Your Wishlist

ผูกรักด้ายแดง (ตอนที่ 8 ใครจะซวยกันแน่)

Author: ้hanna hb

เมื่อคนคู่หนึ่ง ชะตาชีวิตต้องไร้คู่จนตาย แต่ดันมีรายชื่อในสมุดด้ายแดง จึงเกิดคำถามขึ้น “ทำไม” นี้คือจุดเริ่มต้น ของความรักของเขาและเธอ เมื่อเทพเจ้าจันทรา หรือ ผู้เฒ่าจันทรา นึกอยากลองฝืนชะตาฟ้า เขาผูกด้ายแดง ให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ไร้คู่จนตาย ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาต้องข้ามผ่านเวลาไปยังอีกโลกหนึ่งซึ่งเรียกว่าโลกขนาน อยู่ในร่างขององค์ชาย และ คุณหนู อุปสรรคและการต่อสู้การผจญภัยมากมาย ที่พวกเขาต้องเจอนั้นจะเป็นอย่างไร มาร่วมลุ้นกันความรักของพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไร ในรักผูกด้ายแดง

จำนวนตอน :

ตอนที่ 8 ใครจะซวยกันแน่

  • 21/03/2566

บทที่ 8

ตอน ใครจะซวยกว่ากัน

               ก่อนที่ฮ่องเต้จะเสด็จ ราชครูประกาศรายชื่อของเหล่าราชวงษ์เหล่าขุนนางและทุกคนต่างลุกยืนเพื่อแสดงความเคารพกันอย่างพร้อมเพรียงกัน

               “ขอเชิญ องค์รัชทายาท เข้าสู่ท้องพระโรงพ่ะย่ะคะ” เขาเดินเข้าในท้องพระโรง ด้วยชุดสีเหลืองทองขาวสง่างามยิ่งนัก ลู่เหลียนมองเขาแล้วยิ้ม เธอคิดหล่อจัง ทุกคนคำนับเขา องค์รัชทายาทเดินไปยังที่นั่งของตนเองที่จัดไว้ใกล้กับฮ่องเต้  

“ขอเชิญ องค์หญิงโหย่วหมิง และองค์ชายน้อย เข้าสู่ท้องพระโรง พ่ะย่ะคะ”

“ขอเชิญพระสนมหวงกุ้ยเฟย องค์ชายสามหนิงอัน และองค์หญิงองค์ห้า เข้าสู่ท้องพระโรงพ่ะย่ะคะ”

“ขอเชิญพระสนมกุ้ยเฟย องค์ชายสี่ห่าวอู๋ เข้าสู้ท้องพระโรงพ่ะย่ะคะ”

เมื่อองค์ชายสี่เดินเข้ามาพร้อมกับพระสนมกุ้ยเฟย ลู่เหลียนถึงกับตกใจ ชุดที่เขาใส่สีน้ำเงินอมฟ้าสลับขาว ลิ้นทองตามตะแขบ เธอยืนตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะคิดได้ว่าเมื่อกี่ไม่โดนตัดหัวก็บุญแล้วเรา ทำไมเป็นองค์ชายได้ละ

ทั้งหมดนั่งลงตรงตำแหน่งของตนเอง และไม่นานนัก ฮ่องเต้และฮองเฮาก็เสด็จ  ทั้งสองนั่งลง ทุกคนกล่าวคำอวยพรพร้อมกัน ฮ่องเต้ยิ้มชอบใจ การเปิดงานก็เริ่มขึ้น

ทุกคนดื่ม กิน กันอย่างมีความสุข การร่ายรำแสดงขึ้นอย่างวิจิตรการตา มีโชว์มากมายที่นำมาอวยพรฮ่องเต้ ลู่เหลียนนั่งก้มหน้าก้มตา ในใจก็คิดว่าองค์ชายสี่อย่างสังเกตุเห็นเธอเลย แต่สุดท้ายคนที่สังเกตุเห็นนางกลับกลายเป็นฮ่องเต้

“หยุดการแสดง เราอยากคุยกับทุกคนหน่อย”ฮ่องเต้พูด เขามองมาที่พระสนมทั้งสอง “วันนี้ข้าดีใจยิ่งนัก ที่องค์ชายทั้งสองมาร่วมงานพิธีของข้าได้ ว่าไงองค์ชายสาม องค์ชายสี่”

เขาทั้งคู่ลุกขึ้น เดินออกไปอวยพรเสด็จพ่อ “ลูกขอให้เสด็จพ่อสุขภาพแข็งแรงอายุยืนหมื่น ๆ ปี”

ฮ่องเต้ยิ้ม “ทุกคนดื่ม ดื่มให้กับข้า ที่วันนี้ได้เห็นองค์ชายทั้งสองพร้อมกัน” ทุกคนยกแก้วดื่มตามคำสั่ง

“ฝ่าบาท เหตุใดตรัสเช่นนี้” ฮองเฮาพูด เธอหันไปมององค์ชายทั้งสองแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู

องค์ชายสามพูดขึ้น “เสด็จพ่อ ลูกต้องประทานอภัยด้วยที่หลายปีมานี้ ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเสด็จพ่อเลย ”

องค์ชายสี่พูด “เสด็จพ่อ ลูก

ไม่ทันพูดจบ ฮ่องเต้ก็พูดขึ้น “พอ พอแล้ว ข้าไม่ได้โกรธที่พวกเจ้าทั้งสองไม่มา แต่ข้ากลัวว่าพวกเจ้าทั้งสองจะตกอยู่ในอันตราย องค์ชายสามข้ามอบหน่วยองครักษ์ใหมทองให้เจ้าดูแล ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เจ้าทำอะไรเสี่ยง ๆ เหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้”

“ลูกผิดไปแล้ว ที่ทำให้เสด็จพ่อเป็นห่วง”องค์ชายสามพูด

“องค์ชายสี่ เจ้าเองก็เช่นกัน ในวังข้าไม่มีตำหนักให้เจ้าหรืออย่างไร เหตุใดต้องแยกตำหนักออกไปอยู่ด้านนอก อยากให้ข้าไม่สบายใจอกแตกตายหรือยังไง ดูแม่เจ้า นางเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าเกือบไม่รอด ข้าขอให้เจ้ากลับเข้าวังก็ไม่ยอม มันเพราะอะไร”

“ลูกทำให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”องค์ชายสี่พูด

“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วเลย วันนี้พวกเขาทั้งสองก็มาแล้วถือเป็นเรื่องดีนะเพค่ะ”

ลู่เหลียนนั่งฟัง งานเลี้ยงหรือกำลังสั่งสอนบุตรกันแน่ เธอมองไปรอบ ๆ ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตา

“ท่านพ่อ ไหนบอกฮ่องเต้ใจดีไง เหตุถึงดุเช่นนี้ละ”เธอกระซิบ

“ลู่เหลียนเงียบ ๆ” พ่อพูด

เธอคิด นิสัยองค์ชายชัด ๆ คงไม่ถูกกันแน่นอน แต่องค์ชายสี่ก็รูปงามกว่าใคร ๆ ระหว่างที่เพ้อฝันอยู่นั้น

“องค์รัชทายาท” ฮ่องเต้เรียก เมื่อทั้งสามยืนอยู่พร้อมหน้ากัน

“ข้าอยากให้พวกเจ้าคัดเลือกพระชายา”

ทั้งสามมองหน้าเสด็จพ่อ แล้วถอนหายใจ คนที่มาในวันนี้ต่างอมยิ้ม ลู่เหลียนหันมองเหล่าขุนนางที่หันมองลูกสาวตัวเอง เธอรู้ทันที เธอคิดเพราะอย่างนี้เองที่องค์ชายทั้งสองติดธุระไม่ยอมมางานเลี้ยง ก็คิดอยู่ว่าทำไมพวกนางถึงแต่งตัวงามยิ่งนัก

“เสด็จพ่อ ลูก” องค์รัชทายาทพูดขึ้นแต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไร

“ไม่ต้องพูด สหายลี่” ฮ่องเต้เรียก

เขาลุกขึ้น ลู่เหลียนตกใจ เธอคิดไม่นะ จะซวยอะไรนาดนี้

“พ่ะย่ะคะ”

“วันนี้เจ้าพาลูกสาวคนเล็กมาหรือ”

“พ่ะย่ะคะ ครั้งแรกที่นางขอตามมาด้วย”

“ได้ข่าวลูกสาวคนโตเจ้ามีคู่หมั่นแล้วจะแต่งเมื่อไรละ”

“สิ้นเดือนปลายฤดูหนาวนี้พ่ะย่ะคะ”

“ก็อีกหลายเดือน”

“ถ้าข้าสู่ขอลูกสาวคนเล็กของเจ้าให้เป็นพระชายาองค์ชายคนใดคนหนึ่งเจ้าเห็นว่าอย่างไร”

“ถือเป็นพระมหากรุณายิ่ง”

“ดี ลู่เหลียน เจ้าเห็นว่าอย่างไร”

นางตกใจยืนขึ้น เธอมองท่านพ่อ เขาพยักหน้าแล้วบอกให้เธอเดินออกไป

นางคำนับฮ่องเต้ องค์ชายทั้งสามหันมองนาง มีแต่องค์ชายสี่เท่านั้นที่ยกมือชี้หน้านาง

“นี่เจ้า เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” ลู่เหลียนยิ้มเล็กน้อย และนั้นก็เป็นโอกาศดีขององค์รัชทายาทและองค์ชายสามเดินออกจากจุดนั้นกลับไปที่ของตนเองทันที ทิ้งให้ทั้งสองยืนทะเลาะต่อหน้าฮ่องเต้

เสียงกระแอมดังขึ้นทำให้ทั้งสองหยุด องค์ชายสี่หันมองเสด็จพี่ทั้งสองที่หายไปแล้ว

“ลู่เหลียน เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครตั้งชื่อนี้ให้เจ้า”

เธอคิดอย่าบอกนะว่าเป็นฮ่องเต้  “มันแปลว่าดอกบัวหยก” ลู่เหลียนหันมองหน้าท่านพ่อกับท่านแม่ พวกเขาทั้งสองพยักหน้า

“เป็นชื่อที่ไพเราะมากเพค่ะ”

“พวกเจ้าทั้งสองรู้จักกันหรือ”

“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้รู้จักนางแต่อย่างใด”

“ทูลฝ่าบาทหม่อนฉันก็ไม่รู้จักองค์ชายมาก่อนเช่นกัน”

“ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะรู้จักกันหรือไม่ แต่ข้าสู่ขอเจ้ากับพ่อแม่เจ้าแล้ว”

“เสด็จพ่อ”

“ข้ายังรับข้อเสนอของเจ้าเหมือนเดิม องค์ชายสี่”

“เสด็จพ่อ”

“ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายสี่ไม่อยากอภิเษกก็อย่าบังคับพระองค์เลยเพค่ะ”

“หรือว่าลูกข้าไม่เหมาะสมกับเจ้า”

“หามิได้ เพียงแต่”ลู่เหลียนคิดคำพูดไม่ออก เธอหันไปกระซิบกับองค์ชายสี่แต่ทว่ากลับเรียกชื่อเขาผิด

“เฮนรี่ ช่วย”ไม่ทันพูดจบองค์ชายสี่ก็จับศีรษะของตัวเองแล้วคุ้มอาการเจ็บปวด “นายเป็นอะไร” เขาลืมตามองหน้านาง แล้วจับแขนนางกระซิบข้างหูเธอ

“ทำไมเจ้าเรียกข้าว่าเฮนรี่ แล้วข้าถึงรู้สึกปวดหัวมาก เจ้าเป็นแม่มดหรือ”

“ท่านจะบ้าหรือ ในโลกนี้ไม่มีแม่มดอะไรทั้งนั้น และท่านเองคงฟังผิดไปกะมั่งองค์ชายสี่” เธอแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่น ๆ

เธอดึงมือออกจากเขา แล้วคิด เขามีอาการทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ ทำไมกัน เธอมองเขา สักพักอาการเจ็บปวดก็หายไป

“ว่าไง ลูกข้าไม่เหมาะสมกับเจ้าหรือ” ฮ่องเต้ถามย่ำขึ้นอีกครั้ง

“หามิได้เพคะ”

“อย่านั้นเจ้าก็ไม่มีปัญหา”

เธอคิด ทำไมถึงปวดหัวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้นะ ฉันต้องรู้ให้ได้

“ว่าไงลู่เหลียนเจ้าไม่ขัดข้องสิ่งใดใช่หรือไม่”

“ ออ...สุดแล้วแต่ฝ่าบาทเพค่ะ”

องค์ชายสี่ตกใจ “นี่เจ้า”

“ระหว่างท่านกับข้าไม่รู้ใครจะซวยกว่ากัน” ลู่เหลียนพูด

“ข้ามากกว่า” องค์ชายสี่พูด

“นี่ท่าน”

“เอาละ เอาละ รับราชองค์การ”

ทั้งหมดในท้องพระโรงคุกเข่ารับราชองค์การ

“ข้าฮ่องเต้ ขอพระราชทานพิธีมงคลสมรสให้แก่องค์ชายสี่และลู่เหลียนบุตรสาวสหายรักของข้า เข้าพิธีสมรสพระราชทานภายในเจ็ดวัน”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”ทั้งสองพูดพร้อมกัน

“หม่อนฉันมีเรื่องจะทูลถามได้ไม่เพค่ะ”

“ว่ามา”

“จริงหรือเปล่าที่ฮ่องเต้ทรงตรัสแล้วไม่คืนคำ”

“จริง”

“แล้วอย่างนั้นหม่อนฉันปฏิเสธได้หรือไม่เพค่ะ”

“ไม่ได้”

“เข้าใจแล้วเพค่ะ” เธอคิดแต่งก็แต่ง ดีเหมือนกันจะได้รู้ว่าทำไมองค์ชายสี่ถึงมีอาการแบบนี้เวลาได้ยินชื่อเฮนรี่ แต่ฮ่องเต้ดูถ้าจะชอบให้ลูกแต่งงาน

“เสด็จพ่อ ลูกขอย่ำสัญญาเดิม”

“เราไม่ลืม เจ้าเองก็เช่นกัน”

และแล้วเมื่องานเลี้ยงสิ้นสุด ทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับ ฮ่องเต้ เดินมาที่พระสหาย “วันนี้วุ่นวายยิ่งนัก”

“หม่อนฉันก็ว่า”

“ข้าได้ยินข่าวเกี่ยวกับองค์ชายสี่ เจ้าได้ยินหรือไม่”

“พอจะได้ยินมาบ้างพ่ะย่ะคะ”

“เจ้าไม่โกรธข้าใช่หรือไม่ที่ใช่ลูกของเจ้าเพื่อที่ต้องการรู้บางอย่าง”

“ฝ่าบาทคิดการไว้แล้ว แต่หากวันนี้หม่อนฉันไม่ได้พาบุตรสาวมาพระองค์จะทำเช่นไร”

“ผลลัพธ์คงเหมือนเดิมทุกครั้ง”

“อธิบายให้ลู่เหลียนเข้าใจด้วย หากงานแต่งจะล้มตั้งแต่คืนแรก ข้าก็ไม่เอาผิดพวกเจ้า”

“หากพวกเขาคู่กันคงฝืนพรหมลิขิตไม่ได้”

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป