หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
เมื่อเหตุการณ์วิวาทของจินซีซวน จบลงไปแล้ว บรรดาชาวบ้านร้านตลาดที่มามุงดูก็แยกย้ายกันไป
ในตรอกเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลจินมากนัก ปรากฎร่างของคน 2 คน กำลังทำการสนทนากันอย่างลับๆ นั่นคือหัวหมู่มือปราบหวังซานและชุน 1 นั่นเอง
หัวหมู่มือปราบหวังซานกล่าวออกมาว่า
"ฮ่าๆๆ.. เจ้าเด็กน้อยชุน 1 การแสดงละครของข้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง"
ชุน 1 กล่าวตอบว่า
"ท่านลุงหวัง ท่านแสดงละครบทนี้ได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก"
"เย็นนี้ท่านลุงหวังเชิญไปยังบ้านตระกูลหลิว ข้าจะทำการถ่ายทอดเคล็ดการทอยลูกเต๋า ให้กับท่านลุงหวัง ตามที่ได้ตกลงไว้"
"หากแต่เคล็ดการฟังเสียงลูกเต๋า ตัวข้านั้นยังมิได้ชำนาญ จึงยังคงมิสามารถถ่ายทอดให้ท่านลุงหวังได้"
"มิเป็นไร.. มิเป็นไร.. แค่เคล็ดทอยลูกเต๋า ข้าผู้นี้ก็ร่ำรวยแล้ว คอยดูเถอะ ต่อไปไม่ว่าบ่อนไหนก็ตามในอำเภอนี้ ต้องสยบให้ข้าเป็นแน่แท้ ฮ่าๆ.."
มือปราบหวังหัวเราะตบท้ายด้วยความเบิกบาน
ชุน 1 และหัวหมู่มือปราบหวังซาน พูดคุยไถ่ถามถึงสารทุกข์สุกดิบ ของกันเเละกันอีกเพียงเล็กน้อย
จึงแยกย้ายกันออกจากตรอกนี้ไป
ใช่แล้ว.. เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของชุน 1
ตั้งแต่เช้าตรู่ที่ชุน 1 ตื่นขึ้นมา เขาก็ให้บ่าวรับใช้คนสนิท รีบไปหามือปราบหวัง เพื่อเเจ้งแผนการให้มือปราบหวังรู้
เมื่อเดินทางไปยังบริเวณบ้านตระกูลจิน เขาซึ่งใช้เส้นทางนี้เดินไปสำนักศึกษามาถึง 3 ปี ย่อมรู้ถึงเวลาโดยประมาณที่จินซีซวนจะออกจากบ้าน เขาจึงรีรอทำทีเป็นซื้อสาลี่จากแผงขายข้างทาง
เขาและจินซีซวน ถึงคนหนึ่งมีอายุ 10 ปีและอีกคนหนึ่งมีอายุ 14 ปี แต่พวกเขาก็ยังเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน
เพราะชุน 1 นั้นมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด จึงสามารถข้ามชั้นถึง 4 ชั้น แล้วมาเรียนอยู่ชั้นเดียวกันกับจินซีซวนได้
ชุน 1 ย่อมรู้ถึงจุดอ่อนของจินซีซวนเป็นอย่างดีว่า จินซีซวนนั้นมีความคับแค้นใจให้ชุน 1 เสมอมาในเรื่องการศึกษา และเขายังเป็นคนที่หยิ่งทะนงในตนเองมาก
ชุน 1 จึงใช้วาจากล่าวถึงตนเองว่า เขานั้นเป็นอันดับหนึ่งและจินซีซวนเป็นอันดับสอง
จากนั้นเขาจึงโยนระเบิดลูกโต ไปยังจินซีซวน ด้วยประโยคที่ว่า จินซีซวนหวาดกลัวต่อชุน 2 และเป็นคนขี้ขลาด
เมื่อจินซีซวน ได้ยินประโยคนี้ จึงทนไม่ไหวมุ่งเข้าต่อยหมัดใส่ชุน 1 ในทันที
การที่ชุน 1 ต้องยั่วยุไปที่จุดอ่อนของจินซีซวนอย่างรุนแรงนั้น
ก็เพราะตัวจินซีซวนเอง ย่อมรู้ถึงกฏเหล็กของท่านอาจารย์จางเป็นอย่างดีว่า หากวิวาททำร้ายศิษย์ร่วมสำนักจะถูกลงโทษในสถานหนัก
ชุน 1 จึงต้องทำการยั่วยุอย่างรุนแรงที่สุดต่อจิตใจของจินซีซวน เพื่อให้ขาดสติ แล้วเข้ามาโจมตีชุน 1 ตามแผนการที่วางไว้
เพราะหากจินซีซวนไม่โจมตี แผนการนี้จะก็ล้มลงในทันที
ในเรื่องของความเหี้ยมโหดแล้ว ชุน 1 มีความเหี้ยมโหดยิ่งกว่าชุน 2 เสียอีก
เพียงแต่ภาพลักษณ์ของเขามีลักษณะที่เป็นบัณฑิต จึงทำให้ผู้คนเข้าใจไปว่าเขาเป็นคนเรียบร้อย
ส่วนภาพลักษณ์ของชุน 2 นั้น เป็นนักบู๊ นักสู้ ที่มีความมุทะลุดุดัน จึงทำให้ผู้คนเข้าใจไปว่าเขาเป็นคนหยาบกระด้าง
กลับมาที่แผนการของชุน 1 การที่เขาโดนต่อยไปหนึ่งหมัดนั้น หาเป็นอันใดไม่ เพราะร่างกายนี้ ชุน 2 ได้ใช้ฝึกวรยุทธ์เป็นประจำ จึงเป็นร่างกายที่มีความแข็งแกร่งและทนทาน
ชุน 2 ที่มีอายุเพียง 10 ปี แต่ก็เป็นนักยุทธ์ขั้นผสานกายา ระดับ 5
ขณะที่ทั่วทั้งอำเภออันจง เด็กอายุ 10 ปีทั่วไป หากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ก็จะมีระดับอยู่ประมาณนักยุทธ์ขั้นผสานกายา ระดับ 1 ถึงระดับ 2 เพียงเท่านั้น
นับได้ว่าหลิวชุน เป็นอันดับหนึ่ง ทั้งด้านบุ๋นและบู๊ ในช่วงคนที่มีอายุพอๆกัน ของอำเภอนี้อย่างแท้จริง
เมื่อร่างของหลิวชุน ถูกหมัดของจินซีซวนต่อยเข้าใส่ จริงๆแล้วชุน 1 ไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆเลย
แถมเขายังตั้งใจถีบเท้าให้ร่างของเขากระเด็นไปด้านหลัง เพื่อให้ไปโดะะดนแผงขายสาลี่จนพังทลาย
นั่นคือเขาตั้งใจทำให้เกิดเสียงดังเพื่อสร้างสถานะการณ์ให้ดูรุนแรงกว่าความเป็นจริงหลายเท่า
การมาถึงของมือปราบหวัง และเสียงตะโกนบอกให้ทำสัญญาไม่ยุ่งเกี่ยว ก็เป็นแผนการของเขา
เขาไม่ได้ต้องการให้ตระกูลหลิวเป็นศัตรูกับตระกูลจิน เพราะถ้าหากจินซีซวน ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษา ทั้งสองตระกูลจะต้องเป็นศัตรูกันเป็นแน่
ดังนั้นเขาจึงให้บ่าวรับใช้คนสนิทของเขาตะโกนเรื่องทำสัญญาไม่ยุ่งเกี่ยวออกมา และมือปราบหวังก็รับลูกต่อในทันที
จินซีซวนและน้องชายจินกัง จึงหายไปจากสายตาของหลิวชุน ด้วยเหตุนี้เอง