Your Wishlist

เทพเซียนไร้ลักษณ์ (ตระกูลหลิว รุ่นที่ 3) (บทที่ 7 สหายตัวโต)

Author: geesan

หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน

จำนวนตอน :

บทที่ 7 สหายตัวโต

  • 04/02/2567

    เมื่ออาจารย์ยุทธ์ท่านนี้ จบการบรรยายลงไปแล้ว จึงได้ให้บรรดาเหล่าลูกศิษย์ แยกย้ายกันออกไปทำการฝึกที่ลานฝึก ลานฝึกนั้นมีอยู่หลายลานฝึกกระจายตัวออกไปตามจุดต่างๆของสำนัก

 

 

    ชุน 2 จึงได้เดินไปยังอาคารหลังหนึ่งที่มีชั้นเดียว แต่ก็มีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โต

    เขาเเละสหายอีกหลายคนเดินเข้าไปภายในอาคารนั้น ในอาคารนั้นมีตู้ขนาดใหญ่ เรียงรายอยู่มากมายนั้บไม่ถ้วน

 

    ชุน 2 เดินไปยังตู้ใบหนึ่ง ซึ่งเป็นตู้เก็บของส่วนตัวของเขา แล้วเขาก็ใช้ลูกกุญแจเปิดบานประตูตู้ขนาดใหญ่นี้ออก

    ภายในประกอบไปด้วยสิ่งของจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาวุธชนิดต่างๆ ตำรายุทธ์และสิ่งของแปลกๆอีกหลายอย่าง

 

 

 

    สิ่งของเหล่านี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของศิษย์ ทางสำนักไม่ได้แจกให้ ศิษย์ของสำนักต้องจัดการซื้อหามาเอง

    ถึงสำนักแห่งนี้จะมีชื่อว่า สำนักหมัดทลายฟ้า ซึ่งฝึกวิชาหมัดเป็นแกนหลัก แต่ก็ยังคงสอนวิชายุทธ์แขนงอื่นๆด้วยเช่น ดาบ กระบี่ หอก ธนู โล่ แล้วแต่ลูกศิษย์จะสนใจฝึกยุทธ์ด้านใด

    ดังนั้นการจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์จะสิ้นเปลืองเงินทองค่อนข้างมาก คนยากจนธรรมดา แทบไม่มีโอกาศได้ฝึกยุทธ์เลย

 

 

    ชุน 2 มองสำรวจสิ่งของของเขาอยู่ครู่นึง จากนั้นก็เข้าไปแบกเอาหุ่นฝึก ที่ทำจากไม้นิลสีดำสนิท ขนาดเท่าคนจริงออกมาจากตู้

    เขาปิดตู้ลงแล้วจึงแบกหุ่นฝึกไปยังลานฝึกใกล้ๆ ที่เขาและสหายมักจะใช้ฝึกกันเป็นประจำ

 

 

 

    เมื่อมาถึงลานฝึก ชุน 2 ก็จับจองมุมหนึ่งของลานฝึก ที่มีศิษย์อีกหลายคนใช้ฝึกอยู่ แล้วนำหุ่นฝึกที่มีร่างสูงใหญ่ไปตั้งใว้ เขาเตรียมพร้อมร่างกายอยู่สักครู่ กำลังจะลองออกท่าทางของวิชายุทธ์กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี

 

 

    พลันนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่ง รูปร่างใหญ่โต วิ่งเข้ามาหาชุน 2 

 

    พร้อมกล่าวว่า ชุน 2 ข้าคิดไว้เเล้วเชียวว่าเจ้าคงต้องอยู่ที่ลานฝึกแห่งนี้

 

 

 

    เด็กชายผู้นี้มีนามว่า เฉินเป่า รูปร่างของเฉินเป่าสูงใหญ่มากสำหรับเด็กวัยเพียง 12 ปี รูปร่างของเขาต้องบอกว่า เหมือนหมีมากกว่ามนุษย์ ความสูงของเขา สูงเท่ากับหัวไหล่ของหุ่นฝึกของชุน 2 แล้ว

 

    ชุน 2 กล่าวกับเฉินเป่าว่า "ข้ากับเจ้าก็ฝึกที่ลานนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ว่าแต่เจ้ามาสายนี่วันนี้ ข้าไม่เห็นเจ้าที่โถงบรรยายเลย งานที่ร้านยุ่งมากหรอกหรือ"

 

    "ใช่แล้ว เช้านี้ที่ร้านลูกค้าเยอะมาก เป็นพวกผู้คุ้มกันสินค้า เข้ามากินอาหารที่ร้านข้ากันนับสิบคน ไหนจะลูกค้าประจำอีก เล่นเอาข้าปรุงอาหารมือเป็นระวิงเชียว" เฉินเป่าตอบกลับชุน 2 พร้อมแอบบ่นเล็กน้อย

 

 

 

    "เอาละ.. ถ้าเช่นนั้นข้าจะถ่ายทอดกระบวนท่าใหม่ ที่ท่านอาจารย์ยุทธ์บรรยายในวันนี้ให้เจ้าฟัง" ว่าแล้วชุน 2 ก็ทำการสอนถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้มาให้กับเฉินเป่า ซึ่งก็ถือเป็นการทบทวนของชุน 2 ไปในตัว

 

    สำนักฝึกยุทธ์ทุกสำนัก ตลอดถึงสำนักศึกษา มิได้กำหนดว่า ศิษย์ทุกคนต้องเข้ามาเรียนทุกวัน

 

    การสอนจะเป็นลักษณะการบรรยาย ไม่มาฟังบรรยายก็จะไม่ได้วิชาไม่ได้ความรู้

 

    ส่วนการสอบนั้น ทั้งสำนักฝึกยุทธ์ และสำนักศึกษา จะจัดสอบปีละ 2 ครั้ง เพื่อจัดอันดับเหล่าศิษย์ในสำนัก

 

 

 

    ลักษณะการเรียนการสอนเช่นนี้ เหมาะกับสภาพสังคม ของอาณาจักรต้าเหมิง

 

    เพราะจากการเกิดขึ้นของพลังปราณ เด็กๆก็เติบโตรวดเร็วมาก

 

 

 

    แม้กระทั่งเด็กที่ไม่ได้ฝึกวิชายุทธ์ ก็ยังมีสภาพร่างกายที่เติบโตแข็งแรง

 

    เนื่องจากการบำรุงทางอ้อม ของพลังปราณ ที่แทรกอยู่ในทุกอณูของดาวหงหมิงนี้

 

 

 

    ด้วยร่างกายที่เติบโตแข็งแรง เด็กๆก็จะถูกบรรดา ผู้ใหญ่ บิดา มารดา ให้ช่วยงานของทางบ้าน หรือของทางตระกูล ตามแต่ความสามารถของเด็กคนนั้น

 

    การศึกษาจึงเป็นการศึกษาแบบเปิดกว้าง และโดยเฉพาะผู้ฝึกยุทธ์ ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เด็กบางคนต้องหยุดการฝึกวิชายุทธ์กับทางสำนักเอาไว้ก่อน

 

    แล้วไปทำงานรับจ้างหาเงิน เมื่อได้เงินที่จะซื้ออุปกรณ์สนับสนุนการฝึกวิชายุทธ์ครบแล้วจึงกลับมาฝึกกับทางสำนักต่อ ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติ

 

 

 

    กลับมาที่ เฉินเป่าสหายตัวโตหุ่นหมี ลูกชายร้านอาหารขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กของชุน 2 นี้ แม้เขาจะไม่ค่อยได้เข้าฟังบรรยายวิชายุทธ์บ่อยเท่าไร แต่เขาก็ยังมีความมุมานะพยายาม ฝึกฝนวิชายุทธ์ จนเป็นนักยุทธ์ขั้นผสานกายาระดับที่ 3 ในวัย 12 ปี

 

 

 

    เมื่อทั้งคู่ทำการทบทวนกระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี จนเข้าใจดีอย่างแจ่มแจ้งแล้ว เฉินเป่าก็ขอบคุณชุน 2

 

    เขาวิ่งไปยังอาคารตู้เก็บของ หายไปสักครู่ แล้วจึงแบกหุ่นฝึกของเขากลับมาด้วย

 

    จากนั้นทั้งคู่ก็พากันฝึกซ้อมกระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพี กับหุ่นฝึกของตนอย่างจริงจัง

 

 

 

     ฝึกกันไปสักพัก เฉินเป่าตัวโตหุ่นหมีก็บ่นออกมาว่า

 

    "กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพีนี้ คงไม่เหมาะสมกับข้า เฮ้อ.."

 

    จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

     "ก็เจ้ามันตัวโตหุ่นหมีนี่ ข้าเห็นเจ้ากระโจนไม่พ้นศีรษะของหุ่นฝึกเลยสักครา"

 

    "ก็นั่นนะสิ แล้วข้าควรทำเช่นไรดี" เฉินเป่ากล่าวถาม

 

 

 

    ชุน 2 นิ่งคิดสักครู่แล้วตอบว่า "เจ้าก็ตัดพุงของเจ้าออกสิ หรือไม่งั้นเจ้าก็ให้ข้าเตะตูด เพื่อส่งเจ้าให้ลอยสูงขึ้น"

 

    "เฮ้ย.. ตัดพุงย่อมเป็นไปมิได้ ข้าทะนุถนอมพุงนี้มานานมาก ส่วนตูดข้าก็มีไว้ให้ท่านพ่อของข้าเตะได้เพียงผู้เดียว ผู้อื่นห้ามเตะ"

 

    เฉินเป่าตอบแบบงอนๆ

 

 

 

    ชุน 2 จึงกล่าวแบบจริงจังว่า

 

    "ตอนเจ้าถ่ายทอดพลังปราณไปยังมัดกล้ามที่ขาและน่องของเจ้า เจ้าลองเพิ่มกำลังลงไปอีกสัก 2 ส่วนสิ อาจได้ผลก็ได้"

 

    "แต่เจ้าต้องระวังมัดกล้ามของเจ้าจะได้รับบาดเจ็บ ให้เจ้าค่อยๆเพิ่มพลังปราณเข้าไป อย่าได้เพิ่ม 2 ส่วนในคราเดียว"

 

 

 

    ชุน 2 กล่าวบอกเฉินเป่า

 

    "ดีๆ ข้าจะลองทำดู เรื่องอื่นข้ามิรู้ได้ แต่หากเป็นเรื่องมัดกล้ามในร่างกายข้า ข้ามั่นใจถึง 10 ส่วนเต็มว่า มันแข็งแกร่งและทนทานกว่าผู้คนทั่วไปมากนัก ฮ่าๆๆ.."

 

    เฉินเป่ารับคำพร้อมโอ้อวดตัวออกไป

 

 

 

    เขาเริ่มฝึกใหม่ตามที่ชุน 2 กล่าวแนะนำ เขากระโจนออกไปหลายครั้งหลายครา แต่ก็ยังมิพ้นศีรษะของหุ่นฝึกในตำแหน่งที่โจมตีได้

 

    แต่เขาก็กระโจนได้สูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละครั้ง

 

    จนกระทั้งครั้งที่ 21 เขาก็กระโจนขึ้นพ้นศีรษะของหุ่นฝึกในตำแหน่งที่จะโจมตีลงมาได้ ตามตำหรับวิชายุทธ์กระบวนท่าหมัดสะท้านปฐพีนี้

 

 

 

    เมื่อทั้งคู่ฝึกฝนจนคล่องในระดับหนึ่งแล้ว

 

    ชุน 2 เลยบอกให้เฉินเป่า ลองมาแข่งกับเขา โดยที่ทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีศีรษะหุ่นฝึกนี้

 

    เฉินเป่าตอบตกลงทันที

 

 

 

    ชุน 2 เริ่มก่อน เขาสำแดงหมัดสะท้านปฐพีออกมาอย่างเต็มที่ แล้วต่อยลงไปยังศีรษะของหุ่นฝึก

 

    ปรากฏว่าศีรษะ สั่นขึ้นมาพอสมควร สั่นมากกว่าบรรดาลูกศิษย์ที่ขึ้นไปเป็นตัวอย่างสาธิตทุกคน

 

    เฉินเป่าสำแดงพลังบ้าง ศีรษะหุ่นฝึกของเฉินเป่าก็สั่นออกมาในระดับพอๆกันกับของชุน 2

 

    ต้องรู้ว่าเฉินเป่านั้น อยู่ในขั้นผสานกายาระดับที่ 3

 

    ส่วนชุน 2 นั้นอยู่ในขั้นผสานกายาระดับที่ 5

 

  

 

    แต่เฉินเป่าก็สามารถชดเชยส่วนต่างนี้ ด้วยร่างอันใหญ่โตแข็งแรงของเขา

 

    ผลการแข่งจึงออกมาพอๆกัน บอกไม่ได้ชัดเจนว่าใครชนะ

 

 

 

  ดังนั้นพวกเขาทั้งสอง จึงตัดสินหาผู้ชนะด้วยการ *เป่ายิ้งฉุบ*

 

 

 

  แล้วเมื่อผลออกมา ชุน 2 ก็หัวเราะฮ่าๆๆ.. ด้วยความสะใจ

 

 

 

  แล้วกลับไปฝึกต่ออย่างสบายอารมณ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป