Your Wishlist

เรื่อง ใจสือใจ รักเพื่อนาย (ตอนที่ 12 เจ้าเลย์ยิ่งนัก)

Author: ้hanna hb

การที่รักใครสักคนมันช่างเป็นสิ่งที่งดงาม ไม่ขออะไรมากไปกว่า ขอแค่ได้มอง ขอแค่ได้กอด ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้ม แม้ต้องแลกด้วยชีวิตหลาย ๆ คนยอมที่จะแลกกับมัน เพื่อให้ได้มีความสุขสักครั้งในชีวิต

จำนวนตอน :

ตอนที่ 12 เจ้าเลย์ยิ่งนัก

  • 28/05/2566

บทที่ 12

เจ้าเลห์ยิ่งนัก

               3 วันมานี้ ทศไม่ได้เจอ ท่านประธานเลย เขาเองก็มั่วยุ่งกับการแกล้งของลู่เฟย และวุ่นกับจางที่ทำตามคำสั่งของท่านประธานอย่าตรงเวลาทุกอย่าง

               วันนี้วันสุดท้ายของการทำงานถ่ายซีรีย์ของลู่เฟย ท่านประธานจัดงานเลี้ยงปิดกล้อง เลี้ยงทุกคนที่ทำงานเสร็จตรงเวลา ลู่เฟยต้องอยู่ปิดกล้อง หมิงและทศ จาง ก็เช่นกันต้องอยู่ในงานเลี้ยง ลู่เฟยให้คนใกล้ชิดทุกคนมาในงานเลี้ยงปิดกล้อง ทศนั่งมองลู่เฟยร้องเพลงกับท่านประธานและเพื่อน ๆ นักแสดงทุกคน

พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาพร้อมเครื่องดื่มผลไม้ ทศมองแก้วไวน์ด้วยความแปลกใจ สีสันสวยดีหน้ากิน เขาหยิบแก้วพร้อมที่จะกิน ท่านประธานเห็นจากเวที จากที่กำลังร้องเพลง เขาหยุดร้องแล้วประกาศดังลั่นผ่านทางไมล์

               “ทศห้ามดื่มไวน์”

ทันใดนั้นจางถึงกับตกใจ เขานั่งอยู่ข้างทศพอดี เขาหันไปมองอย่างรวดเร็ว ทุกคนหันมองทศที่ถือแก้วไวน์อยู่  จางจับแก้วไวน์แล้วบอกว่า

“ผมดื่มเองครับ”

               เขาไม่เข้าใจว่าทำมั้ยเขาถึงดื่มน้ำผลไม้ไม่ได้ เขานั่งนิ่ง จางก็ค่อยระวังเขาทุกทาง เขาลุกเดินไปหาท่านประธานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่เฟย

               เขายืนนิ่ง ทุกคนรู้ว่าทศคือใคร ต่างยิ้มให้เขา ท่านประธานยืนมองหน้าเขา เขาพูด “มีอะไรหรือเปล่าทศ”

               ทศพูด “เราต้องคุยกัน”

               ท่านประธานพูด “ได้ซิ ลู่เฟย นายจะกลับหรือยัง”

               ลู่เฟยตอบ “อืม กำลังจะกลับพอดี เดี๋ยวฉันจะไปส่งนาย”

               ทศพูดสวนขึ้นมา “มันหน้าที่ของผมครับ”

               ท่านประธานพูด “นายก็ต้องไปกับฉัน”

               ทศรู้สึกแปลก ๆ  เหมือนเขากำลังจะติดกับของท่านประธาน แล้วท่านประธานก็ขอตัวออกจากกลุ่ม

            ลู่เฟยกระซิบถาม “นายจะทำอะไร”

               วันพูด “ฉันต้องรู้ความจริงบางอย่างว่าหมอนี้”

               ลู่เฟย งง เขาขมวดคิ้ว

               วันพูด “ไม่ต้อง งง ขนาดนายยังแกล้งเขาเรื่องแฟนคลับเลย”

ลู่เฟยยิ้ม “ฉันคิดว่าไม่ได้ผลวะ”

ทศเดินมาทันพอดี “พวกคุณคิดจะทำอะไรเหรอครับ”

ลู่เฟยพูด “หาวิธีให้นายลาออก”

ทศยิ้ม “คุณก็รู้ว่าผมชอบคุณชอบมาก ๆ ให้ตายผมก็ไม่ลาออกหรอก ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรแกล้งผมยังไง คุณยอมแพ้ซะเถอะ”เขายื่นหน้าเข้าใกล้ลู่เฟยด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น

ลู่เฟยพูด “นายอยู่ห่าง ๆ ฉันหน่อย”

วันมองหน้าทั้งสอง “จะเล่นอีกนานมั้ย”

ลู่เฟยพูด “ถามน้องนายเถอะ”

วันเดินไปที่รถ “ลุงอิ๋วครับ วันนี้ผมขับรถกลับเองนะครับ ลุงกลับกับจาง ผมบอกเขาไว้แล้ว”

“ครับ”

วันกับลู่เฟยนั่งด้านหน้า ส่วนทศนั่งด้านหลัง เข้ามองออกนอกหน้าต่าง ยามราตรีก็ไม่เหมือนกลางคืนที่นี่สว่างตลอดเวลา เขาคิด เขาออกจากที่นั้นมาได้เกือบเดือนแล้ว ช่างโชคดีจังที่ได้ออกจากที่นั้น วันเองก็มองเขาผ่านกระจกหลัง แล้วมองนาฬิกาหน้ารถ ตอนนี้  21.00 น.

ลู่เฟยถาม “นายจะไปไหนเหรอ”

วันพูด “ไปที่หนึ่ง ที่ที่ฉันกับครอบครัวเคยไปด้วยกัน”

ทศมองมาที่วัน ขับรถมาไม่กี่นาที เขาก็จอดรถ ทั้งสามลงจากรถ แม่น้ำกว้างใหญ่ สะพานทอดยาว แสงไฟหลากสี อากาศเย็นสะบาย ช่างเป็นบรรยากาศที่งดงามยิ่งนัก  วันเดินไปที่รั่วเหล็กกั้น ลู่เฟยกับทศก็เดินตามมา

วันพูด “ตั้งแต่แม่ฉันเสีย ฉันไม่เคยมาที่นี่อีกเลย วันนี้เป็นวันครบรอบ 5 ปีที่แม่จากไป ฉันพานายมาเพราะนายเป็นเพื่อนรักของฉัน และนายทศที่ฉันพานายมาแค่อยากบอกให้รู้ว่านายไม่ใช่คนในครอบครัวของฉัน นายคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวฉันเป็นแบบนี้”

ทศเงียบ

วันพูด “ฉันอยากรู้เรื่องของพ่อ ท่านทำอะไร อยู่ที่ไหน นายจะบอกฉันได้มั้ย”

ทศถอนหายใจ “ผมบอกคุณได้แค่ ดร.กรณ์ รักคุณมาก ในห้องทำงานเขา มีรูปคุณมากมายที่ถ่ายกับแม่ของคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณกับเขามีปัญหาอะไร”

วันยิ้ม “นายรู้มั้ย  ปีหนึ่ง ฉันเจอพ่อแค่ครั้งเดียว ท่านจะมาแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่ฉัน 10 ขวบ ท่านต้องไปทำงานบางอย่าง เมื่อแม่จากไป 5 ปี มานี้ ท่านมอบทุกอย่างให้ฉันดูแล แต่กลับไม่ได้อยู่กับฉัน นายอยู่กับพ่อฉันมากกว่าฉันเสียอีก ฉันอายุ 27 ปี ช่วงที่มีความสุขที่สุดคือช่วงวัยเด็ก ฉันมีครบทุกอย่าง แต่คนอย่างพวกนายพรากมันไปจากฉัน เวลาที่มีความสุขที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว”

ลู่เฟยเดินเข้ามาจับแขนวัน  “ฉันแค่อยากรู้ว่าพ่อฉันทำอะไรถึงยอมทิ้งทุกอย่าง ทิ้งฉันทิ้งแม่ทิ้งครอบครัวไป”

ทศพูด “ขอโทษครับ ผมไม่สามารถบอกคุณได้ ทุกอย่างที่คุณอยากรู้ ผมเองก็ไม่รู้ ผมเข้าที่นั้นได้อย่างไร และออกมาได้อย่างไรผมไม่รู้เลย”

วันพูด “คิดว่าฉันจะเชื่อนายเหรอ”

ทศพูดสีหน้าเขาจริงมาก “ผมพูดความจริง”

วันพูด “แล้วนายเป็นอะไร”

เขาเงียบ และคิด เจ้าเลห์ยิ่งนักพูดมาตั้งนานแค่อยากรู้เรื่องคืนนั้น แถมเอาลู่เฟยมาเพื่อกดดันเราอีก จะทำให้เราผิดสัญญาแล้วถูกส่งตัวกลับซินะ ทศยิ้ม

“ผมก็เป็นน้องบุญธรรมของคุณ และเป็นบริการ์ดของลู่เฟย คนที่ผมชอบมากที่สุด”

วันมีสีหน้าที่โกรธ “นี่นาย”

ทศพูด “ทุกอย่างที่คุณถามผม ผมไม่สามารถตอบคุณได้ คุณรู้อยู่ว่าผมต้องรักษาสัญญา ผมไม่ยอมหลงกลคุณเพื่อให้คุณส่งตัวผมกลับหรอกนะ คุณเองก็คงมีสัญญาเช่นกัน ระวังละอย่าผิดสัญญาเด็ดขาด”

วันมีสีหน้าที่โกรธมาก เขาเดินเข้าไปต่อยเขาทันที ทศปล่อยให้วันต่อยเขาไป 2 หมัด ลู่เฟยดึงวันไว้

ลู่เฟยพูด “นี่นายเป็นบริการ์ดฉัน แต่หลบหมัดของเขาไม่ได้ แล้วแบบนี้นายจะปกป้องฉันได้อย่างไร”

ทศพูด “ 2 หมัดนี้ผมคืนให้คุณที่ไม่สามารถตอบคุณได้” แล้วเขาก็เดินไปที่รถ

ลู่เฟยพูด “นายทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ”

วันพูด “เรากลับเถอะ ขอโทษที่ลากนายมายุ่งกับเรื่องบ้า ๆ นี้ แต่ฉันเสียบริษัทของแม่ไม่ได้จริง ๆ”

ลู่เฟยยิ้ม “ฉันรู้ว่านายรักบริษัทของแม่นายมาก และฉันเชื่อว่าพ่อนายก็รักบริษัทนี้มากเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้นายดูแลอย่างอิสระแบบนี้หรอก เพราะท่านรู้ว่าบริษัทนี้คือชีวิตนาย”

วันยิ้ม “กลับเถอะ เจ้าหมอนี้ฉลาด ฉันคงไม่ได้ความจริงจากเขา”

วันขับรถไปส่งลู่เฟยที่คอนโด เมื่อถึงคอนโดแฟนคลับต่างก็รอเขาอยู่ ลู่เฟยหันมายิ้มให้พวกเขาแล้วโบกมือ ก่อนจะเดินเข้าตึกไป โดยมีทศเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยใบหน้าที่มีรอยช่ำ เมื่อถึงหน้าห้อง

ลู่เฟยพูด “สิ่งที่วันพูดในวันนี้ มันคือความจริง ฉันว่าเขามีสิทธิ์ที่จะรับรู้มันบ้าง เขาจมอยู่กับความเจ็บปวดที่ไม่รู้อะไรเลยมานานมากแล้วอยู่ ๆ นายก็เข้ามาในชีวิตเขา มาพร้อมกับสิ่งแลกเปลี่ยนที่เขาอาจจะสูญเสียทุกอย่าง”

ทศพูด “เชื่อผมเถอะ ผมไม่ได้คิดที่จะทำร้ายครอบครัวของเขา ผมมาที่นี่เพราะคุณ ก็แค่นั้น”

แล้วเขาก็เดินจากไปทิ้งให้ลู่เฟยอึ่งกับคำพูดของเขา

วันนั่งรออยู่ในรถ เขาเดินขึ้นรถ เขานั่งด้านหน้ามาพร้อมกับวัน ตลอดทั้งทาง วันไม่พูดอะไรเลย จนถึงบ้าน เวลาใกล้เที่ยงคืนแล้ว ทศเดินกลับห้องไป วันเองก็เดินเข้าห้องของตนเอง

วันครุ่นคิด และยังรู้สึกโกรธ และเกลียดทศมาก แต่เขากลับคิดถึงเหตุการณ์คืนนั้นไม่ลืม  เขาเดินออกจากห้อง  มายังห้องของทศ เขาเปิดประตูเข้ามาดู ซึ่งตอนนั้นทศได้ทานยา เขานอนดิ้นอยู่บนเตียงอย่างเจ็บปวดและทรมาน วันยืนมอง ในใจเขาสับสน จะสงสารหรือเกลียดดี

จนเวลาผ่านไป ทศได้หลับไปทั้งอย่างนั้น วันเดินเข้าไปห่มผ้าให้

เขาพูด “นายติดค้างฉันอยู่” แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป

ทศลืมตาขึ้นเขาลุกนั่ง “ขอโทษ” แล้วเขาก็ถอนหายใจ

ก่อนจะหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา

ทำไมการมีชีวิตอยู่ไม่ง่ายเลยนะ  ผมจะตอบคำถามพี่วันอย่างไรในเมื่อผมเองก็ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ชีวิตที่ถูเลี้ยงดูด้วยยา หากขาดยาก็ตาย แบบนี้เขาเรียกว่าว่าชีวิตหรือไม่ เราเป็นคนทำให้ครอบครัวพี่วันเป็นแบบนี้จริง ๆ หรือ  ผมบอกความจริงพี่วันไม่ได้ เพราะการทำงานกับลู่เฟยคือสิ่งที่มีค่าที่สุด ผมไม่อยากสูญเสียมัน แม้จะเหนื่อย แม้จะถูกแกล้ง แต่ผมก็รู้สึกชอบลู่เฟยมากขึ้นทุกที หรือว่าผมจะรักเขาเข้าแล้ว คงจริงผมรักลู่เฟยเข้าแล้วจริง ๆ จากความรู้สึกชอบกลายเป็นรัก มันกลับทำให้ผมไม่อยากห่างเขาเลย ไม่อยากจากเขาไปไหน สิ่งที่พ่อเตือน สิ่งที่พ่อพูดมันทำให้ผมหวั่นใจ แต่ความรักทำให้ผมยิ้มได้แม้อยู่คนเดียว ผมจะใช้ชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้ให้คุ้มค่าที่สุด

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป