บทที่ 2
ตอน ผมรู้
เมื่อเวลาผ่านไป 4 วัน จากการเดินทางศาสตราจารย์ได้ถูกส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย ศาสตราจารย์เดินลงจากรถด้วยความอ่อนเพลีย
คนขับรถพูดขึ้น “พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณไปพบกับนายจ้าง”
ศาสตราจารย์ยืนมองเขา “ถามจริง ๆ เถอะ คุณขับรถมา 4 วันไม่เหนื่อยหรือครับ คุณไม่หยุดพักที่ไหนเลย นอกจากซื้อของกินให้ผม”
เขามองหน้าศาสตราจารย์แต่ไม่พูดอะไรแล้วขับออกไปทันที แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายคือลูกชายของคิม คิมรับโทรศัพท์ คุยกับลูก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ถือเอกสาร อีกมือก็ไขประตูบ้าน หัวไหล่ก็หนีบโทรศัพท์คุยกับลูกอยู่ แล้วทันใดนั้นก็มีชายสวมเสื้อคลุม ปกปิดตนเอง เดินมาจับกุญแจไขประตู ศาสตราจารย์ไม่ทันได้หันมองโทรศัพท์ก็ตกกระแทกพื้น เขาถูกดันเข้าบ้านไปทันที
เสียงตกใจของศาสตราจารย์ “คุณเป็นใคร”
เจมส์ถอดเสื้อคลุมออก “เบา ๆ หน่อยศาสตราจารย์”
เขาตกใจมากที่เห็นเจมส์ในสภาพที่โทรมมาก “เกิดอะไรขึ้นกับนาย” เจมส์หยิบโทรศัพท์แล้วรีบปิดประตู เขายื่นโทรศัพท์ให้ศาสตราจารย์ เสียงปลายทางถามด้วยความตกใจ “พ่อเกิดอะไร ขึ้น”
ศาสตราจารย์ได้สติ “ไม่มีอะไรลูก เดียวพ่อโทรกลับนะ”
เขาหันมาทางเจมส์ ค่อย ๆ พยุงเจมส์มานั่งตามตัวเขามีแต่รอยแผลเต็มไปหมด “เกิดอะไรขึ้นกับนาย”
เจมส์นั่งลงมองไปรอบ ๆ บ้านของคิม “บ้านของศาสตราจารย์ไม่มีฝุ่นเลยนะครับ” เขาดูกกระวนกระวายอย่างมาก
ศาสตราจารย์พูด “จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันเสาร์นะ ว่าแต่นายคงไม่ได้มาหาฉันเพียงแค่จะพูดเรื่องบ้านฉันหรอกนะ”
เจมส์พยักหน้า เขาร้องไห้ คิมตกใจที่เห็นเจมส์เริ่มตัวสั่น ปากก็เล่าทุกอย่างให้ศาสตราจารย์ฟังด้วยเสียงสั่นเครือ “ทุกคนตายหมดเลยครับ ผมช่วยพวกเขาไม่ได้ กว่าผมจะรอดจากที่นั่นมาได้ ทั้งหนาวทั้งเจ็บ โชคดีที่มีชาวบ้านผ่านถนนสายนั้นจึงช่วยผมออกมาจากรถที่ถูกคลุมด้วยหิมะออกมาได้” ศาสตราจารย์เมื่อได้ฟังเรื่องที่เจมส์เล่าสีหน้าเขาตกใจสุดขีด จะไม่เชื่อคงไม่ได้เพราะดูจากสภาพของเจมส์เหมือนคนหนีตายมา
เจมส์ยังคงพูดต่อ “เราต้องหนี เราต้องหนีนะศาสตราจารย์ถ้าพวกมันรู้ว่าผมรอด มันต้องตามล่าผมแน่”
ศาสตราจารย์พูด “ถ้าเราหนีตอนนี้พวกเขาต้องสงสัย”
เจมส์พูด “แต่..”
ศาสตราจารย์ตั้งสติตัวเอง “เจมส์นายหลบอยู่ที่นี่ก่อนห้ามออกไปไหน พรุ่งนี้พวกเขาจะมารับผมไปหาคนที่ว่าจ้าง ถ้าพวกเขามาไม่เจอผม ผมกลัวครอบครัวผมจะเดือดร้อน”
เจมส์ร้องไห้ “ผมไม่อยากให้คุณไป” เขาจับแขนศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์มองมือของเจมส์ที่สั่นด้วยความกลัว เขาคว้าร่างเล็ก ๆ ของเจมส์มากอด เป็นครั้งแรกที่เจมส์ถูกปฏิบัติแบบนี้ เขาตกใจ
ศาสตราจารย์พูด “ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องลำบาก และต้องตาย โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร ขอโทษ..ผมเกือบเสียคุณไปแล้ว... ถ้าทีมงานของผมตายหมดต้องมีคนชดใช้” เขาน้ำตาไหล เจมส์ร้องไห้หนักมากในอ้อมกอดของเขา
เช้าวันใหม่ เจมส์นอนหลับบนเตียงของศาสตราจารย์ เขารู้สึกตัวขึ้นมา ไม่เห็นศาสตราจารย์ในห้อง เขาลุกจากเตียงเดินออกจากห้อง มุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน
“ศาสตราจารย์คุณไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ”
ศาสตราจารย์ตอบด้วยสีหน้ากังวล “ผมทำธุระอยู่ วันนี้ผมคิดว่าผมคงไม่ได้กลับมา สิ่งที่คุณควรทำแกะจดหมายฉบับนี้หลังจากผมออกจากบ้าน แล้วนำกระเป๋าใบนี้ไปให้ลูกชายผม สถานที่ ที่เขาอยู่ในจดหมายแล้ว” เจมส์ได้แต่ยืนนิ่งรับคำสั่งของเขา
ศาสตราจารย์ยังคงพูดต่อ “เมื่อคุณนำของให้ลูกผมแล้ว ผมอยากให้คุณหนีไป ในนี้มีเงินและหนังสือเดินทาง ให้เขาอ่านจดหมาย ในจดหมายจะบอกว่าพวกคุณต้องไปที่ใด”
เจมส์ร้องไห้ “แต่ผม..ผมอยากไปกับคุณ เราหนีไปด้วยกันเถอะครับ”
ศาสตราจารย์ยิ้ม “ไม่ได้ อย่างน้อยผมก็ถ่วงเวลาให้คุณกับลูกได้”
เจมส์ส่ายหน้า “ไม่...ผมไม่....”
ทันใดนั้นเองศาสตราจารย์คว้าร่างของเจมส์เข้ามากอดอีกครั้ง เขาจุมพิสที่ริมฝีปากเล็ก ๆ ของเจมส์ ที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เจมส์ตกใจหัวใจเขาเต้นแรง สิ่งที่เขาอยากทำมาตลอดที่ทำงานกับศาสตราจารย์เหมือนมันกำลังตอบสนองความรู้สึก มันแสนมีความสุข เจมส์จูบกลับอย่างไม่รีรอ ทุกอย่างดูเงียบสนิทมีแต่เสียงลมหายใจของพวกเขาที่กำลังดูดดื่มกับรสชาติหอมหวานของริมฝีปากซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ศาสตราจารย์หยุด พวกเขาทั้งสองรู้ดีว่านั้นคือเสียงที่จะนำพาศาสตราจารย์ไปยังที่อันตรายที่สุด
ศาสตราจารย์ยิ้ม “ผมคิดอย่างไรกับคุณ คุณคงรู้แล้ว” เจมส์มองหน้าเขา “เสียดายที่เราปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ค่า” เมื่อเจมส์ทำท่าทางจะพูด แต่ศาสตราจารย์ใช้นิ้วเรียวสวยแตะที่ปากเจมส์เพื่อส่งสัญญาณไม่ให้พูด เขาโน้มหน้ามาใกล้หูของเจมส์ “และผมรู้ว่าคุณคิดอย่างไรกับผม ครั้งหน้าถ้าเจอกันอีก ผมจะไม่แค่จูบนะ”
แล้วเสียงเคาะครั้งที่สองก็ดังขึ้น ศาสตราจารย์หยิบเอกสารทั้งหมดขึ้นมา
ก่อนที่เขาจะเดินออกห่างกายเจมส์ เขาได้ถูกมือเล็กของเจมส์ดึงแขนไว้ “ครั้งหน้าผมจะไม่เรียกคุณว่าศาสตราจารย์อีกนะครับ”
ศาสตราจารย์หันมายิ้ม แล้วเสียงเคาะครั้งที่สามก็ดังขึ้นกว่าเดิม เป็นจังหวะที่ศาสตราจารย์ เปิดประตูออกไปพอดี “พวกคุณจะไม่ให้ผมพักหรือไง มาตั้งแต่เช้าเชียว”
ชายคนเดิมที่มาส่งครั้งแรกพูดขึ้น “ขอโทษครับ ไม่คิดว่าคุณจะตื่นสาย เชิญครับ” เมื่อเสียงรถออกไป
เจมส์ก็ได้เปิดจดหมายอ่านทันที เมื่อเขาอ่านจดหมายจบ เขาจัดการนำของที่จำเป็นหลบลงไปยังชั้นใต้ดินที่ศาสตราจารย์ได้บอกไว้ แค่เพียงไม่กี่นาทีที่ศาสตราจารย์ออกไป ก็ได้มีกลุ่มคนพังประตูเข้ามา ซึ่งตอนนั้นเจมส์ได้หลบอยู่ในห้องลับใต้โต๊ะทำงานของเขา ซึ่งเจมส์สามารถลอดผ่านทะลุออกจากบ้านไปยังสวนสาธารณะจากบ้านประมาณ 1 กิโล ในใจเขาทั้งกลัวและเป็นห่วงศาสตราจารย์มาก แวบหนึ่งที่ทำให้ใจเขามีความสุข มันชั่งแสนสั้นนัก เขาได้แต่นึกถึงจูบนั้นไม่ลืมเลย แต่ก็แปลกใจทำไมถึงมีทางหนีแบบนี้ใต้บ้านนะ
“คุณคาดการณ์ได้เก่งจริง ๆ แต่ทำไมพวกนั้นถึงต้องค้นบ้านด้วยละ” เขามีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวตัวเองแต่ก็ไร้คำตอบ เขานึกได้ถึงกระเป๋าที่เขาสะพานอยู่ ในนี้มีอะไรนะ ถึงอย่างไรต้องทำให้สำเร็จ
“ไม่ต้องห่วงศาสตราจารย์ผมจะทำให้ได้ แล้วเราจะได้เจอกันอีก”
สุดทางมีพุ่มไม้หนาสูง เสียงผู้คนมากมายที่นั่งเล่น ออกกำลังกาย หรือมาร่วมทำกิจกรรมต่างในสวนสาธารณะ เจมส์ค่อย ๆ เดินออกมาเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของใคร ๆ สิ่งแรกที่เขาคิดได้ในตอนนี้คือ เขาต้องจัดการกับตัวเอง เปลี่ยนตัวเองทันที เขาเข้าร้านเสริมสวย เช่าชุดผู้หญิง ให้พนักงานแต่งตัวเขาเป็นหญิง “เราต้องบ้าแน่ ๆ” พนักงานต่างพากันชื่นชมเขา เป็นชายที่แต่งหญิงได้สวยงามมาก ๆ เลยค่ะ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน