เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
หยินเหวินกั๋วมองหูชื่อเหวิน เธอดูน่าเวทนา สูญเสียท่าทางหญิงสาวผู้เย่อหยิ่งยโสเช่นในอดีตไปอย่างสิ้นเชิง
ใบหน้าที่เคยสวยสดงดงาม ตอนนี้ซีดเซียวจากความหนาวเย็น ริมฝีปากสีชมพูเปลี่ยนเป็นสีขาว ผมเปียทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยน้ำไหล หยดกระทบลงบนร่างกายและใบหน้า
ขนตาเปียกโชก กลับทำให้เกิดความงามที่ล่อลวงผู้คนจนเขาเองยังรู้สึกเวทนาสงสาร
พอมองเธออีกครั้ง…
เอ่อ… ดวงตาของหยินเหวินกั๋วจ้องเขม็งจากนั้นจึงได้หันไปทางอื่นอย่างผิดปกติ เขาหยิบผ้าขนหนูยื่นส่งให้เธอโดยไม่พูดอะไร
“ขอบคุณค่ะ” หูชื่อเหวินหยิบผ้าเช็ดตัว ผ้าผืนนี้เป็นสีเก่าไปหน่อยแต่สะอาดมีกลิ่นสบู่จางๆ
เธอเช็ดผมเปียกและร่างกายที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำฝน ที่ชุ่มฉ่ำจนพร้อมหยดลงพื้นหลังเช็ดเสร็จ
หูชื่อเหวินมองหาที่สำหรับบิดผ้าและเช็ดต่อ
แต่ชายคนนั้นกลับหยิบผ้าเช็ดตัว เดินไปที่อ่างล้างหน้าบิดผ้าสองสามครั้งแล้วยื่นคืนให้
ชายคนนี้เย็นชา ดูระมัดระวังตัวอย่างบอกไม่ถูก
หูชื่อเหวินหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดต่อ เธอเงยหน้ามองโดยไม่ตั้งใจ แต่เห็นว่าชายคนนั้นหันไปทางอื่นเขากะพริบตาถี่ๆ ราวกับจงใจหลีกเลี่ยงบางอย่าง
เมื่อรู้ว่าหูชื่อเหวินมองตัวเอง เขาจึงเม้มริมฝีปากและไอออกมาเบาๆ
“แค่กๆ เช็ดตัวเสร็จแล้ว ฉันจะไปขอยืมชุดสะอาดๆ ของเพื่อนบ้านให้” เมื่อเขาเดินผ่าน หูชื่อเหวินก็เห็นใบหูที่แดงก่ำของเขา
หน้าแดงงั้นหรือ? น้ำแข็งก้อนนี้รู้จักการหน้าแดงด้วย?
เธอก้มลงมองดูสภาพตนเองทันที… อา…
หูชื่อเหวินอยากจะมุดหน้าลงไปที่ไหนสักที่จริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้หน้าแดง นี่มัน…
เสื้อผ้าเปียกแนบติดผิวกาย เสื้อท่อนบนก็บางจนโปร่งมองเห็นด้านใน กางเกงท่อนล่างยังเปียกและติดกับต้นขาทำให้เห็นทรวดทรงอันสมบูรณ์แบบชัดเจนขึ้น
ฮะฮ่าฮ่า! ทำไมฟ้าถึงไม่ผ่าให้ฉันตายไปเลยล่ะ?
หูชื่อเหวินเช็ดตัวอีกสองครั้ง จากนั้นก็นั่งกอดเข่าขดตัวอยู่บนเก้าอี้ ฝังใบหน้าที่ร้อนผ่าวราวไฟไหม้ไว้ที่เข่า
ทางด้านหยินเหวินกั๋วก็ไม่ดีเท่าไหร่ เขาบังเอิญเห็นภาพเสื้อผ้าเปียกแนบตัวของผู้หญิงคนนั้น ตอนนั้นเองที่เกิดความคิดว่าผู้หญิงคนนี้หุ่นดี
พอรู้สึกตัวก็เกิดอาการเขินขึ้นมากับภาพที่เห็น เขาหนีออกมายืนอยู่ใต้ชายคาแก้มยังร้อนอยู่ด้วยซ้ำ ชายหนุ่มใช้มือถูแก้มอย่างแรงเพื่อเรียกสติ
เมื่อสักครู่ตอนเห็นเธอวิ่งมาหลบฝนที่ชายคา หูชื่อเหวินกอดร่างกายหนาวสั่นของตัวเอง จนทำให้เขารู้สึกแปลกๆ จึงเปิดประตูให้เธอเข้ามาหลบฝน
เมื่อเธออยู่ในห้องร่างกายเปียกโชกด้วยน้ำฝน ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเสียอย่างนั้น ยิ่งเห็นเสื้อผ้าเปียกจนติดกับร่างกายของเธอแล้ว…
ในช่วงสิบปีสุดท้ายของชาติก่อน ครอบครัวของเขาร่ำรวยมาก แต่เขากลับใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังไม่มีคนรัก ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
หลังจากหย่ากับหูลี่อิง เขาก็ไม่ได้แต่งงานใหม่หรือมีคนรักคนอื่น แม้ตนเองจะไม่ใช่คนบริสุทธิ์หรือดิบดีอะไรนักแต่ก็ยังเคยเห็นสาวงามหลายคนที่สวยกว่าหูลี่อิงด้วยซ้ำไป
แต่เมื่อครู่นี้เขารู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกกับผู้หญิงที่เขาเกลียดมากในชาติที่แล้ว ความไม่ชอบมาพากลแบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เหมือนกับว่ามีบางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้กำลังครอบงำเขาอยู่
หยินเหวินกั๋วเกาศีรษะตนเองอย่างหงุดหงิด เขาไม่ชอบความรู้สึกที่อยู่เหนือการควบคุมแบบนี้จริงๆ
ชายหนุ่มไปที่ประตูห้องถัดไปแล้วเคาะประตู
“พี่ใหญ่จางอยู่หรือเปล่า”
ประตูเปิดออกเผยให้เห็นหญิงวัยกลางคน
“โอ้ หัวหน้าหยินมีอะไรหรือ?”
“พี่สะใภ้ ผมมีเรื่องจะรบกวนครับ” หยินเหวินกั๋วเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้อง
หลังจากพูดคุยสถานการณ์ให้ฟัง เขาก็ได้ยืมชุดเสื้อผ้าและรองเท้ากลับมาด้วย
ทันทีที่เขาจากไปเธอก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว แล้วเรียกชายที่นอนอยู่บนเตียงคัง
“นี่เหล่าจาง คุณว่าหัวหน้าหยินกำลังคุยกับใครอยู่ไหม? เมื่อกี้เขามาขอยืมเสื้อผ้าผู้หญิง บอกว่ามียุวชนหญิงตัวเปียกเข้ามาขอหลบฝนอยู่ในห้องของเขา คุณคิดว่า…”
“นี่คุณผู้หญิง คิดอะไรของคุณอยู่ หัวหน้าหยินเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าแล้ว จะคบหาหรือพูดคุยกับใครก็เป็นเรื่องปกติของชายหนุ่มทั่วไปแหละ” เหล่าจางหันกลับมาพูดกับภรรยาอย่างไม่สนใจ
“ฉันก็คิดแบบนั้น อะไรจะบังเอิญมาหลบฝนได้พอดีขนาดนี้ หัวหน้าหยินก็ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ปกติเขารักษาระยะห่างจากยุวชนหญิงมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเธอคงกระตือรือร้นอยากจะเข้าใกล้เขาให้มากกว่านี้!” พี่สะใภ้จางยังคงซุบซิบไม่เลิก เธอคิดว่าควรแอบดูว่าใครคือคนได้หัวใจหัวหน้าผู้เย็นชาคนนี้ได้
หยินเหวินกั๋วกลับมาในห้องพร้อมเสื้อผ้าและรองเท้า เขามองไปที่หูชื่อเหวินซึ่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้เหมือนนกกระจอกเทศโดยที่หัวฝังอยู่ระหว่างเข่า
“นี่คือเสื้อผ้าที่ฉันยืมมาจากพี่สะใภ้จางข้างบ้าน เธอเอาไปเปลี่ยนเถอะ ฉันจะออกไปรออยู่ข้างนอก” เขาวางเสื้อผ้าไว้บนโต๊ะโดยไม่กล้ามองหูชื่อเหวิน จากนั้นก็หันหลังกลับไปเปิดประตูออกไปข้างนอก
เมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูจึงกล้าเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่เสื้อผ้าบนโต๊ะ
หูชื่อเหวินลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าเปียกออกและเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่แห้ง
เสื้อผ้าของพี่สะใภ้จางไม่พอดีกับรูปร่างเธอ รูปร่างของอีกฝ่ายอ้วนไปเล็กน้อย กางเกงสั้นไปหน่อยส่วนรองเท้าก็ใหญ่กว่าเท้าเธอถึงสองขนาด
รูปร่างของหูลี่อิงดีมาก หุ่นสูงโปร่งแต่เท้าของเธอค่อนข้างเล็ก
ความสูงอยู่ที่ 168 ขนาดรองเท้าคือ 36 รองเท้าจึงไม่ค่อยพอดีกับตัวเธอเท่าไหร่นัก
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก หญิงสาวเช็ดผมสางผมให้แห้งดี จากนั้นจึงถักเปียอีกครั้งแล้วเปิดประตูออกไป
“หัวหน้าฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เข้ามาเถอะค่ะ!”
หยินเหวินกั๋วหันกลับมามองหูชื่อเหวิน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเธอใส่เสื้อผ้าเชยล้าสมัยแบบนี้ มันไม่พอดีตัวสักเท่าไหร่ แต่ใบหน้าที่สวยงามของผู้หญิงคนนี้ ช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์ดูสงบและเรียบง่ายให้เธอ
หยินเหวินกั๋วไม่กล้าสบตาหูชื่อเหวิน เขาทำเพียงพยักหน้าและเดินกลับเข้าห้อง เกิดบรรยากาศค่อนข้างน่าอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าตนเองควรจะนั่งหรือยืน
หยินเหวินกั๋วนั่งบนเตียงคังหยิบหนังสือมาพลิกอ่านเหมือนปกติดี แต่จริงๆ เขารู้สึกอึดอัดพอสมควร ในชาติก่อนจนถึงปัจจุบันเวลาที่ได้อยู่ตามลำพังกับผู้หญิงคนนี้แทบจะนับนิ้วได้
“เอ่อ… หัวหน้า…”จู่ๆ หูชื่อเหวินก็จำได้ว่าเห็นผ้าพันคอที่จ้าวหย่วนขุยถืออยู่
หยินเหวินกั๋วเงยหน้าขึ้นมองหูชื่อเหวินด้วยท่าทางเย็นชาและไม่พูดอะไร