การที่รักใครสักคนมันช่างเป็นสิ่งที่งดงาม ไม่ขออะไรมากไปกว่า ขอแค่ได้มอง ขอแค่ได้กอด ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้ม แม้ต้องแลกด้วยชีวิตหลาย ๆ คนยอมที่จะแลกกับมัน เพื่อให้ได้มีความสุขสักครั้งในชีวิต
การที่รักใครสักคนมันช่างเป็นสิ่งที่งดงาม ไม่ขออะไรมากไปกว่า ขอแค่ได้มอง ขอแค่ได้กอด ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้ม แม้ต้องแลกด้วยชีวิตหลาย ๆ คนยอมที่จะแลกกับมัน เพื่อให้ได้มีความสุขสักครั้งในชีวิต
บทที่ 13
วันหยุด
รุ่งเช้าวันนี้ไม่มีตารางงานของลู่เฟย เขาได้หยุด 1 วัน ทศเดินออกจากบ้าน จางเห็นเข้าพอดี
จางพูด “คุณทศจะไปไหนเหรอครับ”
“พี่จางหยุดพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมไปเอง”
จางพูด “ไม่ได้ครับ คุณทศจะไปไหนผมจะพาไปเองครับ”
ทศยิ้มก่อนจะพูดพูด “อย่างนั้นผมไม่ไปแล้วก็ได้”
เขาเดินกลับเข้าบ้านไปทันที จางยืนงงอยู่ชั่วขณะ แล้วก็เดินไปทำความสะอาดรถต่อ สักพักหนึ่ง ทศเห็นโอกาสที่จางเดินไปหาอุปกรณ์ล้างรถ เขาจึงรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป
ทศเรียกรถ มุ่งหน้าไปหาลู่เฟยที่ห้องในมือถือของกินมากมายไปที่ห้องลู่เฟย เมื่อถึงคอนโด ทศแปลกใจ วันนี้แฟนคลับไม่มี
ทศหันไปพูดกับ รปภ. “แปลกจังวันนี้แฟนคลับลู่เฟยไม่มี”
รปภ.พูด “ออ.ถ้าวันหยุด ผู้จัดการส่วนตัวจะประกาศบอกว่าลู่เฟยหยุด ขอความกรุณาอย่ารบกวนลู่เฟยช่วงเวลาหยุดเพื่อความเป็นส่วนตัวครับ แต่ก็มีบ้างที่มาแต่ก็ไม่มาก เพราะมาก็ไม่เจอลู่เฟยอยู่ดี”
ทศพูด “อย่างนี้นี่เอง”
แล้วเขาก็เดินเข้าลิฟต์ไป เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลู่เฟยอยู่ในชุดนอน เขาดูว่าใคร เมื่อเห็นว่าเป็นทศ เขาเปิดประตู
ลู่เฟยพูด“วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ”
ทศยิ้ม “ใช่”
ลู่เฟยพูด “แล้วนายมาทำไม”
ทศตอบ “คุณหิวมั้ย”
เขาเดินเข้าห้องลู่เฟยโดยไม่รอให้ชวน
ลู่เฟยมองตามหลังไป “อะไรของเขานี”
“ไปอาบน้ำครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้กิน”
ลู่เฟยมองเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไร “นาย....ฉันจะว่ายังไงดี”
“ก็ไม่ต้องว่า แค่ไปอาบน้ำก็เท่านั้น”
ลู่เฟยส่ายศีรษะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ระหว่างนั้นทศได้อุ่นอาหารที่เขาซื้อมา มีของที่ลู่เฟยชอบทั้งนั้น
เมื่อเขาออกจากห้องน้ำ เขาเดินมาที่โต๊ะอาหาร “นายทำอะไรนะหอมจัง” เขามองอาหาร “นายรู้ได้ไงว่าผมชอบกินของพวกนี้”
ทศพูด “ง่ายจะตาย วัน ๆ คุณกินแต่ผลไม้ แต่เวลาไปซื้อผลไม้ผมเห็นคุณมองแต่ของพวกนี้ ชอบกินทำไมกินละ”
ลู่เฟยมองและยิ้ม “แล้วนั้นนายกำลังทำอะไร”
“ก็กำลังจะอุ่นให้คุณ”
ลู่เฟยพูด “จะบ้าเหรอ ใครเขาอุ่นซูซิกัน”
ทศมอง “แต่นี่มันปลาดิบนะ”
ลู่เฟยหัวเราะ “หลุดมาจากยุคไหนนี่....เอามานี่..อย่ามาคิดเงินกับฉันละ”
ทศยิ้ม “แค่เห็นคุณยิ้ม ผมก็มีความสุขแล้ว”
ลู่เฟยมองหน้าเขา สายตาของทศไม่ยอมละจากเขาเลย มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาเอาซูซิ ปลาดิบ กับบาซาบิให้ทศกิน
ลู่เฟยพูด “ลองกินดู”
ทศพูด “ผมไม่ชอบปลาดิบ”
ลู่เฟยพูด “ฉันอุสาป้อนนะ จะไม่กินหน่อยหรือ”
เขายิ้มด้วยสีหน้ากังวล เขาอ้างปากกว้างให้ลู่เฟย เมื่อเขากินเข้าไป สีหน้าของเขาหยี่ ตาปิดมิด น้ำตาเริ่มไหล่ เขากำลังจะพ่นมันออก แต่ลู่เฟยสั่งให้เขากลืนลงไป ทศมองเห็นลู่เฟย ยิ้มแบบมีความสุขก็ครั้งนี้แหละ เขายอมกลืนลงไปทั้ง ๆ เขาไม่ชอบมัน
“คุณกินเข้าไปได้ไง”
ลู่เฟยพูด “จมูกโล่งดีนะ”
เขายืนดูลู่เฟยกินอาหารที่เขานำมาให้ ก่อนจะเดินไปข้างหลังลู่เฟย หยิบผ้าเช็ดตัวผื่นที่คล่องคอลู่เฟยขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกให้เขา ลู่เฟยขยับศีรษะหนี
“นั่งนิ่ง ๆ ครับ ผมคุณเปียก เดี๋ยวผมเช็ดให้”
ลู่เฟยถาม “ถามจริง ๆ นะ นายเป็นแฟนคลับฉันหรือ”
“ครับ แต่คำว่าชอบมันต่างจากแฟนคลับนะครับ”
ลู่เฟยพูด “นายเป็นเกย์เหรอ”
“ผมชอบคุณ และก็ชอบคุณเท่านั้น”
ลู่เฟยพุด “ฉันไม่ได้เป็นเกย์นะ”
ทศพูด “ผมไม่สน ขอแค่ได้อยู่กับคุณก็พอ”
ลู่เฟยขมวดคิ้ว เขาคิด ฉันต้องกลัวนายหรือเปล่านะ การคลั่งดาราของหมอนี่
“คิดอะไรอยู่หรือครับ”
ลู่เฟยตกใจ “แค่กำลังคิดว่าฉันไว้ใจนายได้หรือเปล่า”
เมื่อเขาเช็ดผมเสร็จ เขาก็นั่งลงที่โต๊ะอาหาร เขาจ้องหน้าลู่เฟย
ลู่เฟยพูด “นายจ้องหน้าทำไม”
“ไว้ใจได้ครับ ผมไม่เคยคิดทำร้ายคุณหรือท่านประธานเลย ว่าแต่วันหยุดทั้งทีคุณไม่ออกไปไหนเหรอ”
ลู่เฟยพูด “ไม่ละ ฉันชอบอยู่ห้อง บางทีก็ไปหาพ่อกับแม่บ้าง แต่วันนี้ฉันเหนื่อย เลยไม่ไปไหน”
“อย่านั้นผมอยู่ห้องเป็นเพื่อนคุณแล้วกัน”
ลู่เฟยพูด “จะบ้าเหรอ นายกลับไปได้แล้ว”
“ไม่กลับครับ” เขาเดินไปเปิดโทรทัศน์ดู
วันนั้นทั้งวัน เขาอยู่ห้องกับลู่เฟย ทั้งสองนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกัน จนลู่เฟยหลับไป ศีรษะของเขาพิงกับไหล่ของแจ็คสัน เขานั่งยิ้มอย่างมีความสุข เขามองนาฬิกา 1 ทุ่มแล้ว เขาจับร่างของลู่เฟยนอนที่โซฟา แล้วห่มผ้าให้ เปิดโทรทัศน์ช่องเพลงหวาน ๆ ให้เขาฟัง มือของเขาลูบเส้นผมลู่เฟยเบา ๆ เขาคิด อยากให้เวลาแบบนี้มีอยู่ตลอดไปจัง เขายิ้มและจัดแจงอาหารไว้ให้เขา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาทิ้งข้อความไว้ว่า อย่าลืมทานอาหารนะครับ
ทศนั่งรถกลับ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ที่บ้านเกิดอะไรขึ้น
ที่บ้านของวัน
เวลา 2 ทุ่ม วันกลับมาถึงบ้านพร้อมกับทีมแพทย์ 3 คน สาวใช้เดินออกมารับของจากวัน
วันพูด “ทศละ”
สาวใช้พูด “หน้าจะอยู่ในห้องค่ะ วันนี้ทั้งวันคุณทศไม่ออกจากห้อง ไม่ทานอาหารเลยคะ”
วันขมวดคิ้ว “อย่างนั้นเหรอ”
เขาพาทีมแพทย์เดินเข้าบ้านให้รออยู่ที่ห้องรับแขก ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องของทศ เมื่อเขาไขประตูเข้าไป เขากลับเจอแต่ห้องที่ว่างเปล่า วันตกใจ เรียกทุกคนในบ้านมาสอบถามด้วยความโกรธ คนแรกที่จะโดนถาม
วันพูด “ฉันให้นายดูเขาทุกก้าวทำไมเขาไปไหนนายไม่รู้”
จางพูด “เมื่อเช้าก่อนคุณวันจะออกไป คุณทศจะออกไปข้างนอก ผมบอกคุณทศว่าผมจะพาไปเอง แต่เขาไม่ยอม และมีทีท่าโกรธผม แล้วก็เดินเข้าบ้านไป ผมไม่รู้ว่าคุณทศแอบออกไปตอนไหนครับ”
วันหยิบโทรศัพท์ กดโทรหาเขา แต่ไม่มีคนรับสาย
วันพูด “เขาจะไปไหน” วันคิดแล้วก็กดโทรศัพท์อีกครั้ง
เสียงโทรศัพท์ ลู่เฟยรู้สึกตัวมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ลู่เฟยพูด “ว่าไง โทรหาฉันป่านี้”
วันพูด “ทศอยู่กับนายหรือเปล่า”
ลู่เฟยลุกมองดูรอบ ๆ ไม่เห็นเขาแล้ว เห็นแต่อาหารที่วางไว้ “ไม่นะ เขากลับไปแล้ว”
วันพูด “วันนี้เขาอยู่กับนายเหรอ”
ลู่เฟยพูด “อื่ม ให้กลับก็ไม่กลับ”
วันพูด “เขาออกมานานหรือยัง”
ลู่เฟย “ไม่รู้วะ ฉันหลับไปนะ นายมีอะไรหรือเปล่า”
วันพูด “ไม่มีอะไรแค่นี้นะ”
วันโกรธมาก แล้วทันใดนั้นก็มีรถจอดหน้าบ้าน สาวใช้วิ่งมาบอก “คุณทศกลับมาแล้ว”
เขาเดินเข้าบ้านมา ทุกคนยืนเรียงหน้าต่อหน้าวัน เขารู้ทันทีว่าเกิดเรื่องแน่ ๆ ที่เขาหนีออกจากบ้าน แต่สายตาก็หันไปเห็นทีมแพทย์ที่เขาคุ้นเคย พวกเขายิ้มให้ทศ
ทศพูด “ได้เวลาปรับเปลี่ยนตัวยาแล้วหรือครับ”
วันเดินเข้ามาหาทศ เขาพูด “ฉันกับนายคงต้องคุยกันหน่อยหลังนายเสร็จธุระ”
แพทย์เดินเข้ามา เธอพูด “เธอสบายดีใช่มั้ย”
เขาตอบ “ครับ”
เธอพูด “ดร.กรณ์ส่งรายงานว่าเธอทำผิดกฎจนก่อให้เกิดอาการข้างเคียงแต่ดีที่ได้คุณวันช่วยไว้ จริงหรือเปล่า”
ทศรู้ว่าเธอกำลังตรวจสอบว่าเขาสามารถอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยแน่หรือเปล่า “ใช่ครับ พี่วันใช้ยาต้านเพื่อช่วยชีวิตผม รับรองผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแน่นอน”
เธอพยักหน้า “เธอคงรู้นะว่าเธอสำคัญมากแค่ไหน เราเสี่ยงแค่ไหนที่ให้เธอออกมาจากที่นั้น ไปนั่งเถอะ ฉันต้องการเลือดของนาย”
วันสั่งทุกคนให้ออกจากห้องทั้งหมด เขายืนมองทศครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไป เธอใช้เวลา ครึ่งชั่วโมงที่จะปรับเปลี่ยนตัวยาให้เขา
เธอพูด “คืนนี้คงหนักหน่อยนะ”
แล้วทีมแพทย์ก็เดินออกจากห้องรับแขกไป เธอหยุดพูดที่วัน
“นี่ตัวยาสำรองคะ อีกสองวันตัวยาจะส่งมาให้คุณ คืนนี้เขาคงรับศึกหนักหน่อย”
วันหันมองทศที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เขาพูด “เขาเป็นอะไร”
เธอพูด “ฉันคงบอกคุณไม่ได้ บอกได้แค่ว่า พ่อของคุณยอมเสี่ยงที่จะปล่อยเขาออกมาเพราะเขาเชื่อใจคุณ”
แล้วเธอก็เดินขึ้นรถจากไป วันเดินไปที่ทศ
เขาพูด “ทำไมออกจากบ้านไม่บอกใคร”
ทศลุกจากที่นั่ง เขาพูด “ขอโทษครับ”
วันพูด “สงสัยฉันต้องไล่จางออก โทษฐานดูแลนายไม่ได้”
ทศรีบพูด “ท่านประธาน ผมขอโทษ ตั้งแต่นี้ไม่ว่าผมจะไปไหน ผมจะให้พี่จางพาไปตลอดเลย จะไม่หนีเหมือนวันนี้อีก”
วันพูด “ขอให้จริงเถอะ นายทำให้ทุกคนวุ่นวาย”
เขาพูดได้แต่คำว่าขอโทษ สีหน้าเขาดูเหนื่อยมาก เขาพูด “ผมขอไปทานยานะครับ” เขายกมือขอยาจากวัน วันส่งยาให้เขาทั้งหมด
เขาทานยาแล้วล้มตัวลงนอน ไม่กี่นาทียาก็ออกฤทธิ์ ความเจ็บปวดทำให้เขาร้องไห้ออกมา เขากำผ้าห่มไว่แน่นเพื่อที่จะทนต่อความเจ็บปวดนี้ วันเดินเข้ามาในห้อง เขาจับร่างของทศที่นอนดิ้นอยู่ขึ้นมากอดไว้แน่น เขาส่งผ้าผื่นเล็กให้ทศกัดมันไว้ เขามองหน้าวันทั้งน้ำตา วันกอดเขาไว้แน่นอีกครั้ง โดยไม่พูดอะไร รอบนี้ความเจ็บปวดกินเวลานานถึงสามสิบนาที เหงื่อไหลเต็มร่างของทศราวกับอาบน้ำมาไม่ปาน แล้วเขาก็หลับในอ้อมกอดของวัน วันปล่อยร่างเขาให้นอนหลับไป ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เขาครุ่นคิด ฉันจะทำไงดีกับนาย เขารู้ตัวเองดีว่าใจเริ่มอ่อนกับทศยิ่งเห็นเขาต้องทนต่อความเจ็บปวดนี้ทุกวัน เขาเริ่มสงสัย นายเป็นอะไรกันแน่
ทศหลับไปได้ไม่นาน เขารู้สึกตัวขึ้นมา เขาคิด เมื่อกี่ท่านประธานช่วยเราหรือ
เขาหยิบสมุดบันทึก
วันนี้เป็นวันหยุด ผมแอบออกข้างโดยไม่บอกใคร ไปหาลู่เฟย ผมอยู่ที่นั้นทั้งวัน ทำอาหารให้ลู่เฟย ทานอาหารด้วยกัน วันนี้ผมเช็ดผมให้ลู่เฟยด้วย ได้ดูหนังกับลู่เฟย ช่างมีความสุขเสียจริง ๆ ผมอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้
คืนนี้เป็นคืนที่ผมเจ็บปวดมากที่สุด ความเจ็บปวดอาจเป็นเพราะผมทำผิดกฎ สิ่งต้องห้ามหลายอย่างมีผมต่อภาวะเลือดของผม แต่อย่างน้อยวันนี้มีคนกอดผมไว้แทนการมัดมือมัดเท้า เขาเป็นคนที่สองที่กอดผม พี่วันคุณก็เหมือน ดร.กรณ์ พวกคุณช่วยผม สักวันผมจะตอบแทนคุณนะพี่ชาย