**แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
**แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
บทที่ 78 : หลู่ชวน
ครึ่งเดือนต่อมา ณ หมู่บ้านหลิ่วเยว่
“พี่หญิงรองงงง!”
ยังไม่ทันที่รถม้าจะจอดสนิท ร่างเล็กของหลู่เจียงก็วิ่งพรวดออกมาจากลานบ้านด้วยขาสั้น ๆ รีบพุ่งเข้าหานางด้วยความดีใจ
หลู่เซิงหัวเราะออกมา พลางก้มตัวอุ้มเขาขึ้น “แล้วน้องซินล่ะ”
“น้องสาวไปเล่นกับหยวนจื่อที่บ้านป้าอวี้ขอรับ” เด็กชายตอบเสียงใสก่อนทำหน้าหงอย “พี่หญิงรองหายไปไหนมาตั้งนาน ข้าแทบจะคิดถึงจนร้องไห้แล้วนะ”
พูดถึงตรงนี้ ดวงตาเล็ก ๆ ก็แดงเรื่อขึ้นมาทันที
“ชายชาตรีที่ดีจะร้องไห้ง่ายได้อย่างไรกัน?” หลู่เซิงหัวเราะเบา ๆ พลางบีบแก้มยุ้ยของน้องชายด้วยความเอ็นดู “แล้วพี่ใหญ่กลับมาหรือยัง”
“กลับมาแล้ว พี่ใหญ่กลับมาช่วยเกี่ยวข้าวอยู่หลายวันก่อนจะเข้าตัวเมืองไปอีกที”
“อย่างนั้นก็ดี”
หลู่เซิงมองไปรอบลานบ้าน เห็นต้นพืชผักเขียวชอุ่มเรียงราย มีกลิ่นดินหอมลอยอ้อยอิ่ง ดอกพริกขาวเล็ก ๆ บานสะพรั่งอยู่ทั่วไป นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นนางไม่สนของบนรถม้า รีบตรงไปยังลานหลังบ้าน สระบัวเล็ก ๆ ที่นางลงแรงเลี้ยงกุ้งแม่น้ำกับปูนามาด้วยตนเอง
เมื่อเห็นกุ้งและปูไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในน้ำ ดอกบัวผลิบานอย่างงดงาม และผืนน้ำเต็มไปด้วยพืชน้ำเขียวสด หลู่เซิงถึงได้ยิ้มออกมา
“พี่เหลียงกับพี่สะใภ้มาดูแลให้ทุกวันเลยขอรับ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย เปิดน้ำเข้าออกให้ตลอดเลย” หลู่เจียงที่ตามมาด้วยนั่งยอง ๆ ตรงขอบบ่อแล้วพูดเสียงใส
“อย่างนั้นคืนนี้เราคงต้องจัดเลี้ยงขอบป้าอวี้กับพี่เหลียงเสียหน่อย” หลู่เซิงพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจูงมือน้องชายกลับเข้าลานหน้าบ้าน
หลังขนของจากรถม้าเสร็จ นางก็รีบออกไปซื้อของในตลาดหน้าหมู่บ้าน นางซื้อมันหมู ซี่โครง เนื้อหมู ผักมะเขือกับผักสดอีกหลายอย่าง แถมยังหอบไก่หนึ่งตัวกับรากบัวสองชิ้นกลับมาด้วย
แต่ยังไม่ทันจะเดินพ้นตรอกก็ได้ยินเสียงกระซิบของพวกหญิงในหมู่บ้านดังตามหลังมา
“เห็นเมื่อกี้ไหม? นางขับรถม้ากลับมาด้วยเชียวนะ รถม้านั่น... หรือว่าจะมีชายใดมอบให้”
“ข้าว่าก็คงไม่ผิดหรอก ถ้าไม่ใช่ของชายอื่น นางจะมีเงินจากที่ไหนมาซื้อของมากมายขนาดนั้น”
“ถ้าเหอซื่อรู้เข้า คงต้องอกแตกตายแน่!”
“นางจะมีอะไรน่าภูไม่ใจกัน ขายเนื้อหนังแลกเงินเท่านั้นเอง!”
เสียงเหล่านั้นดังแผ่วแต่ชัดเจนพอจะทำให้หลู่เซิงชะงักเท้าทันที
นางหันกลับไปอย่างเยือกเย็น สายตาคมกล้าดั่งมีดสั้นเชือดเฉือน ความนิ่งเฉยบนใบหน้าเยือกเย็นจนพวกหญิงที่พูดอยู่เมื่อครู่ต่างรีบก้มหน้าหลบ
“ขายเนื้อหนังแลกเงินงั้นหรือ?”
หลู่เซิงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน แล้ววางของในมือลงกับพื้น ก่อนสาวเท้าเข้าไปหากลุ่มหญิงเหล่านั้นช้า ๆ
นางยกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นท่อนแขนขาวสะอาด ที่ข้อมือของนางมีจุดสีแดงสด รอยประทับแห่งพันธะวิญญาณที่ไม่มีสตรีใดกล้ากล่าวหาว่า “ขายตัว” ได้
พวกหญิงชะงักเงียบ สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
“อย่าใช้ความคิดต่ำทรามของพวกเจ้ามาตัดสินผู้อื่น” เสียงของหลู่เซิงเย็นเยียบ “ไม่ใช่ทุกคนจะตกต่ำจนคิดได้แต่เรื่องสกปรกเช่นพวกเจ้า”
นางเก็บของขึ้นอีกครั้งแล้วเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งให้เหล่าสตรีพากันก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตา
หากเรื่องเล่าร้าย ๆ เพียงลับหลังนางอาจไม่ใส่ใจ แต่เมื่อพูดกันต่อหน้าเช่นนี้ จะให้หลู่เซิงยืนฟังเฉย ๆ คงไม่ใช่นิสัยของนางแน่
“พี่หญิงรอง พี่ชวนมาหา บอกว่าจะเอาผ้าทอที่พี่หญิงรองเพิ่งซื้อมาคืนไปด้วย” เสียงของหลู่เจียงดังลั่นจากในลาน ขณะที่หลู่เซิงเพิ่งเดินมาถึงประตูบ้าน
นัยน์ตาของนางพลันเย็นลงทันที
นางถือของในมือข้างหนึ่ง จูงน้องชายอีกข้าง แล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างเงียบเชียบ
“โอ๊ะ... อาเซิงกลับมาแล้วรึ” เสียงหยาบห้าวของหลู่ชวนดังขึ้นจากในเรือน
ชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังถือผ้าทอที่หลู่เซิงซื้อไว้ กับถุงข้าวสารและอาหารแห้งที่นางตั้งใจซื้อให้เด็ก ๆ ดูท่าว่าจะกำลังถือของเหล่านั้นเตรียมเดินออกไปเสียด้วย
เมื่อเห็นของกินที่หลู่เซิงถืออยู่ในมือ เขากลืนน้ำลายลงคอทันที “นี่เจ้าซื้อไว้ทำกับข้าวให้ข้ากินหรือ”
ข่าวลือเรื่อง หลู่เซิงได้พึ่งชายผู้มั่งมีในเมือง แพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านหลิ่วเยว่แล้ว ดังนั้นการที่นางหอบของดี ๆ กลับมา จึงไม่แปลกที่ชายผู้นี้จะมองนางด้วยสายตาโลภอยาก
เขายังยิ้มกะลิ้มกะเหลื่อ เหมือนมั่นใจเต็มที่ว่านางจะไม่กล้าปฏิเสธ ราวกับคิดจะกินฟรีก่อนจากไปอีกมื้อ
แต่ในสายตาของหลู่เซิงตอนนี้ ชายผู้นั้นไม่ต่างจากขยะที่น่ารังเกียจที่สุดในโลกเลยสักนิด