เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
“ฉันเห็นช่างไม้จ้าวถือผ้าพันคอสีเงินเข้มในมือ เขาบอกว่าคุณให้เขาจริงหรือเปล่า?” จ้าวหย่วนขุยไม่ได้บอกว่าหยินเหวินกั๋วให้เขาก็จริง แต่หูชื่อเหวินจงใจพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา
“มีปัญหาอะไรหรือ?” หยินเหวินกั๋วอยากรู้ว่าหูชื่อเหวินจะพูดอะไร
“คุณให้ช่างไม้จ้าวได้ไง นั่นคือ… นั่น…” เธอพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกไปดีไหม
หยินเหวินกั๋วลุกขึ้นทันที เดินไปหาหูชื่อเหวินและจ้องเขม็งไปที่เธอ
“นั่นอะไร? เธออยากบอกว่าจางหมิงเยี่ยนให้ฉันใช่ไหม? หรือจะบอกว่าเป็นเธอที่ให้ฉัน?”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ก็ฉันส่ง…” ไปให้นาย หูชื่อเหวินไม่ได้พูดประโยคหลังออกไป เธอคิดว่าวันนั้นที่แอบเข้าห้องทำงานของหยินเหวินกั๋วเขาเห็นใช่ไหม?
“ฉันไม่เคยพูด อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดพอจะเป็นแม่สื่อ จะทำให้เรื่องราววุ่นวาย เธอคิดอะไรของเธอกันแน่!” หลังจากหยินเหวินกั๋วพูดจบเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง
ชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน หูชื่อเหวินเงยหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับเขา เธอถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว รักษาระยะห่างจากชายคนนั้น
“ฉันจะคิดอะไรได้ หัวหน้าไม่ต้องกังวล ฉันไม่เคยคิดเรื่องของคุณ! ผ้าพันคอนี้จางหมิงเยี่ยนเป็นคนถัก ฉันคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจว่าฉันทำไมถึงเอามาให้!”
ทั้งสองคนเป็นคนรักกันไม่ใช่หรือ? ก็ต้องเป็นปกติอยู่แล้วที่แฟนจะถักผ้าพันคอให้นี่นา?
หูชื่อเหวินไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกหก หรือเพราะว่าจางหมิงเยี่ยนไม่ต้องการเปิดเผยสถานะเขาเลยแอบปกป้องเธอ?
หยินเหวินกั๋วไม่พูดอะไรหันหลังกลับและเปิดลิ้นชักหยิบจดหมายที่เก็บไว้อย่างดีออกมา แล้วยื่นให้หูชื่อเหวิน
“ต่อไปอย่าได้มาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก!”
หลังจากพูดจบดวงตาของเขาก็มีประกายเย็นยะเยือก เขาจ้องเขม็งไปที่ดวงตาของหูชื่อเหวิน
“ถ้านี่เป็นแผนการอะไรของเธอหรือมีความคิดอะไรก็ตามแต่ หยุดคิด!” หยินเหวินกั๋วทิ่มแทงเธอด้วยคำพูด
หูชื่อเหวินเปิดกระดาษเป็นฉบับเดียวกับที่เธอเขียนเลียนแบบลายมือของจางหมิงเยี่ยน ซึ่งแนบไปกับผ้าพันคอ
ได้ยินคำพูดของชายคนนั้น หญิงสาวรู้สึกหดหู่
“ฉันวางแผนอะไร? แล้วฉันจะคิดอะไรกับคุณได้ยังไง? หัวหน้าไม่ต้องห่วง ฉันหูชื่อเหวินคนนี้มาที่นี่เพื่อบอกอย่างจริงจังว่า ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับคุณและฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป ได้โปรดวางใจเถอะ!”
หูชื่อเหวินเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ชายคนนั้นอย่างสงบและมั่นคง
จากนั้นเธอก็พับจดหมายใส่กระเป๋า เงยหน้ามองเขาอีกครั้งและพูดอย่างชัดเจนอีกรอบ
“หัวหน้าหยิน ขอบคุณมากที่ให้ฉันหลบฝน ตอนนี้ข้างนอกฝนเริ่มซาแล้ว ฉันขอตัวก่อน เมื่อซักเสื้อผ้าแล้วฉันจะส่งคืนให้พี่จางเอง!”
หูชื่อเหวินหยิบเสื้อผ้าเปียกของตนเองขึ้น หันไปเปิดประตูและกำลังจะออกไป ทว่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็หันกลับไปพูดว่า
“เรื่องวันนี้เป็นแค่อุบัติเหตุ ฉันแค่ต้องการที่หลบฝน ถ้ารู้ว่าที่นี่เป็นที่พักของหัวหน้าฉันคงไม่เฉียดเข้ามาใกล้! สิ่งที่หัวหน้ากังวลจะไม่เกิดขึ้นอีก!”
หูชื่อเหวินไม่รู้ว่าเขากังวลอะไร สัญชาตญาณของเธอบอกว่าชายคนนี้มีความลับ
สิ่งที่เธอเข้าใจคือเขาไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเธอ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเกลียดหูลี่อิงมากขนาดนี้แต่เธอไม่อยากคิดแล้ว
ไม่ต้องไปสนใจ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเธออย่าได้ไปใส่ใจเลย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง เธอจะต้องเห็นแก่ตัวให้มากขึ้น ช่วยพ่อและแม่ของเธอหาคู่ที่เหมาะสม หลังจากนั้นก็จะใช้ชีวิตอิสระตามลำพัง
“เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว!” หยินเหวินกั๋วสะกดกลั้นความวูบโหวงในใจ เขาบีบเคล้นคำพูดออกมาจากไรฟันของเขาขณะที่หูชื่อเหวินปิดประตู
ใช่ พอได้ยินว่าหูชื่อเหวินไม่รู้สึกอะไรกับเขา และถ้าหากรู้ว่านี้คือชายคาบ้านของเขา แล้วละก็ เธอจะไม่เข้ามาหลบฝนเป็นอันขาด มันทำให้เขารู้สึกใจหายและผิดหวังไปชั่วขณะ
เขามองประตูที่ปิดลง ผู้หญิงคนนั้นวิ่งเหยาะๆ ท่ามกลางสายฝนห่างจากเขาไปทุกที
แม้ว่าฝนจะเบาลงกว่าเดิมแต่ยังคงตกอยู่ เดาจากทิศทางที่เธอไป น่าจะไปเข้าเวรกลางคืนในห้องโอเปอเรเต้อร์เธอคงไม่เปียกฝนมากนัก
หยินเหวินกั๋วอยากบีบคอตัวเอง ทำไมต้องกังวลว่าเธอจะตัวเปียกด้วย
เขาหยิบแก้วชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบอย่างกระวนกระวาย การจิบชาเย็นๆ อาจทำให้ระงับความโกรธได้
แต่แล้วกลับถูกดึงดูดโดยสิ่งกลมๆ สีขาวบนพื้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นก้อนกลมๆ คล้ายกระดาษ มีลายแมวตัวเล็กๆ
แมวตัวนี้... ไม่ควรมีอยู่ในเวลานี้สิ!
เขาจำได้ว่าชาติที่แล้วพนักงานหญิงในบริษัทของเขาเคยเอากระเป๋าลายแมวไปอวดคนในบริษัทโดยบอกว่าญาตินำมันกลับมาให้เธอจากต่างประเทศ เขาจึงบังเอิญได้เห็นมัน จึงจำได้ว่าเป็นแบบที่หญิงสาวส่วนใหญ่ชอบกัน
ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงต้นทศวรรษที่ 1980
ช่วงที่เขาเสียชีวิต เครื่องประดับในรูปแมวหน้าแมวตัวนี้ดูเหมือนจะปรากฏบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
แล้วสิ่งนี้คืออะไร? หยินเหวินกั๋วไม่เข้าใจ มันน่าจะร่วงจากผู้หญิงคนนั้น หลังจากดมก็ได้กลิ่นของลาเวนเดอร์จางๆ
ทางเหนือไม่มีดอกลาเวนเดอร์ แต่ชีวิตก่อนเขาทำธุรกิจและได้โอกาสบินไปทั่วประเทศรวมทั้งทั่วโลก ครั้งหนึ่งเคยไปที่สวนลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่จึงได้รู้จักกลิ่นลาเวนเดอร์
มีกลิ่นอื่นปะปนบนกระดาษแผ่นเล็กๆ นี้ กลิ่นค่อนข้างแปลก แต่เขากลับไม่ได้กลิ่นนั้นแล้ว
เธอมีของแบบนี้ได้อย่างไร? มีอะไรบางอย่างเหนียวๆ อยู่ใต้กระดาษที่ติดหนึบ
หยินเหวินกั๋วแปลกใจแต่ไม่ได้สงสัยอะไรมาก เขาโยนลงถังขยะอย่างไม่ตั้งใจ แต่แล้วหยิบมันกลับมาวางลงบนโต๊ะอย่างไม่รู้ตัว
ถ้าหูชื่อเหวินเห็นภาพนี้จะต้องเยาะเย้ยเขาแน่ๆ มันก็แค่แผ่นแปะกันยุงรูปแมวคิตตี้เท่านั้น
หูชื่อเหวินวิ่งเข้าไปในห้องจ่ายไฟในอาคารสำนักงานสวน
คืนนี้มีกะกลางคืนสองคน คือเธอกับเยว่เหมย
เมื่อมาถึงเยว่เหมยก็กำลังนั่งอยู่หน้าแผงควบคุมสายโทรศัพท์ แม้จะบอกว่าทำงานแต่จริงๆ แล้วมีสายที่ต้องโอนในตอนกลางคืนน้อยมาก
ในตอนนี้เยว่เหมยกำลังนั่งอยู่ตรงนั้นโดยถักเสื้อกันหนาว
เมื่อเห็นเยว่เหมยถักเสื้อหูชื่อเหวินก็นึกถึงผ้าพันคอที่จางหมิงเยี่ยนถักขึ้นและเจ้าน้ำแข็งเดินได้นั้นกลับมอบให้ช่างไม้จ้าวก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
“ทำไมเธอเปียกขนาดนี้? ไม่ได้ใส่เสื้อกันฝนมาหรอ” เยว่เหมยเงยหน้าขึ้นมองหูชื่อเหวินแล้วถาม
“ตอนฉันออกมาฝนยังไม่ตก มีบางอย่างเกิดขึ้นเลยทำให้ฉันมาไม่ทันก่อนฝนตก”
หูชื่อเหวินพูดอย่างเย็นชา