หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
เย็นนั้นเมื่อชุน 2 กลับมาจากสำนักฝึกยุทธ์ บิดาของชุน 2 ก็เรียกเขาไปพบยังห้องหนังสือ
พอชุน 2 มาถึง บิดาของเขาก็กล่าวว่า
"วันนี้ช่วงบ่าย ท่านจ้าวฟูหยาง ผู้เป็นนายใหญ่แห่งเรือรุ่นแม่น้ำ 48 ที่เข้าจอดเทียบท่า ยังท่าเรือของเรา ได้แวะเวียนมาเพื่อจะเยี่ยมเยียนเจ้าทั้งสอง"
"ท่านจ้าว ผู้นี้เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ ศึกษาตำราแพทย์มามิใช่น้อย จึงอยากจะขอมาเสวนากับเจ้าทั้งสอง ในเรื่องหนึ่งร่างสองวิญญาณของพวกเจ้า พวกเจ้าคิดเห็นเป็นเช่นไร"
ชุน 2 ตอบ "ได้สบายมากขอรับท่านพ่อ ตามธรรมเนียมเดิม เงินมางานเดิน ครานี้ข้าต้องการค่าตัว 20 เหรียญเงิน"
ที่ชุน 2 กล่าวออกมาเช่นนี้ เพราะนี่ย่อมมิใช่ *ครั้งแรก* ที่มีผู้มาขอศึกษาข้อมูลเรื่องหนึ่งร่างสองวิญญาณของพวกเขา
มีบรรดาหมอ ที่ทั้งมีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง เดินทางมาศึกษาเรื่องของเขามากมายหลายคน
ถือได้ว่าตระกูลหลิวและหลิวชุน ได้ผูกไมตรีกับหมอใหญ่หมอเล็กไปมากมาย
แม้กระทั่งท่านหมอหลวงและบรรดาหมอในสำนักหมอหลวง ก็ยังเคยสลับสับเปลี่ยนกันมาศึกษาเรื่องหนึ่งร่างสองวิญญาณของหลิวชุนด้วยตัวเอง
นี่เป็นการหารายได้อีกทางหนึ่งของหลิวชุน
ได้ยินดังนั้นบิดาของหลิวชุนก็เอ่ยขึ้นว่า "ครานี้เหตุไฉนเจ้าจึงคิดค่าตัวแพงนักเล่า หรือเจ้าเห็นว่าท่านจ้าวเขามีเรือลำโอ่อ่าใหญ่โต"
ชุน 2 ตอบว่า "หามิได้ขอรับท่านพ่อ ข้าเพียงต้องการหาค่าสมัครให้เจ้าชุน 1 ใช้ในการเข้าแข่งพนันเดินกลหมากรุก บนเรือลำนั้นต่างหากเล่า"
"อ้อ.. เป็นเช่นนี้เอง" บิดาของหลิวชุนย่อมรู้จักลูกชายของเขาดี
เขารู้ว่าชุน 1 นั้นมีฝีมือในการเดิมกลหมากที่ยอดเยี่ยม ทั้งหมากรุกและหมากล้อม
และชุน 1 ยังเป็นพวกชอบการพนันขันต่อ ย่อมต้องขึ้นไปแข่งเดินกลหมากรุกบนเรือแน่นอน
อันที่จริงบิดาของชุน 1 นั้น ยังคิดที่จะเป็น *นายทุน* ให้ชุน 1 ลงแข่งพนันเสียด้วยซ้ำ
เเล้วชุน 1 เล่า คิดเห็นเป็นเช่นไร
ชุน 2 จึงทำการสื่อจิตถามชุน 1
การที่ชุน 2 ต้องสื่อจิตถามชุน 1 ทั้งๆที่บิดาก็คุยกับเขาทั้งคู่
ก็เป็นเพราะ หากชุน 1 กำลังใช้จิตในการศึกษาทบทวนความรู้ต่างๆอยู่ในร่าง หรือแม้กระทั้งพักจิตโดยการหลับ
จะเป็นการตัดการรับรู้ของชุน 1 กับภายโลกนอก ชุน 1 ก็จะมิได้ได้ยินที่บิดากล่าวถาม
ชุน 2 เงียบไปสักครู่ แล้วจึงกล่าวกับบิดาว่า "ท่านพ่อ ชุน 1 ตอบว่าตกลงขอรับ"
ได้ยินดังนั้นบิดาของหลิวชุนก็กล่าวว่า "ข้าจะเดินทางไปแจ้งท่านจ้าวฟูหยางด้วยตัวเอง เมื่อได้รับการนัดหมายเวลาแล้ว ข้าจะมาบอกกับพวกเจ้า"
จบประโยคนั้นชุน 2 ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องหนังสืออย่างรวดเร็วปานสายฟ้า สร้างความงุนงงให้กับบิดาเป็นอันมาก
จากนั้นสักครู่บิดาของชุน 2 ก็นึกขึ้นมาได้
"ไอ้เด็กบ้านี่.. ข้ายังมิได้ด่ามันเรื่องคัดลอกกฎตระกูลด้วยลายมือไก่เขี่ยมหากาฬของมันเลย ฮึ่ม.."
แต่บิดาของหลิวชุนก็มีเรื่องที่ปกปิดหลิวชุนไว้นั่นคือ ท่านจ้าวฟูหยางผู้นั้น เมื่อยามบ่ายหาได้เดินทางมาขอเจรจากับบิดาของหลิวชุน แต่เพียงผู้เดียวไม่
เขามาพร้อมท่านนายอำเภอ และท่าทางของท่านนายอำเภอก็พินอบพิเทาจนถึงขั้นที่เรียกว่า *หวาดกลัว* ต่อท่านจ้าวฟูหยางผู้นี้เป็นอย่างมาก
ถึงแม้บิดาของหลิวชุนจะไม่ทราบว่าท่านจ้าวผู้นี้คือใคร แต่ก็ต้องเป็นเจ้าใหญ่นายโตแน่นอน เพราะตอนท่านหมอหลวงมา ท่านนายอำเภอยังไม่พินอบพิเทาขนาดนี้
นี่เป็นการดีที่ตระกูลหลิวจะได้ผูกมิตรกับ *คนใหญ่คนโต* ผู้นี้ไว้