Your Wishlist

เทพเซียนไร้ลักษณ์ (ตระกูลหลิว รุ่นที่ 3) (บทที่ 3 เหยียบหางสุนัข)

Author: geesan

หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน

จำนวนตอน :

บทที่ 3 เหยียบหางสุนัข

  • 04/02/2567

    เช้าวันต่อมาชุน 1 ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ด้วยความสดชื่น เขาจัดการทำธุระส่วนตัว อาบน้ำล้างหน้า แล้วจึงจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่อง เป็นชุดนักเรียนของสำนักศึกษา ที่คล้ายกับชุดนักพรตแต่มีสีเขียว

 

 

 

    จากนั้นเขาก็ไปกินข้าวเช้าที่โรงครัวของตระกูล กินข้าวเช้าเสร็จ เขาจึงไปกล่าวลาท่านพ่อและท่านแม่ของเขา แล้วออกเดินทางไปยังสำนักศึกษาของท่านอาจารย์จาง ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางตัวอำเภอ

 

    ระยะทางจากบ้านตระกูลหลิว ไปยังสำนักศึกษานั้นไกลพอสมควร แต่เขาก็มีเพื่อนร่วมทางมากมาย ซึ่งเขารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างคละเคล้ากันไป

 

    แต่ส่วนใหญ่นักเรียนของสำนักศึกษาท่านอาจารย์จางจะรู้จักเขา เพราะเขาคือ ผู้ที่มีสติปัญญาและมีผลการเล่าเรียนเป็นอันดับที่หนึ่งของสำนักศึกษาแห่งนี้

 

    เดินไปไม่นานนัก ก็มาถึงบริเวณหน้าประตูบ้านของตระกูลจิน เมื่อชุน 1 เดินเลยประตูบ้านตระกูลจินไปนิดหน่อย เขาก็แวะแผงขายสาลี่ริมข้างทาง ขณะที่ชุน 1 กำลังเลือกซื้อสาลี่ เพื่อนำไปกินและนำเอาไปฝากสหายนั้น

 

 

 

    ประตูบ้านตระกูลจินก็เปิดออกมา มีเด็กชายคนหนึ่ง อายุ 14 ปี นามจินซีซวน ผู้เป็นพี่ชายของจินกัง ซึ่งถูกชุน 2 ซ้อมไปเมื่อวานนี้ จินซีซวนเดินออกมา ก่อนประตูบ้านตระกูลจินจะถูกปิดไปดังเดิม

 

 

 

    จินซีซวน เมื่อมองเห็นชุน 1 กำลังซื้อสาลี่อยู่นั้น ก็นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในทันที จึงเดินเข้าไปหาชุน 1 ในลักษณะเดินไปกล่าวไปว่า

 

 

 

    "น้องผู้นี้ ผมเผ้าถูกหวีจัดทรงมาอย่างดี แต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ท่วงท่าก็เป็นผู้ร่ำเรียนศึกษา คงจะเป็น น้องชุน 1สินะ"

 

    ชุน 1 ได้ยินดังนั้น ก็ยังคงไม่ได้กล่าวอะไรออกไป

 

    จินซีซวนจึงกล่าวออกมาอีกว่า  

 

 

 

    "ตระกูลหลิวนี้ช่างใจกว้างจริงๆ เลี้ยงสุนัขไว้ถึงสองตัว ตัวหนึ่งสภาพเหมือนขอทานก็มิบาน ผมเผ้ายุ่งรุงรัง นิสัยก็โหดร้าย เอาแต่กัดคนไปทั่ว"

 

    "ส่วนอีกตัว ก็สำอางค์ อยากเป็นสุนัขปลอกคอทองคำ ช่างน่ายินดีกับตระกูลหลิวโดยแท้"

 

 

 

    สิ้นประโยคนั้นของจินซีซวน บรรดาผู้คนที่อยู่ใกล้ๆนั้น ถึงกับอ้าปากหวอ ตกตะลึงในคำพูด

 

 

 

    นี่สินะที่เขาเรียกว่า ด่าแบบผู้มีการศึกษา

 

 

 

    "ท่านพี่จินซีซวน ปากของท่านว่างอยู่หรือไร เหตุไฉนจึงมาเห่าหอนอยู่เบื้องนอกในเวลานี้ ท่านมิไยหันกลับ เดินเข้าไปยังรังสุนัขของท่าน แล้วคาบหยุกยาอาหาร ไปบำรุงน้องของท่าน ที่นอนเจ็บอยู่เถิด"

 

 

 

    จินซีซวน ได้ยินดังนั้นจึงหยุดคิดไปชั่วครู่

 

 

 

    เฮ้ย.. ไอ้เจ้าชุน 1 นี่มีมันด่าทั้งตระกูลเราเลยนี่ว่าเป็นสุนัข เราด่าว่ามันเป็นสุนัขแค่สองตัวเท่านั้น จินซีซวนคิดในใจ

 

 

 

    "เหอะ.. เจ้าชุน 2 เป็นขอทานยังไม่พอ ยังเป็นโจรอันธพาลแย่งของผู้อื่นอีก น้องชุน 1 ช่วยล่ามโซ่เจ้าชุน 2 ไว้ให้ดีด้วย เดี๋ยวจะไปกัดชาวบ้านร้านตลาดเข้า"   

 

    จินซูซวนโต้กลับไป

 

 

 

    ชุน 1 จึงกล่าวว่า

 

    "ชุน 2 ย่อมมีทางเดินของเขาเอง บังเอิญเมื่อวานนี้ชุน 2 เดินไปเหยียบหางของลูกสุนัขตัวหนึ่งเข้า สุนัขในรังเดียวกัน เลยออกมากางเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยู่กลางถนนประกาศศักดิ์ดาว่า"

 

      "ลูกสุนัขในรังของตนพ่ายแพ้หมดท่าไร้ราคา ใช้ถึง 4 รุม 1 แต่มิวายยังคงพ่ายแพ้อย่างยับเยิน สุนัขตัวใหญ่กว่าจึงต้องมากู้หน้าคืน มิเช่นนั้นรังสุนัขของตนจะต้องเสียหน้า สิ้นค่าไร้ราคาไปทั้งรัง"

 

 

 

      "เฮ้อ.. นี่มันก็เนื้อเรื่องเดิมๆซ้ำๆ" ชุน 1 บ่นเบาๆต่อท้ายคำกล่าวของตน

 

 

 

      มิทันที่จินซีซวน จะคิดคำโต้อะไรได้นั้นชุน 1 ได้กล่าวต่อไปอีกว่า

 

 

 

      "อันดับหนึ่งก็คืออันดับหนึ่ง อันดับสองก็คืออันดับสอง ในสำนักศึกษาข้าคืออันดับหนึ่ง ส่วนท่านพี่จินก็คือ อันดับสองตลอดกาล"

 

 

 

      "หากข้ายอมลดตัวเป็นสุนัขอันดับหนึ่ง ท่านพี่จินก็สมควรแล้วที่ต้องเป็นสุนัขอันดับสอง"

 

   

 

      "ท่านพี่จิน ท่านคิดเห็นว่าเป็นเช่นไร"

 

 

 

      "เหอะ.. ชุน 1 เจ้าจะพล่ามอะไรก็พล่ามไป ข้าไม่สนใจแล้ว" จินซีซวนกล่าวออกมาอย่างแฝงด้วยความโมโห

 

 

 

     "งั้นท่านพี่จิน ท่านมาเริ่มกล่าวคำประชดประชันหยามหมิ่น ตัวข้ากับชุน 2 เพื่ออะไรหรือ"

 

 

 

    "หรือจะต้องให้ข้า บอกให้ชุน 2 ฟัง ว่าท่านกล่าววาจาแบบนี้กับเขา"

 

 

 

 

 

    "เหอะ.. ข้ามิใช่จินกัง ข้าคือ จินซีซวน ข้าจะไปเกรงกลัว ไอ้เจ้าชุน 2 ได้อย่างไร"

 

 

 

    "ข้า อยู่ในทั้งสำนักศึกษา และสำนักฝึกยุทธ์"

 

 

 

     "ท่านอาจารย์ ย่อมมิให้ ไอ้เจ้าชุน 2 มารังแกข้าได้แน่นอน"

 

 

 

 

 

      พอจินซีซวน พูดออกมาแล้วเสร็จ 

 

 

 

      ทุกคนบนถนนสายนั้น พ่อค้าแม่ค้าแผงลอย ต่างกันพาทำหน้าตา งงๆ

 

 

 

    ชุน 2 อายุ 10 ปี จะไปรังแก จินซีซวน ที่อายุ 14 ได้อย่างไร

 

 

 

    "ฮ่าๆๆๆๆๆ... ท่านพี่จิน ท่านกลัว ชุน 2 ขนาดนั้นเชียวหรือ"

 

 

 

    "ที่สำนักศึกษา ท่านก็แพ้ข้า"

 

    "ที่สำนักยุทธ์ ท่านก็แพ้ชุน 2"

 

 

 

    "ตอนนี้กลางถนน ท่านมิกล้าเข้ามาจู่โจมข้า ท่านพี่จินท่านแพ้แล้ว"

 

 

 

    "แค่ท่านกลัวข้า ท่านก็แพ้แล้ว"

 

 

 

    จินซีซวน ไม่อยากแพ้ เขาอาย ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่งถนนที่กำลังมองดูอยู่ 

 

 

 

      "ท่านพี่จิน ท่านนี่ช่างขี้ขลาดเสียจริงๆ"

 

 

 

      เมื่อได้ยินคำกล่าวของชุน 1 สติของจินซีซวนเขาดออกไป ไม่รับรู้ดินไม่รับรู้ฟ้า เขาพุ่งร่างพร้อมทั้งง้างหมัดตรงไปยังชุน 1 แล้วชกออกไปในทันที

 

 

 

      หมัดนั้นถูกชุน 1 ยกแขนขึ้นมาป้องกันไว้ แต่ร่างของชุน 1 ก็ยังคงกระเด็นออกไป ชนเข้ากับแผงขายสาลี่ ที่ชุน 1 ยืนซื้ออยู่ ล้มระเนระนาดพังทลายลงทันใด

 

 

 

      จินซีซวน พุ่งตามเข้ามา กำลังจะเตะไปยังชายโครงของชุน 1 

 

 

 

      พลันนั้น ก็บังเกิดเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นกัองไปทั่วทั้งบริเวณ

 

      เสียงนั้นดังมาพร้อมแรงกดดันจากพลังปราณ

 

 

 

      "หยุดเดี๋ยวนี้ ไอ้เจ้าเด็กจิน..!!"

 

 

 

      จินซีซาน ขณะที่ปลายเท้าของเขากำลังจะกระทบกับส่วนลำตัวบริเวณชายโครงของชุน 1 อยู่แล้ว

 

      กลับถูกเสียงตวาด ที่แฝงพลังปราณ ทำให้เขาเข่าอ่อน ทรุดตัวลงในทันที

 

      จากนั้นปรากฏชายรูปร่างสูงใหญ่ หนวดเคราดำเพิ้ม อยู่ในชุดมือปราบสีแดง เดินเข้ามายังบริเวณวิวาท

 

 

 

      เขาผู้นี้คือ หัวหมู่มือปราบหวังซาน

 

    

 

 

 

    

 

    

 

 

 

    

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป