Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขาแล้ว)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขาแล้ว

  • 03/12/2565

หยิ่นหรูจูเห็นพฤติกรรมของน้องสาวแล้วแต่นางไม่เลือกที่จะใส่ใจดูเผินๆ เหมือนจะยอมรับไปโดยปริยาย

เมื่อหยินเจียวเดินมาจนแทบจะรู้สึกว่าเท้าของนางจะพิการแล้ว ในที่สุดก็มาถึงลานแห่งหนึ่ง หยินเจียวเม้มริมฝีปาก นางไม่รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนตอนขึ้นรถม้าอีกแล้ว ที่นี่มีกำแพงสูงท่วมหัว บริเวณใหญ่โตมากแต่แทบจะไร้ผู้คน หยิ่นหรูจูหยุดเดินอย่างกะทันหัน เล่นเอาหยิ่นเจียวที่เดินตามมาถึงกับหัวโขกท้ายทอยของนางเข้าเต็มเปา

"โอ๊ย! "

หยิ่นหรูจูหันหลังไปดูเห็นหยิ่นเจียวเอามือจับหน้าผาก ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด หยิ่นหรูจูเอามือของน้องสาวออกเห็นหน้าผากที่โดนกระแทกเป็นสีแดง

"ทำไมเจ้าไม่รู้จักระวังตัวเลย? "นางดุหยิ่นเจียวเบาๆ หากแต่หันไปหาขันทีหลิวแล้วถามว่า

"ที่นี่มีก้อนน้ำแข็งไหม? "

"ข้าจะให้สาวใช้ไปเอามาให้ท่าน คุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองพักผ่อนในปีกที่ข้างตำหนักก่อน ข้าจะเข้าไปทูลไทเฮาก่อน"

ว่าแล้วหลิวกงกงก็เดินหายไป

หยิ่นเจียวอดโมโหความซุ่มซ่ามของตัวเองไม่ได้ หากพอนางยกมือขึ้นจึงเห็นว่าหยิ่นหรูจูจับมือของนางไว้ ดวงตาของนางถึงกับเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ

นี่..นี่..นางเอกจับมือข้าหรือ?

หยิ่นหรูจูลากนางเดินเข้าไปในตำหนัก นางเห็นหยิ่นเจียวบิดจะเอามือออก นางถึงกับยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างระอาใจ

เด็กคนนี้ตั้งแต่ตกน้ำแล้วเหมือนจะทำสมองหายไปด้วย!

หลังจากที่สาวใช้เอาน้ำแข็งมาให้ หยิ่นหรูจูก็เอาผ้าฝ้ายห่อก้อนน้ำแข็งเอาไว้แล้ววางบนหน้าผากของนาง

"โอ๊ย! เย็นๆ " หยิ่นเจียวแทบจะกระโดดลุกขึ้นจากตั่ง หากพี่สาวนางกลับกดบ่าของนางเอาไว้

"ทำไมเวลาเดินไม่มองทางเลย!? " หยิ่นหรูจูเอาก้อนน้ำแข็งออกแล้วใช้มือถูนวดหน้าผากให้นางแทน แม้ว่านางจะดุหยิ่นเจียวแต่น้ำเสียงก็แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นไม่น้อย

"เอ๋? " หยิ่นเจียวชะงักแต่แล้วก็รู้ว่านางเอกเป็นห่วงนาง นางกอดเอวหยิ่นหรูจูเอาไว้อย่างมีความสุข

"ข้าประมาทเลินเล่อยามที่ข้าอยู่กับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น " ว่าแล้วหยิ่นเจียวก็แลบลิ้นออกมาด้วยท่าทางเขินอาย

ปล่อยข้า!" หยิ่นหรูจูตัวแข็งทื่อไปเมื่อโดนหยิ่นเจียวกอด นางแทบจะรักษาใบหน้าที่เคยเงียบขรึมเย็นชาอยู่เสมอเอาไว้แทบไม่ได้ หยิ่นเจียวเห็นใบหน้าของนางเอกเปลี่ยนสี ก็รีบปล่อยออกทันที นางก้มหน้าพูดเสียงอ่อยๆ ว่า

"ข้าขอโทษ.." หญิงสาวใช้นิ้วจับชุดบิดไปมาท่าทางเหมือนเด็กที่ทำความผิด

ก้อนน้ำแข็งที่ห่อไว้ในผ้าฝ้ายเริ่มละลายกลายเป็นน้ำหยดออกมา หยิ่นหรูจูเดินออกไปนอกห้องพร้อมด้วยก้อนน้ำแข็ง หยิ่นเจียวมองแผ่นหลังของนางเอกที่เดินออกไปจากห้อง ดวงตาของนางพร่าเลือน มือจับชุดเกร็งแน่นขึ้น

เป็นไปไม่ได้ที่นางเอกของเรื่องนี้จะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อร่างเดิมเพียงเพราะการโผเข้ากอดอย่างสนิทสนมของนาง….?

ไม่นานนักหยิ่นหรูจูก็เข้ามาในห้องอีกครั้ง หยิ่นเจียวรีบก้มหน้ารอให้นางเอกเอ่ยวาจาดุว่านาง แต่หยิ่นเจียวกลับไม่ได้ยินเสียงนางเอกเลย อีกทั้งรู้สึกเย็นวูบขึ้นที่หน้าผาก ครั้งนี้ไม่เย็นมากเกินไปเหมือนก่อนหน้านี้ หยิ่นหรูจูจุ่มผ้าลงในน้ำเย็นจัดบิดแล้วเอามาขึ้นมาลูบหน้าผากให้หยิ่นเจียว

หญิงสาวกะพริบตา น้ำตาของนางร่วงหล่นลงมา คราวนี้ไม่ใช่เป็นเพราะปฏิกิริยาทางร่างกายเหมือนเช่นครั้งก่อน แต่เป็นเพราะการกระทำของหยิ่นหรูจู นอกจากบิดามารดาของนางในภพก่อนแล้ว หยิ่นหรูจูเป็นคนที่สามที่ดีกับนางอย่างจริงใจแบบนี้

"ข้าทำแรงไปหรือ? " หยิ่นหรูจูเห็นน้ำตาที่หยดลงมาของน้องสาว เมื่อคิดว่าปกติแล้วนางเป็นหญิงบอบบาง หยิ่นหรูจูจึงคิดว่าเป็นเพราะนางมือหนักเกินไปหรือเปล่า?

"ไม่ๆ ข้าคิดว่า ..โชคดีที่ข้ามีพี่สาว! " หยิ่นเจียวพูดอย่างซื่อๆ จริงใจ แต่หลังจากที่หยิ่นหรูจูได้ยิน ท่าทางของนางก็กลับไปเย็นชาเหมือนเดิมราวกับว่านางไม่เคยมีความอ่อนโยนให้หยิ่นเจียวมาก่อน

หยิ่นหรูจูคิดในใจ นางคงล้อข้าเล่นสินะ ถ้าหากนางคิดว่ามีพี่สาวแล้วดีจริงๆ ทำไมยามที่ข้าเข้าจวนจงหย่งโหวมาแต่แรกนางกลับทำท่ารังเกียจข้าแบบนั้นล่ะ?

เมื่เห็นว่ารอยที่หน้าผากของนางค่อยๆ จางดีแล้ว หยิ่นหรูจูก็ไม่ได้นั่งใกล้ๆ หยิ่นเจียวอีก นางเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ไกลออกไป แล้วหยิบหนังสือที่นางพบในห้องขึ้นมานั่งอ่าน โล่เจียวเองก็ไม่กล้ารบกวนนางอีกต่อไป แต่หญิงสาวก็รู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อย นางเลยเดินไปหาหนังสือตามแบบหยิ่นหรูจู แต่เมื่อหยิบหนังสือมาดูหยิ่นเจียวก็หน้าย่น นางอ่านหนังสือโบราณแบบนี้ไม่ออก! หยิ่นเจียวคิดถึงภพปัจจุบันที่นางหาอ่านนิยายได้ตามออนไลน์ทั่วไป แล้วก็อดถอนใจไม่ได้ ในที่สุดหยิ่นเจียวก็ผล็อยหลับไปบนตั่งนุ่มหลังจากเปิดหนงสือไปได้ไม่กี่หน้า หนังสือเล่มนี้เหมือนวรรณกรรมโบราณที่เคยเรียนมาสมัยที่อยู่มัธยมอ่านได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้นก็ง่วงนอนแล้ว..

"คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง เจ้าคะ!" นางกำนัลในชุดสีเขียวเดินเข้ามาทำความเคารพ หยิ่นเจียวสะดุ้งตื่น หญิงสาวยังสับสนว่าตนเองอยู่ที่ไหน? ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่านางยังอยู่ในวังหลวง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งทันที มีบางอย่างตกลงมาที่ตักของนาง เมื่อมองไปจึงเห็นว่าเป็นผ้าห่ม? ผ้าห่มมาจากไหนกันนะ? หยิ่นเจียวแปลกใจแต่ไม่มีเวลาที่จะขบคิดต่อเพราะตอนนั้นหยิ่นหรูจูเดินออกจากห้องไปแล้ว

หยิ่นเจียวและหยิ่นหรูจูเดินตามนางกำนัลในชุดสีเขียวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงามตระการตา ตำหนักนั้นมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีทอง ประตูบานใหญ่สีแดงสด มีคานทำจากไม้จันทน์ ตกแต่งห้องด้วยโคมไฟที่ทำจากแก้วเจียระไนย อีกทั้งม่านลูกปัดร้อยเป็นเส้นยาว แม้แต่ไข่มุกกลางคืนก็นำมาตกแต่งภายในห้องทำให้มีบรรยากาศที่หรูหรางดงามตระการตา

หญิงวัยกลางคนอายุราวๆ ห้าสิบหรือหกสิบปีผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักลงรักปิดทอง สวมมงกุฎทำจากทองคำไว้บนศีรษะ ท่าทางของนางสง่างามแม้อายุจะมากแล้วก็ตามที หากผู้ใดได้พบเห็นก็ย่อมตระหนักได้ว่ายามเป็นสาวรุ่นนางน่าจะเป็นหญิงงามที่หาตัวจับได้ยากผู้หนึ่ง

ทั้งนางกำนัลและขันทีเป็นจำนวนมากต่างยืนก้มหน้าอย่างนอบน้อม หลิวกงกงก้มลงกระซิบบางอย่างข้างหูทำให้นางถึงกับหัวเราะออกมา

หยิ่นเจียวหน้าซีด เหงื่อเย็นๆ ไหลหยดแผ่นหลังจนเปียกชุ่ม นางจับชายเสื้อไว้แน่นจนแทบขาด หญิงสาวกำลังตื่นตระหนกจนหายใจแทบไม่ออก หยิ่นหรูจูสังเกตเห็นอาการของนางในทันที แววตาของหยิ่นเจียวเต็มไปด้วยความกลัวราวกับนางตกอยู่ในภวังค์ที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ หยิ่นหรูจูเดินช้าลง พอหยิ่นเจียวเดินเข้ามาใกล้นางก็คว้ามือน้องสาวเอาไว้

หยิ่นเจียวตกตะลึงที่จู่ๆ ก็มีมืออบอุ่นยื่นมาช่วยเหลือนาง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ได้ยินหยิ่นหรูจูพูดขึ้นว่า

"ไม่ต้องกลัว! มีข้าอยู่ด้วย…" หยิ่นหรูจูยอมรับว่านางใจอ่อนยวบเมื่อเห็นดวงตาของหยิ่นเจียวมีน้ำตาคลอราวกับจะหยดลงมา น้ำตาของนางราวกับหอกที่แทงเข้ามายังโล่ที่นางใช้เป็นเกราะปกป้องตัวเองเอาไว้ ทำให้นางถึงกับลืมพฤติกรรมเลวร้ายของหยิ่นเจียวในอดีตไปจนหมดสิ้น ถ้าหากว่านี่คือการเสแสร้งแกล้งทำของหยิ่นเจียว ก็เห็นได้ว่านางได้รับชัยชนะแล้ว!!

หยิ่นเจียวยิ้มให้นางจากก้นบึ้งของหัวใจ ราวกับคำพูดนั้นขับไล่ความกลัว ความวิตกกังวลออกไปจนทำให้นางเกิดความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้าโดยรับรู้ว่านางไม่ได้อยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว

"ฮ่าๆๆ ดูพี่น้องสองคนนี้สิ ช่างรักกันอย่างหาได้ยากจริงๆ สองสามวันก่อนยังมีคนมาเล่าให้ข้าฟังอยู่เลยว่าเจ้าไม่ถูกกันอีกแล้ว นี่ถ้าหากข้าไม่เรียกพวกเจ้าเข้าวังมาคงไม่รู้เรื่องนี้สินะ ..มาๆ มาหาข้าหน่อยสิให้ข้าได้ดูพวกเจ้าใกล้ๆ หน่อยเถอะ "

ไทเฮาไม่รู้สึกรำคาญใจเมื่อเห็นสองพี่น้องค่อยๆ เดินมาหาอย่างช้าๆ นางโบกมือให้พวกเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความกรุณาปรานี หากแสงที่วาบในดวงตาเป็นอันรับรู้ได้ว่านางไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายนัก

หยิ่นหรูจูจับมือหยิ่นเจียวเอาไว้ ค่อยๆ เดินเข้าไปหาอย่างไม่รีบร้อน นางก้มลงทำความเคารพอย่างเต็มพิธีการ

"ถวายพระพรไทเฮา เพคะ"

หยิ่นเจียวทำความเคารพนางเช่นกัน ในใจนึกถึงที่หลี่อวี้เหยียนสอนเอาไว้

"พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธีนัก! มาเถอะมาหาข้าใกล้ๆ " ไทเฮายกมือขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาจับจ้องที่สองพี่น้อง

หยิ่นหรูจูพาหยิ่นเจียวมายืนใกล้ๆ นางเปลี่ยนท่าทางให้หยิ่นเจียวหลบอยู่ข้างหลังโดยที่นางคอยปกป้องอย่างไม่ได้ตั้งใจ หยิ่นเจียวยังคงก้มหน้าซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหยิ่นหรูจู นางไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองใครเลย

"เอ๊ะ! วันนี้เจียวเจียวเป็นอะไรไป ทำไมไม่ร่าเริงเหมือนเดิม หรือว่าเจ้ายังโกรธที่ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าแต่งงาน หืม? "

หยิ่นเจียวและหยิ่นหรูจูนั่งลงเคียงข้างไทเฮา เมื่อหยิ่นเจียวได้ยินวาจาของไทเฮา นางถึงกลับนิ่งงันไป เงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง

อะไรนะ! เจ้าของร่างเดิมขอให้ไทเฮาพระราชทานสมรสให้นางกับฉีอันหรือ?เมื่อคิดถึงความรู้สึกของฉีอันที่มีต่อเจ้าของร่างเดิมแล้ว หยิ่นเจียวอดตัวสั่นไม่ได้

"ทำไมมือเจ้าเย็นถึงเพียงนี้เล่าเจียวเจียว ..หรือว่าหลังจากตกน้ำแล้วร่างกายเจ้ายังฟื้นตัวไม่ดีหรือ? "ไทเฮาอดเป็นกังวลไม่ได้ น้ำเสียงของนางนั้นเป็นห่วงอย่างใจจริง เมื่อมองเห็นท่าทางที่อิดโรยอ่อนล้าและใบหน้าที่ซีดเผือดของหยิ่นเจียว

หญิงสาวสะดุ้งดึงมือออกจากไทเฮาอย่างไม่รู้ตัว การกระทำของหยิ่นเจียวเป็นไปตามสัณชาตญาณของร่างกาย จนทำให้ไทเฮาถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไป แววตาของนางมีโทสะแฝงอยู่ ทั้งหมดเป็นเพราะจวนจงหย่งโหวในตอนนี้มีอำนาจมากในราชสำนัก อีกทั้งหยิ่นเจียวเองก็เป็นหลานสาวที่นางโปรดปราน จนทำให้มีคนริษยากันมากมาย แต่การกระทำเช่นนี้ของหยิ่นเจียวถือว่าไม่ไว้หน้านางเลย ท่ามกลางผู้คนที่มาเข้าเฝ้ากันมากมายเช่นนี้ จะไม่ให้ไทเฮากริ้วได้อย่างไร

หยิ่นหรูจูรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด นางจึงรีบพูดขึ้นว่า

"ท่านป้า น้องสาวเพิ่งตกน้ำไปที่บึงขององค์หญิงเหลียนฮวาเมื่อวันก่อน ความจำของนางหายไปจนหมดสิ้น แม้แต่บิดามารดาเองนางก็จำไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้สภาพจิตใจของนางยังไม่ฟื้นตัวดี เป็นเพราะแบบนี้ถึงทำให้นางมีกริยาที่ไม่เหมาะสมขอท่านป้ากรุณาให้อภัยนางด้วยเพคะ "

"หืม? มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? ถ้าเช่นนั้นน่าจะให้หมอหลวงเฝิงเข้ามาดูอาการของนางสักหน่อยจะดีกว่า จะว่าไปแล้วเจียวเจียวเองก็สุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่เกิด ครั้นโตขึ้นมาหน่อยพอจะแข็งแรงก็มาตกน้ำไปอีกแบบนี้ "

ไทเฮาหายกริ้วขึ้นมาทันที นางเริ่มวิตกกังวลในอาการของหลานสาวขึ้นมาอีกครั้ง

"ท่านป้า! ข้า…ข้าไม่อยากแต่งงานกับฉีอันอีกแล้ว ข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ขอให้ท่านป้าคิดเสียว่าข้าไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับท่านเลยจะได้ไหมเพคะ!"คราวนี้เป็น หยิ่นเจียวที่เอื้อมไปกุมมือไทเฮาเอาไว้แน่น ใบหน้าของนางแดงก่ำ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอดวงตา

ไทเฮาตกตะลึงเมื่อเห็นท่าทางของหลานสาวผู้นี้ ปกติแล้วนางเป็นคนร่าเริง ขี้เล่นอยู่เสมอ ไม่เคยที่จะแสดงความอ่อนแอเปราะบางออกมาให้ใครเห็น ..ไทเฮานั้นมีความสามารถในการดูผู้คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ..นางเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการแสดงออกของหยิ่นเจียวนั้นมาจากเนื้อแท้ของนางจริงๆ โดยมิได้เสแสร้งปรุงแต่งขึ้นมาแต่อย่างใด

ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามของนางทำให้หญิงสาวดูอ่อนโยน นุ่มนวลมากขึ้น อีกทั้งหนามแหลมคมทั่วร่างก็พร่างพราวขึ้นไปอีก

"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่? หรือว่าฉีอันเป็นคนรังแกเจ้า? " น้ำเสียงของไทเฮาแหลมขึ้นมาอย่างมีโทสะ นางยังคงปกป้องหลานสาวของนางเหมือนเดิม

หยิ่นหรูจูก็ขมวดคิ้วตามเช่นกัน หยิ่นเจียวเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ..พฤติกรรมที่นางคลั่งไคล้โปรดปรานฉีอันเป็นที่รับรู้กันทั่วทั้งเมืองหลวง หากมีผู้หญิงคนไหนได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาแม้เพียงเล็กน้อย หยิ่นเจียวก็ไม่เคยปล่อยผ่านไป

นางจำได้ถึงครั้งล่าสุดที่หยิ่นเจียวเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งได้พูดจาเพียงแค่ไม่กี่คำกับฉีอันบนท้องถนน หยิ่นเจียวเห็นเข้า นางถึงกรากเข้าไปตบตีพร้อมทั้งฉีกทึ้งเสื้อผ้าของสตรีผู้นั้นกลางถนนด้วยซ้ำ นางไม่ยอมเลิกราจนหญิงสาวผู้นั้นถึงกับเป็นลมหมดสติไปที่หน้าโรงน้ำชา

เมื่อหญิงสาวผู้นั้นฟื้นคืนสติขึ้นมา นางก็อับอายขายหน้าอีกทั้งชื่อเสียงก็มัวหมอง ถึงกับพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง โชคดีที่ทางครอบครัวของนางคอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นนางได้ผูกคอตายไปแล้ว…

บิดาของหญิงสาวคนนั้นเป็นผู้บังคับบัญชากองม้ารักษาพระองค์ เขากล่าวโทษต่อท่านโหวแห่งจวนจงหย่งโหวหลายครั้งจนกระทั่งยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้ก็คำนึงถึงหน้าไทเฮาจึงได้แต่คาดโทษและลงโทษนางเพียงแค่กักบริเวณไว้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น

********

เวลาไม่เช้าแล้ว : วันนี้มาสายไปนิดค่ะ ตอนนี้ค่อนข้างยาวเลยต้องใช้เวลามาก หวังว่าเพื่อนๆจะชอบในความน่ารักของพี่น้องคู่นี้นะคะ อีกไม่กี่ตอนพระเอกก็จะออกแล้วค่ะ อดใจรอกันหน่อยค่า

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป