 

อีกคนเป็นผู้หญิงผมสั้น หน้าตาสะสวย เธอชื่อเซี่ยฉิงฮวน เป็นแฟนหยวนเถียน

 

ทั้งสามคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลินอีและมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พวกเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียน

 

หลินอีเอาแต่มองเจียนอ้ายที่นั่งห่างออกไป เพื่อนอีกสามคนก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

 

หยวนเถียนเอาตะเกียบเคาะจานของหลินอี “นี่  นี่....นายเป็นอะไร?  อย่าบอกนะว่านายชอบยายเซ่อนั่นจริงๆ!”

 

หลินอีกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขามองหน้าเพื่อนทั้งสามคนแล้วส่ายหน้า “เปล่า ฉันแค่คิดว่าเธอต่างจากเมื่อก่อนน่ะ”

 

“ฮึ  ฉันคิดว่าเธอจะเสียสติไปแล้วซะอีกตอนที่ตกลงไปในสระ” หยวนเถียนพูดด้วยท่าทางดูถูก “เธอกล้าดียังไงที่ให้นายเลี้ยงข้าวทั้งเดือนแบบนั้น!”

 

“เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากฉัน  ฉันต้องขอโทษเธอก็ถูกแล้วไหมล่ะ?” หลินอีขมวดคิ้วและพึมพำออกมา

 

เกาหยางดันแว่นขึ้นและพูดว่า “นายพูดแบบนั้นก็ถูก แต่คนผลักเธอตกน้ำคือหลี่หยุนเหม่ย คนที่ต้องชดใช้ควรเป็นหลี่หยุนเหม่ย  ถึงนายจะจ่ายค่าข้าวไม่ถึงห้าร้อยหยวนก็เถอะ ฉันก็ยังรู้สึกว่าเธอกำลังรีดไถนาย”

 

“ฉันว่าพวกนายกินเสร็จกันรึยัง!?” เซี่ยฉิงฮวนทนฟังต่อไม่ไหว เธอวางตะเกียบลงแล้วพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าพวกนายไม่เดิมพันกัน เธอจะถูกผลักตกลงไปในสระไหม? ดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้สิ พวกนายต้องการลบล้างความผิดตัวเองบ้างไหมเนี่ย? ฉันจะบอกให้นะ จริงอยู่ที่ตอนนี้เจียนอ้ายสบายดี ถ้าเธอจมน้ำตายขึ้นมาจริงๆ พวกนายทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ! และฉันคิดมาตลอดว่าเจียนอ้ายเป็นคนที่ยอมจำนนต่อความทุกข์ ทว่าวันนี้ เธอบอกให้หลินอีชดใช้ให้เธอ ฉัน เซี่ยฉิงฮวน นับถือเธอจากใจเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ”

 

เซี่ยฉิงฮวนมองไปที่หลินอีและพูดว่า  “หลินอี อย่าคิดว่านายเสียเปรียบ นี่เป็นความผิดนาย นายควรเลี้ยงข้าวเธอ นั่นถูกต้องแล้ว”

 

“เฮ้ เธอกำลังเข้าข้างใครกันแน่?  ทำไมเธอถึงพูดเข้าข้างคนอื่น!” หยวนเถียนจ้องแฟนสาวตาเขม็ง

 

เซี่ยฉิงฮวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและกินต่อ น้ำเสียงของเธอดูสบายๆ ขณะที่ตอบว่า “ฉันเป็นคนมีเหตุผล เจียนอ้ายไม่ใช่คนไม่ดี แต่พวกนายชอบหาเรื่องคนอ่อนแอ และชอบรังแกเธอ”

 

หยวนเถียนอยากพูดอะไรซักอย่าง แต่หลินอีขัดจังหวะเขา “ฉิงฮวนพูดถูก ฉันรู้สึกเสียใจที่ทำกับเธอแบบนั้นจากใจจริง  ฉันจะรู้สึกดีขึ้นถ้าได้ชดใช้อะไรให้เธอบ้าง เรื่องขำขันของพวกเราก็ควรพอเถอะ มันเป็นความผิดของพวกเราตั้งแต่แรก”

 

“ก็ได้ ก็ได้ ระหว่างพวกนายสองคน คนหนึ่งเต็มใจสู้ อีกคนเต็มใจทนทุกข์ พวกเราจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก ไม่ใช่ว่านายไม่มีเงินสักหน่อย” หยวนเถียนยักไหล่และเอนหลังพิงเก้าอี้ ทำเหมือนเขาไม่สนใจ

 

หลังจากกินข้าวเที่ยง เจียนอ้ายก็ตรงกลับไปที่ห้องเรียน แต่ทันทีที่เธอนั่งลง นักเรียนหญิงที่นั่งข้างหน้าเธอก็รีบหันหน้ามาหา และกระซิบถามว่า “เจียนอ้าย เธอคบกับหลินอีจริงๆเหรอ?”

 

ชื่อของเธอคือ ซูเจียวเจียว ปกติเธอไม่ค่อยพูดกับเจียนอ้ายนัก ตอนนี้เธอคงไม่สามารถควบคุมไฟสุมอกไว้ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามเจียนอ้ายด้วยตัวเอง

 

ขณะที่เจียนอ้ายเอาหนังสือเรียนตอนบ่ายขึ้นมา เธอตอบอย่างใจเย็นว่า  “ไม่”

 

ทุกวัน
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป