หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
วันนี้เรือเเม่น้ำสวรรค์ เข้าเทียบท่ายังท่าเรือของเมืองจิวไห่เป็นวันที่ 4 แล้ว
ชุน 2 ตื่นขึ้นมา เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเขาก็เดินเคล็ดวิชาดูดซับพลังปราณกลืนเมฆา อย่างขยันขันแข็งอยู่ภายในห้องพักของเขา
ส่วนบาดแผลที่ปลายแขนข้างซ้ายของเขานั้น บัดนี้ได้หายถึง 9 ใน 10 ส่วนแล้ว แต่ยังคงใช้ผ้าผูกแขนห้อยเอาไว้อยู่
แล้วในช่วงบ่าย หลังจากที่ท่านอาจารย์จ้าวแข่งพนันเดินกลหมากรุกเสร็จแล้ว
ณ. โถงรับรองอันโอ่อ่าของเรือแม่น้ำสวรรค์ ก็ได้มีผู้มาเยือนผู้หนึ่ง รอคอยท่านอาจารย์จ้าวอยู่ด้วยความร้อนรน
ผู้มาเยือนผู้นี้คือ ท่านตุลาการเฉินจิงซาน ผู้เป็นตุลาการของเมืองจิวไห่แห่งนี้ และยังเป็นศิษย์ที่เข้ารับการอบรบวิชาตัวบทกฎหมายกับท่านอาจารย์จ้าว ที่ราชสำนักต้าเหมิงมาหลายต่อหลายครั้ง จึงถือได้ว่ามีความสนิทสนมกับท่านอาจารย์จ้าวในระดับหนึ่ง
ท่านตุลาการเฉิน เมื่อพบกับท่านอาจารย์จ้าว หลังจากทำการคารวะทักทายกันตามธรรมเนียมแล้ว จึงเอ่ยกับท่านอาจารย์จ้าวด้วยความเศร้าหมองและกังวลใจว่า
"ท่านอาจารย์จ้าวขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นเรื่องความเป็นความตายของบุตรชายข้าน้อยขอรับ"
ท่านอาจารย์จ้าวจึงให้ความสนใจกับการสนทนานี้เพิ่มมากขึ้น แล้วกล่าวว่า "เชิญท่านตุลาการเฉิน กล่าวเนื้อความมาโดยไวเถิด"
ด้วยความร้อนใจท่านตุลาการเฉิน มิได้อ้อมค้อมอีกต่อไป กล่าวด้วยความร้อนรนว่า
"บุตรชายคนโตข้าน้อย นามเฉินเย่ อายุ 17 ปี ถูกลักพาตัวไปโดยบุรุษชุดดำผู้หนึ่ง ซึ่งปิดหน้าปิดตามิดชิด"
"ขณะที่บุตรชายคนโตของข้าน้อย ออกเดินทางไปยังโรงเครื่องแก้ว ซึ่งเป็นกิจการของข้าน้อยเองข อรับ"
ท่านอาจารย์จ้าวยังคงนิ่งเงียบ แต่ก็ยังคงรับฟังอย่างตั้งใจ
ท่านตุลาการเฉิน จึงกล่าวต่อไปอีกว่า
"หลังจากนั้น เมื่อวานนี้ ข้าน้อยได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ผูกติดลูกธนูยิงมายังบ้านข้าน้อย"
"ในจดหมายมีใจความว่า ให้ข้าน้อยปล่อยตัวนักโทษเหยาเซียว ออกจากคุก หากมิกระทำตามภายใน 15 วัน นับแต่รับจดหมาย โจรลักพาตัว จะทำการสังหารเฉินเย่ บุตรชายของข้าน้อยเสียขอรับ"
ท่านอาจารย์จ้าวพิเคราะห์สักครู่เเล้วจึงเอ่ยถามไปว่า
"เหยาเซียวคือผู้ใด และเหตุลักพาตัวเกิดวันไหน"
"เหยาเซียว คือชายอายุ 52 ปี เจ้าของสวนผักขนาดกลางแห่งหนึ่งบริเวณริมแม่น้ำจิวไห่"
"ต้องโทษจำคุกเพราะคดีข่มขืนหญิงชาวบ้านนางหนึ่ง ถูกโทษจำคุก 15 ปี ขณะนี้ถูกจำคุกมาแล้ว 2 ปีขอรับ"
"ส่วนเหตุลักพาตัวเกิดเมื่อ 2 วันก่อน ขอรับ"
นั่นคือเหตุเกิดหลังเรือแม่น้ำสวรรค์เข้าเทียบท่าเมืองจิวไห่ 2 วัน
ครานี้ท่านอาจารย์จ้าว นิ่งคิดไปครู่ใหญ่
ท่านตุลาการเฉินจึงเอ่ยด้วยความเศร้าหมองและร้อนรนว่า "ขอท่านอาจารย์จ้าวช่วยเหลือข้าน้อยในครานี้ด้วยเถิดขอรับ"
"ท่านใต้เท้ารองเสนาบดี ผู้เป็นทั้งมือปราบที่เลื่องชื่อและผู้เป็นตุลาการที่เที่ยงธรรม"
"ถ้าท่านอาจารย์จ้าวให้ความช่วยเหลือข้าน้อย ข้าน้อยจะยอมเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ท่านอาจารย์จ้าวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ขอรับ ได้โปรดช่วยข้าน้อยด้วยเถิดขอรับ"
ท่านอาจารย์จ้าว ครุ่นคิดสักครู่
จากนั้นจึงให้ท่านพ่อบ้านฟางตามตัวชุน 2 มาพบ
ชุน 2 จึงหยุดเดินเคล็ดดูดซับพลังปราณ แล้วมาพบท่านอาจารย์จ้าวตามคำสั่ง
เมื่อชุน 2 มาถึงโถงรับรอง ท่านอาจารย์จ้าวก็กล่าวกับเขาว่า
"หลิวชุนเจ้าลองฟังเรื่องราวของท่านตุลาการเฉินเป่าซานผู้นี้ แล้วบอกข้ามาว่า เจ้าคิดเห็นเช่นไร สมควรช่วยเหลือหรือไม่"
การที่ ท่านอาจารย์จ้าวใช้คำว่า หลิวชุน หมายความว่าท่านอาจารย์ต้องการสื่อสารกับทั้งชุน 1 และชุน 2 พร้อมกัน
โดยไม่รอช้าท่านตุลาการ ทำการเล่าเรื่องราวให้กับหลิวชุนฟังอีกครั้ง
เมื่อการเล่าเรื่องราวจบลง ท่านอาจารย์จ้าว จึงถามหลิวชุนอีกครั้งว่า "พวกเจ้าทั้งสองคิดเห็นเป็นเช่นไร สมควรช่วยหรือไม่"
ชุน 2 ตอบออกมาแทบจะในทันทีว่า "สมควรช่วยขอรับ เพื่อธำรงค์ความเป็นธรรม จับโจรผู้ร้ายเข้ารับโทษ บ้านเมืองจึงจะสงบสุขขอรับ"
จากนั้นชุน 2 ก็เงียบไป อันเป็นการสื่อจิตถึงชุน 1
การสื่อจิตคราวนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ท่านอาจารย์ก็มิได้เร่งเร้าอันใด ส่วนท่านตุลาการเฉินก็มอง อาจารย์-ศิษย์ทั้งคู่อย่างงงๆ แต่ยังคงสงบท่าทีไว้
แล้วชุน 2 ก็เอ่ยออกมาว่า
"ชุน 1 บอกว่ายิ่งสมควรต้องช่วย เหตุผลก็คือ การกระทำการลักพาตัวบุตรของขุนนางฝ่ายตุลาการ"
"เพื่อแลกกับอิสระภาพของนักโทษนั้น เป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทายอำนาจของกฏหมายและราชสำนักต้าเหมิง"
"หากการกระทำครั้งนี้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นตัวอย่าง ให้บุคคลอื่นๆลอกเลียนแบบได้"
"แต่ผลจากการเข้าช่วยเหลือนี้ จะออกมาเพียง 2 ประการคือ"
"1 จัดการกับคนร้ายได้ และ 2 ตัวประกันเสียชีวิต"
"ส่วนการจะให้ปล่อยตัวนักโทษเหยาเซียวนั้น ย่อมเป็นไปมิได้ เพราะเป็นการหยามหมิ่นทางการ และราชสำนักต้าเหมิงอย่างรุนแรง"
ชุน 2 กล่าวคำตอบของชุน 1 ออกมาอย่างมิขาดตกบกพร่อง
ท่านอาจารย์จ้าว จึงถามไปยังท่านตุลาการเฉินว่า "ท่านยอมรับได้หรือไม่กับความคิดเห็นของศิษย์ข้า"
"ข้าน้อยย่อมยอมรับผลทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น ข้าน้อยนั้นย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า มิอาจปล่อยตัวนักโทษออกจากคุกได้ และเตรียมใจแม้กระทั่งจะเสียบุตรชายไป"
"แม้ขณะนี้ทางสำนักกองปราบจะระดมกำลัง ออกติดตามหาโจรร้ายและบุตรชายของข้าน้อยอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังมิได้ผลลัพธ์ใดๆเลยขอรับ"
"แต่เมื่อวานข้าน้อยได้ทราบว่าผู้เป็นนายใหญ่ของเรือแม่น้ำสวรรค์ลำนี้ก็คือท่านอดีตรองเสนาบดีกรมตุลาการ ท่านจ้าวฟูหยาง ข้าก็บังเกิดความหวังขึ้นมาอีกครา ขอให้ท่านอาจารย์จ้าวโปรดช่วยเหลือข้าน้อยด้วยเถิดขอรับ"
"ตกลง ข้าจะช่วยเหลือท่านตุลาการเฉินในการติดตามบุตรชายกลับมา"
ท่านอาจารย์จ้าวกล่าวอย่างเรียบๆ
และแล้วภารกิจช่วยตัวประกันก็เริ่มต้นขึ้น