เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
“หูเต๋อหลินนายหมายความว่าไง? นายดูถูกฉันหรือ? เรื่องแค่นี้สอนนิดสอนหน่อยมันจะตายหรือไง?”
การรำลึกถึงความหลังของหูชื่อเหวินถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโวยวายของหญิงสาว
เธอปล่อยมือจากพ่อแล้วเอามือเท้าเอว หน้านิ่วคิ้วขมวดเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ว้าว! นี่ไม่ใช่สำเนาของป้าในชาติก่อนรึไง? เธอมีผมเปียสองข้าง ใบหน้ากลมเล็กมีรูปลักษณ์โดยรวมเหมือนผู้หญิงบอบบาง
ดวงตาของหูชื่อเหวินสว่างไสวในทันที
“ฉันสอนเธอไม่ได้หรอก!” หูเต๋อหลินเห็นว่าหลี่หยงฟางปล่อยมือ เขาก็รีบวิ่งหนีไม่พูดอะไรต่อ
หลี่หยงฟางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
“หูเต๋อหลินหยุดนะ!”
“หลี่หยงฟาง ฉันแนะนำให้เธออ่านหนังสือมากกว่านี้ แล้วค่อยเริ่มเขียนบทกวี!”เขาวิ่งไปไกลพอสมควรจึงแล้วค่อยหันมาตะโกน
อ๋อ ผู้หญิงคนนี้ชื่อหลี่หยงฟาง
“นายคิดว่าฉันอยากจะเขียนกลอนจริงๆ รึไง? ฉันแค่หาโอกาสคุยกับนายเท่านั้นแหละ! หูเต๋อหลินไอ้คนหน้าเหม็น!”
หลี่หยงฟางเห็นว่าหูเต๋อหลินวิ่งหายไปแล้ว เธอก็โยนสมุดบันทึกลงพื้นด้วยความโมโหพึมพำเสียงต่ำ
ดวงตาของหูชื่อเหวินยิ่งเป็นประกายเมื่อได้ยิน ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็ชอบพ่อของเธอนี่เอง!
หูชื่อเหวินรู้จักพ่อดีแม้ว่าเขาจะรูปร่างหน้าตาธรรมดาไปสักหน่อย แต่ใบหน้าของเขาก็ค่อนข้างดีมีผู้หญิงหลายคนชอบเขาเช่นกัน
เมื่อชีวิตที่แล้วเขาตอนที่เขาไม่ได้หย่ากับแม่ เขามักถูกรุมล้อมด้วยหญิงสูงอายุและเด็กสาวอายุน้อย เขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ที่ชอบไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้ หลังจากหย่ากับแม่ของฉัน จึงมีคนจำนวนมากคิดจะสานสัมพันธ์กับเขา
แน่นอนว่าเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันจึงเกิดกรณีเกิดไก่เตลิดหมาวิ่งพล่าน
พ่อเป็นคนชอบความสนุกสนานเฮฮา ชอบพากลุ่มเพื่อนมากินเหล้าและเล่นไพ่นกกระจอกที่บ้าน ใครอยู่ด้วยก็ต้องเหนื่อยที่ต้องคอยดูแลคนหมู่มากทุกวัน กระทั่งอายุมากแล้วก็ยังไม่ปรับปรุงตัวเอง
แม่ของเธอทนไม่ได้กับชีวิตแบบนี้ สุดท้ายทั้งคู่ก็หย่ากัน
เดิมทีแม่ก็เป็นคนเก็บตัวเงียบไม่ชอบสุงสิงกับใคร การเผชิญหน้ากับผู้คนที่มาสังสรรค์ทุกวันหลังจากเลิกงานทำให้เธอเหนื่อย เธออยากจะอยู่กับความสงบหลังเลิกงาน แต่กลับต้องมาคอยทำอาหารและทำความสะอาดให้คนเหล่านี้
หลังจากหย่ากับแม่แล้ว พ่อก็มีแม่เลี้ยงให้เธอ ผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดีแต่กลับดูแลพ่อได้ เธอเอาอกเอาใจเขาเป็นอย่างดี เวลาพ่ออยู่กับผู้หญิงคนนั้นเขาดูมีความสุขไม่น้อย
น่าเสียดาย หากไม่ใช่เพราะแม่และลูกสาวตระกูลฉินเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น พ่อของฉันน่าจะมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าเขาได้อยู่กับเธอจนกระทั่งวันสุดท้าย
เมื่อหวนนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็แอบมองหญิงสาวที่ชื่อหลี่หยงฟางอีกครั้ง
ตอนนี้หลี่หยงฟางเก็บสมุดบันทึกขึ้นมาแล้วทำท่าจะเดินจากไปอย่างผิดหวัง
ผู้หญิงคนนี้ชอบพ่อ แต่ตอนนี้พ่อยังคงคิดถึงแต่จางหมิงเยี่ยน เขาจะหันมาสนใจเธอได้ไงกันละ?
เฮ้อ… หูชื่อเหวินรู้สึกว่าเธอมาเกิดใหม่เพื่อเป็นแม่สื่อโดยเฉพาะจริงๆ และคนที่ฉันต้องการจับคู่ก็คือพ่อแม่ของตัวเองในชาติที่แล้ว
แต่เธอไม่คิดว่าสิ่งที่ทำไปจะผิด เธอมีความจริงใจและเห็นแก่ทั้งสองคน ชาติก่อนชีวิตคู่ของพวกเขาพังเพราะการแต่งงาน เธอตัดสินใจแล้วที่จะทำตัวเป็นแม่เฒ่าจันทรา
“บูม!”
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นตามมาด้วยสายฟ้าฟาดลูกหนึ่ง
“เปรี้ยง!”
มันผ่าโดนกิ่งไม้ที่หูชื่อเหวินซ่อนตัวอยู่
ให้ตายเถอะ! เป็นไปไม่ได้!
พระเจ้า! นี่คือคำเตือนใช่ไหม? ฉันบอกไว้เลยว่าชีวิตนี้ฉันตัดสินใจดีแล้วที่จะจับคู่ให้พวกเขา ทั้งสองคนจะต้องไม่ได้แต่งงานกันอีกแล้วในชาตินี้!
หูชื่อเหวินเงยหน้า เท้าเอวและจ้องมองท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอกำลังไม่พอใจอย่างมาก!
“บูม!”
เม็ดฝนขนาดเท่าเมล็ดถั่วตกลงมาจากฟ้า
ฝนตกหนักมาจนหูชื่อเหวินแทบลืมตาไม่ขึ้น เธอวิ่งด้วยอย่างตื่นตระหนก
ช่างน่าเศร้าจริงๆ คืนนี้เธอต้องเข้าเวรกะกลางคืนนะ!
ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามัวแต่แอบดูพ่อกับหลี่หยงฟางละก็ เธอก็คงจะรู้ตัวก่อนที่ฝนจะตกแต่ตอนนี้… เฮ้อ!
หูชื่อเหวินวิ่งไปหยุดที่ห้องแถว เธอหลบฝนที่ชายคาที่ยื่นออกมา
ดูเหมือนว่าตรงนี้จะเป็นหอพักส่วนตัว สำหรับยุวชนที่แต่งงานแล้วพวกเขาจะอาศัยอยู่กันเป็นคู่หรือไม่ก็เป็นครอบครัว
หูชื่อเหวินต้องการรอให้ฝนหยุดหรือเบาลงก่อนที่จะกลับไปที่สำนักงาน
อากาศปลายเดือนสิงหาคมในชนบททางภาคเหนือนั้นหนาวมาก โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง เมื่อมีฝนและลมหนาว เสื้อผ้าเปียกฝนจะเย็นเหมือนน้ำแข็งและเปียกแนบไปกับร่างกาย ทำให้ร่างกายหนาวสั่น
เมื่อมองหอพักที่ด้านหลังเธอพยายามนึกว่าหูลี่อิงรู้จักใครบางไหม? แต่ก็ไม่มีสักคนเลย เฮ้อ… หูลี่อิงคนนี้ไม่มีเพื่อน คงต้องทนเปียกฝนเอา
ยืนหลบฝนใต้ชายคาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ฝนตกหนักเกินไปและลมก็แรง พอยืนอยู่ตรงนี้ฝนสาดโดนทั่วขาและเท้าของเธอ แต่หูชื่อเหวินก็ลังเลที่จะเคาะประตูแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่พวกเขาคือยุวชนที่ทำงานในไร่ ถ้าหากว่าเธอหน้าด้านสักหน่อยขอนั่งหลบฝนและยืมชุดแห้งมาเปลี่ยนก็อาจเป็นไปได้
“อ๊ะ!”
เมื่อหูชื่อเหวินได้ยินเสียงเปิดประตูด้านซ้ายของตัวเอง เธอก็รู้สึกดีใจมากและหันไป
“สหาย…”
แต่พอเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าของหูชื่อเหวินก็หดหู่ขึ้นมาทันที เธอชะงักรอยยิ้มรอยยิ้มหันกลับไปมองฝนที่ตกหนักเช่นเดิม
“ขอโทษค่ะหัวหน้า ขอฉันหลบฝนสักครู่พอฝนหยุดฉันจะไปทันที”
หูชื่อเหวินพยายามทำให้เสียงตัวเองให้เรียบเฉยและเหินห่าง เธอต้องเกร็งตัวเล็กน้อยเพราะร่างกายที่สั่นจากความหนาวเย็น ฟันของเธอกระทบกันเวลาพูด ประโยคที่พูดออกไปจึงสั่นเครือมาก
“เข้ามานั่งก่อน ฝนหยุดตกค่อยออกไป!”
หูชื่อเหวินอยากจะเชิดหน้าปฏิเสธอย่างหยิ่งยโส
“จะรบกวนหัวหน้าหรือเปล่า?” หูชื่อเหวินอยากตบปากตัวเองเมื่อได้ยินเสียงสั่น แต่ว่ามันทั้งเย็นและหนาวจนทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว
“เข้ามา!” ใบหน้าหยินเหวินกั๋วนิ่งสนิทไม่แสดงออก เขาเพียงเปิดประตูให้กว้างและเดินกลับเข้าไปในห้อง
หูชื่อเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอเม้มริมฝีปากยอมเดินตามเข้าไปในห้อง
เธอยืนตัวสั่นอยู่กลางห้อง มองไปรอบๆ เป็นห้องของผู้ชายที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและเป็นระเบียบ ห้องไม่ใหญ่มากเป็นห้องแบบ หนึ่งห้องนอนและหนึ่งห้องครัว
บนเตียงมีผ้าห่มพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมอย่างเรียบร้อย โต๊ะ ตู้จัดวางเป็นระเบียบ แม้ข้าวของจะเก่าแต่ก็สะอาดสะอ้าน ทุกอย่างเหมือนกับเจ้าของห้องแม้จะเป็นเย็นชาแต่ก็ใส่ใจถึงรายละเอียดและดูจริงจัง
"นั่งลง!"
เสียงของเขาฟังดูไร้อารมณ์
หูชื่อเหวินมองชายคนนั้น เธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ผมและเสื้อผ้าของฉันเปียกไปด้วยน้ำ ไม่ว่าเธอไปที่ไหนก็จะมีน้ำหยดลงพื้น
“ขอบคุณหัวหน้า แต่ตัวฉันเปียกอยู่ พอฝนหยุดตกฉันจะรีบไป”