ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
ตอนที่สิตาได้พบหน้า ทอง แม่ของเทพไทป็นครั้งแรกที่ร้านอาหาร แทนที่ทองจะเอ่ยทักทายเธอดี ๆ วางตัวเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือกลับพูดถ้อยคำบาดหูมาประโยคหนึ่งว่า…
“ใครจะมาเป็นสะใภ้ของตระกูลนี้ต้องดูให้ดีเสียก่อนว่ามีหน้ามีตามีฐานะทางสังคมสูงส่งเหมาะสมคู่ควรกันรึเปล่า ?” เมื่อกล่าวจบหญิงสูงวัยก็กวาดสายตามองสิตาตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้นสิตาจะไม่พอใจแต่ก็ตีหน้านิ่งถามว่าที่แม่สามีในขณะนั้นกลับไปว่า…
“ไม่ทราบว่า… ตระกูลของคุณป้าสืบเชื้อสายมาจากพระยาหรือเป็นผู้ดีเก่าเหรอคะ? ถึงต้องเลือกต้องดูสะใภ้ให้ดี ๆ คุณตาคุณยายของไททำอาชีพอะไรหรือคะ ? แล้วปัจจุบันคุณป้าประกอบอาชีพอะไรคะ ?”
เมื่อเห็นทองนั่งนิ่งทำหน้าเหวอ สิตาจึงหันไปถามว่าที่สามีแทน…
“ว่าไงล่ะ ไท ตกลงคุณแม่ของเธอทำอาชีพอะไร ? เป็นเจ้าของร้านทอง เจ้าของร้านเพชร เศรษฐีนีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือเป็นกุลสตรีที่ได้รับการอบรมมาจากในรั้วในวังกันล่ะ ?”
คำถามของสิตาทำให้ว่าที่แม่สามีจากนั่งนิ่ง ๆ กลายเป็นนั่งทำหน้าตึงบูดบึ้งไปในทันที…
“เอ่อ… แม่ไทขายลูกชิ้นทอด เข็นรถไปขายที่ตลาดแถวบ้านทุกวันน่ะ” เทพไทตอบแบบอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ไม่เต็มเสียง รู้สึกอับอายเล็กน้อยกับคำพูดและการกระทำของมารดา
“อ้อ! พอดีพ่อแม่หนูก็ค้าขายเหมือนกันแต่อาจจะดีกว่าคุณป้านิดหน่อยตรงที่มีหน้าร้านเป็นของตนเอง ไม่ทราบว่าคุณป้าอยากได้ลูกสะใภ้ระดับไหนเหรอคะ ? ระดับลูกเจ้าสัว ดาราฮอลลีวูด หรือ ระดับซุปเปอร์สตาร์ที่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ?” สิตาจ้องหน้าว่าที่แม่สามีแล้วถามออกไปตรง ๆ ร้ายมาก็ร้ายกลับไม่โกง!
“คุณปู่ของไทเขาเป็นพระยา!” ว่าที่แม่สามีตวัดเสียงเปลี่ยนเป็นนั่งไขว่ห้างวางมาดราวกับสตรีชั้นสูงเชิดหน้าชูคออย่างไม่ยอมแพ้
“อ๋อ…ค่ะ สืบเชื้อสายจากพระยา ไม่ทราบว่าเป็นตระกูล ณ อะไรคะ ? ณ กรุงเทพมหานคร รึเปล่า ? เพราะเท่าที่รู้มานามสกุลของไทก็ไม่ได้เป็นนามสกุลพระราชทานนี่คะ เอ… ตกลงไทกับคุณปู่ไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกันเหรอคะ ? แล้วพ่อของไทล่ะคะ ? เป็นพระยาเหมือนกันรึเปล่า ? ถ้าพ่อไทเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็เผื่อว่าหนูจะเคยได้ยินชื่อของท่านมาบ้างน่ะค่ะ” สิตาแกล้งตีหน้าซื่อรัวคำถามออกมาเป็นชุด
หญิงสูงวัยทำหน้าเลิ่กลั่กทันที ครั้นเห็นสีหน้าของว่าที่สามีเริ่มบึ้งตึง สิตาจึงหันไปขยี้ถามเทพไทต่อ…
“ตกลงว่าอย่างไรคะ ไท ปู่ที่เป็นพระยาสืบเชื้อสายเก่าแก่มาจากตระกูลไหนเหรอ ? เผื่อสิจะได้ไปลองหาความรู้อ่านเพิ่มเติมดูบ้างเป็นการเปิดโลกทัศน์…”
“ไม่ได้สืบเชื้อสายเก่าแก่มาจากตระกูลไหนทั้งนั้นล่ะ อย่าไปสนใจคำพูดของแม่ไทเลย ชอบพูดไปเรื่อย!” เทพไทกระแทกเสียงใส่แม่ของตนเองต่อหน้าคนรักอย่างไม่พอใจ
“ถ้าแม่ไทอยากได้ลูกสะใภ้ไฮโซหรือสะใภ้หมื่นล้าน ไทยังสามารถเปลี่ยนใจได้นะ เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานกัน พวกเรายังมีสิทธิ์เลือก จะได้สมหน้าสมตาแม่ค้าขายลูกชิ้นทอดรถเข็นอย่างแม่ไทไง! เอาเป็นว่า… ไทไปลองคิดดูใหม่ก็แล้วกันนะเรื่องการแต่งงานของเรา อย่าพึ่งตัดโอกาสของแม่ตัวเองที่จะได้สะใภ้ในแบบที่ต้องการ เอาเป็นว่าวันนี้สิขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน สวัสดีค่ะคุณป้า!” สิตายกมือไหว้ลาอย่างมีมารยาทแล้วเดินจากมาทันที
พบกันครั้งแรกว่าที่แม่สามียังเจ้ายศเจ้าอย่างทำตัวหัวสูงขนาดนี้ ถ้าได้มาอยู่ร่วมบ้านกันสิตาคงไม่ต้องแทบหมอบกราบคลานเข่าเข้าหาเลยหรือ ? เธอยอมเสียหน้ายกเลิกงานแต่งยอมอับอายดีกว่าต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
“สิแต่งงานกับไทเหอะนะ อย่าไปสนใจแม่ไทเลย คนแต่งงานกับสิคือไทไม่ใช่แม่ของไทเสียหน่อย” เทพไทโทรมางอนง้อให้สิตาใจอ่อน
“นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งนะ แม่ไทยังแผลงฤทธิ์ขนาดนี้ แล้วไทก็เป็นลูกชายคนเดียว อย่างไรวันหน้าก็ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกันอยู่แล้ว สิไม่คิดว่าครอบครัวของเราจะหาความสุขได้นะ ถ้ามันเป็นแบบนี้ ไทไปหาผู้หญิงคนใหม่ให้ถูกใจแม่ของไทเหอะ สิเองก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกอย่างไรก็หาแฟนใหม่ได้ไม่ยาก!” สิตาเสียงแข็งบอกออกไปตรง ๆ
“ไม่เอาอ่ะ ไทอยากได้สิมาเป็นแม่ของลูก ถ้าไม่ใช่สิก็จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น!” เทพไทพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
จะเพราะด้วยเคยมีเวรกรรมต่อกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนหรือเพราะเหตุผลกลใดไม่ทราบ… ในที่สุดสิตาก็ยอมใจอ่อนหลังจากถูกเทพไทตามตื้ออยู่นานถึงสามปี
ชีวิตคู่ของสิตาและเทพไทจึงมีแม่สามีอย่างทองคอยเข้ามาเป็นบททดสอบของชีวิตคู่อยู่เสมอ…
“วันนี้ไทเป็นอย่างไรบ้าง ?” แม่สามีส่งเสียงวางอำนาจผ่านมาทางสายโทรศัพท์ คำว่าเป็นอย่างไรบ้างของทองก็คือสิตาต้องคอยรายงานว่าลูกชายสุดที่รักทำอะไรในแต่ละวันบ้าง
“ก็ไปทำงาน เล่นพนันบอล กินเหล้า ตามปกติ!” สิตาตอบสั้น ๆ ตัดความรำคาญ
หลังจากแม่สามีได้รับคำตอบก็วางสายไป เพียงชั่วครู่เธอก็โทรกลับมาหาสิตาอีกครั้ง…
“เธอนี่มันเป็นคนตอแหลจริง ๆ เลยนะสิตา! ฉันโทรไปถามไทแล้ว… ไทเขาไม่เคยเล่นพนันบอลสักหน่อย มาใส่ร้ายลูกชายของฉันได้อย่างไรว่าติดการพนัน แล้วเหล้าเขาก็ไม่ได้กิน เธอเป็นเมียประสาอะไรถึงได้ใส่ร้ายป้ายสีผัวตัวเอง เลวที่สุด!” ทองผู้เป็นแม่สามีรัวใส่ลูกสะใภ้เป็นชุด ส่วนหนึ่งก็เพราะเกลียดชังหญิงสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“ถ้าแม่ไม่เชื่อคำพูดของสิแล้วจะโทรมาถามทำห่าอะไรคะ ทำไมไม่โทรไปหาลูกชายของตัวเองเสียตั้งแต่ทีแรกล่ะ หากแม่แน่จริงก็ให้ไทสาบานสิว่าไม่ได้กินเหล้าไม่ได้เล่นพนันบอล ถ้าหากว่าไททำก็ขอให้แม่ทองตายห่าตายโหงภายใน 3 วัน 7 วัน แม่กล้ารึเปล่าล่ะ ? อ๋อ… หรือว่าแค่ต้องการหาเรื่องยุแยงให้สิกับไทมีปัญหาทะเลาะกันน่ะสิ! จะได้เลิกกันสมใจแม่ ใครกันแน่ที่เป็นคนตอแหล… ถามตัวเองดูก่อนไหม ?” เมื่อพูดจบสิตาก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งด้วยความโมโหทันที นี่ขนาดแม่สามีอย่างทองยังอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้มาอยู่ร่วมบ้านกันนะ ยังปากยื่นปากยาวยุแยงปั่นป่วนได้ขนาดนี้
สักพักพอเทพไทเลิกกินเหล้าจึงเดินเข้าบ้านมาด่าสิตา หาว่าเธอโทรไปฟ้องแม่เรื่องที่เขากินเหล้าและเล่นพนันบอล สองผัวเมียก็เลยทะเลาะกันยกใหญ่โดยมีแม่สามีอย่างทองเป็นชนวนเหตุ ชีวิตคู่ของสิตาลุ่ม ๆ ดอน ๆ แบบนี้เรื่อยมา แต่เธอก็พยายามอดทนประคับประคองมาได้จนเกือบยี่สิบปี