เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
“ฉันแค่อยากไปห้องน้ำ…"หูชื่อเหวินหน้าแดง เธออายเล็กน้อยเมื่อพูดออกไป
หยินเหวินกั๋วก็อายเช่นกันและใบหน้าของเขาก็ร้อนขึ้น
“ฉันจะไปกับเธอด้วย”
“ไม่… ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้!”
หยินเหวินกั๋วไม่พูดอะไรแต่เดินเข้าไปพยุงเธอแทน ช่วยไปส่งเธอถึงหน้าห้องน้ำแล้วยืนรออยู่ตรงประตู
หูชื่อเหวินไม่รู้สึกถึงอาการวิงเวียนจนกระทั่งลุกขึ้นยืน แม้ว่าไข้จะลดลงแล้วแต่หัวก็ยังมีอาการปวดหัวเหมือนหัวกระแทกประตูนรก ถ้าเขาไม่ได้ช่วยเธอคงจะทรุดลงกับพื้นเพราะมึนศีรษะ
เมื่อกลับมาวอร์ดอีกครั้ง หูชื่อเหวินก็ล้มตัวลงนอน
“นอนเถอะ กว่าเติ้งกวงหรงจะมาอีกตั้งเกือบสองชั่วโมง”
หูชื่อเหวินเหลือบมองชายที่นั่งข้างเตียง เมื่อคืนเพราะอาการวิงเวียนทำให้ไม่รับรู้ว่าใครดูแลเธอ แต่ตอนนี้เธอได้สติแล้วโดยมีรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ข้างเตียงเช่นนี้ เธอจะหลับลงได้ไง!
หูชื่อเหวินคิดว่าคงหลับไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ไม่นานนักเธอก็ง่วงจนในที่สุดก็หลับไป หยินเหวินกั๋วมองหูชื่อเหวินซึ่งหลับไปแล้วด้วยใบหน้าที่เขาชินตา แต่ความรู้สึกกลับไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นัก ดังนั้นเขาจะทำเป็นลืมไปแล้วกัน!
ชีวิตก่อนก็คือชีวิตก่อน ยังไงเธอก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขาสักหน่อย แล้วไม่ใช่ว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนชื่อแล้วหรือ? แค่ทำตัวเหมือนเพื่อนร่วมงานทั่วไปในไร่ก็ไม่เห็นจะยากอะไร
หูชื่อเหวินถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งโดยหยินเหวินกั๋ว ตอนลืมตายังคงมีอาการมึนงงมองชายตรงหน้าอย่างงัวเงีย เมื่อตั้งสติได้ก็ตกใจอยู่สักพัก
เมื่อเห็นดวงตาที่แฝงความง่วงงุนของเธอ ไม่รู้ทำไมหยินเหวินกั๋วถึงได้รู้สึกว่ามันน่ารักน่าชังและอยากจะลูบใบหน้าและผมที่ยุ่งเหยิงของเธอนัก
“เติ้งกวงหรงมาแล้ว กลับไปค่อยนอนต่อ”
หยินเหวินกั๋วระงับความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ในใจ
“ค่ะ”
หูชื่อเหวินหาวเมื่อลุกขึ้นนั่ง เธอยืดเส้นยืดสายโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง
หลังจากนอนมาทั้งคืนร่างกายของเธอปวดเมื่อยล้าไปทั้งตัว
ตอนที่หยินเหวินกั๋วมองหูชื่อเหวินเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามุมปากตัวเองโค้งขึ้นมาเล็กน้อย
“หูลี่อิง ทำไมเธอป่วยอีกแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
คำพูดของเติ้งกวงหรงไม่ใช่การประชด เป็นเพียงคำถามทั่วๆ ไป
“อ๋อ ร่างกายของฉันไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ฉันเลยต้องรบกวนพี่เติ้งอีกแล้ว! อีกอย่างฉันเปลี่ยนชื่อเป็นหูชื่อเหวินแล้ว จะเรียกฉันว่าหูชื่อเหวินหรือชื่อเหวินเฉยๆ ก็ได้!”
หูชื่อเหวินรู้สึกอายที่ล้มป่วยถึงสองครั้ง เธอจึงเดินขึ้นรถไถของเติ้งกวงหรงเพื่อกลับหอทันที
“ไม่เป็นไรๆ ขึ้นมาเร็วๆ โอ้! ใช่แล้วเธอเคยบอกฉันเมื่อตอนเจอกันครั้งล่าสุด แต่ว่าฉันจำไม่ได้เอง ฮ่าฮ่า! ชื่อเหวิน… หูชื่อเหวิน เป็นชื่อที่ดีมาก!”
เมื่อคืนฝนตกและรถไถเปียกเติ้งกวงหรงจึงช่วยประคองเธอ นอกจากนี้ยังหยิบเสื้อผ้าจากรถมาให้หูชื่อเหวิน
“ตอนนี้ฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักตอนเช้าเลยหนาวเป็นพิเศษ”
“ขอบคุณนะคะพี่เติ้ง”
หูชื่อเหวินหยิบชุดมาใส่ ผู้ชายในยุคนี้ดูแลเอาใจใส่เก่งมาก ทำไมพ่อของเธอถึงไม่ทำตัวแบบนี้บ้างนะ?
“ไม่เป็นไรๆ หัวหน้าเป็นคนบอกฉันตอนโทรมาให้นำเสื้อผ้ามารับเธอด้วย”
เติ้งกวงหรงโบกมือไปมาขณะพูด จากนั้นจึงได้ขึ้นรถไถ
“ขอบคุณนะคะหัวหน้า”
หูชื่อเหวินกระชับเสื้อตัวเอง ไม่คิดว่าเป็นเขาที่บอกกับเติ้งกวงหรง
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่นั่งรถไถกลับที่พักจากโรงพยาบาล มันขับผ่านบริเวณที่เจอหยินเหวินกั๋วครั้งแรก เธอรู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างแล่นผ่านเข้ามา
จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นเขา ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเธอ แต่ตอนนี้กลับดูแลเธอเป็นอย่างดีที่โรงพยาบาล
หญิงสาวมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาดูกระฉับกระเฉงหลังจากนอนพักมาแค่งีบเดียวไม่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าเลย
เมื่อรถไถหยุดที่ประตูที่พัก หยินเหวินกั๋วลงจากรถไปก่อนเพื่อช่วยหูชื่อเหวินลงจากรถไถ
ครั้งนี้เขาไม่เห็นอนาคตของหูชื่อเหวินอีก ซึ่งก็เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ คงต้องเว้นช่วงสักประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อดูอีกครั้งตามประสบการณ์ที่เขาเคยได้ทดลองเอาไว้หลังจากที่เขาได้เกิดใหม่
หยินเหวินกั๋วรู้สึกผิดหวังเพราะเขาอยากรู้อนาคตของเธอเพิ่มขึ้น เพื่อยืนยันสิ่งที่อธิบายไม่ได้ในใจของตนเอง
“ขอบคุณนะคะหัวหน้า ขอบคุณพี่เติ้งด้วยเช่นกัน”
หูชื่อเหวินยืนอยู่ที่ประตูหอพักขณะที่โค้งคำนับทั้งสองคน จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปด้านใน
หยินเหวินกั๋วอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แม้ริมฝีปากจะขยับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“หัวหน้าหยิน สังเกตไหมว่าหูลี่อิงคนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนชื่อตัวเอง?”
“หูชื่อเหวิน” หยินเหวินกั๋วพูดอย่างใจเย็น แต่นี่คือการย้ำเตือนชื่อในใจตัวเองไปด้วยเช่นกัน
“โอ้! ใช่หูชื่อเหวิน สังเกตไหมว่าเธอเปลี่ยนไปมาก! เธอกลายเป็นคนละคนตั้งแต่ฉันไปรับเธอที่โรงพยาบาลคราวก่อน”
“เปลี่ยนไปเป็นคนละคน…”
หยินเหวินกั๋วพึมพำกับตัวเองทวนคำพูดของเติ้งกวงหรง
“ใช่ เธอสุภาพขึ้นมาก เข้ากับคนง่ายขึ้นและชอบหัวเราะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทำตัวเย่อหยิ่งสูงส่งไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา ชอบทำท่าทางเหมือนดูถูกคนอื่น หายากที่จะทำตัวดีๆ เช่นนี้”
“งั้นหรือ? นายคิดว่าเธอเปลี่ยนไปมากไหม?”
หยินเหวินกั๋วถามอย่างเป็นกันเอง
“แน่นอน! หัวหน้าก็รู้สึกเหมือนกันใช่ไหมว่าเธอเปลี่ยนไป? ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่หลังจากนั้นไม่นานก็คิดออก เรื่องเปลี่ยนชื่อ ดีแล้วที่เธอเปลี่ยนมัน หัวหน้าไม่รู้หรอกว่ามียุวชนแอบเรียกเธอว่านางจิ้งจอกลับหลัง…”
เติ้งกวงหรงพึมพำขึ้นมาระหว่างขับรถไถ
มีคนที่คิดเหมือนเขาเช่นกันหรือนี่ ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นยินดี ไม่ใช่หรอก เขาเพียงแค่คิดว่ามีสักคนรู้สึกเหมือนตนเองเท่านั้นแหละ
เขาพยายามคิด ..ใช่หรือไม่ใช่!
หยินเหวินกั๋วคาดเดาบางอย่างอยู่ในใจแต่ไม่กล้าฟันธงลงไปอย่างเด็ดขาด
“หัวหน้าจะไปไหนหรือครับ”
“ฉันจะไปที่หน่วย”
“ได้ครับ!”
เมื่อหูชื่อเหวินกลับมาที่หอ ยุวชนทั้งหมดก็ไปทำงานแล้วมีเพียงจางหมิงเยี่ยนเท่านั้นที่ยังอยู่ ตอนนี้เธอเป็นครูแล้วจึงไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้า
“ชื่อเหวินเธอกลับมาแล้วหรือ ทำไมถึงได้ป่วยอีกแล้วล่ะ? อาการดีขึ้นหรือยัง?”
เธอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของจางหมิงเยี่ยน แต่แล้วใบหน้านั้นก็ทับซ้อนกับใบหน้าที่เธอเห็นยามที่เพ้อเพราะไข้ขึ้น หัวใจเธอรู้สึกเปรี้ยวฝาดขึ้นมา
เธออ้าปากอยากจะพูด แต่กลับพูดไม่ออก
“เธอหิวหรือเปล่า? ฉันจะไปที่โรงอาหารแล้วเอาอาหารมาให้เธอก่อนออกไปทำงาน”
เธอไม่ทันจะได้ตอบกลับ จางหมิงเยี่ยนก็คว้ากล่องอาหาร เดินออกไปเสียแล้ว เมื่อเธอกลับมา ในกล่องข้าวก็มีโจ๊ก ซาลาเปาและผักดองอยู่ในนั้น
“กินเสร็จแล้วก็พักผ่อนนอนบนเตียงคังเถอะนะ ฉันจะไปทำงานแล้ว”
“ไปดีมาดีนะ!”
เมื่อเห็นจางหมิงเยี่ยนออกไปด้วยความกระฉับกระเฉง หูชื่อเหวินก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง แม่ของเธอสวยและมีความสามารถขนาดนี้ แต่ชาติที่แล้วเธอกลายเป็นผู้หญิงเสียสติพูดจาแปลกๆ ในทุกวันได้อย่างไร!