Your Wishlist

บุพเพสลับรัก'70s (ฉันคิดถึงแม่)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!

จำนวนตอน : 760

ฉันคิดถึงแม่

  • 11/06/2567

“แม่… อะ… พี่เหยียน หลังจากเช็ดตัวเสร็จแล้ว สักพักก็ต้มน้ำร้อนแล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวกันเถอะ” หูชื่อเหวินเกือบจะหลุดคำว่า ‘แม่’ ออกมา

เธอวางผ้าขนหนูลงบนเตียง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ ซ่อนตัวในผ้านวมเพื่อหลบซ่อนน้ำตาของเธอจากทุกคน

“ลี่อิง เธอรู้สึกไม่สบายอีกแล้วหรือ?”

จางหมิงเยี่ยนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่… คิดถึงแม่” เสียงของหูชื่อเหวินอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่ม

“อ๋อ…”

จางหมิงเหยียนและลี่เสวี่ยฉินมองหน้ากัน พวกเธอไม่ได้พูดอะไรอีก การปลอบในตอนนี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายร้องไห้หนักกว่าเดิมได้

หลังจากที่หูชื่อเหวินปรับอารมณ์ให้กลับมาปกติแล้ว ก็ออกมาจากผ้าห่ม ตอนนี้ในที่พักของเธอมีผู้หญิงอยู่มากกว่า 20 คน บางคนกำลังซักผ้า บางคนกำลังทำความสะอาดร่างกายตัวเอง บางคนก็นั่งเขียนจดหมายอยู่ที่โต๊ะ มีบางส่วนก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน

ลี่เสวี่ยฉินสวมเสื้อกันฝนและไปทานอาหารเย็นที่โรงอาหารกับจางหมิงเยี่ยน เมื่อทั้งสองกลับมาหลี่เสวี่ยฉินก็หยิบกล่องอาหารที่ห่อด้วยผ้าขนหนูอย่างดีออกมาจากเสื้อกันฝนของเธอ

พอเปิดกล่องดูก็พบว่ามีข้าว แตงกวาและไข่กวน

หูชื่อเหวินรู้ดีว่าในยุคสมัยนี้ไข่ขาดตลาดแค่ไหน แต่การที่พวกเธอเป็นยุวชนที่อยู่ในไร่ต้องดีกว่ายุวชนที่ไปชนบทอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีเงินเดือน 32 หยวนต่อเดือน มีโรงอาหารที่สามารถทานอาหารได้ แม้ว่าอาหารจะไม่ได้ดิบดีอะไรมากนัก แต่ก็ไม่ต้องมาเหนื่อยทำอาหารกินเองหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากงาน

ไร่เซิ่งหยางมีสภาพที่ดีมาก มีทั้งสถานพยาบาลที่เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ตราบใดที่ไม่ได้ป่วยหนักจนเกินไป ถ้าใครป่วยก็จะมีการจัดอาหารสำหรับคนป่วยให้ แม้ว่าจะดีกว่าอาหารปกติเล็กน้อยแต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่

ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่ของเธอซึ่งเกิดในครอบครัวที่ยึดถือผู้ชายเป็นใหญ่ จะไม่เต็มใจที่จะออกจากที่นี่และกลับไปที่เมือง

“จางเหล่าบอกว่าตอนนี้อาหารขาดตลาด ที่นี่ไม่มีใครป่วยมานานแล้วด้วย ฉันไปขอร้องเขาอยู่นานจนได้ไข่กวนนี้มา จะน้อยเกินไปรึเปล่า?”

เมื่อเห็นว่าหูชื่อเหวินเอาแต่มองกล่องอาหารโดยไม่พูดจา หลี่เสวี่ยฉินจึงถามด้วยความรู้สึกผิด

“ไม่เลยนี่เป็นอาหารที่ดีมาก! ขอบคุณนะทั้งที่ฉันมักจะทำตัวไม่ดีใส่เธออยู่เสมอ แต่เธอก็ยังทำดีกับฉัน!”

หูชื่อเหวินรู้สึกขอบคุณหลี่เสวี่ยฉินแทนเจ้าของร่างเดิม ที่จริงแล้วหูลี่อิงเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ดี ผู้คนในสมัยนี้ใช้ชีวิตกันเรียบง่ายจริงๆ ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างร่าเริงและละเอียดอ่อนแบบนี้ทำให้เธอสามารถหาเพื่อนที่จริงใจกับเธอได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ครอบครัวของหูลี่อิงมักจะส่งอาหารมาให้เสมอ เวลาที่มีข้าวของมากกว่าที่จะกินหมด ก็ใช้อาหารดึงดูดความสนใจของผู้คนเพื่อให้ความช่วยเหลือเธอในอนาคต ยิ่งเธอไม่ชอบจางหมิงเยี่ยนก็ยิ่งจำเป็นต้องหาพวกมากขึ้น เพราะแบบนี้เองเธอจึงมักเรียกหลี่เสวี่ยฉินและผู้หญิงคนอื่นๆ มาแบ่งของกินของใช้อยู่เสมอก็เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเป็นคนมีน้ำใจ

แต่ความจริงแล้วหูลี่อิงเจ้าของร่างเดิม แค่อยากจะใช้ประโยชน์จากพวกเธอเท่านั้นไม่ได้ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีอะไร เธอชอบไหววานผู้อื่นให้ช่วยทำอาหาร ซักผ้าแม้กระทั่งปูเตียงจัดที่นอนให้ตลอด ไม่น่าแปลกใจที่เฉินซูเฟินจะไม่ค่อยชอบเธอ

“ไม่ใช่เลยเธอไม่เคยทำตัวไม่ดี เธอมักจะให้อาหารอร่อยๆ และของใช้ประจำวันให้ฉันตลอด ก็ไม่เรื่องแปลกที่ฉันจะช่วยซักผ้าให้เธอบ้าง ฉันก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว! คราวก่อนตอนที่แม่ของฉันป่วยฉันยังขอยืมเงินเธออีก…”

หลี่เสวี่ยฉินก้มหน้าลงด้วยความลำบากใจ

หูชื่อเหวินพอจะจำได้ว่าร่างเดิมช่วยเหลือแม่ของหลี่เสวี่ยฉินไว้ ด้วยการให้ยืมเงินจำนวน 20 หยวน

ค่าจ้างในไร่นั้นสูงกว่าค่าจ้างของคนงานทั่วไปในเมือง แต่ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบากและงานหนัก โดยเฉพาะกับยุวชนที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานภาคสนามรวมไปถึงที่พวกเขาต้องอยู่ไกลบ้าน ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ยุวชนที่มาทำงานในไร่อยู่ได้ไม่นานจึงได้พยายามส่งคำร้องเพื่อให้ได้กลับบ้าน


ในตอนนี้ยุวชนซึ่งอาศัยอยู่ในไร่ต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดอดออม เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะส่งเงินให้ครอบครัวเดือนละ 10 หยวน บางคนก็มีครอบครัวที่ยากจนมากจึงส่งให้มากกว่า 10 หยวน เหลือไว้เพียงค่าอาหารเท่านั้น

ตัวอย่างเช่นครอบครัวของหลี่เสวี่ยฉินเอง พ่อแม่ของเธอมีลูกเยอะและชีวิตก็ลำบากมาก เธอกับพี่ชายทั้งสองคนต้องไปทำงานในชนบท ซึ่งจะแก้ปัญหาของการว่างงานถึงสามคนในครอบครัวได้ในทีเดียว แม้ว่าชีวิตในไร่จะลำบากไปสักหน่อย แต่พี่น้องทั้งสามคนก็เต็มใจที่จะทำ

ชีวิตของหูลี่อิงจึงดีกว่ายุวชนคนอื่นๆ งานของเธอก็ง่ายกว่าคนอื่นมาก เธอเป็นผู้จัดการซึ่งเป็นงานที่ดีมากผ่านความช่วยเหลือของครอบครัวเธอ วันๆ หนึ่งก็แค่ทำงานในสำนักงานแล้วกลับที่พัก แทบจะไม่โดนลมโดนฝนเสียด้วยซ้ำ

ฐานะของครอบครัวเธอก็ดี เธอจึงสามารถเก็บเงินเดือนไว้ใช้เองได้ ทางครอบครัวก็ส่งอาหารมาให้เธอมากมายทุกสัปดาห์ เช่น ไส้กรอกเนื้อ ไข่เป็ดเค็ม เต้าหู้ยี้ ไก่เจ (ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอย่างหนึ่ง) แผ่นข้าวเหนียว ผลไม้กรอบ เค้กชางไป๋ นมมอลต์ ซานจาแบบแท่ง ของแบบนี้คนยากจนไม่มีโอกาสได้เห็นหรอก

นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าและของใช้บางอย่างที่เธอใช้ไม่หมดก็จะแจกยุวชนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง ดังนั้นปกติแล้วเจ้าของร่างเดิมจึงคิดว่าตัวเองค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบ

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากความชื่นชอบของระบบแล้ว เป็นเธอที่คิดไปเองเพียงคนเดียว พวกเขาแค่ชื่นชอบแต่เพียงผิวเผินเท่านั้น

"เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นอะไรเลย"

หูชื่อเหวินไม่สนใจสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามมันเป็นเงินของหูลี่อิงเธอจะทำเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเธอ เพราะถ้าเป็นหูชื่อเหวินก็จะทำแบบเดียวกัน

หลังจากอาหารเย็นหูชื่อเหวินก็เขียนจดหมายถึงครอบครัวด้วยสำนวนแบบที่หูลี่อิงเคยเขียน ในนั้นแนบรายการของที่ต้องการและขอให้ส่งมามากกว่าปกติถึงสองเท่า ครอบครัวของเธอมีความรู้สึกผิดต่อเจ้าของร่างเดิมอยู่แล้วจากการส่งเธอมาในชนบทเช่นนี้ พวกเขาจะไม่ปฏิเสธคำขอของเธออย่างแน่นอน

หูชื่อเหวินนอนบนเตียงห่มผ้า แม้จะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศในภาคเหนือก็มีอุณหภูมิแตกต่างกันมาก ที่นอนของเธอเป็นเตียงคังซึ่งแข็งมาก แม้ว่าจะปูที่นอนถึงสองชั้นมากกว่าของคนอื่น แต่ก็ยังให้ความรู้สึกแข็งกระด้างอยู่ดี

นี่ทำให้นึกถึงเรื่องราวการนอนบนเตียงคังในชาติที่แล้ว ก่อนขึ้นชั้นประถมเธออาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ และได้นอนบนเตียงคังแบบนี้ จากนั้นจึงได้ย้ายมาอยู่ในอาคารที่มีเครื่องทำความร้อนแบบรวมจึงได้สบายขึ้น

เธอจำได้ว่าตอนนั้นคังซึ่งทำจากดินของที่บ้านไม่ค่อยอุ่นและมีควันตลอดเวลา พ่อก็ไม่สนใจอะไร วันๆ เอาแต่ออกไปกินเหล้าและเล่นไพ่ สุดท้ายแม่ก็ทำเตียงคังด้วยตัวเอง

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้หูชื่อเหวินจึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองไปที่จางหมิงเยี่ยนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก

แม่หลับสนิทแล้ว การไปทำงานที่ทุ่งนาคงเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดในของเหล่ายุวชน ถ้าหากเธอสามารถช่วยแม่เปลี่ยนงานเป็นงานที่สบายกว่าเดิมได้คงจะดีไม่น้อย

ในที่สุดหูชื่อเหวินก็หลับไป แต่กลับตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะถูกยุงกัด ในถิ่นทุรกันดารทางตอนเหนือแบบนี้มีแมลงและยุงค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดในชาติก่อน เมื่อยุงกัดเธอจะรู้สึกคันจนทนไม่ไหว

จู่ๆ เธอก็นึกถึงแอพซื้อของในมือถือขึ้นมา เมื่อกดช่องค้นหาก็เจอสติ๊กเกอร์ไล่ยุงและยาทากันยุงขายอยู่ หลังจ่ายคะแนนซื้อของไปก็พบว่าของพวกนี้มีราคา 300 คะแนน เธอจึงเหลือแค่ 20 คะแนน ช่างน้อยเหลือเกิน ต่อไปคงต้องทำงานให้หนักเพื่อรีบเก็บคะแนนคืนมาให้ได้มากที่สุด

เธอแอบเอาของที่ซื้อมาออกจากห้องเก็บของในมือถือ จากนั้นก็วางไว้ใต้ผ้าห่มชั่วคราว และติดสติกเกอร์กันยุงสองแผ่นบนเสื้อผ้าของเธอ ในที่สุดก็ได้นอนหลับอย่างสงบไร้ยุงมากวนใจเสียที

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป