Your Wishlist

ผูกรักด้ายแดง (ตอนที่ 22 ปล่อยนะ)

Author: ้hanna hb

เมื่อคนคู่หนึ่ง ชะตาชีวิตต้องไร้คู่จนตาย แต่ดันมีรายชื่อในสมุดด้ายแดง จึงเกิดคำถามขึ้น “ทำไม” นี้คือจุดเริ่มต้น ของความรักของเขาและเธอ เมื่อเทพเจ้าจันทรา หรือ ผู้เฒ่าจันทรา นึกอยากลองฝืนชะตาฟ้า เขาผูกด้ายแดง ให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ไร้คู่จนตาย ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาต้องข้ามผ่านเวลาไปยังอีกโลกหนึ่งซึ่งเรียกว่าโลกขนาน อยู่ในร่างขององค์ชาย และ คุณหนู อุปสรรคและการต่อสู้การผจญภัยมากมาย ที่พวกเขาต้องเจอนั้นจะเป็นอย่างไร มาร่วมลุ้นกันความรักของพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไร ในรักผูกด้ายแดง

จำนวนตอน :

ตอนที่ 22 ปล่อยนะ

  • 01/09/2566

บทที่ 22

ตอน ปล่อยนะ

        เมื่อฟ้าสว่างกลุ่มองค์ชายต่างก็จัดการนักฆ่าโดยรอบที่ซุ่มโจมตีอยู่ พวกเขาได้ส่งองครักษ์ฟงหยางไปนำกองกำลังมาสบทบ พวกเขารู้ดีว่าการจะโจมตีทำลายค่ายนี้จะใช้แค่กำลังน้อยนิดของพวกเขาคงไม่ได้

 พวกมันจับลู่เหลียนและหว่านเอ่อร์ขังไว้ในห้อง สถานที่กลุ่มนักฆ่าอยู่ไม่ห่างไกลจวนผู้ว่าเลย พวกเหล่าองค์ชายเฝ้าซุ่มดูอยู่อย่างใจเย็น เวลาผ่านไปใกล้จะมืดของอีกวัน

               “คุณหนู เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”

               “ไม่เป็นอะไร เราต้องถ่วงเวลาให้นานที่สุดกว่ามีกองกำลังมา”

            “แบบนี้ ฮ่องเต้ทรงกริ้วแน่เพค่ะถ้าความถึงฮ่องเต้”

               แล้วหญิงสาวสามคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้า

               “นี่อะไร”หว่านเอ่อร์พูด

               “พวกเจ้าล้างหน้าล้างตาให้สะอาดเถอะ แล้วเปลี่ยนชุดซะ”

               “ทำไม”ลู่เหลียนถาม

               “โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกฆ่าตาย”หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น

               “ปะเดี๋ยวพวกเจ้าต้องถูกส่งตัวให้แก่หัวหน้านักฆ่า ถ้าไม่อยากตายอย่าขัดขืนละ”

 ณ. ห้องโรงเลี้ยง หัวหน้านักฆ่า ได้เดินมาหาชายหนุ่มที่จับตัวหญิงสาวมา

               “บอกข้าหน่อยว่าเจ้าทำงานสำเสร็จ”ชายวัยกลางคนพูดขึ้น เขามีแผลเป็นที่ใบหน้า แต่ก็ยังดูหล่อเหล่าพอสมควร

               “ท่านพ่อ พวกนางหลงป่ากับกลุ่มพ่อค้าทหาร ข้าก็เลยสั่งให้พวกเราแกะรอยตามล่าพวกเขา คิดจะฆ่าพวกนางก็หน้าเสียดายข้าเลยจับมาให้ท่านพ่อได้หาความสำราญ”

               “เรื่องชาวบ้านละ”

               “ถูกฆ่าตายหมดแล้ว บ้านเรือนทุกหลังถูกเผาไม่เหลือซาก”

               “แล้วคนของเราละเหตุใดไม่มีใครกลับมา”

               “คงได้รับบาดเจ็บแล้วรักษาตัวกันอยู่”

               “หรือไม่ก็ถูกฆ่าตายกันหมด”พ่อพูด

               แล้วลู่เหลียนกับหว่านเอ่อร์ก็ถูกนำตัวมา พวกนางถูกมัดมือไว้

               สองพ่อลูกมองเห็นพวกนางถึงกับตกตะลึงในความงามของทั้งคู่ พวกเขายืนมองด้วยสายตาไม่กระพริบ ผู้เป็นพ่อเดินเข้าไปหาลู่เหลียน เขาแก้มัดเชือกออก แล้วใช้มือลูบหน้าของนางเบา ๆ

               “อย่าแตะน้องสาวข้านะ”หว่านเอ่อร์พูด

               แล้วลูกชายของเขาก็พูดขึ้น “ท่านพ่อสตรีผู้นี้ข้าขอ”

               “นางผู้นี้ข้าชอบ เจ้าอยากได้ก็เอาพี่สาวไป คนของเจ้าคงต้องมาช่วยพวกเจ้าเป็นแน่ สตรีงามเช่นนี้ใครจะทิ้งได้ลง....จัดเวรยามแน่นหนา คืนนี้พวกมันอาจบุกชิงตัวผู้หญิง”

               “ครับ”  

               “พี่สาม แบบนี้กว่ากองหนุนจะมาพวกนางไม่แย่เหรอ”องค์ชายสี่พูด

               “ไม่ต้องห่วง ข้าคิดว่าพวกนางประวิงเวลาได้ ตอนนี้แค่ให้พวกนางเล่นละครไปก่อน”องค์ชายสามพูด “แผนนี้เป็นแผนของเจ้านะน้องสี่”

               องค์ชายสี่ถอนหายใจ”ข้าชักจะไม่ชอบแผนนี้แล้ว”

               “อย่ากังวลเลย”

               แล้วไม่นานนัก ผู้ว่าหัวเมืองทางใต้ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับกำลังทหารและผู้ช่วย

               “เรื่องที่ให้จัดการเรียบร้อยดีหรือไม่”

               ผู้ช่วยเห็นหน้าลู่เหลียนและหว่านเอ่อร์ เขาถึงกับตกใจ

“เหตุใดพวกนางยังไม่ตาย”

ผู้ว่าเดินเข้าไปหานาง “เจ้าชื่ออะไร” เขาถาม

“ฉันชื่อ อาเหมยเจ้าค่ะ”ลู่เหลียนตอบ

“อาเหมยหรือ แล้วเจ้าละ”

“ข้าชื่อตงตง” หว่านเอ่อร์ตอบ

“แม่นางผู้นี้ข้าชอบ เขาจับมือลู่เหลียน ดึงเข้ามากอด”

“ปล่อยนางนะ”หว่านเอ่อร์พูด

“แต่.....”หัวหน้านักฆ่าพูด

“ทำไม เจ้าก็ต้องการนางผู้นี้เช่นกันหรือ.....ข้าขอแค่เฉยชมแค่ไม่กี่ชั่วยามแล้วปล่อยคืนให้เจ้าก็ได้”

หัวหน้านักฆ่ามองแต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้

“เชิญห้องรับรอง”

“อะไรนะ.......ปล่อยนะ.....ปล่อยซิ”

หว่านเอ่อร์พยายามดิ้น แต่นางถูกจับตัวไว้โดยลูกชายของหัวหน้านักฆ่า “เจ้าอย่าดิ้นไป ชายผู้นี้ฆ่าเจ้าได้ในพลิบตา”เขาหันมองพ่อของตนเอง

ลู่เหลียนถูกลากมายังห้องรับรอง “ปล่อยข้านะ” เธอพยายามดิ้น ครุ่นคิด อย่าบอกนะว่าฉันต้องกลายเป็นเมียคนชั่วผู้นี้

“พวกเจ้าออกไป อย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยว”

“ครับ” แล้วประตูห้องก็ปิดลง องค์ชายสามหันไปทางองค์ชายสี่ แต่เขาได้หายไปแล้ว

“เอาไงดีพ่ะย่ะคะ”องครักษ์ซูเย่พูดขึ้น

“เจ้าติดตามองค์ชายสี่ไป รอดูห่าง ๆ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลก็ฆ่าได้ทันที”เขาพูดกับหลิ่งเหวิน

“ขอรับ”

“ปล่อยข้านะคนชั่ว ปล่อยซิ”

เขากอดลู่เหลียนไว้แน่น แล้วกระซิบข้าง ๆ หูลู่เหลียน

“ข้ารู้ว่าท่านเป็นใคร พระชายาขององค์ชายสี่”ลู่เหลียนเงียบ “ร้องต่อไปพ่ะย่ะคะ”

ลู่เหลียนได้ยินอย่างนั้นนางก็ร้องขอความช่วยเหลือต่อไป

แล้วทันใดนั้นหน้าต่างด้านหลังก็ถูกองค์ชายสี่เข้ามา ภาพที่เห็นผู้ว่าได้กอดลู่เหลียนไว้ เขาโกรธถึงกับจับร่างของลู่เหลียนดึงออกมาแล้วใช้กระบี่กำลังจะแทงเขาแต่ลู่เหลียนจับมือเขาไว้ พร้อมกับผู้ว่าได้คุกเข่าพูด

“คารวะองค์ชายสี่” เขาหยุด

“มีอะไรหรือเปล่าใต้ท้าว” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะเปิดประตูเขาให้ลู่เหลียนและองค์ชายสี่นั่งอยู่บนเตียงปิดม่านลงมา แล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเอง

“ไม่มีอะไรข้ากำลังจะ.... เหตุใดพวกเจ้าขัดจังหวะข้า”

“พวกเราได้ยินเสียงแปลก ๆ ก็เลยคิดว่า....”

“อย่าขัดจังหวะข้าอีก ออกไปอยู่ห่าง ๆเลย”

“ครับ”แล้วเขาก็ปิดประตูทันที

ทั้งสองลุกออกจากเตียง “มันเรื่องอะไร” องค์ชายสี่ถาม

“ข้าถูกส่งมาให้เป็นผู้ว่าแทนคนที่ตายไป เมื่อมาถึงก็พบว่าอำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านผู้ช่วย เขามีอำนาจมาก ควบคุมทุกคนในเมืองนี้ พอข้าสืบก็พบว่าเขาเป็นคนฆ่าทั้งครอบครัวของผู้ว่า เขาเลยจับครอบครัวของข้าพ่อแม่และน้องสาวของข้าเป็นตัวประกัน หากข้าไม่ยอมพวกมันจะฆ่าทุกคน แต่ข้าได้บอกพวกมันไปว่า หากตำแหน่งถูกสับเปลี่ยนบ่อยทางการจะสงสัยและทางการจะส่งคนมาตรวจสอบ ข้าเลยต้องเล่นละครตบตาพวกมัน กว่าหม่อมฉันจะหาวิธีเขียนรายงานส่งถึงองค์ฮ่องเต้ได้”

“เจ้าคิดว่ารายงานของเจ้าจะไม่ถูกตรวจสอบหรือ”

“หม่อมฉันรู้ว่ารายงานต้องถูกตรวจสอบ และก็กลัวว่าคนในวังอาจมีคนรู้เห็น มีทหารบางคนที่ข้าไว้ใจได้ ให้ส่งรายงานปล่อมให้ผู้ช่วยตรวจสอบแล้วสับเปลี่ยนรายงานจริงระหว่างส่งมอบให้องค์ฮ่องเต้ ทหารที่นี่บางคนก็ไม่ได้เลวร้ายแต่เพราะพวกเขาถูกบีบบังคับ ผู้ต่ำต้อยย่อมหนีไม่พ้นอำนาจเงิน”

“อย่างนี้นี่เองเสด็จพ่อถึงส่งพวกเรามา เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าเสด็จพ่อจะเห็นรายงานนั้น”

“แล้วแต่ชะตากรรม ชาวบ้านอดอยากผู้คนถูกกดขี่ ข้าเป็นผู้ว่าไม่สามารถช่วยราษฎรได้เลย ช่างหน้าละอายยิ่งนัก”

“อย่าโทษตัวเองท่านทำดีที่สุดแล้ว อย่างนั้นก็หมายความว่ากองกำลังสนับสนุนคงอยู่ไม่ไกล”ลู่เหลียนพูด

“คงอย่างนั้น เสด็จพ่อคงให้แม่ทัพตามเรามาทีหลังเพื่อไม่ให้ใครสงสัย”

“เสด็จพ่อท่านช่างมีแผนเยอะ”

“องค์ชายสี่ หม่อมฉันรู้ว่ามีความผิดที่ล่วงเกินพระชายา แต่ได้โปรดช่วยครอบครัวของหม่อมฉันด้วยพวกเขาถูกจับกุมตัวไว้ที่นี่ในคุกใต้ดิน”

แล้วเสียงฝีเท้าก็เดินมา “เร็วเข้าท่านหลบไปก่อน”ลู่เหลียนผลักตัวองค์ชายสี่ เธอปลดเสื้อของตัวเองแล้วนอนอยู่บนเตียง ดึงร่างของผู้ว่าเข้ามา

“นี่เจ้า”

“หลบไปก่อน” องค์ชายสี่กระโดดขึ้นหลังคาด้านหลัง เขานั่งมองอยู่ เมื่อประตูเปิดออก หัวหน้านักฆ่าก็เดินเข้ามาพร้อมกับบุตรชาย หว่านเอ่อร์วิ่งเข้าไปหาลู่เหลียน ส่วนผู้ว่าเองก็ลุกออกจากเตียงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

“ข้ายังสนุกกับแม่นางผู้นี้อยู่ ถ้าข้ายังไม่เบื่อใครก็อย่าหวังได้แตะต้องนาง”

“นี่ท่าน”หัวหน้านักฆ่าโกรธไม่พอใจ

“เอาเถอะ นาน ๆ ท่านผู้ว่าชอบแบบนี้ เอาใจเขาหน่อย อย่าให้เสียงานของเราก็พอ” ผู้ช่วยพูดขึ้น

“คืนนี้พวกมันอาจจะบุกชิงตัวผู้หญิง”

ลู่เหลียนแกล้งร้องไห้สะอื้น

“ข้าว่าไม่....ป่านี้อาจโดนคนของพวกเจ้าฆ่าตายหมดแล้วก็ได้ ดูท่าทางที่ท่านผู้ช่วยบอกพวกเขาหน้าจะไม่มีวรยุทธอะไรแค่พ่อค้าในวัง”ท่านผู้ว่าพูด

“อย่าประมาทจะดีกว่า” หัวหน้านักฆ่าพูด

“พวกเราออกไปหารือเรื่องการค้ากันดีกว่า”ผู้ว่าเสนอความคิด

“ได้” หัวหน้านักฆ่าพูด แม้เขาจะไม่พอใจสักเท่าไรที่ถูกท่านผู้ว่าแย่งสาวงามไป แต่เงินสำคัญกว่าสิ่งใด แล้วทุกคนก็ออกไป หว่านเอ่อร์จับเสื้อผ้าลู่เหลียนใส่มันเธอร้องไห้

“คุณหนูข้าขอโทษ” ลู่เหลียนลุกออกจากเตียง เธอหัวเราะเบา ๆด้วยความสะใจ เธอคิดนี้ถ้าเราเป็นนักแสดงคงได้รางวัลเป็นแน่

“คุณหนู”หว่านเอ่อร์งง

“เป็นอะไร ไม่ต้องร้อง ข้าสบายดี”

แล้วองค์ชายสี่ก็ลงจากหลังคามายืนข้าง ๆ หว่านเอ่อร์ ด้วยแววตาที่โกรธ หว่านเอ่อร์ตกใจ

“องค์ชาย” เธอคำนับเขา และก้มหน้า ด้วยความสงสัยและงง

“เป็นไง ข้าเล่นละครได้ดีใช่มั้ย”

เธอมองหน้าเขา แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะมีทีท่าที่โกรธมากกว่าจะเข้าใจเหตุผลซะอีก

“หว่านเอ่อร์ เจ้าออกไปหาองค์ชายสาม แล้วบอกพวกเขาว่าผู้ว่าเป็นคนของเรา ช่วยครอบครัวท่านผู้ว่าที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินก่อนถึงบุกโจมตี บอกว่าเสด็จพ่อรู้ทุกอย่าง”

“แต่....”

“เจ้าไปซะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับนาง”

“หว่านเอ่อร์” ลู่เหลียนพูด เธอรู้ดีว่าเรื่องอะไร หว่านเอ่อร์ออกจากห้องทางด้านหลัง ไปสมทบกับองค์ชายสาม

เมื่อหว่านเอ่อร์ออกจากห้องไป องค์ชายสี่ ดับไฟในห้องทันทีคนที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง หันมอง “คงเหนื่อยจากเมื่อกี่ ท่านผู้ว่าก็ไม่เบาเลยนะ”

องค์ชายสี่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับโกรธ เขาเดินจะไปจัดการพวกนั้นแต่ลู่เหลียนได้ดึงแขนเขาไว้ ลากเขาออกจากประตู

“ท่านกลับไปได้แล้วเดี๋ยวใครมาเจอท่านจะเป็นอันตราย”

ลู่เหลียนไม่ทันพูดจบ เขาก็จูบเธอทันที การจูบครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง จนทำให้ลู่เหลียนตกใจ เขาอุ้มเธอไปที่เตียง ปากยังคงจูบเธออย่างร้อนแรง ลู่เหลียนพยายามพลักเขาออก แต่เขากลับกดร่างของเธอไว้กับเตียง

“พวกมันแตะต้องเจ้าตรงไหนบาง ข้าไม่ชอบให้ใครแตะต้องเจ้า

เขาจูบเธออีกครั้ง มือกอดร่างของลู่เหลียนไว้แน่น ดูเหมือนเขาจะได้สติขึ้นมา  เขาตกใจรีบลุกออกจากร่างของนางทันที

“ขอโทษ ข้าแค่โกรธที่พวกนั้นทำกับเจ้า และเจ้าก็ดันเล่นไปกับพวกเขา”

“นี่เป็นแผนของท่านเองนะ”

เขากอดลู่เหลียน “ข้าสับสน ข้าไม่รู้จะบอกเจ้าอย่างไร” ลู่เหลียนกอดเขาตอบ เธอคิด เกิดอะไรทำไมเขาถึงได้รู้สึกกลัวเช่นนี้

“อาจเป็นเพราะคำสาปได้ถูกถอนจนหมดสิ้นแล้ว เลยทำให้ท่านรู้สึกกังวลก็เป็นไปได้”

“ไม่ใช่......ข้ากำลังสับสนกับความรู้สึกที่มีต่อเจ้า......ข้าขอโทษ”

สับสนเหรอ ลู่เหลียนคิด เมื่อคืนยังบอกว่าจะรักข้าตลอดไปอยู่เลย ทำไมตอนนี้สับสนละ เจ้าบ้าเอ่ย เธอผลักเขาออกอีกครั้ง

“ท่านกลับไปหาพี่สามเลย ข้าจะรออยู่ที่นี่หากพวกมันย้อนมา ให้หว่านเอ่อร์กลับมาด้วย”

“ป่านี้หว่านเอ่อร์กับพี่สามคงปล้นคุกแล้ว”

“เจ้าต้องออกจากที่นี่กับข้า”

เขามองหน้าเธอ

“ใครจะกล้าเข้ามาทำร้ายหม่อมฉัน  ผู้ว่าหนุ่มรูปหล่อพูดตัดทางแบบนั้นใครจะกล้า”

“นี่เจ้า...เหตุใดถึงชมผู้อื่นต่อหน้าข้า”

“ก็มันจริงนิ” เธอนอนที่เตียงแล้วห่มผ้าไม่สนใจเขาอีก มันยิ่งทำให้องค์ชายสี่ถึงกับโกรธแล้วเดินออกจากห้องไปทางด้านหลัง ลู่เหลียนเปิดผ้าห่มออก

“เจ้าบ้า องค์ชายบ้า เฮนรี่บ้า บ้าไปหมดเลย”

ทางด้านหว่านเอ่อร์ได้ออกมาส่งข่าวให้องค์ชายสามแล้วออกค้นหาคุกใต้ดินทันที จนพบคุกใต้ดิน เป็นอย่างที่ท่านผู้ว่าพูดครอบครัวของเขาถูกจับขังไว้ที่นี่จริง ๆ  พวกเขาได้เข้าปล้นคุกใต้ดินทันที ต่อสู้กับคนที่เฝ้าอยู่ไม่กี่คนจนตายหมด แล้วได้นำคนออกจากคุกไป พวกกลุ่มโจรนักฆ่าต่าง

เดินเฝ้าเวรยามหนาแน่นกว่าเดิม

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป