ความงดงามเย้ายวนของเสวียนหลงดึงดูดยาจกหนุ่มผู้ลึกลับ ท่ามกลางราตรีอันแสนหนาวเหน็บ อ้อมกอดของชายคณิกากลับมอบความอบอุ่นให้ยาจกผู้นั้นไปถึงดวงใจ....
ความงดงามเย้ายวนของเสวียนหลงดึงดูดยาจกหนุ่มผู้ลึกลับ ท่ามกลางราตรีอันแสนหนาวเหน็บ อ้อมกอดของชายคณิกากลับมอบความอบอุ่นให้ยาจกผู้นั้นไปถึงดวงใจ....
มัจจุราชใต้เงาอำพราง
ขณะที่การคัดเลือกสนมยังดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อยภายในพระราชวัง ภายนอกกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กองทัพข้าศึกนับแสนบุกทะลวงเข้ามาในเมืองหลวงเจียงหนาน พวกเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและทารุณ เสียงโห่ร้องดังสะท้อนทั่วเมือง ท้องฟ้าที่เคยสงบเงียบกลับเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงกระทบของอาวุธ
กองทัพข้าศึกไล่ทำร้ายชาวเมืองอย่างไร้เมตตา ผู้คนถูกฟันเสียชีวิตอยู่กลางถนน บ้านเรือนถูกเผาไหม้ไปทั่ว ทุกซอกทุกมุมของเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นควันและเสียงร้องไห้ เด็กน้อยวิ่งหนีไปหาผู้เป็นแม่ที่ล้มตายอยู่กลางถนน หญิงสาวถูกลากออกจากบ้านไปให้เหล่าทหารล่วงเกินก่อนจะฆ่าทิ้ง ชายชราก็ถูกสังหารอย่างไร้ปราณี
ชาวเมืองเจียงหนานไม่ทันตั้งตัวกับการโจมตีครั้งนี้ กว่าที่พวกเขาจะรับรู้ถึงภัยคุกคาม ข้าศึกก็ทะลวงเข้ามาถึงประตูเมืองแล้ว ความโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน ไม่มีที่หลบซ่อนที่ปลอดภัย ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและความทุกข์ทรมาน
ภายในพระราชวัง ขณะที่การคัดเลือกสนมกำลังดำเนินไปอย่างเงียบสงบ เสียงกรีดร้องและเสียงอาวุธดังขึ้นอย่างกะทันหัน ข้าศึกบุกทะลวงเข้ามาภายในกำแพงวังได้อย่างรวดเร็ว ร่างของทหารองครักษ์ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม หญิงสาวและเด็กน้อยต่างวิ่งหนีตายจนเหยียบกันล้มลงกับพื้น
เสวียนหลงที่กำลังอยู่ในห้องคัดเลือกสนมได้ยินเสียงดังวุ่นวายจากภายนอก เขารีบวิ่งออกไปดูและพบกับภาพที่น่าสะพรึงกลัว เหล่าข้าศึกกำลังไล่ฆ่าผู้คนภายในวังอย่างทารุณ ร่างของผู้คนที่ล้มลงนอนจมกองเลือดทำให้เขาตกใจจนแทบไม่สามารถขยับตัวได้
เขาวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว แต่ละก้าวที่ก้าวออกไปนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เสวียนหลงล้มลุกคลุกคลาน พยายามหาทางออกจากวัง แต่ทุกเส้นทางกลับเต็มไปด้วยศัตรูที่พร้อมจะสังหารเขา
ขณะที่เสวียนหลงวิ่งผ่านลานกว้างในวัง เขาเห็นหญิงสาวถูกทหารข้าศึกจับตัวไป ทารกน้อยถูกปล่อยทิ้งให้ร้องไห้อยู่ข้างหลัง ร่างของผู้คนที่ถูกสังหารเริ่มกองเป็นเนินสูง บางคนถูกฟันจนไม่สามารถจำแนกรูปพรรณได้
ทันใดนั้นเอง มีชายปริศนาคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา เขาปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุมจนเห็นแต่ดวงตา และย่องเข้ามาด้านหลังของเสวียนหลง เอามือปิดปากเขาแล้วกระซิบข้างหู "อย่าตกใจ ข้าจะช่วยเจ้าเอง" จากนั้นเขาฉุดเสวียนหลงให้วิ่งตามไปทางเส้นทางลับของพระราชวัง
เสวียนหลงไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจชายคนนี้หรือไม่ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาวิ่งตามชายปริศนาไปตามทางแคบๆ ที่ซ่อนจากสายตาผู้คน เส้นทางลับนี้เป็นที่รู้จักของคนไม่กี่คนในวัง มันเป็นทางที่นำออกไปสู่ภายนอกโดยไม่ต้องผ่านประตูใหญ่
เส้นทางลับนี้เต็มไปด้วยความมืดและความเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องและเสียงอาวุธจากภายนอกยังคงดังแว่วมาตามลม เสวียนหลงรู้สึกเหมือนทุกก้าวที่ก้าวออกไปนั้นเป็นการหนีจากความตาย ชายปริศนาที่อยู่ข้างหน้าเขายังคงวิ่งต่อไปด้วยความเร็ว แต่ก็ไม่ทิ้งเขาไว้ข้างหลัง
เมื่อพวกเขาออกมาถึงทางออกของเส้นทางลับ เสวียนหลงหันกลับไปมองพระราชวังที่กำลังถูกไฟลุกท่วม เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบคั้น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสับสน
ชายปริศนาหันมามองเสวียนหลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง "เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?"
เสวียนหลงพยักหน้า แม้ในใจของเขายังเต็มไปด้วยคำถามและความกลัว เขารู้ว่าชะตากรรมของเขายังไม่สิ้นสุด และเส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความท้าทายที่รออยู่
"ตามข้ามา" ชายปริศนากล่าวพร้อมกับจับมือเสวียนหลงแล้วพาเขาออกไปจากพระราชวังสู่ความไม่แน่นอนของอนาคตที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า