Your Wishlist

บุพเพสลับรัก'70s (พลังทำนายอนาคต)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!

จำนวนตอน : 760

พลังทำนายอนาคต

  • 11/06/2567

“สหายหูลี่อิงมีของอะไรอยู่ในกล่องพวกนี้กัน? ทั้งใหญ่และหนักมากจริงๆ”


เติ้งกวงหรงวางกล่องของขนาดใหญ่ที่เขาสะพายอยู่บนบ่าลงกับพื้น ด้วยขนาดและน้ำหนักที่กดทับสร้างความเจ็บบริเวณหัวไหล่ จนทำให้เขาต้องลูบเบาๆ เมื่อวางของลงแล้ว

“นี่ของดีนะ พอฉันแกะของเสร็จแล้วจะให้พี่เติ้งด้วย! แต่พี่เติ้งต้องเรียกฉันว่าหูชื่อเหวินเพราะฉันเปลี่ยนชื่อแล้ว” หูชื่อเหวินรินน้ำแก้วหนึ่งให้เขา เติ้งกวงหรงทำงานหนักมากในการช่วยเธอขนของ

ไม่เช่นนั้นแล้วเธอคงขนกลับมาคนเดียวไม่ไหว อาจจะร้องไห้และยอมแพ้ไปแล้ว

"ฮะฮ่า เป็นชื่อที่ดีทีเดียว” เติ้งกวงหรงยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มพร้อมกับชื่นชม

พัสดุที่เธอขอกับครอบครัวไป มาถึงเร็วกว่าปกติ เพราะครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ส่งผ่านไปรษณีย์เหมือนทุกที แต่ให้รถที่ในตัวเมืองขนของมาส่งให้แทน

หลังจากที่เติ้งกวงหรงจากไปแล้ว หูชื่อเหวินเริ่มแกะห่ออย่างขยันขันแข็ง ขั้นแรกก็เอาฟูกหนาสองอันออกมาวางบนเตียงให้กับจางหมิงเยี่ยนและหลี่เสวี่ยฉิน จากนั้นค่อยเอาของที่เหลือออกมาแยกประเภททีหลัง

หลังจากจัดของในห่อเรียบร้อยแล้วเธอถือไส้กรอก 2-3 ชิ้น ขนมขบเคี้ยว 2 อย่าง และนมมอลต์ 1 ขวด ในสมัยนี้ของพวกนี้ถือว่าเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมมาก!

เธอเดินหอบข้าวของไปที่สำนักงานของหน่วยงานผลิตและเคาะประตู

“เข้ามาได้!” เสียงของหยินเหวินกั๋วดังขึ้นหลังประตูนั้น

หูชื่อเหวินผลักประตูเข้าไป มองชายหนุ่มที่กำลังอ่านเอกสารในมือโดยไม่สนใจว่าใครจะเข้ามา ตอนนี้หน้าของเธอแสดงรอยยิ้มที่เป็นกังวลอยู่

" สวัสดีค่ะ หัวหน้า!”

เมื่อได้ยินเสียงของเธอเขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีดำสนิทของเขามองตรงมาที่เธอด้วยสายตาเยือกเย็นและใบหน้าก็ดูมืดครึ้มขึ้นไปอีกหลายระดับ

ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้มาที่นี่?

ดวงตาของเขาจ้องเขม็งไปที่เธอ ขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปมและถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

“มีอะไร?” แม้กระทั่งน้ำเสียงที่พูดออกมาก็เย็นชากดต่ำเหมือนก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่

คนหน้าน้ำแข็งเดินได้ตั้งใจเป็นศัตรูกับเธอจริงๆ เพราะในความทรงจำของหูลี่อิงถึงเขาจะไม่เป็นคนร่าเริงชอบหัวเราะหรือพูดมากนัก แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางเย็นชาต่อหน้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนมาก่อน

เธอต้องระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ยื่นมือออกไปตบตีเขา ชายคนนี้จงเกลียดจงชังเจ้าของร่างเดิมอะไรนักหนา ดูสายตาที่ใช้มองเธอนั้นสิ อย่างกับว่าจะฆ่าแกงกันให้ได้อย่างนั้น

หูชื่อเหวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจและมองไปที่ชายคนนั้นโดยปราศจากความกลัว

คิดว่าดวงตาคมกริบ ของนายมันน่ากลัวมากหรือไง? ฉันไม่ใช่ศัตรูในสนามรบของนายสักหน่อย

อีกอย่าง พี่สาวคนนี้จะบอกอะไรให้ ชาติก่อนฉันมีชีวิตอยู่จนอายุ 40 กว่าแก่กว่านาย ในตอนนี้มาก

ท่าทางแบบนี้จะน่ากลัวได้สักขนาดไหนกันเชียว อย่างไรเสียก็เป็นเพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีเท่านั้น ถ้านับตามวัยแล้วฉันคือป้าของนาย!

เธอกลั้นยิ้มจากนั้นก็แสดงสีหน้าที่ไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนจนเกินไปแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางไม่เคารพและเอาแต่ใจจนเกินพอดีเช่นกัน

“หัวหน้าฉันมาขอบคุณที่พาฉันไปโรงพยาบาลตอนฝนตกเมื่อสองสามวันก่อน! นี่คือของตอบแทนจากใจของฉัน” น้ำเสียงที่พูดออกมาของเธอใสและฟังดูจริงใจสร้างความแปลกใจให้กับหยินเหวินกั๋วอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา

“ไม่เป็นไร ฉันเป็นหัวหน้าหน่วยผลิตของสวนนี้ ฉันมีหน้าที่ดูแลและช่วยเหลือเธอ ฉันต้องทำอยู่แล้วไม่ว่าคนป่วยจะเป็นใครก็ตาม เอาของเธอคืนไปเถอะ”

แต่ถ้าวันนั้นหลี่เสวี่ยฉินไม่ร้องห่มร้องไห้และขอร้องเขาให้ไปส่งหูลี่อิงที่โรงพยาบาล เขาก็คงไม่คิดจะสร้างสถานการณ์ให้เธอได้มีโอกาสคุยกับเขาแบบนี้หรอก

ในเมื่อเขาก็ยังเป็นหัวหน้าหน่วย เป็นยุวชนที่มีการศึกษาจะยืนดูเธอเฉยๆ โดยไม่ช่วยเหลือได้อย่างไร

จิตวิญญาณนักสู้ของหูชื่อเหวินถูกปลุกขึ้นมาเพราะน้ำเสียงที่เย็นชาและท่าทางไม่แยแสของเขา

ให้ตายเถอะ! นี่เขากำลังไล่เธอให้ออกไปใช่ไหม?

ป้าคนนี้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขายังทำตัวใจร้ายได้อีก!

แทนที่จะจากไปทันทีหูชื่อเหวินกลับก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะของเขาและวางข้าวของลงบนโต๊ะ

“ฉันรู้ว่าต้องตอบแทนคนที่มีพระคุณกับเราเสมอ นี่เป็นคำสั่งสอนจากบรรพบุรุษของฉัน จะรับหรือไม่รับก็เรื่องของคุณ แต่ฉันจะให้”

หูชื่อเหวินพูดจบก็หันกลับไปเตรียมจะเดินออกจากห้องนี้ แต่ก็ไม่วายหันกลับมาพูดอีกครั้งและใช้ดวงตาดอกท้อจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ

“ฉันคิดว่าหัวหน้าคงไม่ชอบฉันเท่าไหร่นัก ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงเกลียดฉันมากมายขนาดนี้ ถ้าหากเป็นเพราะคำพูดหรือว่าพฤติกรรมของฉันก่อนหน้านี้สร้างความขุ่นเคืองให้คุณ วันนี้ 'หูชื่อเหวิน'คงต้องขอโทษหัวหน้าแล้ว!”

เธอจงใจเน้นย้ำคำว่าหูชื่อเหวินและต้องการบอกเขาเป็นนัยๆ ว่าถ้าคนที่เขาโกรธคือหูลี่อิงตอนนี้เธอได้กลายเป็นหูชื่อเหวินแล้ว เธอไม่ได้สนใจว่าเขาจะเข้าใจความหมายหรือเปล่า เธอโค้งศีรษะเป็นการขอโทษ ยืดตัวตรง จากนั้นก็เดินจากไปอย่างไม่ลังเล

หยินเหวินกั๋วมองตามแผ่นหลังที่เหยียดตรงของหญิงสาว เสื้อคลุมสีแดงและชายกระโปรงสีขาวของเธอโบกสะบัดตามการเคลื่อนไหวราวกับกำลังร่ายรำอยู่เบื้องหน้า ผมสีดำสนิทของถูกรวบมัดไว้เพียงบางส่วนเส้นผมที่ถูกปล่อยสยายจึงปลิวไสวตามสายลมอย่างสวยงาม จนดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นหอมฟุ้งตลบอบอวลอยู่ในบรรยากาศ

ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?

ในชาติก่อนเธอไม่ชอบความอ่อนแอของตัวเองสักเท่าไหร่ มักจะแสดงว่าตัวเองเป็นคนแข็งแกร่งเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเขาก็ยังมีทีท่าหวาดกลัวไม่กล้าแม้แต่มองเขาอยู่ดี

แล้วทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปในชีวิตนี้? คงไม่ใช่ว่า…

เธอก็กลับมาเกิดใหม่ด้วยเหมือนกัน?

หยินเหวินกั๋วหรี่ตามองผู้หญิงที่เดินจากไปแล้วอย่างไม่วางใจ ชีวิตนี้เขาไม่มีจุดอ่อนให้เธอข่มขู่อีกต่อไป! เมื่อนึกถึงตอนที่อุ้มหูลี่อิงไปที่โรงพยาบาลในวันนั้น เขาก็ได้ตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าเขาจะรีบออกจากไร่ในเร็ววันต่อไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก

ใช่แล้ว เหตุผลที่เขายอมลงให้เธอและพาไปโรงพยาบาลในวันนั้นก็มาจากความเห็นแก่ตัวเช่นกัน

เพราะนับตั้งแต่หลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่ เขาก็ได้ความสามารถเหนือธรรมชาติติดตัวมาด้วย ตราบใดที่สัมผัสกับอีกฝ่ายจะสามารถทำนายอนาคตคนผู้นั้นได้

ดังนั้นคำทำนายของเธอก็คือหูลี่อิงจะออกจากไร่แห่งนี้ในไม่ช้า เขากับเธอจะไม่มีเรื่องราวยุ่งเหยิงพัวพันกันได้อีก

เขาเชื่อมั่นในความสามารถนี้ของตัวเองมาก

แต่พอคิดดูแล้วลักษณะการพูดจาและพฤติกรรมของเธอน่าจะไม่ได้เกิดใหม่เหมือนเขา เพราะถ้าหากเธอเกิดใหม่เช่นกันคงไม่พ้นเกลียดชังเขาไม่ต่างจากที่เขาเกลียดเธอ เนื่องจากชาติก่อนตัวเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรดีๆ ให้เธอเลย

แล้วความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากอะไร?

หูชื่อเหวินเมื่อเดินออกมาและปิดประตูลงแล้ว แข้งขาก็เริ่มจะอ่อนแแรง หัวใจของเธอเต้นแรงมากจนรู้สึกหอบ! ฉันรู้สึกราวกับว่าพลังงานในร่างกายถูกดูดไปเพราะการพูดคุยในครั้งนี้

เห็นได้ว่าเขาเป็นแค่ชายหนุ่มอายุเพียง 20 กว่าเท่านั้น แต่ทำไมการเผชิญหน้ากับเขาถึงได้เหมือนยืนจ้องกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำคอเธอเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์อันยาวนานของฉันในชีวิตที่แล้วคงไม่สามารถรับมือได้แน่นอน

อายุยังน้อย แต่กลับมีแรงกดดันที่แข็งแกร่ง!

จู่ๆ หูชื่อเหวินก็จำได้ว่าจุดประสงค์หลักในการมาที่นี้เป็นเพราะอะไร เธอต้องการรู้ว่าหยินเหวินกั๋วจะช่วยจางหมิงเยี่ยนเปลี่ยนงานให้สบายขึ้นได้หรือเปล่า ฉันเชื่อว่าตราบใดที่หยินเหวินกั๋วต้องการที่จะช่วยเหลือย่อมสามารถทำได้แน่นอน

แต่ตอนนี้กลับทำให้เรื่องราวใหญ่โตด้วยคำพูดของตัวเอง ถ้าหากกลับเข้าไปคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เธอคงต้องหาโอกาสใหม่อีกครั้งในตอนเย็น

เมื่อตอนเย็นมาถึงหูชื่อเหวินก็ถามจางหมิงเยี่ยนขณะกำลังซักผ้าว่า

“พี่เยี่ยนพี่ถักผ้าพันคอเป็นไหม?”

“เป็นสิ เธออยากถักอะไรงั้นเหรอ?”

หูชื่อเหวินรู้อยู่แล้วว่าจางหมิงเยี่ยนเก่งงานถักนิตติ้งไหมพรมมาก ชาติก่อนตอนเธอยังเป็นเด็กแม่ก็ถักเสื้อสเวตเตอร์ตัวนุ่มนิ่มและกางเกงน่ารักๆ ให้เธอใส่เสมอ ทุกคนที่เห็นจะต้องชมงานฝีมือของแม่อย่างอดไม่ได้

“ฉันขอให้ครอบครัวส่งไหมพรมขนแกะมาให้ เพราะอยากจะถักผ้าพันคอเป็นของขวัญแต่ไม่รู้วิธีทำ ฉันจึงอยากขอให้พี่ช่วยสักหน่อย”

“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันทำให้ ผ้าพันคอถักง่ายมาก ไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว”

จางหมิงเยี่ยนตกลงในทันที เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมากกับการที่ทำตัวเป็นพี่สาวช่วยเหลือน้องเล็ก

“พี่เยี่ยน ขอบคุณมากนะ แต่ไม่ต้องรีบหรอก พี่ ทำงานเหนื่อยทุกวัน ค่อยถักทีหลังก็ได้”

จริงๆ แล้วเธอเองก็ถักเป็นเหมือนกันเพราะแม่เป็นคนสอนเองกับมือในชาติก่อน แต่เธอมีแผนของตัวเอง เมื่อให้แม่ทำ ผ้าพันคอจะดูต่างออกไปอย่างแน่นอน

“จริงด้วย! ขอบคุณสำหรับฟูกใหม่ที่ให้ฉันกับเสวี่ยฉินนะ ฉันเกรงใจมากเลย!” จางหมิงเยี่ยนกล่าวอย่างเขินอาย

หูชื่อเหวินมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของแม่และคิดในใจเงียบๆ

แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเป็นลูกสาวของแม่ได้อีกต่อไปในชีวิตนี้ แต่ฉันจะตอบแทนความเมตตาที่เลี้ยงดูฉันจนเติบใหญ่ ชดเชยในส่วนที่ฉันไม่เคยได้ตอบแทนแม่ในชีวิตที่แล้ว

ฉันจะทุ่มอย่างสุดตัวเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแม่!

..................................

เวลาไม่เช้าแล้ว: รบกวนปาหัวใจและเม้นท์ทิ้งไว้หน่อยนะคะ จะได้มาลงให้อ่านกันอีกค่า ขอบคุณเพื่อนๆค่ะ

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป