Your Wishlist

เทพเซียนไร้ลักษณ์ (ตระกูลหลิว รุ่นที่ 3) (บทที่ 32 หัวเรือใหญ่)

Author: geesan

หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน

จำนวนตอน :

บทที่ 32 หัวเรือใหญ่

  • 08/02/2567

         เมื่อท่านอาจารย์จ้าวตกลงช่วยเหลือท่านตุลาการเฉิน ในการสืบเสาะหาตัวบุตรชายที่ถูกลักพาตัวไปแล้ว

         หลิวชุนก็ได้เข้าร่วมรับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากท่านตุลาการเฉิน

         แต่ข้อมูลเพิ่มเติมก็มีไม่มากนัก แม้นจะเป็นสำนักมือปราบเมืองจิวไห่ที่เกาะติดคดีนี้มา 2 วัน

 

         ยังคงไร้ซึ่งหนทาง ทำได้แต่ตระเวณค้นตามสถานที่ต้องสงสัยทั่วไปเท่านั้น

 

 

 

         เมื่อท่านตุลาการเฉินขอตัวลาและลงจากเรือไปแล้ว

 

 

 

         ชุน 2 จึงกลับไปเดินเคล็ดดูดซับพลังปราณต่อ

 

 

 

         เช้าวันรุ่งขึ้น บ่าวรับใช้ของท่านจ้าวฟูหยางก็ทำการประกาศและแขวนป้ายอันใหม่ไว้ที่ข้างลำเรือว่า ขอเลื่อนการแข่งพนันเดินกลหมากรุก ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

 

 

 

         ชุน 1 ผู้ใช้ร่างในวันนี้ แขวนห้อยหน้าไม้รุ่นนกเหยี่ยว 30 ของเขาไว้ที่เอวด้านขวา พร้อมแผงลูกศรสำรองอีก 2 แผง

 

 

 

         หลังจากเหตุการณ์โจรม้าดักปล้น โดยที่ชุน 1 ทำอันใดมิได้เลย ทำให้ทุกวันในช่วงยามเย็น เขาจะทำการฝึกซ้อมการยิงหน้าไม้อย่างบ้าคลั่ง ภายในโถงฝึกยุทธ์

 

 

 

         โถงฝึกยุทธ์มีพื้นที่เฉพาะสำหรับการฝึกยิงธนูและหน้าไม้อยู่แล้ว ซึ่งบรรดาผู้พิทักษ์ของท่านอาจารย์จ้าวก็มักจะเข้ามาใช้ฝึกซ้อมกันเป็นประจำ พร้อมทั้งสอนชุน 1 ไปด้วย

 

 

 

         ทุกวันนี้ฝีมือยิงหน้าไม้ของชุน 1 ดีขึ้นมาก แม้ไม่แม่นถึงขนาดจับวาง แต่ก็พอได้ 7 ใน 10 ส่วนแล้ว

 

 

 

         เขาออกจากห้องพัก ไปกินอาหารเช้าที่ห้องครัวของเรือแม่น้ำสวรรค์ แล้วจึงไปพบท่านอาจารย์ของเขา ยังห้องหนังสือตามที่นัดหมายกันไว้เมื่อวาน

 

 

 

         เมื่อชุน 1 เข้ามายังห้องหนังสือของท่านอาจารย์จ้าว และทำความคารวะท่านอาจารย์แล้ว ท่านอาจารย์จ้าวจึงถามเขาว่า

 

 

 

         "หลิวชุน เจ้าทั้งสองมีความคิดเห็นอันใด ก่อนพวกเราจะไปยังสำนักมือปราบของเมืองจิวไห่หรือไม่"

 

         

 

         ชุน 1 จึงตอบว่า "ข้าสงสัยว่าการลักพาตัวในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านอาจารย์ ยื่นมือมาสืบสวนคดีนี้ขอรับ"

 

 

 

         "อืม.. ไหนเจ้าลองอธิบายความมาสิ"

 

 

 

         "ระยะเวลาเส้นตายที่โจรลักพาตัวจะสังหารบุตรชายท่านตุลาการเฉิน ให้เวลาถึง 15 วัน อันเป็นเวลายาวนานเกินไป คล้ายจะให้เวลาในการสืบสวนกับทางการ"

 

 

 

         "และอีกหนึ่ง เหตุลักพาตัวเกิดขึ้นก่อนหน้าท่านอาจารย์มาถึงยังเมืองจิวไห่นี้เพียง 2 วัน"

 

 

 

         "หากรู้จักเรือแม่น้ำสวรรค์ ย่อมรู้จักท่านอาจารย์ หากจะสืบเสาะที่มาของท่านอาจารย์ว่าเป็นอดีตรองเสนาบดีกรมตุลาการ  

 

ย่อมมิยากอันใด"

 

 

 

   "ข้าคิดว่า โจรลักพาตัว ต้องการให้ท่านอาจารย์มาสืบสวนคดีนี้ขอรับ"

 

 

 

    "ถึงเสนอเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ อย่าง การปล่อยตัวนักโทษขอรับ"

 

 

 

         "อืม.. แล้วเจ้าคิดว่าเราควรเริ่มสืบสวนที่จุดใด"

 

 

 

         ชุน 1 กล่าวว่า "ควรเริ่มจากข้อมูลแวดล้อมทั้งหมดเสียก่อนขอรับ"

 

 

 

       "ตอนนี้ข้อมูลที่มียังคงน้อยเกินไป แล้วค่อยกำหนดจุดค้นหาโดยละเอียด อาจจะเหมือนวิธีทำงานของสำนักมือปราบในตอนนี้ แต่เราก็ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านอยู่ดีขอรับ"

 

 

 

         "ข้ามิอาจรู้ได้ว่าที่โจรลักพาตัวกระทำการครั้งนี้เป็นเพราะต้องการดึงท่านอาจารย์ มาดัวยวัตถุประสงค์อันใดขอรับ"

 

 

 

         "เพราะไม่ว่าอย่างไร ท่านอาจารย์ต้องช่วยท่านตุลาการเฉินโดยมิอาจบิดพริ้วได้"

 

 

 

         "การลักพาตัวเพื่อให้ปล่อยนักโทษออกจากคุก ท่านอาจารย์ในฐานะอดีตรองเสนาบดีกรมตุลาการ ย่อมมิอาจปล่อยผ่านไปได้ขอรับ"

 

 

 

 

 

 

 

         "ดีๆๆ.. ข้าจะให้เจ้าเป็นหัวเรือใหญ่ในครั้งนี้ ส่วนข้าจะติดตามไปในฐานะผู้สังเกตุการณ์"

 

 

 

         "หา.. ท่านอาจารย์ ข้าจะไหวหรือขอรับ" ชุน 1 กล่าวอย่างตกใจ

 

 

 

         "ฮ่าๆๆ.. อย่าลืมสิว่าเจ้าเป็นผู้เอาชนะข้าได้ ในการเดินกลหมากรุก จะไม่มีความสามารถได้อย่างไรกัน"

 

 

 

         "แต่กลหมากรุกกับคดีความมันไม่เหมือนกันนะขอรับ"

 

 

 

         "เหมือนสิ เหตุไรจึงไม่เหมือน เจ้าก็คิดหลายๆชั้นหน่อย เหมือนตอนที่เจ้ากำลังเดินกลหมากรุก"

 

 

 

         "เอาละ.. ตกลงตามนี้ ให้เจ้าเป็นหัวเรือใหญ่ พวกเราเดินทางไปสำนักมือปราบกันเถิด"

 

 

 

         ท่านอาจารย์จ้าวกล่าวตัดบทอย่างง่ายๆ

 

 

 

         ชุน 1 บ่นเบาๆในใจ "ให้เด็กอายุ 10 ปีกว่าๆ อย่างข้านี่นะ ไขคดีที่มือปราบทั้งโขยงยังมะงุมมะงาหราอยู่ เฮ้อ.."

 

 

 

 

 

        เมื่อมาถึงยังบริเวณหน้าสำนักมือปราบเมืองจิวไห่

 

        ชุน 1 ท่านอาจารย์จ้าว และผู้พิทักษ์อีก 2 คน รวม 4 คน ก็ได้พบกับท่านตุลาการเฉิน พร้อมผู้ติดตามอีก 2 คน

 

 

 

         ท่านตุลาการเฉินนั้นทำการลาหยุดราชการชั่วคราว เพื่อที่จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยให้รองตุลาการปฎิบัติหน้าที่แทน

 

 

 

         จากนั้นทั้งหมด 7 ชีวิต ก็พากันเดินเข้าไปในสำนักมือปราบเมืองจิวไห่

 

 

 

         เมื่อทั้งหมดเข้ามายังโถงรับรองของสำนักมือปราบแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาต้อนรับในทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่รู้จักท่านตุลาการเฉินอยู่แล้ว

 

 

 

         พร้อมแจ้งว่า "ท่านผู้กำกับการมือปราบและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมรออยู่ในห้องประชุมแล้วขอรับ ท่านตุลาการเฉิน"

 

 

 

         ท่านตุลาการเฉินจึงเดินนำท่านอาจารย์จ้าวและชุน 1 ไปยังห้องประชุมที่ชั้น 2 ทันที โดยให้คนอื่นๆที่เหลือรออยู่ที่โถงต้อนรับ

 

 

 

 

 

        เมื่อทั้ง 3 เข้าไปยังห้องประชุมแล้วท่านผู้กำกับการมือปราบหม่า และท่านตุลาการเฉิน ก็ทำการคารวะกันตามธรรมเนียม เมื่อนั่งกันเรียบร้อยแล้ว ท่านตุลาการเฉินก็กล่าวขึ้นทันที

 

 

 

         "ข้าต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มารวมกัน ณ.ที่นี้ เพื่อร่วมปรึกษากันในการช่วยเหลือบุตรชายของข้า"

 

 

 

         "ข้าจะขอแนะนำคณะผู้ติดตามของข้า ท่านนี้คือท่านอาจารย์จ้าว ผู้เป็นอาจารย์ทางด้านวิชาการตัวบทกฏหมายของข้า และลูกศิษย์ของท่านอาจารย์จ้าว นามหลิวชุน" 

 

 

 

 

 

         "ข้าจะต้องขอรบกวนขอให้ทางสำนักมือปราบ บรรยายสถานะการณ์ทั้งหมดที่ได้ดำเนินการไปด้วยเถิด"

 

 

 

         ท่านผู้กำกับการมือปราบหม่า จึงได้ให้นายกองมือปราบหลี่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้โดยตรง เป็นผู้บรรยาย

 

 

 

         นายกองหลี่กล่าวว่า   

 

 

 

      "เรามีจุดที่ต้องสงสัยว่าโจรลักพาตัว จะหลบซ่อนอยู่ 134 จุด ขณะนี้เราได้ตรวจค้นไปแล้ว 67 จุด"

 

 

 

         "และยังทำการตรวจค้นต่อไป โดยแบ่งการทำงานเป็นสองกะ ทั้งกลางวันและกลางคืน"

 

 

 

          "ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ทางคณะทำงานคดีนี้ คิดว่าจะมีศักยภาพพอที่จะลักพาตัวคุณชายเฉินและทำร้ายนักยุทธ์ขั้นผสานลมปราณขั้นต้น ระดับที่ 1 ที่เป็นผู้พิทักษ์ของคุณชายเฉินจนสลบไปได้นั้น"

 

 

 

         "จากการสืบสวน ยังมิมีผู้ใดเข้าข่าย เนื่องจากนักโทษเหยาเซียว เป็นเพียงชาวสวนผักธรรมดา มิได้มีฐานะร่ำรวย"

 

 

 

         "ถึงจะมีที่ดินสวนผัก ก็เป็นที่ดินริมแม่น้ำที่ค่อนข้างห่างไกลตัวเมือง มิได้มีมูลค่าราคาแพงอันใด"

 

 

 

         "และมิเคยรู้จักคบหากับนักยุทธ์ หรือจอมยุทธ์ผู้ใด จนเป็นที่สนิทสนมกลมเกลียว ถึงขั้นทำให้เกิดก่อการลักพาตัว เพื่อช่วยนักโทษเหยาเซียวออกจากคุก"

 

 

 

          การบรรยายยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่บทสรุปทั้งหมดที่ชุน 1 สรุปให้สำนักมือปราบก็คือ คว้าน้ำเหลว

 

 

 

 

 

   "ชุน 1 มือปราบพวกนี้คงหาไม่เจอใช่ไหม" ชุน 2 สื่อจิตถาม

 

 

 

    "ใช่ ชุน 2 ถ้าพวกเขาหาคนที่ถูกลักพาตัวไปไม่เจอภายใน 2 วัน ยิ่งเวลานานขึ้น ก็จะยิ่งหาตัวยากขึ้น"  

 

ชุน 1 ตอบชุน 2

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป