หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
เมื่ออาจารย์ยุทธ์ท่านนี้ จบการบรรยายลงไปแล้ว จึงได้ให้บรรดาเหล่าลูกศิษย์ แยกย้ายกันออกไปทำการฝึกที่ลานฝึก ลานฝึกนั้นมีอยู่หลายลานฝึกกระจายตัวออกไปตามจุดต่างๆของสำนัก
ชุน 2 จึงได้เดินไปยังอาคารหลังหนึ่งที่มีชั้นเดียว แต่ก็มีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โต
เขาเเละสหายอีกหลายคนเดินเข้าไปภายในอาคารนั้น ในอาคารนั้นมีตู้ขนาดใหญ่ เรียงรายอยู่มากมายนั้บไม่ถ้วน
ชุน 2 เดินไปยังตู้ใบหนึ่ง ซึ่งเป็นตู้เก็บของส่วนตัวของเขา แล้วเขาก็ใช้ลูกกุญแจเปิดบานประตูตู้ขนาดใหญ่นี้ออก
ภายในประกอบไปด้วยสิ่งของจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาวุธชนิดต่างๆ ตำรายุทธ์และสิ่งของแปลกๆอีกหลายอย่าง
สิ่งของเหล่านี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของศิษย์ ทางสำนักไม่ได้แจกให้ ศิษย์ของสำนักต้องจัดการซื้อหามาเอง
ถึงสำนักแห่งนี้จะมีชื่อว่า สำนักหมัดทลายฟ้า ซึ่งฝึกวิชาหมัดเป็นแกนหลัก แต่ก็ยังคงสอนวิชายุทธ์แขนงอื่นๆด้วยเช่น ดาบ กระบี่ หอก ธนู โล่ แล้วแต่ลูกศิษย์จะสนใจฝึกยุทธ์ด้านใด
ดังนั้นการจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์จะสิ้นเปลืองเงินทองค่อนข้างมาก คนยากจนธรรมดา แทบไม่มีโอกาศได้ฝึกยุทธ์เลย
ชุน 2 มองสำรวจสิ่งของของเขาอยู่ครู่นึง จากนั้นก็เข้าไปแบกเอาหุ่นฝึก ที่ทำจากไม้นิลสีดำสนิท ขนาดเท่าคนจริงออกมาจากตู้
เขาปิดตู้ลงแล้วจึงแบกหุ่นฝึกไปยังลานฝึกใกล้ๆ ที่เขาและสหายมักจะใช้ฝึกกันเป็นประจำ
เมื่อมาถึงลานฝึก ชุน 2 ก็จับจองมุมหนึ่งของลานฝึก ที่มีศิษย์อีกหลายคนใช้ฝึกอยู่ แล้วนำหุ่นฝึกที่มีร่างสูงใหญ่ไปตั้งใว้ เขาเตรียมพร้อมร่างกายอยู่สักครู่ กำลังจะลองออกท่าทางของวิชายุทธ์กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี
พลันนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่ง รูปร่างใหญ่โต วิ่งเข้ามาหาชุน 2
พร้อมกล่าวว่า ชุน 2 ข้าคิดไว้เเล้วเชียวว่าเจ้าคงต้องอยู่ที่ลานฝึกแห่งนี้
เด็กชายผู้นี้มีนามว่า เฉินเป่า รูปร่างของเฉินเป่าสูงใหญ่มากสำหรับเด็กวัยเพียง 12 ปี รูปร่างของเขาต้องบอกว่า เหมือนหมีมากกว่ามนุษย์ ความสูงของเขา สูงเท่ากับหัวไหล่ของหุ่นฝึกของชุน 2 แล้ว
ชุน 2 กล่าวกับเฉินเป่าว่า "ข้ากับเจ้าก็ฝึกที่ลานนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ว่าแต่เจ้ามาสายนี่วันนี้ ข้าไม่เห็นเจ้าที่โถงบรรยายเลย งานที่ร้านยุ่งมากหรอกหรือ"
"ใช่แล้ว เช้านี้ที่ร้านลูกค้าเยอะมาก เป็นพวกผู้คุ้มกันสินค้า เข้ามากินอาหารที่ร้านข้ากันนับสิบคน ไหนจะลูกค้าประจำอีก เล่นเอาข้าปรุงอาหารมือเป็นระวิงเชียว" เฉินเป่าตอบกลับชุน 2 พร้อมแอบบ่นเล็กน้อย
"เอาละ.. ถ้าเช่นนั้นข้าจะถ่ายทอดกระบวนท่าใหม่ ที่ท่านอาจารย์ยุทธ์บรรยายในวันนี้ให้เจ้าฟัง" ว่าแล้วชุน 2 ก็ทำการสอนถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้มาให้กับเฉินเป่า ซึ่งก็ถือเป็นการทบทวนของชุน 2 ไปในตัว
สำนักฝึกยุทธ์ทุกสำนัก ตลอดถึงสำนักศึกษา มิได้กำหนดว่า ศิษย์ทุกคนต้องเข้ามาเรียนทุกวัน
การสอนจะเป็นลักษณะการบรรยาย ไม่มาฟังบรรยายก็จะไม่ได้วิชาไม่ได้ความรู้
ส่วนการสอบนั้น ทั้งสำนักฝึกยุทธ์ และสำนักศึกษา จะจัดสอบปีละ 2 ครั้ง เพื่อจัดอันดับเหล่าศิษย์ในสำนัก
ลักษณะการเรียนการสอนเช่นนี้ เหมาะกับสภาพสังคม ของอาณาจักรต้าเหมิง
เพราะจากการเกิดขึ้นของพลังปราณ เด็กๆก็เติบโตรวดเร็วมาก
แม้กระทั่งเด็กที่ไม่ได้ฝึกวิชายุทธ์ ก็ยังมีสภาพร่างกายที่เติบโตแข็งแรง
เนื่องจากการบำรุงทางอ้อม ของพลังปราณ ที่แทรกอยู่ในทุกอณูของดาวหงหมิงนี้
ด้วยร่างกายที่เติบโตแข็งแรง เด็กๆก็จะถูกบรรดา ผู้ใหญ่ บิดา มารดา ให้ช่วยงานของทางบ้าน หรือของทางตระกูล ตามแต่ความสามารถของเด็กคนนั้น
การศึกษาจึงเป็นการศึกษาแบบเปิดกว้าง และโดยเฉพาะผู้ฝึกยุทธ์ ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เด็กบางคนต้องหยุดการฝึกวิชายุทธ์กับทางสำนักเอาไว้ก่อน
แล้วไปทำงานรับจ้างหาเงิน เมื่อได้เงินที่จะซื้ออุปกรณ์สนับสนุนการฝึกวิชายุทธ์ครบแล้วจึงกลับมาฝึกกับทางสำนักต่อ ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติ
กลับมาที่ เฉินเป่าสหายตัวโตหุ่นหมี ลูกชายร้านอาหารขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กของชุน 2 นี้ แม้เขาจะไม่ค่อยได้เข้าฟังบรรยายวิชายุทธ์บ่อยเท่าไร แต่เขาก็ยังมีความมุมานะพยายาม ฝึกฝนวิชายุทธ์ จนเป็นนักยุทธ์ขั้นผสานกายาระดับที่ 3 ในวัย 12 ปี
เมื่อทั้งคู่ทำการทบทวนกระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี จนเข้าใจดีอย่างแจ่มแจ้งแล้ว เฉินเป่าก็ขอบคุณชุน 2
เขาวิ่งไปยังอาคารตู้เก็บของ หายไปสักครู่ แล้วจึงแบกหุ่นฝึกของเขากลับมาด้วย
จากนั้นทั้งคู่ก็พากันฝึกซ้อมกระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี กับหุ่นฝึกของตนอย่างจริงจัง
ฝึกกันไปสักพัก เฉินเป่าตัวโตหุ่นหมีก็บ่นออกมาว่า
"กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพีนี้ คงไม่เหมาะสมกับข้า เฮ้อ.."
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ก็เจ้ามันตัวโตหุ่นหมีนี่ ข้าเห็นเจ้ากระโจนไม่พ้นศีรษะของหุ่นฝึกเลยสักครา"
"ก็นั่นนะสิ แล้วข้าควรทำเช่นไรดี" เฉินเป่ากล่าวถาม
ชุน 2 นิ่งคิดสักครู่แล้วตอบว่า "เจ้าก็ตัดพุงของเจ้าออกสิ หรือไม่งั้นเจ้าก็ให้ข้าเตะตูด เพื่อส่งเจ้าให้ลอยสูงขึ้น"
"เฮ้ย.. ตัดพุงย่อมเป็นไปมิได้ ข้าทะนุถนอมพุงนี้มานานมาก ส่วนตูดข้าก็มีไว้ให้ท่านพ่อของข้าเตะได้เพียงผู้เดียว ผู้อื่นห้ามเตะ"
เฉินเป่าตอบแบบงอนๆ
ชุน 2 จึงกล่าวแบบจริงจังว่า
"ตอนเจ้าถ่ายทอดพลังปราณไปยังมัดกล้ามที่ขาและน่องของเจ้า เจ้าลองเพิ่มกำลังลงไปอีกสัก 2 ส่วนสิ อาจได้ผลก็ได้"
"แต่เจ้าต้องระวังมัดกล้ามของเจ้าจะได้รับบาดเจ็บ ให้เจ้าค่อยๆเพิ่มพลังปราณเข้าไป อย่าได้เพิ่ม 2 ส่วนในคราเดียว"
ชุน 2 กล่าวบอกเฉินเป่า
"ดีๆ ข้าจะลองทำดู เรื่องอื่นข้ามิรู้ได้ แต่หากเป็นเรื่องมัดกล้ามในร่างกายข้า ข้ามั่นใจถึง 10 ส่วนเต็มว่า มันแข็งแกร่งและทนทานกว่าผู้คนทั่วไปมากนัก ฮ่าๆๆ.."
เฉินเป่ารับคำพร้อมโอ้อวดตัวออกไป
เขาเริ่มฝึกใหม่ตามที่ชุน 2 กล่าวแนะนำ เขากระโจนออกไปหลายครั้งหลายครา แต่ก็ยังมิพ้นศีรษะของหุ่นฝึกในตำแหน่งที่โจมตีได้
แต่เขาก็กระโจนได้สูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละครั้ง
จนกระทั้งครั้งที่ 21 เขาก็กระโจนขึ้นพ้นศีรษะของหุ่นฝึกในตำแหน่งที่จะโจมตีลงมาได้ ตามตำหรับวิชายุทธ์กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพีนี้
เมื่อทั้งคู่ฝึกฝนจนคล่องในระดับหนึ่งแล้ว
ชุน 2 เลยบอกให้เฉินเป่า ลองมาแข่งกับเขา โดยที่ทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีศีรษะหุ่นฝึกนี้
เฉินเป่าตอบตกลงทันที
ชุน 2 เริ่มก่อน เขาสำแดงหมัดสะท้านปฐพีออกมาอย่างเต็มที่ แล้วต่อยลงไปยังศีรษะของหุ่นฝึก
ปรากฏว่าศีรษะ สั่นขึ้นมาพอสมควร สั่นมากกว่าบรรดาลูกศิษย์ที่ขึ้นไปเป็นตัวอย่างสาธิตทุกคน
เฉินเป่าสำแดงพลังบ้าง ศีรษะหุ่นฝึกของเฉินเป่าก็สั่นออกมาในระดับพอๆกันกับของชุน 2
ต้องรู้ว่าเฉินเป่านั้น อยู่ในขั้นผสานกายาระดับที่ 3
ส่วนชุน 2 นั้นอยู่ในขั้นผสานกายาระดับที่ 5
แต่เฉินเป่าก็สามารถชดเชยส่วนต่างนี้ ด้วยร่างอันใหญ่โตแข็งแรงของเขา
ผลการแข่งจึงออกมาพอๆกัน บอกไม่ได้ชัดเจนว่าใครชนะ
ดังนั้นพวกเขาทั้งสอง จึงตัดสินหาผู้ชนะด้วยการ *เป่ายิ้งฉุบ*
แล้วเมื่อผลออกมา ชุน 2 ก็หัวเราะฮ่าๆๆ.. ด้วยความสะใจ
แล้วกลับไปฝึกต่ออย่างสบายอารมณ์