Your Wishlist

จมปลัก ห้วงฤทัย (ลาออก)

Author: ทอภู

อีกหนึ่งผลงาน นิยายแอบรัก ที่รักเขา แต่ เขาไม่ได้รักเรา เมื่อคนเรามีความรัก คนเรามักจะยอมทำได้ทุกอย่าง และ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม เรียกได้ว่าเหมือนกันจมปลัก ที่ยากเกินจะหลุดพ้นออกมาได้...

จำนวนตอน :

ลาออก

  • 16/06/2566

คำตอบของต้น ทำให้มิริน ถึงกับเสียอาการจนเผลอกรี๊ดออกมา ด้วยความดีใจ ผิง กับ ภู ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของมิริน

" มิริน เป็นอะไร? " ภู รีบวิ่งไปที่โต๊ะที่มิรินอยู่เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

"มิริน เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า? "

ภูถามมิริน แต่มิรินไม่ได้สนใจคำถามของภู กลับเรียกหาผิง

" พี่ผิง พี่ผิง ออกมานี่เร็ว ต้น เอกสิทธิ์ มาที่ร้าน "

ภูถึงกับอุทาน "ห่ะ" เพราะรู้สึกงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ผิงจะรีบวิ่งออกมาที่โต๊ะอีกคน เมื่อผิง เห็นหน้าของต้น ก็กรี๊ดเสียอาการไปอีกคน

" เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย? " ภูถึงกับอุทานออกมา…

" สวัสดีค่ะ ชื่อ ชื่อผิงค่ะ เป็น เป็นเจ้าของร้านนี้ ส่วนนี่คือมิริน เป็นพนักงานของร้านค่ะ"

ภู ที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับถอนหายใจแล้วส่ายหน้า ก่อนจะเดินกลับไปที่เครื่องชงกาแฟต่อ โดยไม่ได้สนใจอะไร เพราะภูไม่ได้ชอบการดูละคร หรือ คลั่งไคล้อะไร ในตัวของนักแสดงอยู่แล้ว…

" คุณผิง กับ คุณมิริน สินะครับ ยินดีทีได้รู้จักครับ " ต้นทักทายเพื่อทำความรู้จัก

" คุณต้น มาทำอะไรที่จังหวัดอุดรฯงั้นเหรอคะ? " มิรินถาม

" ออ…มาทำงานน่ะครับ ตอนนี้พักกองอยู่ เลยแวะออกมาหาอะไรทาน พอดีเห็นว่าร้านกาแฟ น่ารักดี เลย แวะ เข้ามาดูสักหน่อยน่ะครับ "  

ต้นพูดพร้อมมองส่งสายตาให้กับมิริน

"ทางร้านเราต้องขอขอบพระคุณ คุณต้น มากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์แวะเข้ามา ในร้านกาแฟเล็กๆ ของเรา " ผิงพูด

" เดิมก็คิดแค่ว่าร้านน่ารักดีเลยอยากแวะเข้ามาครับ ไม่คิดว่า คนในร้าน ก็จะน่ารักด้วย "

ต้นยังคงมองไปที่มิริน ทางด้านมิรินก็ได้แต่ยิ้มดีใจ บิดตัวไปมา ไม่ได้พูดอะไร

" ไม่คิดว่าคุณต้นจะปากหวานขนาดนี้นะคะเนี่ย"

ผิงพูดพร้อมทำท่าทีเขินอาย

" ไม่หรอกครับ… สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ ที่ผมได้รู้จักพวกคุณ " ต้นยิ้ม

"ออ…. จริงสิ!! คุณมิริน">ผมขอไลน์คุณหน่อยได้ไหม?

" ได้ค่ะ…" มิรินตอบทันที

" ว่าแต่… คุณต้นจะขอไปทำไมงั้นเหรอกค่ะ? " มิรินถามกลับ

" พอดีผมมาถ่ายละครอยู่ที่โรงเรียนแถวนี้น่ะครับ และ สังเกตเห็นเด็กนักเรียนที่นี่ดูน่าสงสาร ผมเลยอยากจะมาเหมาสินค้าในร้าน ไปแจกจ่าย เป็นอาหารให้เด็กสักมื้อหนึ่ง"

ต้นอธิบาย แต่ นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของต้น เพราะความจริงต้นแค่อยากได้LINEของมิริน

" ถ้าคุณต้น ต้องการที่จะซื้อของจากทางร้านเพื่อไปบริจาคให้เด็กในละแวกนี้ งั้นคุณต้น แอด Line ผิงก็ได้นะคะ " ผิงพูดพร้อมยืนโทรศัพท์ที่เปิดหน้า คิวอาร์โค้ด LINE

" ไม่เป็นไรครับ.. อย่าลำบากคุณผิงเลยครับ ผม Add LINE คุณมิริน น่าจะสะดวกมากกว่าครับ " ต้นรีบปฏิเสธแบบนุ่มนวล

" งั้นก็ได้ค่ะคุณต้น " มิรินพูด ทั้งคู่แลกLINE กัน

ต้น มองไปที่นาฬิกาที่อยู่บริเวณด้านบนประตูของร้าน

" ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ต้องไปทำงานต่อแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะครับ คุณมิริน "

" ไว้เจอกันใหม่ค่ะ คุณต้น " ผิง และ มิริน พูดพร้อมกัน

ทั้งคู่เดินกับไปที่เคาน์เตอร์ร้าน ที่มีภูยืนชงกาแฟอยู่ตรงนั้น…

เมื่อถึงบริเวณเคาน์เตอร์ ทั้งผิง ทั้ง มิริน ก็กรี๊ดอีกครั้ง!!ภู ตกใจผสมกับโมโหเล็กน้อย จึงตะโกนออกไปใส่

" โอ๊ยยยยยยยย…… เขาไปแล้ว จะกรี๊ดทำซากอะไรนักหนา "

" ไอ้ภู ไอ้ชั่ว แกกล้าด่ามิรินเหรอ? "

" เปล่า!! ด่าพี่นั่นแหละพี่ผิง อายุก็เยอะแล้วช่วยทำตัวเป็นผู้นำหน่อยจะได้ไหม? ทำตัวเป็นเด็กกรี๊ดตามดาราอยู่ได้ เป็นคนเดียวไม่ว่าทำไมต้องพามิริน ไปเสียคนด้วย " ภูพูด

ผิง ถึงกับอึ้งเพราะเถียงไม่ออก…

" แกจะช็อตฟิวส์ฉันเพื่อ…." ผิง ก้มหน้าพร้อมพูด พึมพำเบาๆ

" ช่างเถอะพี่ผิง อย่าไปสนใจอะไรภูเลย ภูไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก" มิรินพูด

" เออจริงด้วย… ฉันไม่สนใจแกหรอกภู ฉันกับมิริน พวกเราจะออกไปซื้อของข้างนอก มีเรื่องสำคัญต้องทำ ส่วนแก ก็เฝ้าร้านอยู่ที่นี่แล้วกันนะ" ผิง หันไปพูดกับภู พร้อมทำท่าทางเยาะเย้ย

"เดี๋ยวๆๆๆ เรื่องสำคัญที่ว่านี่คืออะไร" ภูถาม

"คุณต้นเขา จะมาเหมาสินค้าที่ร้านเราไปแจกให้กับเด็ก ที่อยู่โรงเรียน ในละแวกนี้นะ " มิรินตอบ

"เอ่อ… เดี๋ยวนะ!! โรงเรียนที่อยู่ละแวกนี้เป็นโรงเรียนประถมนะ เด็กประถมเขากินกาแฟได้แล้วหรอ? "

ภูพูดถามด้วยความสงสัย

ผิง ตบมือลงไปยังโต๊ะเคาน์เตอร์เครื่องชงกาแฟ ก่อนจะหันไปมองหน้าภู ด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ไอ้ภู ไอ้โง่ ร้านฉันไม่ได้ขายแต่กาแฟสักหน่อย บราวนง บราวนี่ก็มี คุณต้น เขาอาจจะอยากเหมาขนมไปแจกจ่ายให้กับเด็กๆ ก็ได้"

" เขาจะคิดได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณพี่ผิง " ภู ทำสีหน้างงๆ พร้อมตอบกลับผิงแบบกวนๆ

" แน่สิยะ เขาไม่ได้สมองทื่อเหมือนแกสักหน่อย " ผิงตอบ

 

3 วันถัดมา...

ต้นได้ส่ง LINE หามิริน เพื่อสั่งออเดอร์บราวนี่จำนวน 100 ก้อน โดยต้นจะนำไปบริจาคให้กับเด็กนักเรียนในเวลา 14:00 น. ของวันนั้น ซึ่งทางร้าน ก็น่าจะเตรียมสินค้าไว้เป็นที่เรียบร้อย จนถึงเวลาประมาณ 13:30 น.

ภูกำลังยืนอยู่เคาน์เตอร์ กำลังก้มหน้าชงกาแฟ ผิง เรียกชื่อภู

ภู ค่อยๆ มองไปตามเสียง เขาถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นมิริน ในชุดกระโปรงสีขาวปล่อยผมยาวสลวย

"ไอ้ภู ฉันเรียกแกอยู่นะ!!! " ผิงตะโกน

" อะไร… อยู่กันแค่นี้จะตะโกนทำไม? " ภูตอบกลับพร้อมหันหน้ามองไปที่ผิง ภูสังเกตเห็นว่าทั้งมิรินและผิง แต่งกายในลักษณะเดียวกัน ต่างกันแค่ ชุดกระโปรงของผิงจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่ของมิรินเป็นสีขาว

" ตายละ… อะไรดนใจคุณป้าแต่งตัวแบบนี้นั่นเหรอครับ" ภูพูดกับผิง ระหว่างที่พูดไปก็เอียงคอไปด้วย

" เรียกใครป้า!!! แล้วแกจะเอียงคอทำไม แกกำลังดูถูกฉันอยู่เหรอ ใช่สิ…ใครจะไปสวยเหมือนมิรินของแกล่ะ " ผิง พูดใส่อารมณ์ด้วยความโมโห ในขณะที่ภู กับยืนนิ่ง อ้าปากค้างเล็กน้อย เพราะกำลังเขินกับคำพูดของผิงที่ว่ามิรินสวย เพราะในสายตาของภูนั้น มิรินสวยที่สุดอยู่แล้ว…

" ทำไม แกนิ่งทำไม… แน่จริงเถียงมาสิ " ผิง ยังคงพูดต่อ แต่ภูไม่ได้พูดตอบโต้.. ภู มองไปทางมิรินสีหน้าของภูเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม..

"มิริน จะไปไหนงั้นหรอ? "

" ไอ้ภู ไอ้คนสองมาตรฐาน" ผิงพูด แต่ภู ไม่ได้สนใจสายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่คำตอบของมิริน

"ภู ฉันกับพี่ผิงจะออกไปดูคุณต้นเอาขนมไปบริจาคให้เด็กๆ น่ะ ว่าจะไปกันสักชั่วโมง ช่วงที่พวกฉันไม่อยู่ ฝากเธอ ดูแลร้านให้ด้วยนะ" มิรินพูด

" ได้สิ… เรื่องร้านฉันดูแลเอง ไปเถอะ…" ภูตอบแบบไม่คิด เพราะเหมือนกำลังตกตะลึงในความสวยของมิรินอยู่

ทั้งคู่เดินออกจากร้าน ระหว่างทาง ผิงก็ได้พูดชื่นชมมิรินว่า " เก่งมากเลยจ้ะลูกสาว ที่ทำให้ไอ้บ้านั่นตกตะลึงได้" ทั้งคู่หัวเราะคิกคักกันสนุกสนาน

หลังจากวันนั้นผ่านไป ต้น ก็ได้หาข้ออ้างในการพูดคุยผ่านLINE กับมิริน อยู่เรื่อยๆ นานวันไปก็สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันเวลาผ่านไป ทั้งคู่ได้แอบคบหากันแบบลับๆ โดยที่ยังไม่มีใครรู้ มีเพียงพวกเขาสองคน

เช้าวันหนึ่ง มีข่าวว่า… ผู้จัดการส่วนตัวของ ต้น เอกสิทธิ์ ได้ของลาออก โดยที่ไม่ทราบเหตุผลที่ได้ชัด ตกตอนเย็นต้น ได้ทัก LINE ไปหา มิริน

 

[มิริน ขอโทษทีนะครับ พอดีตอนกลางวันยุ่งๆ นิดหน่อย]

[ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจคุณงานยุ่ง]

[มิรินครับ… ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมครับ]

[ใช่สิคะ…ทำไมคุณถึงถามแบบนั้น?]

[ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน… กรุงเทพฯ กับ อุดรธานี ก็ห่างไกลกันมากเลย]

[ไม่เป็นไรค่ะ คุณว่างเมื่อไหร่คุณก็ค่อยแวะมาก็ได้]

[แต่ว่า.. ผมอยากอยู่กับคุณนี่ คุณมาอยู่กับผมได้ไหม?]

[ใจเย็นๆ ค่ะต้น คุณเป็นดารานะ ไม่กลัวเป็นข่าวหรอคะ]

[ผมไม่ขอปิดบังคุณนะ ดาราเป็นอาชีพที่ผมรัก แต่ คุณก็เช่นกัน]

[ฉันก็รักคุณเช่นกันค่ะต้น ]

[คุณมาอยู่ที่กรุงเทพฯกับผมเถอะนะ…]

[ฉันจะไปได้ยังไงฉันมีงานที่ร้านกาแฟต้องทำนะ]

[คุณลาออกจากร้านกาแฟ แล้วมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวผม ได้ไหม?]

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป