ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน!!! เพราะการแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของความรัก ღ
เมื่อเป็นเมียที่ดีแล้วชีวิตคู่มันอยู่กันไม่ยืด จารีย์ก็ขอเลือกทำตัวเป็น ‘กะหรี่’ เหมือนเดิมแล้วกัน อย่างน้อยยังมีรายได้จากชายมากหน้าหลายตามาเลี้ยงลูกเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง
ตอนแรกจารีย์ตั้งใจจะ ‘จับ’ ตาแก่เจ้าของโรงผักปลอดสารพิษที่มีฐานะร่ำรวยมากและมีญาติสนิทเป็นถึงเจ้าสัวดังระดับประเทศ อุตส่าห์เฝ้าเพียรไปยกมือไหว้ทักทายให้ท่าสารพัดแบบเช้าถึงเย็นถึงแต่ตาแก่นั่นดันไม่โง่และไม่เคยชายตาแลเธอ แถมเห็นหน้ากันทีไรเขาก็เดินหนีทำหน้ารังเกียจราวกับเห็นกิ้งกือไส้เดือนอีกต่างหาก แต่จารีย์หาได้แคร์ไม่… หากหน้าไม่หนาราวกับพื้นซีเมนต์มีหรือจะกล้ามายึดอาชีพค้าขายที่นาพื้นน้อย ลองได้มาร่วมหลับนอนกับเธอดูเสียก่อนเถิด ร้อยทั้งร้อยรับรองไม่รอด! หลงใหลติดใจในลีลาท่าเด็ดของเธอทุกรายนั่นล่ะ!
แล้ววันหนึ่งผู้ชายที่จารีย์เคยเกลียดขี้หน้าหนักหนาอย่าง ‘เทพไท’ ก็โคจรมาพบกันในวงเหล้า เธอเลยแกล้งอ่อยเพราะอยากรู้ว่า… ถ้าเขาเห็นเธอแก้ผ้าแล้วจะเอาไม่ลงอย่างที่เคยปากดีเที่ยวไปพูดลับหลังบอกใครต่อใครจริง ๆ รึเปล่า ? ผลปรากฏว่า… เพียงแค่เธอแสร้งนัวเนียเอาของสงวนไปเสียดสีเขาก็มีอารมณ์จนท่อนลำตื่นตัวขึ้นมาทันที สุดท้ายทั้งคู่จึงไปลงเอยกันที่โรงแรมและพบว่าต่างคนต่างติดใจในรสสวาทของกันและกัน เทพไทหลงใหลเธอมากถึงขนาดปรนเปรอแก้วแหวนเงินทองเอาอกเอาใจสารพัด ไม่ว่าเธออยากได้อะไรเขาเป็นต้องสรรหามาประเคนให้ ไม่ว่าจะยุแยงอะไรหรือใช้ให้ไปด่าใครเทพไทก็เชื่อฟังเธอทุกอย่าง เจอบ่อเงินบ่อทองให้สูบแบบนี้ ใครเล่าจะโง่ปล่อยให้หลุดมือไป ตรงกันข้าม! หากแย่งชิงมาเป็นของตนเองได้ก็ยิ่งต้องทำเพราะตอนนี้เธอเองก็มีอายุหลัก 4 ปลาย ๆ แล้ว คงจะใช้ความสวยหาเงินได้อีกไม่นาน ในเมื่อมีไอ้หน้าโง่ที่อายุน้อยกว่าหลุดมาให้เธอได้สนตะพายแบบชี้ซ้ายหันซ้ายชี้ขวาหันขวาแบบนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร…
…
“พี่สิตาเชื่อหนูสิ! ว่าผัวพี่น่ะมีชู้ เขานอกใจพี่มาตั้งหลายปีแล้ว” นภัสพยายามบอกความจริงแก่พี่สาวที่เธอนับถือ เพราะสงสารหลานที่เป็นเด็กพิเศษ ไม่รู้ว่าวันไหนเทพไทจะเขี่ยสิตาทิ้งแบบปุบปับ เธออยากให้พี่สาวคนนี้ได้มีโอกาสเตรียมตัวเตรียมใจเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ
“พี่เคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกัน เวลาไทเมาเหล้าพอกลับเข้าบ้านมักหาเรื่องทะเลาะกับพี่ สารพัดคำจะด่าแบบไม่มีเหตุผลแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ นึกอยากด่าก็ด่า บางทีหาเรื่องตีลูกหนักสุดถึงขั้นวิ่งเอามีดไล่แทงลูกเลยก็มี… สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการไล่พี่กับลูกออกจากบ้านทุกครั้ง พอตอนเช้าตื่นมาหายเมา พี่ถามมันดี ๆ มันก็ไม่ยอมรับว่ามีคนอื่น ภัสพอจะมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายหรือคลิปวีดีโอมาให้พี่ดูบ้างไหม?” สิตาไม่ปฏิเสธข้อครหาของนภัสเพราะเธอเองก็พอจะมีเซนส์ของเมียหลวง แต่เทพไทเป็นคนที่ปากแข็งมาก หากไม่มีหลักฐานแบบชี้ชัดหรือจับได้แบบคาหนังคาเขา สามีของเธอไม่มีทางยอมรับผิดอย่างแน่นอน
“หนูจะไปเอาคลิปกับรูปถ่ายมาจากไหนล่ะพี่ นี่หนูเค้นข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เลยนะ จิ้งจกทักก่อนก้าวเท้าออกจากบ้านคนยังต้องฟัง หนูตัวใหญ่กว่าจิ้งจกตั้งเยอะ พี่สิตาไม่นึกเฉลียวใจบ้างเลยเหรอ ว่าง ๆ พี่ก็ลองเล่นบทนักสืบดูซักตั้งเถอะ!” นภัสส่งเสียงอย่างรู้สึกขัดใจในความใจเย็นของสิตา
“เอาไว้พี่จะลองตรวจสอบดูล่ะกัน ขอบใจภัสมากนะที่โทรมาเตือน” สิตาสรุปสั้น ๆ ก่อนวางสาย
เมื่อจับตาดูสิตาพบว่าเทพไทมีบางสิ่งแปลกไปจริง ๆ เขามักมีงานพิเศษไกลบ้านแบบจำเป็นต้องไปทำค้างคืนแถมพอกลับเข้าบ้านก็ไม่ได้เงินมาเลยสักบาท ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขามักได้ค่าตอบแทนครั้งละหมื่นครึ่งหมื่นเป็นอย่างน้อย
แถมหลัง ๆ เขามักอ้างว่าเงินไม่พอใช้ จึงพาลไม่ให้เงินเดือนเธออีกต่างหาก เธอต้องอาศัยใช้เงินจากบุญเก่าที่เคยค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้จ่ายส่วนตัวเนิ่นนานนับปี
“พิชา หนูรู้ไหมว่าป้าจาก็เป็นเมียของพ่อไทเหมือนกันนะ” จารีย์ทำทีเข้ามาจีบปากจีบคอทักทายบุตรสาวของสิตาวัยสิบสองขวบ ขณะที่สองแม่ลูกกำลังจะเดินออกหน้าปากซอยเพื่อไปตลาดนัดแถวบ้าน
“พี่จาพูดจริงรึเปล่าเนี่ยะ!” สิตามองหน้าจารีย์เพื่อนบ้านในซอยเดียวกันอย่างตกตะลึง เธอนึกสะกิดใจตั้งแต่จารีย์มาขอแอดไลน์เธอทั้ง ๆ ที่แทบไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน แต่สุดท้ายเธอเลือกปล่อยวางความสงสัยเพราะว่าเมื่อหลายปีก่อนตอนจารีย์ย้ายเข้ามาอยู่ในซอยนี้ใหม่ ๆ เธอมักทะเลาะตบตีกับสามีของตัวเองอยู่เสมอ แถมยังด่าทอสามีทั้งเช้าทั้งเย็น จนกิตติศัพท์ร่ำลือไปทั่วทั้งซอย วันหนึ่งเทพไทอดรนทนไม่ไหวเพราะรำคาญเสียงด่าจึงเอ่ยปากกับเธอว่า…..
“เกลียดมากเลยอีผู้หญิงปากคอเราะร้ายแบบนี้ เห็นหน้ามันทีไรก็อยากจะอ้วก เกลียดมันอย่างกับขี้!”
พอวันนี้จารีย์ทำทีเหมือนมาประกาศตัว สิตาได้แต่แอบภาวนาในใจหวังว่าเทพไทจะไม่กินขี้ไม่กลืนน้ำลายตัวเองไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงประเภทนี้
“อ๋อ… พี่พูดเล่นน่ะ แหย่พิชาเล่นเฉย ๆ”
คำตอบกลั้วเสียงหัวเราะอันแสนบาดหูของจารีย์ทำให้สิตาตื่นจากภวังค์ จารีย์แก่กว่าสิตา 3 ปี เป็นไปได้ไหมที่เทพไทจะไปคลุกวงในกับผู้หญิงวัยใกล้ 50 ที่แก่กว่าสามีของเธอถึง 6 ปี สิตาเริ่มตั้งคำถามในใจ
“วันหลังพี่จาอย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีกนะ มันไม่ดีหรอก พี่มีลูก หนูก็มีลูก หนูเชื่อว่าแม่ที่ดีคงไม่มาเป็นชู้กับผัวคนอื่นให้ลูกสาวของตัวเองต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรืออับอายขายขี้หน้าเพราะถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลน แล้วยิ่งอยู่ซอยเดียวกันด้วย ลูกสาวของพี่จะมองหน้าคนทั้งซอยได้อย่างไรล่ะ ? จริงไหม ?” สิตามองหน้าจารีย์ก่อนพูดแบบซื่อ ๆ ทำเอาจารีย์ถึงกับสะอึกหน้าม้านไป
“พี่รักลูกจะตาย… พี่ไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นหรอก พี่ไปก่อนนะ” จารีย์ออกตัวเสียงสูงรีบบอกลาสองแม่ลูกในทันที
“แม่คะ ป้าจารีย์พูดแบบนี้เขาหมายความว่าอย่างไรเหรอคะ ?” เพราะพิชาเป็นเด็กพิเศษมีอาการทางสมองจึงทำให้ประมวลผลได้ช้าเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ซับซ้อนเด็กหญิงจึงไม่สามารถตีความได้
“ถ้าหากคำพูดที่ป้าจารีย์บอกกับหนูเป็นความจริง แสดงว่าเขาเป็นชู้ของพ่อไทค่ะ” สิตาเลือกที่จะพูดความจริงกับลูกอย่างตรงไปตรงมาไม่คิดปิดบัง
“หากป้าจารีย์กับพ่อไทเป็นชู้กัน ก็แสดงว่าป้าจารีย์กับพ่อไทผิดศีลข้อสามใช่ไหมคะแม่ ?” เด็กหญิงเคยเรียนวิชาพุทธศาสนาที่โรงเรียน คุณครูเคยสอนว่าเป็นคนดีต้องมีศีลห้า
“ใช่ค่ะลูกรัก”
“แล้วทำไมย่าทองถึงไม่สอนพ่อไทล่ะคะว่าการมีชู้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี มันผิดศีลข้อสามพอตายไปก็ต้องตกนรกปีนป่ายต้นงิ้ว ?”
“ย่าทองเขาสอนพ่อไทไม่ได้หรอกค่ะ เพราะตัวของย่าทองเองก็ผิดศีลข้อสาม บางที… ย่าทองอาจจะอยากให้ลูกชายไปปีนป่ายต้นงิ้วในนรกเป็นเพื่อนกันก็ได้นะคะ” สิตาตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะนึกในใจแบบขำ ๆ
“จริงเหรอคะแม่ ?” น้ำเสียงของเด็กน้อยเปล่งออกมาด้วยความตกใจอย่างพาซื่อไม่เข้าใจมุกตลกของมารดา
“แต่พิชาไม่ต้องพูดไปนะ เดี๋ยวย่าทองจะไม่พอใจแล้วหนูจะถูกตำหนิอีก… เก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับนะคะ พวกเรารู้กันแค่เพียงสองคนเท่านั้น” สิตากำชับบุตรสาว
“ค่ะแม่ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรหนูก็จะมาถามมาคุยกับแม่แค่คนเดียวค่ะ เพราะในโลกนี้มีแต่แม่เท่านั้นที่รักและไม่คิดร้ายกับหนู…” เด็กหญิงพูดออกมาตามความรู้สึกของหัวใจ
แม้จะตอบคำถามแบบติดตลกแต่คำพูดของบุตรสาวกลับทำให้สิตาอดคิดตามไม่ได้ หรือเป็นเพราะว่าปู่ของสามีมีเมียสี่คนยังไม่นับรวมบรรดาอีหนูที่มีเบี้ยบ้ายรายทางเต็มไปหมด ส่วนพ่อสามีนั้นไม่น้อยหน้าแม้จะมีเมียแค่สองคนแต่ยังมีกิ๊กซุกไว้อีกเป็นโหล แถมแม่สามีก็ยังแย่งพ่อของเทพไทมาจากภรรยาคนแรกจนเมียหลวงต้องหอบลูกหอบเต้าหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เธอดันมารู้หลังจากที่แต่งงานกับเทพไทมานานหลายปีแล้ว
สิตาได้แต่หวังว่าสามีของเธอจะเป็นลูกไม้ที่หล่นไกลต้นดุจดั่งบัวที่โผล่พ้นน้ำรู้จักผิดชอบชั่วดีรู้จักยับยั้งชั่งใจไม่นำไฟร้อนเข้ามาแผดเผาทำลายครอบครัว…..