Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (ซาลาเปากระต่าย)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

ซาลาเปากระต่าย

  • 03/12/2565

"คุณหนู ..บ่าวเห็นคุณหนูถังหกล้มเอง…คุณหนูไม่ได้ผลัก"หงเซี่ยพูดขึ้นมาหลังจากเงียบไป

หยิ่นอี้เฉินพูดถูกต่อให้นางไม่ได้ผลักหรือทำร้ายถังหยุนอี้ก็ตามทีด้วยชื่อเสียงของนางที่เลวร้ายอยู่แล้ว…ใครๆ ก็พร้อมที่จะเชื่อ

“ไม่เป็นไร..ใครจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา ข้าก็เป็นตัวข้าเอง!” หยิ่นเจียวปรับอารมณ์ของตนเองจะได้ไม่มีผลไปกระทบผู้อื่นนางฝืนยิ้มเฝื่อนๆ หงเซี่ยเข้าใจว่านางแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เพื่อให้หยิ่นเจียวอารมณ์ดีขึ้นนางจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ..หากแต่หงเซี่ยคงไม่ปล่อยถังหยุนอี้ไปง่ายๆ หรอก…

ถ้าหากถังหยุนอี้ได้รู้ว่าการกระทำของนางในวันนี้ทำให้มีคนผูกใจเจ็บนางถึงหลายคน นางนึกเสียใจภายหลังคงไม่ทันแล้ว

หยิ่นเจียวเดินอย่างกระฉับกระเฉงมารอที่ประตูจวนจงหย่งโหว ข้างหน้าเพื่อรอขึ้นรถม้า หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานนัก หยิ่นเจิ้งเป่ยและคนอื่นๆ ก็เดินมาถึง

"ลูกแม่..มายืนรอนานแล้วหรือ? แม่ให้หลิวหยุนไปตามจึงได้ไม่เจอกัน ..ตอนเช้าอากาศเย็นแบบนี้จะไม่สบายเอาได้ "หลี่อวี้เหยียนจับมือเล็กๆ ของลูกสาวมากุมเอาไว้ เพื่อให้อบอุ่นขึ้น

"ท่านแม่..ลูกไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น "นางยิ้มอย่างเขินอาย

"จวนจงหย่งโหวช่างเต็มไปด้วยสาวงามมากมายสมดั่งคำร่ำลือ ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูใหญ่หรือคุณหนูรองล้วนแต่เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในเมืองหลินอันจริงๆ " เสียงแหบพร่าดังขึ้น

“หลิวกงกง ท่านพูดชมเกินไปแล้ว ..ชมสาวน้อยสองคนนี้จนหางนางแทบจะชี้ฟ้าอยู่แล้ว” หยิ่นเจิ้งเป่ยหันไปพูดจาอย่างสุภาพกับขันทีที่มาจากในวัง

ขันทีหลิวผู้นี้เป็นบ่าวรับใช้ข้างกายไทเฮา ครั้งนี้ไทเฮาส่งคนผู้นี้มารับคุณหนูจวนจงหย่งโหวย่อมแสดงถึงความสำคัญของจวนโหวแห่งนี้

ขันทีหลิวยิ้มรับเขาพอใจกับการต้อนรับของจวนจงหย่งโหวมาก เขาทั้งอิ่มทั้งได้แท่งเงินเต็มกระเป๋า มาครั้งนี้ไม่นับว่าเสียเปล่าจริงๆ หยิ่นอี้เฉินจ้องเขม็งไปที่หยิ่นเจียว แต่นางกลับไม่เหลือบมองเขาแม้แต่น้อย หยิ่นอี้เฉินไม่สบายใจวันก่อนนางยังเรียกเขาพี่ชายแต่ตอนนี้กลับมองไม่เห็นเขาในสายตาเสียแล้ว หยิ่นเจิ้งเป่ยและหลิวกงกงต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยแลกเปลี่ยนวาจากันอย่างชื่นมื่น หลังจากร่ำลากันแล้วหลิวกงกงก็เชิญคุณหนูทั้งสองขึ้นรถม้า

"คุณหนูใหญ่ คุณหนูรองเชิญขึ้นรถม้าได้แล้ว!" เขาผายมือแสดงท่าทางเชิญชวน หยิ่นหรูจูพยักหน้าก่อนที่ก้าวเดิน ท่าทางของนางสง่างามจนทำให้หลิวกงกงอดพยักหน้าชมเชยอยู่ในใจ แต่เมื่อเหลือบไปมองคุณหนูรองที่เดินตามมาเห็นท่าทางของนางที่ดูประหม่ารีบไล่เดินตามพี่สาวแล้วเขาก็อดแปลกใจจนส่ายหน้าไม่ได้

คุณหนูรองผู้นี้ไม่ได้มีทีท่าเหมือนกับที่ผู้คนกล่าวขวัญกันเลย ..ดูไปแล้วข่าวลือไม่น่าจะเป็นจริง ทำไมทุกคนพากันพูดว่านางเป็นหญิงสาวที่ดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไม่สมกับเป็นกุลสตรีในห้องหอ…เขาดูแล้วก็ไม่เห็นวี่แววเลย?

หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว หัวใจของหยิ่นเจียวค่อยปล่อยวางลงได้ ห้องโดยสารที่ปิดมิดชิดทำให้นางสบายใจมากขึ้น

"พี่สาว..ข้าขอเดินตามหลังพี่ได้ไหม? "หยิ่นเจียวพูดเบาๆ ในแววตามีริ้วรอยกังวลอยู่เต็มเปี่ยม

พอหยิ่นหรูจูได้ยินวาจานุ่มนวลอ่อนโยน นางก็กลืนคำปฏิเสธลงคอไป ก่อนจะตอบว่า

"ได้! " ตาของหยิ่นเจียวเป็นประกาย หากพี่สาวของนางกลับเงียบนิ่งไป การเดินทางเข้าวังใช้เวลาค่อนข้างนาน หยิ่นหรูจูหลับตาเพื่อพักผ่อน ส่วนหยิ่นเจียวกลับเบื่อหน่าย นางค่อยๆ ยกมุมของม่านหน้าต่างขึ้น ถนนด้านนอกเต็มไปด้วยผู้คน สองข้างทางเป็นหาบเร่แผงลอย ดูไปแล้วคึกคักมีชีวิตชีวากว่าที่นางเคยเห็นในละครมากนัก

หยิ่นเจียวรู้สึกอิจฉา นางอยากจะลงไปเดินทำตัวให้กลมกลืนกับผู้คนที่เดินไปมา หากแต่…นางทำไม่ได้ นางจะอึดอัด ตกประหม่าเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังครืดคราดออกมาจากท้องของหยิ่นเจียว…หญิงสาวหน้าแดงเอามือปิดท้องตัวเอง

หยิ่นเจียวแอบชำเลืองมองหยิ่นหรูจูเห็นนางยังคงหลับตาอยู่ นางโล่งใจ สักพักเสียงก็หายไป หลังจากนั้นไม่นาน ท้องของนางก็ร้องครวญครางขึ้นมาอีก หยิ่นเจียวอยากเอาหน้ามุดรูจริงๆ ตอนนี้ใบหน้าของนางแดงก่ำแทบจะหยดเป็นเลือดออกมาได้เลย

“นี่! หยิ่นหรูจูโยนของบางอย่างใส่ตักของนาง หยิ่นเจียวรับมาอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

"อะไรนี่!? "

หยิ่นหรูจูไม่ตอบ นางยังคงหลับตาต่อไป หยิ่นเจียวเปิดห่อผ้าออกดูอย่างอยากรู้อยากเห็น นางพบซาลาเปาเป็นรูปกระต่ายน้อยอยู่ห้าหกชิ้นในห่อผ้านั้น

"ขอบคุณเจ้าค่ะ พี่สาวใจดีจริงๆ " หยิ่นเจียวเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างสดใส วาจาที่กล่าวดูชื่นชอบอย่างจริงใจ

“ข้าคิดว่าซาลาเปานึ่งนี่รสชาติไม่เลว ข้าจะเก็บเอาไว้ให้ชุยอวี้ ไม่ได้ตั้งใจจะเอามาให้เจ้าหรอก!” หยิ่นหรูจูพูดด้วยท่าทางไม่ใส่ใจนางหันหน้าไปทางอื่น ไม่สบตากับน้องสาว หากใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อกลับเปิดเผยเจตนาที่ซ่อนเร้นของนางเอาไว้

"เจ้าค่ะ วันหลังข้าจะให้หงเซี่ยนำขนมอบอย่างอื่นไปให้นางแทนเพื่อเป็นการขอบคุณพี่สาวกับชุยอวี้นะเจ้าคะ "

พูดจบแล้วนางก็กัดซาลาเปารูปกระต่ายกินอย่างไม่เกรงใจ หญิงสาวงับกินไปในคำเดียว แก้มพองออก ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาหรี่เล็กลงอย่างพึงพอใจ ในขณะเดียวกันก็นึกดุตัวเองในใจ หญิงชาเขียวผู้นั้นทำให้นางอดกินของอร่อยแบบนี้ คราวหน้านางจะหาทางเอาคืนให้ได้เลย คอยดูสิ!

หยิ่นหรูจูแอบมองน้องสาวเห็นนางเคี้ยวหงุบหงับแก้มพองป่องออก มุมปากนางอดกระตุกไม่ได้ หลังจากกินจนหมดแล้วไม่นานนักก็ถึงวังหลวง ทหารยามเห็นว่าเป็นขันทีหลิวจึงไม่ได้ตรวจตรามากนัก ปล่อยพวกเขาเข้าวังไปอย่างไม่มีพิธีรีตอง

ไม่นานนักรถม้าก็หยุดลง หยิ่นหรูจูลืมตาขึ้น ก้าวลงจากรถม้าโดยเหยียบหลังบ่าวรับใช้ต่างม้านั่ง หยิ่นเจียวเองก็ลุกตามหลังพี่สาว นางตบกระโปรงปัดเศษขนมที่ร่วงหล่น ทำท่าจะก้าวลงจากรถม้า หากแต่แล้วกลับชะงักเมื่อเห็นบ่าวรับใช้ทำท่าโก้งโค้งให้นางเหยียบหลังของเขา

"ลงมาเร็วๆ "หยิ่นหรูจูเร่งน้องสาว เมื่อหันมาเห็นนางยังยืนอยู่อย่างโง่งม

"เอ่อ.. ไม่มีม้านั่งให้ข้าเหยียบลงหรือ? " หยิ่นเจียวจำได้ว่าตอนที่ปีนขึ้นรถม้ามีม้านั่งให้เหยียบขึ้นมานี่!..

“ฮ่าๆๆ คุณหนูรอง แถวนี้ไม่มีม้านั่งหรอก ท่านเหยียบบ่าวรับใช้ได้เลย!” หลิวกงกงเดินมาเห็นหยิ่นเจียวทำท่าละล้าละลังอยู่บนรถม้า เขาเข้าใจความรู้สึกของนางดี แต่อดคิดไม่ได้ว่าความมีเมตตาของนางที่มีต่อบ่าวรับใช้ ออกจะดูเป็นเรื่องราวใหญ่โตเกินไปสักหน่อย!

"คุณหนูรองเหยียบหลังบ่าวลงมาเถอะขอรับ บ่าวรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับใช้คุณหนูรอง! " บ่าวที่นั่งอยู่กับพื้นเริ่มหน้าบึ้ง เขากลัวว่าตนเองจะถูกลงโทษ หยิ่นเจียวกัดปาก หากนางยังไม่ขยับตัว

"ลุกขึ้นเถอะ! " หยิ่นหรูจูพูดกับบ่าวรับใช้ เขาดูลังเลอยู่สักครู่ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังไปยืนก้มหน้าเงียบๆ รู้ว่าขันทีหลิวให้ความสำคัญกับสองพี่น้องคู่นี้มากเพียงใด

หยิ่นหรูจูเดินไปที่รถม้า นางยื่นมือออกมา มองหน้าหยิ่นเจียว พูดว่า

“ลงมา!” หยิ่นเจียวตกตะลึง มองดูความสูงระหว่างรถม้ากับพื้น ถ้าตกลงไปคงจะเจ็บน่าดู!

หยิ่นหรูจูยังคงยื่นมือให้น้องสาว แววตาของนางมุ่งมั่น จริงจัง จนทำให้หยิ่นเจียวรู้สึกวางใจอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดนางก็หลับตากัดฟัน แล้วโยนตัวเองลงใส่อ้อมแขนของหยิ่นหรูจู

แทบไม่น่าเชื่อว่าด้วยแรงของหยิ่นเจียวที่กระโดดใส่พี่สาวกลับไม่ทำให้หยิ่นหรูจูล้มลงกับพื้นอย่างที่ใครหลายคนนึกกังวล

ท่าทางของนางมั่นคง แข็งแรง ราวกับบุรุษผู้หนึ่งเลยทีเดียว

หยิ่นเจียวรู้สึกว่าอ้อมแขนนั้นหอมกรุ่นและอบอุ่นจนนางลังเลที่จะผละออก

“ลุกขึ้น!” หยิ่นหรูจูรู้สึกว่าน้องสาวเอาหน้ามาถูไถนางราวกับลูกแมวจนนางถึงกับหน้ามืดครึ้มไปทีเดียว หยิ่นเจียวผละออกอย่างไม่เต็มใจ นางส่งยิ้มให้พี่สาวอย่างประจบประแจง

"ขอบคุณ..พี่สาว " ขันทีหลิวที่อยู่ด้านข้างถึงกับร้องคร่ำครวญในใจว่า ไหนใครว่าพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกกันไงล่ะ!!

“คุณหนูใหญ่..คุณหนูรอง ต้องขอโทษท่านทั้งสองด้วย เป็นเพราะรถม้ากับเกี้ยวไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในวังหลวง ท่านต้องลำบากเดินไปเข้าเฝ้าไทเฮากับข้า..” หลิวกงกงโค้งตัวพร้อมยิ้มอย่างสุภาพให้คุณหนูจวนจงหยงโหวทั้งสอง

“ไม่เป็นไร กงกง..พวกข้าต้องขอพึ่งท่านแล้ว!” หยิ่นหรูจูกล่าวตอบกลับอย่างสุภาพไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

ส่วนหยินเจียวก้มลงมองนิ้วเท้าของนางอย่างไม่สบายใจนัก

หญิงสาวเดินตามหลังพลางดึงชายแขนเสื้อของพี่สาวไปด้วยในขณะที่เดิน นางเห็นว่าหยิ่นหรูจูไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจ หยิ่นเจียวจึงยิ้มแล้วหัวเราะออกมาอย่างสบายใจ

…......

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป