บทที่ 25
ตอน เจ้าเป็นใคร
ทางด้านองค์ชายสี่กับลู่เหลียน
“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเป็นใคร”
ลู่เหลียนมองเขา “เป็นใครหมายถึงอะไรเพค่ะ”
“เจ้ารู้จักคนชื่อเฮนรี่ได้ไง”
“เฮนรี่เหรอ .....ท่านไม่ปวดหัวแล้วหรือ”
“ข้าอยากรู้ว่าเจ้ารู้จักเฮนรี่ได้อย่างไร เจ้าบอกข้าว่าหากเจ้าถอนคำสาปเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าจะบอกความจริงบางอย่าง ความจริงที่เจ้าจะบอกคืออะไร”
“ท่านอยากรู้ตอนนี้หรือ ไว้กลับจวนก่อนไม่ได้หรือเพค่ะ”
“ข้าอยากรู้ เจ้าบอกได้หรือไม่” ลู่เหลียนคิดทำไมวันนี้อารมณ์ของเขาถึงดูสับสนยิ่งนัก
“ได้เพค่ะ.....ตัวจริงของหม่อมฉันมีชื่อว่า เจพี หม่อมฉันมาจากอนาคต แต่ด้วยวิธีใดนั้นหม่อมฉันไม่รู้เลย หม่อมฉันอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งตระกูลหวังลี่ หน้าตาเราสองคนเหมือนกันทุกอย่าง” องค์ชายมองหน้าเธอเขาไม่มีสีหน้าที่แปลกหรือตกใจแต่อย่างใด
“ เจพี.....เหรอ แล้วเฮนรี่ละ”
“วันแรกที่หม่อมฉันเจอพระองค์ หม่อมฉันดีใจมากอย่างน้อยก็มีคนที่หม่อมฉันรู้จักในโลกแห่งนี้ แต่ความจริงแล้ว เฮนรี่ไม่รู้จักหม่อมฉันหรอก ในโลกที่หม่อมฉันจากมา เฮนรี่เป็นนักแสดงนักร้องที่ชื่อเสียงมากหม่อมฉันคลั่งเขามาก เป็นแฟนคลับตามติดชีวิตเขา ติดตามผลงานเขาทุกอย่าง จนวันหนึ่ง เขาเกิดอุบัติเหตุอยู่ในอาการโคม่า แฟนคลับของต่างภาวนาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเขากลับมา แต่ดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับการขอพรเป็นแค่ความหวังล้ม ๆ แล้ง ๆ เฮนรี่กลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่อย่างนั้น พระองค์เหมือนเฮนรี่มาก”
“เจ้าแต่งงานกับข้าเพราะคิดว่าข้าคือเฮนรี่ใช่หรือมั้ย”
“ใช่”
“เจ้ามั่นใจได้อย่างไร”
“ฝ่าบาทเล่าเหตุการณ์ตอนที่ท่านฟื้นหลังจากหลับไปหนึ่งปี ท่านร้องเรียกหาแต่ชื่อหยกและหลิน” ลู่เหลียนมองเขา
“หม่อนฉันจึงมั่นใจว่าท่านคือเฮนรี่”
“เพราะเจ้ารู้ว่าหยกกับหลินคือน้องสาวและพี่สาวของเขา”
“ใช่เพค่ะ” ลู่เหลียนขมวดคิ้ว เธอตกใจ “ท่านรู้ได้ไง”
เขามองหน้าลู่เหลียน “องค์ชายหรือว่าท่าน”
“ใช่ข้ารู้แล้วว่าข้าเป็นใคร ร่างนี้เป็นขององค์ชายความทรงจำบางส่วนก็เป็นของเขา แต่ตอนนี้ข้ากลับรู้ว่าตัวเองคือใคร องค์ชายได้ตายไปแล้ว”
ลู่เหลียนยิ้ม
“ตอนนี้ข้าสับสนมาก”องค์ชายสี่พูด “ข้าต้องเป็นทั้งเฮนรี่และองค์ชายสี่ในความรู้สึกเดียวกัน”
ลู่เหลียนจับมือเขา “เฮนรี่.....โลกนี้ตัวตนท่านคือองค์ชาย ตัวตนข้าคือลู่เหลียน จนกว่าเราจะรู้วิธีหาทางกลับได้ เราคงต้องใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป คำสาปท่านยังคงไม่หมดไป มันจะเกิดขึ้นทุก ๆ สิบห้าวัน”
เขาพยักหน้า “ยังอีกอย่าง เรื่องของเรา”
“อย่าบอกนะ....ว่าพอจำทุกอย่างได้แล้ว จะทิ้งข้านะ.......ขอบอกไว้ก่อนทุกสิบห้าวันท่านยังต้องใช้เลือดของข้าอยู่”
เขายิ้ม “ข้าขอเวลา”
“ขอเวลาเหรอ อย่างนั้นข้าขอถามท่าน ก่อนที่ท่านจะหมดสติ ท่านได้พูดประโยคหนึ่ง ข้าจะรักเจ้าตลอดไป มันเป็นความรู้สึกของเจ้าหรือเปล่า”
เฮนรี่เงียบไม่ตอบนาง ลู่เหลียนยิ้ม “ท่านไม่รู้ ”
เขาถอนหายใจ ลู่เหลียนเศร้า เธอคิด หรือนี้คือความจริงที่ฉันกลัว เมื่อเขาเป็นเฮนรี่ ทำไงดีละ ฉันรักเขาไปแล้วนี บ้าจริง ไม่รู้ละ...ต้องทำให้เฮนรี่รักเราให้ได้ โอกาสดี ๆ แบบนี้หาที่ไหนได้ จากที่สีหน้าเศร้ากลับเปลี่ยนเป็นอมยิ้มและเพ้อฝัน เขานั่งมองเธอ ด้วยความแปลกใจ
“เจ้าป่วยอีกแล้วหรือ”องค์ชายถาม
ลู่เหลียนมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
“ ทำตัวเหมือนเดิม ท่านเป็นองค์ชาย หม่อมฉันเป็นพระชายา”
เขาหลบหน้านางแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ลู่เหลียนยิ้ม แล้วเธอขยับเข้ามานั่งใกล้เขา มือทั้งสองกอดแขนเขาไว้ ศีรษะพิงกับไหล่ของเขา องค์ชายตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าจะขยับหนี
ลู่เหลียนพูด “ขอหม่อมฉันพักสายตาหน่อยนะเพค่ะ” แล้วเธอก็หลับไป
เขามองเธอที่หลับ ศีรษะของเธอกำลังจะหล่นจะไหล่ เขาได้ใช้มืออีกข้างพยุงหน้าของนางไว้ องค์ชายจับหน้าของนางไว้อย่างนั้นจนตนเองก็เผลอหลับไปเช่นกัน การเดินทางใช้เวลา สองวัน พวกเขาหยุดพัก นอนตามป่าเขา
ทหารม้าเร็วได้ส่งรายงานถึงฮ่องเต้ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
“ฝ่าบาท พระองค์จะทรงโบยพระชายาจริง ๆ หรือพ่ะย่ะคะ”ไต้กงกงพูด
“ข้าอยากรู้ว่านางจะมารับโทษเองหรือไม่ ไต้กงกง ในวังนี้ข้าจะไว้ใจใครได้ พรุ่งนี้เรียกประชุม”
“พ่ะย่ะคะ”