Your Wishlist

บุพเพสลับรัก'70s (นายชอบคนไหน)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!

จำนวนตอน : 760

นายชอบคนไหน

  • 11/06/2567

หูชื่อเหวินมองตามสายตาของจางหมิงเยี่ยนไป

หยินเหวินกั๋วและยุวชนชายสองคนนั่งอยู่ตรงนั้น คนที่นั่งอยู่ข้างเขาน่าจะเป็นช่างไม้ในไร่ ดูเหมือนเขาน่าจะชื่ออะไรสักอย่าง จ้าวหย่วนขุยใช่ไหมนะ? ร่างเดิมดูจะไม่มีความประทับใจอะไรกับคนผูันี้ แต่จำได้ลางๆ ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างเรียบง่ายและมีนิสัยซื่อสัตย์

จ้าวหย่วนขุยพอเห็นว่าเธอหันมามองก็รีบก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อทันที แต่กลับเป็นหยินเหวินกั๋วที่บังเอิญเงยหน้าขึ้นมามองพวกเธอพอดี พอเธอเห็นเขามองมา ก็หันกลับไปที่จางหมิงเยี่ยนเห็นเธอก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยงามของเธอแดงก่ำตักอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าอยากจะหลบหนีสายตาใครบางคน

เมื่อมองกลับไปที่ชายคนนั้นอีกครั้ง ตอนแรกเขามองผ่านไปเหมือนไม่ได้สนใจตรงที่พวกเธอนั่งอยู่เลย แต่พอเห็นว่าหูชื่อเหวินสบสายตากับเขา ฉับพลันดวงตาคู่นั้นก็มีประกายความขุ่นมัว

หูชื่อเหวินจ้องเขากลับไปโดยไม่รู้สึกกลัว ด้วยสายตาแบบเดียวกัน

คิดว่าตัวเองดีเลิศเลอมากนักรึไง? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแม่ชอบเขา เธอก็คงไม่คิดแม้แต่จะคุยกับคนที่ทำตัวเป็นนกยูงอย่างเขาหรอก

หูชื่อเหวินมองจานข้าวของตัวเองแล้วครุ่นคิด เมื่อกี้จางหมิงเยี่ยนมองไปที่หยินเหวินกั๋วใช่ไหม? พอผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เธอก็รีบก้มหน้าหลบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าแดงก่ำของเธอเหมือนมีความรู้สึกบางอย่างซุกซ่อน ดูเหมือนว่าเธอจะแอบชอบหยินเหวินกั๋วจริงๆ

เมื่อนึกถึงนิสัยเย่อหยิ่งและท่าทางเหมือนคนไม่สนใจใครของหยินเหวินกั๋ว หูชื่อเหวินก็เกิดความลังเลว่าควรจะจับคู่ของพวกเขาดีไหม?

ระหว่างที่หูชื่อเหวินคิดไม่ตกหยินเหวินกั๋วก็รู้สึกแย่กับตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจ้าวหย่วนขุ่ยที่อยู่ข้างๆ เขามองไปทางนั้น เขาคงไม่ต้องมองไปด้วยความอยากรู้จนบังเอิญสบสายตากับหูลี่อิง

ผู้หญิงที่มองเขาด้วยสายตาแบบนี้จะเป็นคนแบบไหนได้? สายตาดูถูกเหยียดหยามที่น่ารังเกียจ

ในขณะที่เขารู้สึกกังวลแต่จ้าวหย่วนขุ่ยกลับกินข้าวต่อโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร หยินเหวินกั๋วจึงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาต้องการโทษคนข้างๆ ที่มองไปตรงนั้นจนกระตุ้นอยากรู้อยากเห็นของเขา แต่ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เขาจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเช่นกัน

เพื่อนของหยินเหวินกั๋วรู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากเขา ซุนเจียงกั๋วซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหูชื่อเหวินและหญิงสาวคนอื่นเช่นกัน

ที่แท้พวกเขาก็กำลังมองสาวงามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาจึงหันกลับไปแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วกระซิบพูดคุยกับทั้งสองคน

“ดูเหมือนว่าวันนี้ดอกไม้งามสองดอกในสวนของเราจะมากินข้าวที่นี้กันหมดเลยนะ แถมทั้งสองคนยังโสดไม่ได้คบกับใคร พวกนายถูกใจคนไหนลองบอกฉันมาบ้างสิ” พอพูดจบเขาก็มองไปที่หยินเหวินกั๋วและจ้าวหย่วนขุ่ยด้วยสายตาตื่นเต้น

“ฉันไม่เห็นว่าจะมีคนไหนน่าสนใจเลย!” หยินเหวินกั๋วตอบอย่างเฉยชาและร่างกายของเขาก็แข็งเกร็งขึ้นเหมือนได้ยินเรื่องไม่ดี ผิดกลับจ้าวหย่วนขุยที่นั่งข้างเขาซึ่งมีใบหน้าขึ้นสีแดงด้วยความเขินอาย

“เจียงกั๋วอย่าพูดอะไรไร้สาระสิ ถ้ามีคนผ่านมาได้ยินมันจะไม่ดีนะ”

“เฮ้! ฉันกำลังพูดเกี่ยวกับชีวิตโสดของพวกนายอยู่นะ ในไร่นี้มีผู้หญิงอยู่แค่ไม่กี่คนฉันสามารถนับพวกเธอทั้งหมดด้วยนิ้วได้จนครบได้เลยด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นอะไรไปละ? มียุวชนที่แต่งงานกันระหว่างอยู่ที่นี่ตั้งหลายคู่!”

“ภูมิหลังของครอบครัวฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉันไม่คิดจะคุยกับสาวๆ พวกนี้หรอก” น้ำเสียงของหยินเหวินกั๋วยังคงนิ่งเฉย

“ส่วนฉันก็ไม่เหมาะสมกับใครหรอก…” จ้าวหย่วนขุยยังหน้าแดงอยู่เลยตอนพูดประโยคนี้

“นายแย่ตรงไหนกัน? นายมีพ่อซึ่งเป็นผู้อำนวยการของโรงฝึกปฏิบัติงานตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนแม่ของนายก็เป็นนักการบัญชี ครอบครัวก็ไม่ได้มีคนมากมายสักเท่าไหร่ โดยรวมแล้วภูมิหลังครอบครัวนายดูดีกว่าหัวหน้ามาก!”

“กินข้าวเสร็จฉันจะกลับเลย” หยินเหวินกั๋วตบไหล่ซุนเจียงกั๋ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการฟังคำพูดไร้สาระอีก

“เดี๋ยวก่อนพี่หยิน พี่ไม่คิดอะไรเลยสักนิดจริงๆ หรือ? ดูดอกไม้งามสองคนนี้สิ แม้ว่าหูลี่อิงอาจจะทำตัวหยิ่งยโสมากไปสักหน่อย แต่พื้นฐานครอบครัวก็ค่อนข้างดี พี่สามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงได้ในอนาคตได้ง่ายๆ ส่วนจางหมิงเยี่ยนมีนิสัยอ่อนโยนเหมาะกับการเป็นภรรยาที่ดีถ้าได้แต่งงานกันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่”

“ถ้านายชอบ นายก็เอาไปเถอะ” หยินเหวินกั๋วใช้สายตาคมกริบของตัวเองมองซุนเจียงกั๋ว

“ฉันมีอิงจื่อแล้ว พี่หยินอย่าพูดอะไรไร้สาระ” ซุนเจียงกั๋วถอนหายใจ เขาลดเสียงลงและพูดต่อ

“นี่พี่หยินฉันไม่ได้ล้อเล่นกับพี่นะ คุณป้าขอให้คนเขียนจดหมายส่งมาขอร้องให้ฉันช่วยเกลี้ยกล่อมพี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้ามีใครเหมาะสมก็ให้รีบแต่งงานไปเลย พี่เป็นหัวหน้าตระกูล ถ้าไม่แต่งงานพี่น้องที่อยู่ลำดับถัดไปจะยังแต่งงานไม่ได้ ผู้คนภายนอกจะหัวเราะเอา…”

หยินเหวินกั๋วเดินออกจากโรงอาหารก่อนที่ซุนเจียงกั๋วจะพูดจบ จึงไม่มีใครสังเกตเมื่อจ้าวหย่วนขุยลุกขึ้นเขาแอบหันไปสบตากับจางหมิงเหยียน จากนั้นทั้งคู่ก็พยักหน้าให้กันเป็นการทักทาย

หูชื่อเหวินถอนหายใจขณะมองจางหมิงเยี่ยนมองตามผู้ชายทั้งสามคนที่พึ่งเดินออกไป

ทำไมแม่ถึงต้องตกหลุมรักหยินเหวินกั๋วด้วยนะ? ผู้ชายคนนี้ดูมืดมนไปหน่อย นิสัยอ่อนโยนบอบบางแบบแม่จะรับมือไหวหรือ?

หยินเหวินกั๋วเดินกลับไปที่ห้องพักพร้อมกับคิดในใจ

เขาไม่ชอบใครสักคนในสองคนนั่น

จางหมิงเยี่ยนในชาติก่อน หลังจากเขามาที่สวนแห่งนี้เพื่อตรวจสอบเรื่องราวพี่สาวคนโตซึ่งประสบอุบัติเหตุ ในเวลาไม่ถึงครึ่งปีจางหมิงเยี่ยนก็กลับไปที่เมืองแล้ว แม้ว่าเขาจะเคยเจอเธอบ้างในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้รู้จักเธอมากมายนักในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา

ในความคิดของเขา เธอมีนิสัยอ่อนโยนและขี้อายเกินไป ทำงานหนักโดยไม่เกี่ยง ไม่พูดมากและไม่บ่นเลย แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ตัวสั่นเหมือนโดนผีเข้าทุกครั้งที่เห็นเขาเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ยอมแม้แต่จะเงยหน้ามองเขาเสียด้วยซ้ำ

แถมบางครั้งที่เห็นว่าเธอมองเขาอยู่ ก็เป็นสายตาแห่งความหวาดกลัวไม่ใช่สายตาแฝงความชื่นชม

เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ อ่อนแอเกินไปมีนิสัยยอมคนไปเสียหมด เขาผ่านชีวิตมาแล้วถึงสองครั้ง เขาอยากเจอผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกดีด้วยหรือไม่ก็ผู้หญิงที่มีหัวใจแข็งแกร่ง เป็นอิสระและไม่ย่อท้อง่ายๆ

เห็นได้ว่าจางหมิงเยี่ยนไม่เหมาะสมกับเขา ใบหน้าที่สวยงามเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มแบบนั้นไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของเขามากนัก

ส่วนหูลี่อิง ไม่สิ… ตอนนี้ต้องเรียกว่าหูชื่อเหวิน ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเปลี่ยนไปคนละคนหลังจากที่เธอหายป่วยเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับจางหมิงเยี่ยน ราวกับพี่สาวน้องสาวที่รักกัน แถมยังสุภาพกับคนอื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ที่สำคัญกว่านั้นไม่มีร่องรอยความชอบจากดวงตาของเธออีกต่อไป

ตอนเขามาที่ไร่นี้ในชาติก่อน เธอกำลังเตรียมตัวที่จะกลับเมืองแล้วเช่นกัน แต่พอเจอกับหยินเหวินกั๋วก็ขออยู่ต่ออีกหนึ่งปีเพราะอยากได้เขาไปครอบครอง

ดวงตาของเธอตอนนั้นมีแต่ความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของเขา

เมื่อนึกถึงการกระทำของหูลี่อิงในชีวิตที่แล้วหยินเหวินกั๋วก็รู้สึกเย็นเยียบในหัวใจขึ้นมา

แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้สะกดรอยตามเขาในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเหมือนที่เคยทำ แต่เธอก็ยังมีความคิดที่จะอยากเข้าใกล้ชิดเขาไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

เธอพยายามเปลี่ยนตัวเอง? น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

หรือว่า… จะเป็นแบบที่เติ้งกวงหรงพูด ผู้หญิงคนนี้เป็นไข้จนความร้อนเผาสมองเธอไปแล้ว?

ทันใดนั้นเขาก็พึ่งรู้ตัวว่าตนเองให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนี้มากเกินไป เขาไม่ควรให้ความสนใจกับเธอ ในชาตินี้เขาไม่คิดจะแต่งงานเหมือนชาติก่อน เพราะเขาเป็นคนไร้หัวใจอีกทั้งยังมีความรู้สึกผิดต่อพี่สาวคนโตของเขาอยู่ แม้สุดท้ายจะพยายามดิ้นรนไปอยู่ในจุดสูงสุด มีฐานะร่ำรวยก็ตาม แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่เคยเติมเต็มความว่างเปล่าในใจของหยินเหวินกั๋วได้เลย

หากจุดจบของชีวิตนี้ยังเป็นเหมือนเมื่อชาติก่อน ใครก็ตามที่เขาแต่งงานด้วยจะต้องรู้สึกเสียใจแน่นอน

หยินเหวินกั๋วยืนอยู่บนสันเขาและทอดสายตามองไปไกล เขาจะใช้เวลาอยู่ที่นี้อีกไม่เกินครึ่งปีพองานทุกอย่างเสร็จก็จะกลับไปในเมือง

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป