หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
ซูฮั่นหยวนตะลึง “หมายความว่ายังไง?”
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ
“อย่ามาแกล้งโง่! ฉันถามว่าทำไมเธอถึงตัดรายการของฉันออก ทั้งที่มีรายการอื่นตั้งมากมาย? เธอพยายามจะบอกอะไร?” เฉียวซาซ่าจ้องเขม็ง “เแก้แค้นกันใช่ไหม?”
หลังจากที่หล่อนพูดจล ซูฮั่นหยวนก็นึกถึงข้อมูลบางอย่างจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมได้
เฉียวซาซ่าทำงานในสหภาพ ในอดีตเธอมีปัญหากับเจ้าของร่างเดิมเพราะเรื่องงาน ในช่วงที่โกรธจัด หล่อนเคยลบบอร์ดรายงานที่ซูฮั่นหยวนเขียนไปครึ่งหนึ่งออกหมด
เจ้าของร่างเดิมเป็นคนอ่อนแอและไม่ค่อยพูด จึงทนทุกข์เงียบ ๆ
ดังนั้นทั้งสองคนจึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
ส่วนซูฮั่นหยวนเพิ่งทะลุมิติเข้ามาในร่างนี้ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่รายการที่เธอตัดออกจากงานเลี้ยงปีใหม่คือของผู้หญิงคนนี้ แต่เฉียวซาซ่ากลับคิดว่าเธอแก้แค้น
“ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลามาแก้แค้นเธอหรอก” ซูฮั่นหยวนหยิบแก้วน้ำชาที่วางไว้บนม้านั่งขึ้นมา แล้วรินชาให้ตัวเอง เธอจิบชาเพื่อให้ร่างกายกายอุ่นขึ้นก่อนจะพ่นลมหายใจร้อนออกมา “เหตุผลที่ฉันตัดรายการของเธอออก เพราะว่าสหภาพมีสองรายการที่เหมือนกันอยู่แล้ว พวกเราพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และทางผู้นำโรงงานก็ได้กำชับว่าแต่ละฝ่ายควรมีแค่สองรายการเท่านั้น ยกเว้นว่าจะเป็นรายการที่น่าตื่นเต้นมากจริง ๆ ทั้งโรงงานมีเพียงสองฝ่ายที่มีสามรายการ การแสดงร้องเดี่ยวทั้งสองรายการเป็นการแสดงซ้ำซ้อนกัน ฉันแค่ทำตามคำสั่งของผู้นำเท่านั้น”
“ไร้สาระ!” เฉียวซาซ่าไม่ยอมฟัง หล่อนยังยืนยันว่านี่เป็นการแก้แค้นของซูฮั่นหยวน "อย่าคิดฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร เธอต้องเพิ่มรายการของฉันในรายการแสดง! ผู้นำจะสนใจอะไรกับการเพิ่มหนึ่งหรือสองรายการ"
“แต่…” ก่อนที่ซูฮั่นหยวนจะพูดจบ เฉียวซาซ่าก็ปัดแก้วน้ำชาจากมือของเธอ
แรงปะทะทำให้แก้วน้ำชากระเด็นออกจากมือของซูฮั่นหยวน มันกระแทกแขนของเธอและน้ำร้อนก็กระเด็นใส่หน้าอก
เมื่อรู้สึกถึงความร้อน เธอรีบคว้าแก้วน้ำชากลับมา ทว่าน้ำชาส่วนใหญ่ได้หกออกไปแล้ว
โชคดีที่เธอสวมเสื้อผ้าฤดูหนาวหนา ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนลวกแน่นอน
ซูฮั่นหยวนเช็ดน้ำชาออกจากตัวและเลิกคิ้วขึ้น โดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอเทน้ำที่เหลืออยู่ในแก้วน้ำชาราดไปที่เสื้อผ้าของเฉียวซาซ่า “เธอคิดว่าจะเพิ่มก็เพิ่มได้เพียงเพราะเธอต้องการอย่างนั้นเหรอ? ครอบครัวเธอเป็นเจ้าของฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือไง? มีเหตุผลหน่อยสิ!”
บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนตึงเครียดขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าเฉียวซาซ่าไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่าย ๆ ถ้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ คงเกิดสงครามขึ้นแน่
“โอ้ ยอดเยี่ยม!”
“มีเรื่องกันแล้ว! สองคนนี้กำลังจะตีกัน มาดูกันเร็ว!”
ไม่ไกลนัก ผู้ชายสองสามคนในโรงงานที่ออกมาสูบบุหรี่และไปเข้าห้องน้ำเห็นเหตุการณ์นี้พอดี จึงพากันเดินมาดูโดยมีบุหรี่คาบอยู่ในปาก พวกเขาพิงกำแพงดูความวุ่นวาย
“ฉันเคยเห็นแต่ผู้หญิงแก่ ๆ ตีกันในโรงงาน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงสาวทะเลาะกัน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“นั่นไม่ใช่เฉียวซาซ่าจากสหภาพหรอกเหรอ? แม่สาวคนนี้หยิ่งจองหองมาก นึกว่าตาอยู่บนหัว! ทำไมล่ะ? วันนี้เจอคู่ต่อสู้แล้วเหรอ? มีคนสอนบทเรียนให้เธอแล้วสินะ? ตีสิ ตีกันเลย! มาดูว่าพวกนักวิชาการตีกันยังไง!”
เฉียวซาซ่าไม่คาดคิดว่าซูฮั่นหยวนจะกล้าตอบโต้กลับ และเหตุการณ์นี้ยังถูกเห็นโดยคนงานในโรงงาน พวกเขาพากันหัวเราะเยาะหล่อน ใบหน้าของหล่อนแดงจัดด้วยความอับอาย