Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (นิสัยตัวประกอบ/ออกแบบชุด)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

นิสัยตัวประกอบ/ออกแบบชุด

  • 03/12/2565



 

ในความคิดของฮูหยินจวนจงหย่งโหวแล้ว หยิ่นเจียวเป็นลูกสาวคนโปรดของนาง แต่ท่านหญิงลั่วเฉียนเย่กลับผลักนางตกลงไปในสระบัว แม้ว่านางจะไม่เสียชีวิต แต่ทว่าเมื่อฟื้นได้สติเจียวเจียวกลับความจำเสื่อมไป ต่อให้หลัวฉินเย่มีสถานะสูงส่งแล้วอย่างไรเล่า? นางทำร้ายลูกสาวของนาง หลี่อวี้เหยียนไม่คิดว่าจะปล่อยนางให้ลอยนวลไปง่ายๆ หรอก

หัวใจของหยิ่นเจียวเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้ยินคำพูดของมารดาเจ้าของร่างเดิม ซึ่งอยู่ในสถานะตัวประกอบเช่นเดียวกับนาง ถ้าใครเป็นนักอ่านนิยายคงรู้ดีว่าตัวประกอบจำพวกนางร้ายนางอิจฉานั้น จุดจบไม่มีดีไปได้หรอก ส่วนใหญ่ก็ตายกันทั้งนั้นแหละ!ในโครงเรื่องเดิม มารดาของนางหลี่อวี้เหยียนผู้นี้ ผูกใจเจ็บต่อท่านหญิงหลัวฉินเย่จนทำให้นางกระทำการใหญ่โตจนเป็นที่เกลียดชังขององค์หญิงเหลียนฮวาผู้เป็นพระมารดาของท่านหญิง แม้ว่าในภายหลังด้วยความสามารถของนางเอกหยิ่นหรูจูก็ช่วยให้ท่านโหวบิดาของนางรอดจากภาวะยากลำบากมาได้ แต่สถานะของจวนจงหย่งโหวก็ตกต่ำลงไปมากเช่นกัน หยิ่นเจียวรีบคว้ามือของมารดาเอาไว้พูดอย่างกังวลว่า

“ท่านแม่ ท่านอย่าได้สนใจเรื่องนี้อีกเลย ข้าตกน้ำครั้งนี้ได้รับบทเรียนใหญ่หลวงจริงๆ ก่อนหน้าลูกไม่รู้ความทั้งเป็นคนโมโหร้ายสร้างแต่ศัตรูอาศัยชื่อเสียงของจวนจงหย่งโหวเที่ยวได้ก่อเรื่องน่าอับอายหลายเรื่อง ต้องให้บิดามารดาตามล้างทำความสะอาดลับหลังให้ลูก แต่คราวนี้คนที่ผลักลูกตกน้ำเป็นคนสูงศักดิ์ ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ต่อไปลูกจะหลีกเลี่ยงคนผู้นี้ไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว..ข้าจะว่าง่ายเชื่อฟัง..ขอท่านแม่ได้โปรดเชื่อข้าสักครั้งนะเจ้าค่ะ "

ว่าแล้วหยิ่นเจียวก็ยกมือขึ้นกล่าวสาบานเพื่อแสดงความจริงใจแต่คาดไม่ถึงว่าหลี่อวี้เหยียนกลับโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ได้ยินบุตรสาวพูดจาอ้อนวอน นางลุกขึ้นยืนเท้าเอวคำรามออกมาทันที

“คนสารเลวที่ไหนมาพูดจาข้างหูให้เจ้าฟังเช่นนี้ ..ใครมาพูดว่าเจ้าเป็นคนนิสัยไม่ดีหรือ? เจียวเจียวของแม่เป็นเด็กดีว่าง่ายออกอย่างนี้ .. ลูกอย่าได้ไปฟังเรื่องเหลวไหลพวกนั้นอีก หากใครมาพูดให้ลูกฟังแม่จะเป็นคนลงโทษมันเอง!! " หลี่อวี้เหยียนนั้นเป็นคนรักศักดิ์ศรีและหยิ่งยะโส ไม่ต้องสงสัยว่าหยิ่นเจียวคนเดิมได้นิสัยนี้มาจากใคร …นางรักลูกสาวมาก ยามที่โกรธนางพูดอย่างมีโทสะ หากเมื่อหันมาพูดกับลูกสาว..วาจากลับนุ่มนวลเอาใจหยิ่นเจียวยิ่งนัก

หยิ่นเจียวกลัวท่าทางของหลี่อวี้เหยียนจนแทบจะลืมร้องไห้ไปเลย! นี่เป็นนิสัยที่น่ากังวลของตัวประกอบสินะ!!

มารดาของนางมองข้ามเจตนารมณ์ในคำพูดของนางไปจนหมดสิ้น…หยิ่นเจียวคนเดิมจะไปมีจุดจบที่ดีได้อย่างไรหากมีมารดาที่มีวิสัยทัศน์แบบนี้ ต่อให้นางอยากจะอยู่รอดปลอดภัยให้ดี ชีวิตก็คงอาภัพเช่นเดิม

"ท่านแม่! นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ลูกไม่สนใจ..ไม่สนใจว่าใครเป็นคนผลักลูกตกน้ำ ..หากท่านแม่ไม่ฟังลูก ลูกจะไม่สนใจท่านแม่อีกแล้ว"ท้ายสุดนางก็จำเป็นต้องเลียนแบบท่าทางเจ้าของร่างเดิมอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวกอดอก ขมวดคิ้วทำหน้าบึ้ง ดูเป็นหญิงเจ้าอารมณ์ไร้เหตุผล

หลี่อวี้เหยียนเห็นท่าทางของลูกสาวแล้วใจละลาย ลูกสาวนางน่าเอ็นดูเหลือเกินยามวางท่าทางจริงจังแบบนี้ หากแต่นางจะจดจำความแค้นที่มีต่อหลัวฉินเย่เอาไว้ก่อน ..แต่กระนั้นหลี่อวี้เหยียนก็ยังรับปากลูกสาว

“ก็ได้ๆ แม่ฟังเจียวเจียว! “ หลี่อวี้เหยียนมองลูกสาวนัยน์ตาเต็มไปด้วยความรัก นางไม่คิดว่าหยิ่นเจียวจะจริงจังกับคำพูดของนางได้หรอก หากนางก็ไม่อยากขัดใจลูกสาว ตอนนี้ในหัวของหยิ่นเจียวกลับเต็มไปด้วยคำถาม

ทำไม? นางจะกลับตัวเป็นคนดีไม่ได้หรือ?

“เจียวเจียว อีกไม่กี่วันลูกต้องเข้าเฝ้าไทเฮาแล้ว แม่จะเอาผ้าไหมเนื้อดีที่ทางวังหลวงมอบให้มาทำเสื้อผ้าให้เจ้า เจ้ามาเลือกดูแบบกับแม่เถอะนะ”

“ท่านแม่จะเรียกให้พี่สาวมาดูด้วยไหม? หลี่อวี้เหยียนชะงักใบหน้าขึงตึงขึ้นทันที หัวใจที่มีต่อลูกสาวคนโตนั้นบิดเบี้ยว หยิ่นหรูจูไม่ได้ใกล้ชิดกับนางมาตั้งแต่แบเบาะ แม้ว่านางจะห่วงใยแต่ก็เทียบไม่ได้กับหยิ่นเจียว แต่เมื่อเห็นสายตาที่คาดหวังของลูกสาวคนเล็กนางก็พูดไม่ออกเป็นเพราะผ้าชิ้นนั้นมีพอที่จะทำได้แค่ชุดเดียว หลี่อวี้เหยียนฝืนยิ้มกล่าวว่า

“แม่จะให้บ่าวไปตามหรูจู”

"ท่านแม่ใจดีเจ้าค่ะ "หยิ่นเจียวลูบแขนมารดาอย่างประจบ หลี่อวี้เหยียนมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของลูกสาว ความกังวลก็หายไป น้อยครั้งนักที่เจียวเจียวจะอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสแบบนี้ หลี่อี้เหยียนคิดแก้ปัญหาว่านางจะเอาผ้าผืนอื่นมาให้หรูจูแทน แม้ว่าเนื้อผ้าจะไม่ดีเท่ากับของที่วังให้มา แต่หรูจูเป็นพี่สาวนางไม่ควรแข่งอวดโฉมกับหยิ่นเจียว

****

หยิ่นหรูจูขมวดคิ้วเมื่อได้ยินบ่าวข้างกายมารดาที่ชื่อ หลิวหยุนมาตามให้นางไปเรือนอี้ฉิง

“ข้ารู้แล้ว อีกสักครู่ข้าจะไปหาท่านแม่”

“คุณหนูใหญ่ เป็นคุณหนูรองไปฟ้องอะไรกับฮูหยินอีกหรือเปล่าเจ้าคะ?”ชุยอวี้มองหยิ่นหรูจูอย่างกังวล

"ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะไปหาท่านแม่เพียงคนเดียว เจ้าอยู่นี่ไม่ต้องไปด้วยหรอก "หยิ่นหรูจูวางหนังสือในมือลงก่อนที่จะขยับจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไป

“คุณหนูใหญ่!” ชุยอวี้น้ำตาคลอเมื่อคิดว่าคุณหนูปกป้องนาง เพราะกลัวว่ามารดาจะเกรี้ยวกราดใส่สาวใช้อย่างนางแทน นางยินดีไปรับโทษตามลำพัง

*****

“เจียวเจียว ลูกดูซิ มีผืนไหนที่ชอบบ้างไหม? ผืนสีชมพูนี่ก็สวยนะ เข้ากับสีผิวของลูกเลย สีขาวล่ะ ปักลายผีเสื้อก็สวย ลูกใส่แล้วต้องดูงดงามเป็นแน่ “ หลี่อวี้เหยียนชี้ชวนให้ลูกสาวดูผ้าที่กองอยู่เบื้องหน้าอย่างกระตือรือร้น

“ท่านแม่ ..ข้ามีเสื้อผ้ามากมายแล้ว ..”หยิ่นเจียวดูไร้อารมณ์เป็นเพราะมารดาแทบจะเอาผ้าทั้งกองที่อยู่บนโต๊ะมาประเคนใส่ตัวนาง ยามที่หยิ่นหรูจูเดินเข้ามาในห้องโถงที่ด้านหน้า นางได้ยินเสียงหลี่อวี้เหยียนและหยิ่นเจียวดังลอดออกมาจากห้องที่ด้านใน ไม่ต้องเข้าไปเห็นก็พอจะเดาฉากแม่ลูกแสดงความรักใคร่ต่อกันได้ หยิ่นหรูจูสับสน เมื่อนึกถึงสิ่งที่หลิวหยุนบอกนาง นางพอจะรู้สาเหตุแล้ว…หญิงสาวยิ้มอย่างประชดประชันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับนางหรอก แต่หัวใจของนางนี่สิ ..มันยังอดเจ็บปวดไม่ได้

"พี่สาวๆ พี่มาแล้วหรือ? " หยิ่นเจียวเหลือบมาเห็นรอยยิ้มที่ประชดประชันของนางเข้าพอดี หญิงสาวหนังศีรษะชาวาบ นางกรีดร้องอยู่ในใจ…

นางเอกคงไม่เข้าใจนางผิดอีกใช่ไหม? ..คิดว่านางกำลังอวดความโปรดปรานที่มารดามีต่อนางหรือเปล่า? 

หยิ่นหรูจูเก็บสีหน้าและสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วนางทำความเคารพมารดา อย่างสุภาพ

"คารวะท่านแม่ " บรรยากาศตอนที่หยิ่นหรูจูเข้ามาในห้องดูจะเป็นไปอย่างกระอักกระอ่วนชอบกล หลี่อวี้เหยียนไม่ค่อยกระตือรือล้นเหมือนเดิม แต่กระนั้นนางยังทักทายลูกสาวคนโต

“หรูจูเจ้ามาก็ดีแล้ว ..มาเลือกผ้าที่จะตัดชุดใส่ไปเข้าเฝ้าไทเฮาเถอะ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว!” หลี่อวี้เหยียนกวักมือเรียก แม้ท่าทางจะดูเป็นกันเองแต่ความสนิทสนมกับไม่เท่ากับที่มอบให้หยิ่นเจียว

หยิ่นหรูจูปรายตามองผ้าที่วางกองอยู่บนโต๊ะ สีหน้านางยังเรียบเฉย

“ให้น้องสาวข้าเลือกก่อนเถอะ!”

การกระทำของหยิ่นหรูจูเป็นที่พอใจของหลี่อวี้เหยียนเป็นอย่างมาก นางรีบดึงหยิ่นเจียวมาข้างกายก่อนที่จะกระวีกระวาดเปิดหีบไม้จันทน์ที่แกะสลักอย่างสวยงามเปิดให้ลูกสาวดูอย่างตื่นเต้น

***************

บทที่ 13

หีบไม้จันทน์ที่หลี่อวี้เหยียนเปิดออกมา ข้างในมีผ้าสีขาวพระจันทร์เสี้ยว เนื้อละเอียด นุ่มแวววาว นางลูบไล้ผ้าอย่างทะนุถนอม ผ้าชิ้นนี้เป็นของบรรณาการมาจากต่างแคว้น มีเพียงสิบชิ้นเท่านั้น ฮ่องเต้ทรงพระราชทานมาให้จวนจงหย่งโหว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปรดปรานของพระองค์

“เจียวเจีย ..แม้ว่าผ้าพื้นนี้สีจะดูเรียบไปสักหน่อย แต่ถ้าหากช่างปักเก่งๆ มาปักลายลงไปให้ดูปรานีตแม่ว่าน่าจะสวยงามมากทีเดียว "หลี่อวี้เหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หยิ่นเจียวเหลือบดูหยิ่นหรูจู เห็นนางมองตรงไปข้างหน้าเหมือนไม่ใส่ใจ การกระทำของนางสองแม่ลูกเลย หนังศีรษะของนางยิ่งชาหนึบกว่าเดิม ดูแล้วให้หนักใจในความสัมพันธ์ของนางเอกกับมารดาเหลือเกิน

“ท่านแม่ ..ข้าว่าผ้าสีนี้เหมาะกับพี่สาวมากกว่า ..พี่สาวเป็นคนสุขุม สง่างามมีแต่พี่สาวเท่านั้นที่จะเหมาะกับผ้าชิ้นนี้..”หยิ่นเจียวพูดอย่างอ่อนหวานนุ่มนวลโดยไม่ลืมที่จะยกยอปอปั้นนางเอก

“จะได้ยังไง!” เสียงของมารดาแหลมบาดหูขึ้นมาทันที หากพอนึกขึ้นมาได้ว่าหยิ่นหรูจูยืนอยู่ในห้องด้วย นางจึงพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง หยิ่นหรูจูหลุบตาลงไม่ให้ใครได้เห็นแววตาที่โศกเศร้า นางพูดเสียงเรียบๆ ว่า

“ท่านแม่พูดถูกแล้ว..ให้น้องสาวเถอะเจ้าค่ะ "

หลี่อวี้เหยียนแสดงสีหน้าละอายขึ้นมาวูบหนึ่ง ถ้าหยิ่นหรูจูจะมีนิสัยออดอ้อนเหมือนหยิ่นเจียวบ้าง นางกับลูกสาวคนโตอาจจะสนิทสนมกันได้มากกว่านี้ นี่นางมีทีท่าเหินห่างราวกับคนแปลกหน้าอยู่ตลอดเวลาจนนางไม่อยากจะใกล้ชิดกับลูกสาวคนนี้เลย หยิ่นเจียวรู้สึกบรรยากาศเขม็งเกลียวขึ้นเรื่อยๆ จนนางรู้สึกวิตกกังวล

นางเดินไปหยิ่นหรูจูจับมือแล้วเขย่าเบาๆ อย่างออดอ้อน

“พี่สาว! ผ้าชิ้นนี้มันเหมาะกับพี่จริงๆนะ  ถ้าพี่ไม่อยากใส่คนเดียวเช่นนั้นมาใส่คู่กันกับข้าดีไหม? ข้าจะหาผ้าลายอีกผืนมาจับคู่ด้วยกันแบบนี้ก็น่าจะพอทำชุดได้ถึงสองชุดนะเจ้าคะ!”

หยิ่นหรูจูตกใจกับมือเล็กๆ ที่เอื้อมมาจับมือของนางอย่างสนิทสนม นางผงะถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว พอทำไปแล้วจึงเห็นว่าน้องสาวของนางมีสีหน้าเศร้าสร้อย ดวงตาก็เหมือนมีไอหมอกจับอยู่ พอหยิ่นหรูจูเห็นแบบนั้นนางสงสัยว่าตนเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า? แต่แล้วนางก็ได้สติ หยิ่นเจียวเคยร้องไห้เพราะเสียใจที่ไหนกัน มีแต่แสร้งทำเท่านั้น พอนางเหลือบไปดูมารดาก็เห็นมารดาทำท่าไม่พอใจ…หรือว่านี่จะเป็นการแสดงแบบใหม่ของนางกันน่ะ? พอคิดแบบนี้นางก็ดึงมือออกจากมือหยิ่นเจียวทันที

“เหลวไหล! ผ้ามีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้นจะทำถึงสองชุดได้อย่างไร? ดูสิจะหาสีมาจับคู่ให้เข้ากันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ”

หลี่อวี้เหยียนแสดงความไม่พอใจ นางเห็นทุกอย่างที่หยิ่นเจียวทำ ตั้งแต่ที่หยิ่นเจียวตกน้ำแล้วฟื้นขึ้นมา นางพยายามเข้าหาทำตัวสนิทสนมกับพี่สาวของนางมากขึ้น แต่หยิ่นหรูจูยังดูไม่สนใจและมีทีท่าเย็นชากับหยิ่นเจียวตามปกติ

เจียวเจียวเป็นคนหยิ่งยโส เอาแต่ใจตัวมาก คราวนี้นางลดตัวของนางลงมากแล้ว แต่หรูจูยังทำเพิกเฉยใส่นางอยู่อีกหรือ?

หยิ่นหรูจููที่ยืนอยู่รู้ดีว่ามารดาแกล้งดุหยิ่นเจียวเพื่อกระทบนางต่างหาก หยิ่นหรูจูอ้าปากกำลังจะพูด หากกลับถูกหยิ่นเจียวขัดจังหวะขึ้นก่อน หยิ่นเจียวกระทืบเท้า เม้มปาก ท่าทางเอาแต่ใจ หมอกในดวงตาจับตัวแน่นขึ้นคาดว่าจะกลายเป็นน้ำตาในไม่ช้า นางมองไปที่มารดาน้ำตาคลอแทบจะหยด

“ท่านแม่! ข้าไม่สนใจ ข้าจะใส่ชุดเหมือนกับพี่สาว ส่วนเรื่องแบบเรื่องผ้าที่จะมาจับคู่กัน ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวคนนี้เถอะเจ้าค่ะ! " หยิ่นเจียวพูดแล้วก็แอบถอนหายใจ ถ้าหากต้องการให้หลี่อวี้เหยียนฟังนางคงมีแต่ต้องใช้วิธีแบบนี้เท่านั้น

“แต่ว่า…”หลี่อวี้เหยียนหนักใจ สิบนิ้วของหยิ่นเจียวแทบจะไม่เคยสัมผัสน้ำแร่ด้วยซ้ำ..นางจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร? จะเข้าใจการออกแบบหรือแม้แต่จะจับคู่สีของผ้าได้หรือ? เกรงว่านางจะเห็นเป็นของเล่นเสียมากกว่า..

“ท่านแม่! ท่านแม่ไม่รักลูกไม่ตามใจลูกแล้วหรือเจ้าคะ ลูกแค่อยากใส่เสื้อผ้าเหมือนพี่สาวเท่านั้นเอง!” หยิ่นเจียวสูดน้ำมูก น้ำตาไหล ดูเหมือนคนถูกรังแกอย่างหนัก

“ลูกเอ๋ย! พอเถอะๆ แม่ตามใจลูกแล้ว ..อย่าร้องไห้..เจียวๆ หยุดร้องเถอะ!”หลี่อวี้เหยียนรีบใช้มือเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว นางตีขาตนเองอย่างโมโหที่นางขัดใจลูกสาว หยิ่นหรูจูมองหยิ่นเจียวอยากแปลกใจ เหมือนนางจะไม่เข้าใจน้องสาวคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ หลี่อวี้เหยียนปลอบใจตบบ่าตบไหล่นางอย่างปลอบประโลม…แต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่ยอมหยุด นางไม่ได้อยากร้องไห้ แต่น้ำตาบ้านี่กลับไหลออกมาตลอด หยิ่นเจียวไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำตาถึงได้ไม่หยุดไหลเสียที!!

หลังจากหลี่อวี้เหยียนเดินกลับไปนางก็บ่นกับสาวใช้คนสนิทอย่างหลิวหยุนว่า

“หลิวหยุน ข้าล่ะกลัวหยิ่นเจียวจริงๆ ไม่รู้ว่านางจะแผลงฤทธิ์อะไรอีก ดูสินางจะทำอะไรกับผ้าชิ้นนั้นได้ มิแคล้วจะให้จวนหย่งจงโหวขายขี้หน้าอีกกระมัง ..แต่ช่างเถอะๆ ขอแค่นางอารมณ์ดีก็ปล่อยนางทำไปเถอะ!”

หากหยิ่นเจียวรู้ว่ามารดาคิดยังไงกับนาง นางคงได้แต่ถอนใจ เจ้าของร่างเดิมทำลายจวนจงหย่งโหวมากกว่าที่มารดาจะคาดถึงด้วยซ้ำ หลังจากนั้นหยิ่นเจียวก็ให้หงเซี่ยไปหาอุปกรณ์ต่างๆ มาให้นาง

แม้ว่าหงเซี่ยจะรู้ว่านางจะใช้กระดาษฟางเอาไปทำอะไร แต่สำหรับถ่านนั้น หงเซี่ยจนปัญญาที่จะรู้ว่าคุณหนูจะเอาถ่านมาทำอะไรจริงๆ ..แต่นางก็ไม่ได้ซักไซ้ รีบไปหาของที่หยิ่นเจียวต้องการมาให้

หยิ่นเจียวคลี่กระดาษลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ใช้ดินสอที่ทำจากถ่านวาดรูปที่อยู่ในหัวออกมาอย่างรวดเร็ว หงเซี่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับตาค้าง มองคุณหนูที่จู่ๆ ก็ทำท่าเคร่งขรึมจริงจังจนทำให้ไม่อยากรบกวนสมาธินาง

หยิ่นเจียวหัวสมองแจ่มใส นางเอนตัวแล้วเริ่มร่างแบบอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้ถ่านที่เปราะบางก็ถึงกับหักไปหลายแท่งแล้ว อีกทั้งกระดาษที่ใช้ไม่ได้ก็กองเกลื่อนกราดไปทั่วพื้นห้อง หลังจากเวลาล่วงผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดคิ้วที่ขมวดของนางก็คลายออก หญิงสาววางแท่งถ่านลงแล้วร้องว่า

"เสร็จแล้ว! "นางหมุนคอ สะบัดข้อมือเพื่อคลายเมื่อย จากนั้นก็ยื่นกระดาษให้หงเซี่ย

“หงเซี่ย เอากระดาษแผ่นนี้ไปให้พี่สาวข้าดู หากนางพอใจก็ส่งให้ช่างทำเสื้อได้เลย!"หยิ่นเจียววาดรูปในแท็บเล็ตมานานจนตอนนี้มาจับดินสอก็รู้สึกไม่ถนัดเสียแล้ว

“นี่..คุณหนูเป็นคนวาดหรือเจ้าคะ!”หงเซี่ยพูดอย่างประหลาดใจ

มีภาพวาดหญิงสาวสองคนอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนกับ หยิ่นเจียวและพี่สาวของนางหยิ่นหรูจูไม่มีผิดเพี้ยน แม้แต่เสื้อผ้าที่พวกนางใส่ ก็เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีการเขียนกำกับถึงสีและวัสดุที่ใช้แม้ว่าจะไม่ใช่รูปลงสีหากแต่พอดูแล้วก็เข้าใจได้โดยง่าย จากรูปนี้หงเซี่ยพอจะจินตนาการได้ว่าคุณหนูทั้งสองหากได้สวมใส่ออกมาจะดูงดงามมากขนาดไหน

******

















 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป