Your Wishlist

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาอ้วน (ตอนที่ 19-20 : ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้, เข้าสู่หุบเขาอีกครั้ง)

Author: mulan

เมียตัวอ้วนกลับมาแล้ววววว! AFTER TRANSMIGRATING, THE FAT WIFE MADE A COMEBACK! แผนการจับหลานเขยให้หลานสาวอ้วนดำของคุณปู่ไม้ใกล้ฝั่ง หลานสาวผู้ที่แม้แต่แม่สื่อก็ไม่รับหาคู่ให้ เธอผู้กลับชาติมาอยู่ในร่างสาวอ้วน ผิวคล้ำเขรอะ จะทำอย่างไรกับสามีสุดหล่อ และญาติที่หวังจะฮุบสมบัติ จะสำเร็จราบรื่นหรือไม่ ติดตามอ่านกันต่อได้เลยคร้าบบบบ

จำนวนตอน :

ตอนที่ 19-20 : ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้, เข้าสู่หุบเขาอีกครั้ง

  • 20/03/2566

ลูกสะใภ้คนโตของตระกูลเฉียวกล่าวว่า “ทำไมล่ะ? ด้วยรูปลักษณ์ที่ดำและอ้วนของเฉียวเหม่ย และความแข็งแกร่งของเธอ เธอจะตายก่อนลุงใหญ่ได้อย่างไร? ระหว่างเธอกับครอบครัวนั้น ใครจะไปรู้ล่ะว่าใครจะโชคร้าย! พอล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว” เธอพูดต่ออย่างมีความสุข “เฉียวเหม่ยคนนี้และครอบครัวนั้นเป็นเพียงคู่ที่สวรรค์สร้าง แท้จริงแล้วทุกสิ่งล้วนมีผู้ชนะ!”

 

แม่สามีใจร้ายและสามีทารุณ?

 

เฉียวซวงได้ยินทั้งหมด แต่เขาก็ยังลังเลและพูดว่า “พวกเขาไม่รังเกียจรูปร่างหน้าตาที่ดำและอ้วนของเฉียวเหม่ย?”

 

หวังฉิน ลูกสะใภ้คนที่สองคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยเสียงเบาว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเก็บมาใส่ใจ เมื่อเฉียวเหม่ยไปที่บ้านของพวกเขา พวกเขามีวิธีทำให้หล่อนผอมเอง ถ้าหล่อนไม่ทำงาน พวกเขาตีหล่อนได้ ถ้าไม่งั้น พวกเขาก็แค่ขายเธอ …”

 

เฉียเหม่ยอ้วนดำและอัปลักษณ์จะสำคัญอะไร? ยังไงก็แล้วแต่ เธอไม่เรียกร้องสินสอด ดังนั้นเธอจึงเป็นสินค้าให้ฟรี

 

เมื่อถึงเวลา พวกเขาแค่ต้องจัดการเฉียวเหม่ยให้เรียบร้อย ถ้าเขาสามารถใช้ประโยชน์หล่อนได้ เขาจะเก็บหล่อนไว้ ถ้าไม่ เขาขายหล่อนให้กับคนโฉดเขลาของครอบครัวอื่นแล้วเอาเงินนั้นไปหาภรรยาคนใหม่ นั่นจะไม่วิเศษเหรอ?

 

ใครจะปฏิเสธการจัดการที่ดีเช่นนี้?

 

เมื่อลูกสะใภ้คนโตและลูกสะใภ้คนที่สามได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของพวกเธอก็เบิกกว้าง ครอบครัวประเภทไหนกันที่คิดไอเดียแบบนี้ได้?

 

แต่เฉียวซวงมองไปที่หวังฉินเท่านั้น คนธรรมดาจะไม่สามารถเกิดความคิดนี้ได้ แต่หวังฉินทำได้!

 

การแสดงออกของหวังฉินไม่แยแส เธอเป็นคนเสนอแนวคิดนี้อย่างแท้จริง และครอบครัวก็เห็นด้วยกับมัน แต่มันสำคัญอย่างไร? มีปัญหาหรือไม่?

 

ในที่สุดเฉียวซวงก็พยักหน้าเห็นด้วย เขารู้ว่าหวังฉินเป็นคนเจ้าเล่ห์

 

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอไม่ต้องคิดกับเรื่องนี้อีกต่อไป ให้ชายคนนั้นหาแม่สื่อมาทาบทามขอแต่งงานในนามของเขา อย่าเปิดเผยว่าเรามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้” เฉียวซวงกล่าว “มันต้องรวดเร็ว ส่งคนไปวันมะรืน....หรือพรุ่งนี้เลย อย่างช้าที่สุด เราต้องให้เฉียวเหม่ยแต่งงานให้ได้ภายในครึ่งเดือนนี้”

 

ช้าไป ฤดูกาลก็ล่วงเลย การเก็บเกี่ยวในดดินแดนของเฉียวเฉียงก็จะน้อยลง

 

 

วันต่อมา เฉียวเหม่ยวิ่งขึ้นภูเขาอีกครั้ง คราวนี้เธอมาเก็บพลังงานบำรุงร่างกายและหาผัก เก็บผลไม้ไปไว้กิน

 

เธอกินกะหล่ำปลีและแครอททุกวันที่บ้าน การกินแต่ผักไม่ได้มีประโยชน์ต่อคุณปู่ในการฟื้นตัว และไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกๆที่เธออุ้มท้อง.…

 

เฉียวเหม่ยแตะท้องของเธอเบาๆด้วยสีหน้าอ่อนโยน

 

เธอเพิ่งเดินออกจากท้องทุ่งเมื่อเธอเลี้ยวตรงหัวมุมและพบกับเด็กผู้ชายอายุประมาณ 14 หรือ 15 ปี

 

เมื่อเด็กชายเห็นเฉียวเหม่ย เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหมุนตัวหลบไปอีกด้านหนึ่ง

 

จนกระทั่งเขาหมุนตัวกลับมา เฉียวเหม่ยไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังอุ้มลูกหมูตัวเล็กๆไว้ในอ้อมแขน

 

ตาของเฉียวเหม่ยเป็นประกายและเธอตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่น!”

 

เด็กชายตกใจและอยากจะวิ่งหนี

 

“นายกลัวอะไร? ฉันไม่ฉกลูกหมูของนายหรอก ฉันเคยฉกฉวยอะไรจากนายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

คำพูดเหล่านี้ทำให้เด็กหนุ่มหยุดอยู่กับที่ นั่นเป็นเรื่องจริง

 

แม้ว่าเฉียวเหม่ยจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนในหมู่บ้าน และเธอเป็นคนโลภและขี้เกียจ มีอารมณ์แปรปรวนและชอบใช้กำลังดุร้ายทุบตีผู้อื่น เขาไม่เคยได้ยินว่าเธอขโมยของของใคร

 

“ฉันแค่อยากจะถามว่านายซื้อลูกหมูตัวนี้มาจากไหน? ครอบครัวของฉันก็อยากซื้อเหมือนกัน” เฉียวเหม่ยพูดอย่างรวดเร็ว

 

เด็กชายถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่านั่นคือทั้งหมด

 

เฉียวเหม่ยมีชื่อเสียงในด้านความแรงของเธอในหมู่บ้าน เด็กที่ต่อสู้กับเธอไม่เคยคิดที่จะแก้แค้นเธอ คนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงเมื่อเห็นเธอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

 

“มีอีกสองตัวที่บ้านของลุงหวังอู่” เด็กชายกล่าว

 

ในช่วงเวลานี้ การติดต่อทางธุรกิจไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดเหมือนที่เคยเป็น ในชนบท ลูกหมูที่เกิดจากแม่หมูของชาวบ้านสามารถซื้อขายได้ตามต้องการ

 

“ขอบใจ”

 

เฉียวเหม่ยจากไปหลังจากพูดอย่างนั้น

 

เด็กชายมองเธอด้วยความประหลาดใจและยืนนิ่งกับพื้น

 

เกิดอะไรขึ้นวะ? เฉียวเหม่ยขอบคุณเขา ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกไหม?

 

เธอยังมีไม้ค้ำพร้อมตะกร้าแขวนอยู่ และดูเหมือนเธอกำลังขึ้นภูเขาไปทำงาน เธอเป็นคนประเภทที่จะไม่ใส่ใจอะไรแม้ว่าทุกอย่างจะพังทลายลง ไม่ใช่เหรอ?

 

จุ๊ จุ๊ จุ๊ พอได้เห็นแล้วถึงเชื่อ

 

เธอจึงไม่ใช่คนเกียจคร้านเลย

 

บทที่ 20: เข้าสู่หุบเขาอีกครั้ง

 

เฉียวเหม่ยอยู่แต่ในบ้านตลอด ไม่มีทางที่ปู่ของเธอจะว่าร้ายเธอ ดังนั้นข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับเธอจึงแพร่กระจายโดยครอบครัวเฉียวซวงตามสิ่งที่เฉียวอวี้บอกพวกเขา

 

เฉียวเหม่ยเดินขึ้นภูเขาต่อไป ตอนนี้เธอมีเหตุผลอื่นที่จะขึ้นไปบนภูเขาและนั่นคือการหาเงิน

 

ในฐานชาวบ้าน ครอบครัวของเธอจะไม่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรได้อย่างไร?

 

ไก่ออกไข่ทุกปีก็เพียงพอจะเป็นอาหารของครอบครัว

 

สำหรับหมูนั้น พวกมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชนบท ขายหมูก็ได้เงิน การเชือดหมูตัวหนึ่งก็เพียงพอให้ครอบครัวได้กินไปครึ่งปีแล้ว

 

ลูกหมูจะมีราคามากกว่าสิบเหรียญ

 

ไก่และเป็ดจะฟักออกจากไข่ที่บ้านเสมอ แต่เนื่องจากเธอไม่มีแม่ไก่ เธอต้องซื้อลูกไก่และลูกเป็ด

 

ตัวหนึ่งจะมีราคาประมาณสามสิบเซ็นต์ หากพวกเขาต้องการเลี้ยงมากกว่าสิบตัว มันจะเป็นต้นทุนประมาณสามเหรียญเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่สามเหรียญเลยในบ้านไม่มีซักเหรียญ เฉียวเหม่ยคิดขณะที่เธอคำนาณ

 

แม้ว่าปู่ของเธอจะเป็นคนดูแลครอบครัว เจ้าของร่างเดิมเอาแต่อยากกินนั่นนี่ทั้งวัน เขาจึงใช้เงินเดือนเกษียณที่มีหมดไปทุกเดือน พวกเขาจึงไม่มีเงินออมเลย

 

ถึงแม้ว่าปู่ของเธอยังมีเงินอยู่ก็ตาม เธอไม่ต้องการพึ่งพาเขา เธอต้องการพึ่งตัวเอง

 

ได้เงิน! มีเงินมากขึ้น!

 

เฉียวเหม่ยเดินไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นพร้อมกับแบกไม้ค้ำไว้บนไหล่ของเธอ ย่างก้าวของเธอรวดเร็วดังสายลม และเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น เธอชอบความรู้สึกของการทำงานหนักด้วยตัวเองนี้มาก

 

ขณะที่เธอไปถึงภูเขา คลื่นพลังงานก็พัดมาเหนือเธอ ทำให้ขนทุกเส้นบนตัวเธอลุกชัน

 

เฉียวเหม่ยไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป เพราะเธอกลัวว่าต้นไม้จะแลกเปลี่ยนพลังงานมากเกินไปและออกผลก่อนเวลา

 

เธอก้าวเข้าสู่เส้นทางเล็กๆ และมุ่งหน้าลึกเข้าไปบนภูเขา ซึ่งมีบริเวณบ่อน้ำพุร้อน

 

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ มันเป็นภูเขาที่ทอดยาวต่อเนื่องและลึกเข้าไปในภูเขาเป็นพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ

 

ทางตรงดูเหมือนจะไม่ไกล แต่เมื่อไปถึงบริเวณนั้น มันเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว

 

ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆ สระน้ำทุกขนาดก่อตัวเป็นสระน้ำขนาดใหญ่และบริเวณโดยรอบมีหมอกปกคลุมราวกับดินแดนในเทพนิยาย

 

เฉียวเหม่ยไม่กล้าเข้าไปใกล้เกินไป เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น แม้ว่าเธอจะว่ายน้ำเป็น เธอไม่รู่ว่าในร่างที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 200 ปอนด์นี้ เธอจะว่ายได้หรือไม่

 

อีกทั้ง เธอกำลังตั้งท้องลูก 2 คน จึงไม่กล้าเสี่ยง

 

เฉียวเหม่ยสังเกตสภาพแวดล้อมและพบว่าต้นไม้ที่นี่เขียวชอุ่มกว่าที่อื่นจริงๆ พืชน้ำโดยรอบเติบโตสูงครึ่งฟุต ดอกไม้เล็กๆที่อยู่รายรอบก็ผลิบานและผลิใบใหม่จากต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ

 

เธอเห็นต้นไม้ผลทันที

 

เฉียวเหม่ยเดินตรงไปยังสถานที่ค่อนข้างเขียวขจีซึ่งมีผักป่าทุกชนิดขึ้นอยู่ เธอใช้พลังงานจากจี้หยกเพื่อเร่งกระบวนการสุก เก็บเกี่ยว ทำให้สุกและเก็บเกี่ยวซ้ำๆ ในไม่ช้า เธอก็เก็บได้ครึ่งตระกร้า

 

เมื่อเธอทำเสร็จแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่ามีนกสองสามตัวร้องจิ๊บๆอยู่รอบตัวเธอ บริเวณรอบข้างเงียบงันไม่มีใครอยู่

 

มันเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสำหรับเกษตรกร ชาวบ้านต่างออกไปทำงานกันหมด ไม่มีใครมีเวลาขึ้นเขาเพื่อขุดหาผักป่าและแช่น้ำพุร้อน

 

เฉียวเหม่ยกังวลใจ เธอเดินไปที่พุ่มไม้หนาทึบและหมอบลงเพื่อให้ร่างกายของเธอซ่อนตัวข้างหญ้าเขียวชอุ่ม จากนั้นเธอก็กวาดวัชพืชบนผิวดินทิ้งไป เผยให้เห็นดินดำ

 

ในที่สุด เธอก็เพาะเมล็ดมันเทศ อย่างรวดเร็ว เมล็ดมันเทศกลายเป็นต้นกล้ามันเทศและเติบโตเต็มที่พร้อมฝังรากลงหัว

 

เท่านั้น เฉียวเหม่ยก็เก็บมันเทศได้มากกว่าสิบหัว แต่ละหัวมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งปอนด์

 

จากนั้นเธอก็เพาะเมล็ดฟักทองและเก็บเกี่ยวฟักทองลูกใหญ่สามลูกในไม่ช้า แต่ละลูกหนักกว่าสิบโล เต็มสองตระกร้าที่นำมา

 

เฉียวเหม่ยดึงวัชพืชมาคลุมตระกร้าสองสามชั้นให้แน่น

 

หลังจากนั้น เธอก็ยืนอยู่ข้างบ่อน้ำพุร้อน หยิบผ้าขนหนูที่เธอพกติดตัวออกมาเช็ดทั้งตัวหลายครั้ง

 

ในเวลาเพียงครึ่งวัน โคลนสีดำก็ผุดเป็นชั้นๆบนร่างกายของเธอ มันเหม็นมาก!

 

หลังจากทำความสะอาดแล้ว เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วแบกไม้หาบลงจากภูเขา

 

ที่ทางเข้าหมู่บ้าน เธอได้พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่กำลังรีบกลับบ้านหลังจากเสร็จงานในไร่ เมื่อพวกเขาเห็นเธอแบกตระกร้าสองใบ พวกเขาจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ

 

“เฉียวเหม่ย เธอไปไหนมา?” ผู้ใหญ่บ้าน จ้าวเหลียง อดไม่ได้ที่จะถามในที่สุด

 

“โอ้ ลุงจ้า” เฉียวเหม่ยยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “ครอบครัวของหนูวางแผนที่จะเลี้ยงลูกหมูตัวน้อยในฤดูใบไม้ผลินี้ใช่ไหม? หนูเลยตัดอาหารหมูเหล่านี้มาให้มัน ไม่งั้น มันจะไม่มีอะไรกิน”

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป