Your Wishlist

บุพเพสลับรัก'70s (เปลี่ยนชื่อ)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!

จำนวนตอน : 760

เปลี่ยนชื่อ

  • 11/06/2567

เมื่อตื่นขึ้นในรุ่งเช้า หูชื่อเหวินก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นก็คือการไปที่แผนกภาคสนามเพื่อรับสมุดทะเบียนบ้านและเปลี่ยนชื่อของตัวเอง เธอไม่ต้องการใช้ชื่อ ‘หูลี่อิง’ อีกต่อไป ทุกครั้งที่เธอได้ยินชื่อนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงนางจิ้งจอกตนหนึ่ง เวลามีคนเรียกชื่อหูลี่อิงก็ไม่รู้สึกว่าเขาเรียกเธอสักเท่าไหร่

ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะอยากเปลี่ยนชื่อขึ้นมาหรอก

ยุวชนที่ไปชนบทจะมีทะเบียนบ้านแบบรวมและทะเบียนบ้านที่ไร่เซิ่งหยาง

ก็ถูกเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุของสำนักงานหน่วยงานภาคสนามทุกอัน

หูชื่อเหวินเคาะที่ประตูตามมารยาทและเดินเข้าไปด้านในสำนักงาน

“ผู้อำนวยการคะ…” ก่อนที่เธอจะได้พูดจบก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ผู้อำนวยการ เป็นหยินเหวินกั๋ว?!

ทันทีที่เขาเห็นเธอเดินเข้ามาก็เริ่มปั้นหน้ายักษ์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกลายเป็นใบหน้าเย็นชาในทันที

หูชื่อเหวินเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกพูดไม่ออก ฉันก็ไม่ได้อยากจะเจอเขาสักหน่อย เหอะ! ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำหน้าตาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกันเลย

“เสี่ยวหู เธอมาที่นี่ทำไม? ร่างกายดีขึ้นแล้วหรือ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

ผู้อำนวยการหลิวทักทายหูชื่อเหวินด้วยความอบอุ่นน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความห่วงใย

“ขอบคุณผู้อำนวยการ ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ! ที่มาวันนี้ก็เพราะอยากจะเปลี่ยนชื่อ”

"อ้าว? ทำไมถึงคิดอยากจะเปลี่ยนชื่อขึ้นมาล่ะ คุยกับพ่อแล้วใช่ไหม?”

ยุวชนบางคนที่ไปยังชนบทก็เปลี่ยนชื่อเมื่อมาถึงที่ไร่เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของตัวเอง แต่บางคนก็เปลี่ยนชื่อหลังจากที่กลับเข้าเมืองไปแล้วเพื่อที่จะได้ลืมเรื่องราวในช่วงเวลานี้

นอกจากหูชื่อเหวินที่เปลี่ยนชื่อกะทันหันแล้วก็ยังมีคนอื่นทำแบบเธออยู่ อีกอย่างที่เธอคิดไว้ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวหรอกที่เปลี่ยนชื่อปุบปับ ถึงไม่ได้มีมากก็เถอะ

หยินเหวินกั๋วประหลาดใจเมื่อได้ยินเธอพูดว่าจะเปลี่ยนชื่อ ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่? ชาติก่อนเขาไม่เคยรู้เลยว่าเธออยากเปลี่ยนชื่อจนกระทั่งเธอตายก็ยังเป็นชื่อเดิมอยู่ แล้วทำไมถึงเลือกที่จะเปลี่ยนชื่อตอนนี้?

เมื่อคิดแต่ไม่มีคำตอบหยินเหวินกั๋วก็เงยหน้าขึ้นและมองเธอด้วยความสงสัย

หูชื่อเหวินหายใจเข้าปอดลึกๆ และพูดด้วยความไม่มั่นใจเล็กน้อย

“ฉันบอกพ่อของฉันแล้ว ส่วนเรื่องชื่อ… มันค่อนข้างทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่เวลาได้ยิน”

“รู้สึกไม่ดีงั้นหรือ?” ผู้อำนวยการหลิวรู้สึกแปลกใจมาก

“ใช่ค่ะ คำพ้องเสียงของฉันมีความหมายที่แย่ไปหน่อย”

ยิ่งหูชื่อเหวินพูดเสียงของเธอก็ยิ่งกดต่ำลงและเธอก็ยิ่งขาดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นไปอีก บางทีคนอื่นอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับแค่ชื่อเรียก แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากกับชื่อนี้

ผู้อำนวยการหลิวรู้สึกงงงวยเมื่อได้ยิน แต่เมื่อคิดตามคำพูดของเธอแล้วก็พูดขึ้นมา

“ฮะฮ่า ถ้าคุณไม่บอกฉันก็ไม่ได้นึกถึงความหมายของมันเลย! เอาละเสี่ยวหู คุณอยากเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร”

ชื่อมีปัญหา? คำพ้องเสียง? หยินเหวินกั๋วคิดถึงชื่อเธอและเป็นความจริงที่หูลี่อิงคลองจ้องกับคำว่านางจิ้งจอก เขาไม่เคยสนใจเธอและเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร ดังนั้นเขาเลยไม่เคยนึกถึงความหมายชื่อของหญิงสาวอย่างจริงจังมาก่อน

เมื่อมองไปที่หูชื่อเหวินอีกครั้ง เธอมีรูปหน้าเรียว ดวงตาตวัดเฉียงขึ้น จมูกโด่งริมฝีปากอวบอิ่ม เนื่องจากเธอไม่เคยไปทำงานในทุ่งเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาในสวน ผิวของเธอจึงขาวอมชมพูระเรื่อ

ดูไปแล้วเหมือน… นางจิ้งจอกจริงๆ

เขารู้ดีว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยงามมากในชาติที่แล้ว แต่เพราะความเกลียดชังใน จึงไม่คิดที่จะเหลียวแลให้ความสนใจเธอเลย

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้มองใบหน้าผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจัง

หลังจากที่หญิงสาวแต่งงานกับเขาในชาติที่แล้ว เธอทั้งต่อต้านในสิ่งที่เขาพูดและเรียกร้องความสนใจจนน่ารำคาญ ทั้งยังใช้ใบหน้าที่สวยงามนี้ล่อลวงผู้ชายเป็นจำนวนมาก

ไม่รู้ว่าเขาถูกสวมหมวกเขียวนอกใจไปกี่ใบก่อนเธอตาย เกรงว่าเรื่องหน้าไม่อายเช่นนี้คงมีแต่เธอในชาติก่อนเท่านั้นที่รู้ แม้ว่าหยินเหวินกั๋วไม่ได้รู้สึกรักชอบอะไรเธอเลย แต่การถูกสวมหมวกเขียวถือว่าเป็นความอัปยศของผู้ชายมาก

เมื่อนึกถึงเรื่องแย่ๆ ของเธอ ใบหน้าของชายหนุ่มก็ยิ่งน่าเกลียดยิ่งขึ้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างประชดประชัน

“แต่ฉันคิดว่าชื่อนี้ก็เหมาะสมกับเธอดีนี่”

หูชื่อเหวินที่แค่ตอบคำถามผู้อำนวยการหลิวเท่านั้น แต่กลับได้ยินชายคนนี้พูดออกมา เธอก็อยากจะปะทะฝีปากของเธอกับเขาเหลือเกิน

เธอเริ่มไม่อยากจะจับคู่หูเหวินกั๋วให้แม่ของเธอแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีนิสัยที่ดีอย่างที่คิดเอาไว้เลย!

“หัวหน้าโปรดระวังคำพูดของคุณด้วย!”หูชื่อเหวินอดไม่ได้ที่จะโต้กลับ แต่คนพูดกลับทำท่าทางสงบเสงี่ยมไปก่อน

“แล้วไม่ใช่รึ? ทั้งลี่และอิงต่างก็หมายถึงความงาม แล้วฉันพูดอะไรผิดตรงไหน”

ให้ตายเถอะ ถ้าจะพูดแบบนี้ออกมาก็ช่วยเก็บสายตาประชดประชันนั้นไม่ให้ฉันเห็นด้วยสิ!

“ฉันต้องการเปลี่ยนเป็น 'หูชื่อเหวิน' ซึ่งหมายถึงบทกวีนิพนธ์และวรรณกรรม” เธอหันไปคุยกับผู้อำนวยการหลิวแทนเขา

ฉันจะไม่สนใจผู้ชายใจร้ายคนนี้อีก!

“โอ้! ชื่อนี้ดีมากจริงๆ ฉันจะจัดการให้เธอเอง วางใจเถอะ”

“ขอบคุณผู้อำนวยการหลิวมากค่ะ” หูชื่อเหวินโค้งศีรษะคำนับผู้อำนวยการหลิวแล้วหันหลังเดินออกไป โดยไม่แม้แต่จะชายตาหยินเหวินกั๋วอีก

หยินเหวินกั๋วมองไปที่แผ่นหลังหญิงสาว เขารู้สึกว่าวันนี้ตนเองอารมณ์ไม่คงที่สักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเอ่ยปากพูดกับคนแบบเธอเด็ดขาด

หูชื่อเหวิน? เป็นชื่อที่ดีเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ เกิดนึกอะไรขึ้นมาถึงได้มาสนใจเรื่องคนอื่นเรียกตัวเองว่าอะไรตอนนี้ เธอต้องการเปลี่ยนชื่อแค่เพราะว่าได้ยินใครบางคนล้อชื่อตัวเองจริงๆ หรือ?

หลังจากเลิกงานหูชื่อเหวินก็ตรงไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารกับจางหมินเหยี่ยนและลี่เสวี่ยฉิน เมื่อเร็วๆ นี้เธอเริ่มไปหาอะไรทานที่โรงอาหารเหมือนยุวชนคนอื่นบ้างแล้ว

เจ้าของร่างเดิมมาที่นี่ไม่บ่อยนัก เพราะเธอคิดว่าอาหารในโรงอาหารรสชาติแย่มาก แต่สำหรับหูชื่อเหวินที่เคยเจอเรื่องราวที่เลวร้ายกว่านี้มา แค่อาหารไม่อร่อยจะนับว่าเป็นอะไรได้

แค่มีคนทำอาหารให้ก็ถือว่าเป็นความสุขที่หาได้ยากแล้ว ไม่ว่าอาหารที่ได้มาจะอร่อยหรือไม่อร่อย เธอก็ยินดีที่จะกินมัน

ในโรงอาหารเธอใช้โอกาสระหว่างกินข้าวเพื่อพูดเรื่องในวันนี้

“ตอนนี้ฉันเปลี่ยนชื่อแล้วนะ ต่อไปนี้ต้องเรียกฉันว่าหูชื่อเหวิน อย่าเรียกฉันว่าหูลี่อิงอีก!”

“อ้าว ทำไมละ? ฉันคิดว่าชื่อหูลี่อิงก็เพราะอยู่แล้วนะ” ลี่เสวี่ยฉินถามด้วยใบหน้าที่งุนงง

“นั้นสิ ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนชื่อ? แต่ชื่อที่มีความหมายว่าบทกวีอันนี้ก็ดูมีความนัยแฝงค่อนข้างดีจริงๆ ” จางหมิงเยี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมา

“ชื่อหูลี่อิงกับคำว่านางจิ้งจอกไม่ใช่ว่ามันฟังดูคล้ายกันหรือ? คำพ้องเสียงแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของฉันดูแย่! ฉันไม่รู้เลยว่าตอนฉันเกิดทำไมพ่อของฉันถึงเลือกชื่อนี้ เขาคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้”

หูชื่อเหวินอดไม่ได้ที่จะบ่นเกี่ยวกับพ่อที่สิ้นคิดในการตั้งชื่อของเธอ

พอได้ยินคำตอบหลี่เสวี่ยฉินก็มองไปที่ใบหน้าของหูชื่อเหวินอย่างสำรวจ จากนั้นก็หัวเราะออกมา

“อย่าบอกนะว่าเธอคิดมากจริงๆ! ถ้าเธอสวยแล้วถูกเรียกว่านางจิ้งจอกฉันคิดว่าก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ คนที่มีปัญหาน่าจะเป็นพวกที่ไม่สามารถมีใบหน้านางจิ้งจอกแบบเธอได้ต่างหาก!”

“ให้ตายเถอะ! อย่าพูดถึงมันอีกเลย ต่อไปนี้ก็เรียกฉันว่าหูชื่อเหวินดีกว่า”

หูชื่อเหวินรู้ว่ารูปลักษณ์ของหูลี่อิงนั้นดูยั่วยวนผู้คน ใบหน้าแบบเธอดูเป็นหญิงสาวที่จัดจ้านเกินไปสำหรับสมัยนี้ แค่เหลือบสายตามองผ่านใครสักคน ก็ล่อหลอกคนผู้นั้นได้แล้ว

ประกอบกับชื่อของร่างเดิมแล้วช่างเหมาะสมกับเธอมากเกินไปจริงๆ

ไม่แปลกใจเลยที่หยินเหวินกั๋วพูดอะไรแบบนั้นออกมา

ภาพสามสาวสนทนาพร้อมกับหัวเราะคิกคักไปด้วยขณะที่รับประทานอาหารดึงดูดความสนใจของเหล่ายุวชนชายได้เป็นอย่างดี แต่เดิมพวกเธอก็เป็นที่สนใจอยู่แล้ว ดอกไม้งามที่สุดในสวนทั้งสองคนกับหลี่เสวี่ยฉินที่มีคิ้วหนาเป็นระเบียบและดวงตากลมโตสดใส แม้กระทั่งยุวชนหญิงคนอื่นก็ยังมองด้วยความอิจฉาริษยา

หูชื่อเหวินไม่สนใจสายตาแปลกๆ ที่มองมาจากรอบด้าน

ในชีวิตที่แล้วเธอเองก็ถูกมองว่ามีใบหน้าที่น่ารักน่าชัง ในวัยเด็กไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอก็มักถูกมองแบบนี้เช่นกัน แต่สำหรับตัวเธอเองกลับรู้สึกเสมอว่าพ่อที่มีหน้าตาธรรมดาช่วยลดรูปลักษณ์ของเธอลงไปพอสมควร

ดังนั้นแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติแต่ก็ไม่สามารถสวยได้เท่าครึ่งหนึ่งของแม่เธอเลย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เธอก็หันไปมองจางหมิงเยี่ยนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ ในมือกำลังถืออาหารไว้อย่างกระฉับกระเฉง แต่สายตากลับมองไปที่อื่น


 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป