เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
“น้ำ… ฉันหิวน้ำ…”
หูชื่อเหวินพึมพำออกมาบนเตียงผู้ป่วย
หยินเหวินกั๋วรีบหยิบน้ำต้มที่เย็นแล้วบนโต๊ะรินใส่แก้วน้ำชา จากนั้นพยุงเธอให้ลุกนั่งแล้วประคองแก้วใส่ปากให้เธอดื่มช้าๆ
ริมฝีปากของหูชื่อเหวินแห้งแตกระแหงจากพิษไข้ แต่หลังจากดื่มน้ำก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว เธอเลียริมฝีปากของตนเองเริ่มมีสติขึ้นมา
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาสายตาของหญิงสาวพร่ามัว เป็นเพราะพิษไข้ที่ยังไม่ทุเลาลง
หยินเหวินกั๋วกำลังพยุงเธอลุกขึ้นนั่ง เขาเป็นคนป้อนน้ำให้
หูชื่อเหวินไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะพูดหรือแม้แต่ยกมือขึ้น กระทั่งแรงจะผลักผู้ชายคนนี้ออกไปยังไม่มี เธอจึงถูกเขาประคองนอนลงบนเตียงอีกครั้งนอกจากนี้แล้วก็ยังมีอาการวิงเวียนหัวอีกด้วย
ในตอนแรกหูลี่อิงไข้ขึ้นเธอจึงได้มาอยู่ที่นี้ ตอนนี้เธอก็มีไข้ขึ้นสูงกว่าเดิมอีกเธอจะยังได้อยู่ในร่างนี้อีกหรือเปล่า?
หูชื่อเหวินอยากเจอลูกสาวของตนอีกครั้ง แต่เธอก็ยังอยากจะอยู่ต่อเพื่อช่วยพ่อกับแม่หาคู่ที่เหมาะสมให้พวกเขาทั้งสองคน จะทำอย่างไรดี?
รุ่งสางหูชื่อเหวินตื่นขึ้นมา เธอกวาดสายตามองการตกแต่งห้องก็ทำให้รู้ว่าได้อยู่ที่โรงพยาบาลอีกแล้ว
เธอรู้สึกหดหู่ ร่างกายของหูลี่อิงอ่อนแอมากจริงๆ เมื่อคืนเธอน่าจะเป็นหวัดจนไข้ขึ้นถึงได้ถูกพาตัวมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้
เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบชายคนหนึ่งนั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้โดยใช้ศอกค้ำไว้
ทำไมผู้ชายปากไม่ตรงกับใจถึงได้มาดูแลเธอ? ดูเหมือนว่าเมื่อคืนก็เป็นเขาที่ป้อนน้ำให้เธอกิน หูชื่อเหวินอดงงไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ว่าเกลียดเธอหรือ? แต่ทำไมนั่งอยู่ตรงนี้เพื่อดูแล? แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีจิตใจที่ดีอยู่บ้าง
หูชื่อเหวินรู้เรื่องราวทั้งหมดดี เมื่อมาอยู่ที่นี้ก็ไม่สามารถกลับไปได้อีก นอกจากนี้ระบบยังบอกว่าเธอเสียชีวิตในยุคปัจจุบันไปแล้ว
หญิงสาวรู้สึกเศร้ามาก เมื่อคืนเธอฝันถึงเรื่องราวในชีวิตก่อนจนสับสนไปหมด หวังว่าคงไม่ได้ละเมอเผลอพูดอะไรออกไปนะ หยินเหวินกั๋วจะผิดสังเกตไหม?
“ตื่นแล้วหรือ?”
ก่อนที่หูชื่อเหวินจะละสายตาไปจากเขา เธอก็พบว่าชายหนุ่มได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว
“อืม… ขอบคุณที่หัวหน้าช่วยดูแลฉันทั้งคืน ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว เมื่อวานคงทำให้ลำบากพอสมควรหัวหน้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ”
หูชื่อเหวินไม่อยากจะพูดจาสุภาพกับเขานัก แต่เมื่อคืนเขาปีนขึ้นปีนลงเพื่อซ่อมสายไฟ อีกทั้งยังต้องมาดูแลเธอที่โรงพยาบาลอีก การนั่งเฝ้าทั้งคืนเช่นนี้คงทำให้เขาเหนื่อยมาก
“ฉันสบายดี เธอล่ะรู้สึกอย่างไงบ้าง” หยินเหวินกั๋วพูดจบก็ลุกขึ้นยืนเหยียดขาที่ชาของตน
นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาเลย การรบในแนวหน้ายากลำบากกว่าหลายเท่า บางครั้งถึงขนาดเคลื่อนไหวไม่ได้ทั้งคืน
“เธอหิวไหม? ทำไมไม่ให้หลี่เสวี่ยฉินหรือไม่ก็จางหมิงเยี่ยนลางานมาดูแลเธอล่ะ”
“ไม่จำเป็นค่ะหัวหน้า ฉันจะออกจากโรงพยาบาลไปพักผ่อนที่หอตอนสายๆ จะดีกว่า” เธอไม่สามารถขอให้คนสองคนลางานได้บ่อยๆ ถ้าหากลาจะถูกหักค่าแรง ทั้งคู่มาจากครอบครัวที่ยากจนไม่สมควรที่จะมาเสียเวลาเพื่อเธอ
“จะออกจากโรงพยาบาล?”
หยินเหวินกั๋วมองเธอสงสัย
“ใช่ค่ะ! ที่หอยังมียาจากตอนที่ฉันป่วยคราวก่อนอยู่ แค่กินยาก็พอแล้ว”
หลังจากกลับไปถึงเธอคิดว่าจะใช้คะแนนในระบบแลกเปลี่ยนยาที่จะทำให้เธอหายเร็วขึ้น
ในชาติก่อนเธอพยายามที่จะไม่เข้าโรงพยาบาลเพราะเธอกลัวหมอ
ตอนเด็กๆ เธอป่วยอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาลต้องเสียเงินไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากเธอเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้งในอดีต เมื่อลูกของเธอป่วยเล็กน้อยเธอจะเป็นคนหายาให้ทานเองเพราะเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น
“ได้ ฉันจะโทรหาคนที่สวนดูว่าใครจะมารับได้บ้าง”
หยินเหวินกั๋วมองความแน่วแน่ของเธอ ทำให้เขารู้ว่าเธอได้ตัดสินใจที่จะออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ต้อง…”
ก่อนที่หูชื่อเหวินจะพูดจบชายคนนั้นก็ออกจากประตูไปแล้ว
เฮ้อ… เธอแค่อยากบอกเขาว่าไม่ต้องการเดือดร้อนคนอื่น เธอคือตัวสร้างปัญหาจริงๆ
แต่พอมาคิดดูแล้วโรงพยาบาลกับที่พักในไร่ค่อนข้างไกลกัน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับไปได้ยังไง
หยินเหวินกั๋วกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน
“เติ้งกวงหรงจะมาตอนหกโมงเย็น ตอนนี้ยังไม่ถึงสี่โมงเธอนอนต่อได้”
หลังจากพูดจบหยินเหวินกั๋วหยิบแก้วชาบนโต๊ะเดินออกไปอีกครั้ง เมื่อกลับมาแก้วก็เต็มไปด้วยน้ำร้อน เขาเปิดหน้าต่างและวางแก้วไว้เพื่อให้น้ำเย็นเร็วขึ้น
หูชื่อเหวินมองการกระทำทุกอย่างของเขาแล้วรู้สึกแปลกเล็กน้อย เขาช่างเป็นผู้ชายที่ละเอียดรอบคอบและมีน้ำใจ
ในชาติก่อนผู้ชายในอุดมคติของเธอแข็งแกร่งและต้องดูแลเอาใส่เธอได้
หูชื่อเหวินรู้ดีผู้ชายแบบนี้หายาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอเปลี่ยนใจ
ในชีวิตที่แล้วเธอแข็งแกร่งเกินไปและเธอไม่ชอบผู้ชายที่อ่อนแอ ผู้ชายของเธอต้องแข็งแกร่งกว่าเธอ
จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้อยากจะเข้มแข็งตลอด ในบางครั้งก็ยังต้องการพึ่งพาใครสักคน คนที่สามารถเป็นกำลังใจให้ตอนที่เธอต้องการและคอยบอกเธอว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไรเพราะยังมีเขาอยู่เสมอ
เธออยากเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ บ้าง แต่ในความเป็นจริง ถ้าเธอไม่เข้มแข็งแม่ของเธอจะถูกรังแกมากขึ้น ส่วนเธอกับลูกก็จะต้องอดตายในสักวัน
ตอนเด็กๆ เธอจินตนาการว่าจะได้พบกับเจ้าชายทั้งเขาและเธอจะครองรักกันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตราบนิรันดร์
ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวในยุคนั้นต่างก็เพ้อฝันจากนิยายของป้าฉงเหยาและเจิ้นไคหลุน (นักเขียนนิยายรัก) ทุกคนต่างมีผู้ชายในฝันแบบเดียวกันคือ หล่อ รวย อ่อนโยน มีน้ำใจและรักใคร่ภรรยา แต่สักวันจินตนาการจะถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเป็นจริง
ยิ่งอายุมากขึ้น ผู้หญิงจะถูกความจริงตบหน้าเข้าให้สักวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าเธอจะเจอคนที่ใช่สักกี่คนพวกเขาก็จะหายไปหลังจากรู้เรื่องแม่ของเธอ สุดท้ายแล้วหูชื่อเหวินจึงขอแค่ใครสักคนที่ดีกับเธอก็พอ เธอต้องการแค่ครอบครัวที่สมบูรณ์และลูกที่น่ารักเท่านั้น
แต่ความจริงก็ตบหน้าเธออีกครั้ง ก่อนแต่งงานแม้ว่าทุกอย่างจะดีไปหมด แต่หลังแต่งงานการใช้ชีวิตช่างแตกต่างจากสิ่งที่เคยเพ้อฝันเอาไว้
เมื่อเธอได้มีชีวิตใหม่จึงไม่เคยคิดที่จะแต่งงาน อีกเลยแม้ว่าสมัยนี้จะยากไปสักหน่อยแต่เธอก็จะสู้เพื่อตัวเอง
“น้ำเริ่มเย็นแล้ว”
เขาหยิบแก้วน้ำชาหันกลับมามองหูชื่อเหวิน ทั้งสองคนจึงสบตากัน เกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้นมา
“น้ำกำลังอุ่นๆ ดื่มสิ” หูชื่อเหวินรับแก้วน้ำชา มาดื่มเธอหิวน้ำมากเพราะเธอเป็นไข้และร่างกายขับเหงื่อออกมา น้ำที่ดื่มตั้งแต่เมื่อคืนน่าจะถูกใช้ไปหมดแล้ว
หลังจากดื่มเสร็จหูชื่อเหวินปรับท่านั่งและเตรียมจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเองเธอก็เห็นเขาถือบางอย่างเล่นอยู่ในมือ มันคือ…
เมื่อเห็นเธอมองมา เขาจึงวางมันบนโต๊ะ
“นี่ของเธอใช่ไหม? มันคืออะไร”
หูชื่อเหวินมองแผ่นแปะกันยุงบนโต๊ะ พลันรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมา ฉันจะอธิบายเขาว่าอย่างไรดี?
แบบนี้ถือว่าไม่ระมัดระวังตัวเองในการใช้ของหรือเปล่า? ระบบจะปิดการซื้อขายของไหม?
"นี่มัน...ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แผ่นแปะทั่วไป..."
หลังจากพูดจบเธอก็หยิบมันทิ้งถังขยะ จากนั้นจึงขยับขาลุกจากเตียง
“เป็นไข้แล้วจะลุกไปไหนอีก?”
ชายคนนั้นก้าวมาขวางเธอไว้และไม่ถามถึงแผ่นแปะกันยุงอีกต่อไป