อีกหนึ่งผลงาน นิยายแอบรัก ที่รักเขา แต่ เขาไม่ได้รักเรา เมื่อคนเรามีความรัก คนเรามักจะยอมทำได้ทุกอย่าง และ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม เรียกได้ว่าเหมือนกันจมปลัก ที่ยากเกินจะหลุดพ้นออกมาได้...
อีกหนึ่งผลงาน นิยายแอบรัก ที่รักเขา แต่ เขาไม่ได้รักเรา เมื่อคนเรามีความรัก คนเรามักจะยอมทำได้ทุกอย่าง และ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม เรียกได้ว่าเหมือนกันจมปลัก ที่ยากเกินจะหลุดพ้นออกมาได้...
คำตอบของต้น ทำให้มิริน ถึงกับเสียอาการจนเผลอกรี๊ดออกมา ด้วยความดีใจ ผิง กับ ภู ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของมิริน
" มิริน เป็นอะไร? " ภู รีบวิ่งไปที่โต๊ะที่มิรินอยู่เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"มิริน เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรหรือเปล่า? "
ภูถามมิริน แต่มิรินไม่ได้สนใจคำถามของภู กลับเรียกหาผิง
" พี่ผิง พี่ผิง ออกมานี่เร็ว ต้น เอกสิทธิ์ มาที่ร้าน "
ภูถึงกับอุทาน "ห่ะ" เพราะรู้สึกงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ผิงจะรีบวิ่งออกมาที่โต๊ะอีกคน เมื่อผิง เห็นหน้าของต้น ก็กรี๊ดเสียอาการไปอีกคน
" เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย? " ภูถึงกับอุทานออกมา…
" สวัสดีค่ะ ชื่อ ชื่อผิงค่ะ เป็น เป็นเจ้าของร้านนี้ ส่วนนี่คือมิริน เป็นพนักงานของร้านค่ะ"
ภู ที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับถอนหายใจแล้วส่ายหน้า ก่อนจะเดินกลับไปที่เครื่องชงกาแฟต่อ โดยไม่ได้สนใจอะไร เพราะภูไม่ได้ชอบการดูละคร หรือ คลั่งไคล้อะไร ในตัวของนักแสดงอยู่แล้ว…
" คุณผิง กับ คุณมิริน สินะครับ ยินดีทีได้รู้จักครับ " ต้นทักทายเพื่อทำความรู้จัก
" คุณต้น มาทำอะไรที่จังหวัดอุดรฯงั้นเหรอคะ? " มิรินถาม
" ออ…มาทำงานน่ะครับ ตอนนี้พักกองอยู่ เลยแวะออกมาหาอะไรทาน พอดีเห็นว่าร้านกาแฟ น่ารักดี เลย แวะ เข้ามาดูสักหน่อยน่ะครับ "
ต้นพูดพร้อมมองส่งสายตาให้กับมิริน
"ทางร้านเราต้องขอขอบพระคุณ คุณต้น มากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์แวะเข้ามา ในร้านกาแฟเล็กๆ ของเรา " ผิงพูด
" เดิมก็คิดแค่ว่าร้านน่ารักดีเลยอยากแวะเข้ามาครับ ไม่คิดว่า คนในร้าน ก็จะน่ารักด้วย "
ต้นยังคงมองไปที่มิริน ทางด้านมิรินก็ได้แต่ยิ้มดีใจ บิดตัวไปมา ไม่ได้พูดอะไร
" ไม่คิดว่าคุณต้นจะปากหวานขนาดนี้นะคะเนี่ย"
ผิงพูดพร้อมทำท่าทีเขินอาย
" ไม่หรอกครับ… สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ ที่ผมได้รู้จักพวกคุณ " ต้นยิ้ม
"ออ…. จริงสิ!! คุณมิริน">ผมขอไลน์คุณหน่อยได้ไหม?
" ได้ค่ะ…" มิรินตอบทันที
" ว่าแต่… คุณต้นจะขอไปทำไมงั้นเหรอกค่ะ? " มิรินถามกลับ
" พอดีผมมาถ่ายละครอยู่ที่โรงเรียนแถวนี้น่ะครับ และ สังเกตเห็นเด็กนักเรียนที่นี่ดูน่าสงสาร ผมเลยอยากจะมาเหมาสินค้าในร้าน ไปแจกจ่าย เป็นอาหารให้เด็กสักมื้อหนึ่ง"
ต้นอธิบาย แต่ นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของต้น เพราะความจริงต้นแค่อยากได้LINEของมิริน
" ถ้าคุณต้น ต้องการที่จะซื้อของจากทางร้านเพื่อไปบริจาคให้เด็กในละแวกนี้ งั้นคุณต้น แอด Line ผิงก็ได้นะคะ " ผิงพูดพร้อมยืนโทรศัพท์ที่เปิดหน้า คิวอาร์โค้ด LINE
" ไม่เป็นไรครับ.. อย่าลำบากคุณผิงเลยครับ ผม Add LINE คุณมิริน น่าจะสะดวกมากกว่าครับ " ต้นรีบปฏิเสธแบบนุ่มนวล
" งั้นก็ได้ค่ะคุณต้น " มิรินพูด ทั้งคู่แลกLINE กัน
ต้น มองไปที่นาฬิกาที่อยู่บริเวณด้านบนประตูของร้าน
" ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ต้องไปทำงานต่อแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะครับ คุณมิริน "
" ไว้เจอกันใหม่ค่ะ คุณต้น " ผิง และ มิริน พูดพร้อมกัน
ทั้งคู่เดินกับไปที่เคาน์เตอร์ร้าน ที่มีภูยืนชงกาแฟอยู่ตรงนั้น…
เมื่อถึงบริเวณเคาน์เตอร์ ทั้งผิง ทั้ง มิริน ก็กรี๊ดอีกครั้ง!!ภู ตกใจผสมกับโมโหเล็กน้อย จึงตะโกนออกไปใส่
" โอ๊ยยยยยยยย…… เขาไปแล้ว จะกรี๊ดทำซากอะไรนักหนา "
" ไอ้ภู ไอ้ชั่ว แกกล้าด่ามิรินเหรอ? "
" เปล่า!! ด่าพี่นั่นแหละพี่ผิง อายุก็เยอะแล้วช่วยทำตัวเป็นผู้นำหน่อยจะได้ไหม? ทำตัวเป็นเด็กกรี๊ดตามดาราอยู่ได้ เป็นคนเดียวไม่ว่าทำไมต้องพามิริน ไปเสียคนด้วย " ภูพูด
ผิง ถึงกับอึ้งเพราะเถียงไม่ออก…
" แกจะช็อตฟิวส์ฉันเพื่อ…." ผิง ก้มหน้าพร้อมพูด พึมพำเบาๆ
" ช่างเถอะพี่ผิง อย่าไปสนใจอะไรภูเลย ภูไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก" มิรินพูด
" เออจริงด้วย… ฉันไม่สนใจแกหรอกภู ฉันกับมิริน พวกเราจะออกไปซื้อของข้างนอก มีเรื่องสำคัญต้องทำ ส่วนแก ก็เฝ้าร้านอยู่ที่นี่แล้วกันนะ" ผิง หันไปพูดกับภู พร้อมทำท่าทางเยาะเย้ย
"เดี๋ยวๆๆๆ เรื่องสำคัญที่ว่านี่คืออะไร" ภูถาม
"คุณต้นเขา จะมาเหมาสินค้าที่ร้านเราไปแจกให้กับเด็ก ที่อยู่โรงเรียน ในละแวกนี้นะ " มิรินตอบ
"เอ่อ… เดี๋ยวนะ!! โรงเรียนที่อยู่ละแวกนี้เป็นโรงเรียนประถมนะ เด็กประถมเขากินกาแฟได้แล้วหรอ? "
ภูพูดถามด้วยความสงสัย
ผิง ตบมือลงไปยังโต๊ะเคาน์เตอร์เครื่องชงกาแฟ ก่อนจะหันไปมองหน้าภู ด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ไอ้ภู ไอ้โง่ ร้านฉันไม่ได้ขายแต่กาแฟสักหน่อย บราวนง บราวนี่ก็มี คุณต้น เขาอาจจะอยากเหมาขนมไปแจกจ่ายให้กับเด็กๆ ก็ได้"
" เขาจะคิดได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณพี่ผิง " ภู ทำสีหน้างงๆ พร้อมตอบกลับผิงแบบกวนๆ
" แน่สิยะ เขาไม่ได้สมองทื่อเหมือนแกสักหน่อย " ผิงตอบ
3 วันถัดมา...
ต้นได้ส่ง LINE หามิริน เพื่อสั่งออเดอร์บราวนี่จำนวน 100 ก้อน โดยต้นจะนำไปบริจาคให้กับเด็กนักเรียนในเวลา 14:00 น. ของวันนั้น ซึ่งทางร้าน ก็น่าจะเตรียมสินค้าไว้เป็นที่เรียบร้อย จนถึงเวลาประมาณ 13:30 น.
ภูกำลังยืนอยู่เคาน์เตอร์ กำลังก้มหน้าชงกาแฟ ผิง เรียกชื่อภู
ภู ค่อยๆ มองไปตามเสียง เขาถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นมิริน ในชุดกระโปรงสีขาวปล่อยผมยาวสลวย
"ไอ้ภู ฉันเรียกแกอยู่นะ!!! " ผิงตะโกน
" อะไร… อยู่กันแค่นี้จะตะโกนทำไม? " ภูตอบกลับพร้อมหันหน้ามองไปที่ผิง ภูสังเกตเห็นว่าทั้งมิรินและผิง แต่งกายในลักษณะเดียวกัน ต่างกันแค่ ชุดกระโปรงของผิงจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่ของมิรินเป็นสีขาว
" ตายละ… อะไรดนใจคุณป้าแต่งตัวแบบนี้นั่นเหรอครับ" ภูพูดกับผิง ระหว่างที่พูดไปก็เอียงคอไปด้วย
" เรียกใครป้า!!! แล้วแกจะเอียงคอทำไม แกกำลังดูถูกฉันอยู่เหรอ ใช่สิ…ใครจะไปสวยเหมือนมิรินของแกล่ะ " ผิง พูดใส่อารมณ์ด้วยความโมโห ในขณะที่ภู กับยืนนิ่ง อ้าปากค้างเล็กน้อย เพราะกำลังเขินกับคำพูดของผิงที่ว่ามิรินสวย เพราะในสายตาของภูนั้น มิรินสวยที่สุดอยู่แล้ว…
" ทำไม แกนิ่งทำไม… แน่จริงเถียงมาสิ " ผิง ยังคงพูดต่อ แต่ภูไม่ได้พูดตอบโต้.. ภู มองไปทางมิรินสีหน้าของภูเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม..
"มิริน จะไปไหนงั้นหรอ? "
" ไอ้ภู ไอ้คนสองมาตรฐาน" ผิงพูด แต่ภู ไม่ได้สนใจสายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่คำตอบของมิริน
"ภู… ฉันกับพี่ผิงจะออกไปดูคุณต้นเอาขนมไปบริจาคให้เด็กๆ น่ะ ว่าจะไปกันสักชั่วโมง ช่วงที่พวกฉันไม่อยู่ ฝากเธอ ดูแลร้านให้ด้วยนะ" มิรินพูด
" ได้สิ… เรื่องร้านฉันดูแลเอง ไปเถอะ…" ภูตอบแบบไม่คิด เพราะเหมือนกำลังตกตะลึงในความสวยของมิรินอยู่
ทั้งคู่เดินออกจากร้าน ระหว่างทาง ผิงก็ได้พูดชื่นชมมิรินว่า " เก่งมากเลยจ้ะลูกสาว ที่ทำให้ไอ้บ้านั่นตกตะลึงได้" ทั้งคู่หัวเราะคิกคักกันสนุกสนาน
หลังจากวันนั้นผ่านไป ต้น ก็ได้หาข้ออ้างในการพูดคุยผ่านLINE กับมิริน อยู่เรื่อยๆ นานวันไปก็สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันเวลาผ่านไป ทั้งคู่ได้แอบคบหากันแบบลับๆ โดยที่ยังไม่มีใครรู้ มีเพียงพวกเขาสองคน
เช้าวันหนึ่ง มีข่าวว่า… ผู้จัดการส่วนตัวของ ต้น เอกสิทธิ์ ได้ของลาออก โดยที่ไม่ทราบเหตุผลที่ได้ชัด ตกตอนเย็นต้น ได้ทัก LINE ไปหา มิริน
[มิริน ขอโทษทีนะครับ พอดีตอนกลางวันยุ่งๆ นิดหน่อย]
[ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจคุณงานยุ่ง]
[มิรินครับ… ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมครับ]
[ใช่สิคะ…ทำไมคุณถึงถามแบบนั้น?]
[ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน… กรุงเทพฯ กับ อุดรธานี ก็ห่างไกลกันมากเลย]
[ไม่เป็นไรค่ะ คุณว่างเมื่อไหร่คุณก็ค่อยแวะมาก็ได้]
[แต่ว่า.. ผมอยากอยู่กับคุณนี่ คุณมาอยู่กับผมได้ไหม?]
[ใจเย็นๆ ค่ะต้น คุณเป็นดารานะ ไม่กลัวเป็นข่าวหรอคะ]
[ผมไม่ขอปิดบังคุณนะ ดาราเป็นอาชีพที่ผมรัก แต่ คุณก็เช่นกัน]
[ฉันก็รักคุณเช่นกันค่ะต้น ]
[คุณมาอยู่ที่กรุงเทพฯกับผมเถอะนะ…]
[ฉันจะไปได้ยังไงฉันมีงานที่ร้านกาแฟต้องทำนะ]
[คุณลาออกจากร้านกาแฟ แล้วมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวผม ได้ไหม?]