Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (ท่านเป็นนายข้าเป็นบ่าว)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

ท่านเป็นนายข้าเป็นบ่าว

  • 02/12/2565

ในตอนนั้นเองที่หงเซี่ยเดินเข้ามาพร้อมกับอ่างล้างหน้า นางกะพริบตาอย่างงุนงงกับท่าทางของหยิ่นเจียว

“หงเซี่ย!เมื่อคืน..เจ้าเห็นอะไรผิดปกติไหม? “หยิ่นเจียวถาม หญิงสาวไม้เข้าใจว่ารอยแดงที่คอของนางเกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ไม่มีนะเจ้าคะ เมื่อคืนบ่าวเฝ้าอยู่หน้าห้อง ไม่มีใครเข้ามาหลังจากที่จางมามากลับไปแล้ว แต่เมื่อคืนนี้ยุงเยอะมากบ่าวคิดว่าต่อไปต้องจุดยาไล่ยุงจะดีกว่า” หงเซี่ยขมวดคิ้ว นางใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้หยิ่นเจียวอย่างนุ่มนวล

หยิ่นเจียวพยักหน้า แม้ว่านางจะคิดว่าไม่ใช่รอยที่เกิดจากยุงกัด แต่นางก็ไม่รู้จะโต้แย้งได้อย่างไร? หญิงสาวได้แต่เงยหน้าปล่อยให้หงเซี่ยทำความสะอาดใบหน้าอย่างว่าง่าย นางมองสาวใช้ด้วยดวงตาที่เป็นประกายและมีความสุข จนหงเซี่ยรู้สึกไม่สบายใจจนต้องเอ่ยปากออกมาว่า

“คุณหนู…ท่านอยากจะสั่งอะไรบ่าวหรือเจ้าคะ? "

“หงเซี่ย! เจ้าอย่าเรียกตัวเองว่าบ่าวอีกเลย ..ข้าอยากขอบคุณที่เจ้าดูแลข้านะ “ หยิ่นเจียวรู้ว่าหงเซี่ยเป็นสาวใช้คนสนิทข้างกายของร่างเดิมมาก่อน นางย่อมเห็นว่าตนเองเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน และอาจจะทำให้ผู้อื่นสงสัยได้ นางจึงรีบเสริมพูดขึ้นว่า

“ข้าจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ แต่ข้าเห็นว่าเจ้านั้นดีกับข้ามาก แต่ก็กลัวข้ามากเช่นกัน บางที..เมื่อก่อนข้าอาจจะทำเรื่องไม่ดีไว้กับเจ้า ..แต่ต่อไปข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว..เจ้ายกโทษให้ข้าได้ไหม? " นางจับมือหงเซี่ยเอาไว้พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจและอ่อนโยน บังเอิญเหลือเกินที่หญิงสาวลืมคิดถึงบาดแผลที่มือเมื่อนางบีบกระชับมือที่บอบบางของตนเองเข้ากับมือของหงเซี่ย หยิ่นเจียวก็เจ็บจนหน้าเหยเก นางพยายามอดทนไม่ร้องออกมา เพราะกลัวว่าจะดูเป็นคนใจเสาะ แต่กลับเป็นว่าหงเซี่ยสะดุ้งผ้าเช็ดหน้าถึงกับตกลงที่พื้น นางลนลานรีบก้มลงหยิบผ้าเช็ดหน้า ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม จริงจังกับหยิ่นเจียว

“คุณหนู ..ท่านอย่าได้พูดแบบนี้ ท่านเป็นนาย บ่าวเป็นทาสรับใช้ สถานะย่อมแตกต่างกัน..ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใดจะเฆี่ยนตีหรือดุด่าบ่าว ท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษทาสรับใช้ที่ต่ำต้อย ที่นี่เป็นจวนจงหย่งโหวย่อมมีกฎมีระเบียบ คุณหนูต้องจำไว้นะเจ้าคะ!”

หยิ่นเจียวไหล่ตก ใบหน้าสลดลง..นางพยักหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เหึ่ยวเฉาว่า

“ข้าเข้าใจแล้ว…”

นางเข้าใจแล้ว..เข้าใจทุกอย่างดี แต่..ในนิยายหลายเรื่องไม่ได้เขียนถึงหญิงสาวที่ข้ามมิติมาจากศตวรรษที่21แล้วพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เท่าเทียมกันจนเป็นที่ปลื้มปิติยินดีกับสาวใช้..จนทำให้สาวใช้เป็นผู้ที่จงรักภักดีกับนางหรอกหรือ? แล้วนี่ทำไม? นางก็พูดเหมือนกับนิยายที่เขียนกันทั่วไป..แต่ทำไมผลลัพธ์ไม่เหมือนกับนิยายเรื่องอื่นล่ะ? หรือเป็นเพราะนางไม่ใช่นางเอกของเรื่องนี้??

นางไม่ได้หวังถึงขนาดจะให้หงเซี่ยจงรักภักดีตายแทนนางหรอก ขอแค่ละอคติที่มีต่อเจ้าของร่างเดิมได้นางก็พอใจแล้ว!

สุดท้ายแล้วหยิ่นเจียวก็เป็นแค่ตัวประกอบ การจะทำให้คนรอบข้างเอ็นดูโปรดปรานนางก็ต้องทำงานให้หนักมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าภายภาคหน้าจะโดนใครผลักตกหลุมไฟไปอย่างไม่รู้ตัว

“คุณหนู..อยากจะทานอาหารเช้าหรือยังเจ้าคะ? "หงเซี่ยไม่สบายใจเมื่อเห็นหยิ่นเจียวเงียบไป หยิ่นเจียวกำมือกลืนคำพูดที่อยากจะเอ่ยตอบออกไป

"กินสิๆ " เมื่อพูดถึงอาหารนางพยักหน้าอย่างรวดเร็ว สมองแล่นทำงานขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือตัวประกอบผู้โชคร้าย ก็ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่ากินอีกแล้ว!!

บ่าวรับใช้ในโรงครัวเองก็ถึงกลับแปลกใจ เมื่อก่อนคุณหนูรองเป็นผู้ที่เรื่องมากในการกินการอยู่จนเป็นที่เลื่องลือ การทำอาหารในแต่ล่ะมื้อบ่าวในโรงครัวถึงกับกลัวตัวสั่นกันทั้งวันไม่รู้ว่าวันไหนคุณหนูจะไม่พอใจถึงกับสั่งลงโทษผู้คนในโรงครัว

“คารวะฮูหยินเจ้าค่ะ!” เสียงของสาวใช้ด้านนอกต่างพากันประสานเสียง หยิ่นเจียวหูผึ่งขึ้นมา

มารดาของเจ้าของร่างเดิมมาเยือนแต่เช้าเลยหรือ?

ฮูหยินจวนจงหย่งโหวกวาดตามองบ่าวรับใช้ที่ทรุดตัวลงกับพื้น ก่อนจะเอ่ยถามว่า

"คุณหนูรองเป็นอย่างไรบ้าง? "

"คุณหนูรองกำลังรับประทานอาหารเช้า ตอนนี้คุณหนูอาการดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ " สาวใช้ที่คุกเข่าอยู่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ยำเกรง

หลี่อวี้เหยียนถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่ลูกสาวนางพลัดตกน้ำไปฟื้นขึ้นมาก็จำใครไม่ได้สามีของนางถึงกับเอ่ยย้ำให้นางมาเยี่ยมลูกสาวบ่อยๆ เพื่อจะได้กระตุ้นความทรงจำของลูกสาว แต่..นี่ดูเหมือนว่านางจะหายสบายดีแล้ว? ....

“แค่กๆๆ “หยิ่นเจียวถึงกลับสำลักเมื่อได้ยินเสียงมารดา หงเซี่ยที่ยืนดูอยู่ด้านข้างรีบเทชาใส่ถ้วยส่งให้นางดื่มทันที

”เจียวเจียว…ทำไมรีบกินขนาดนี้ ดูสิสำลักเลย!” เมื่อหลี่อวี้เหยียนเดินเข้ามาได้ยินเสียงไอของบุตรสาวนางยิ่งทุกข์ใจเพิ่มมากขึ้น รีบสาวเท้าก้าวอย่างรวดเร็วมาลูบบ่าลูบไหล่หยิ่นเจียวด้วยความรัก

????

หยิ่นเจียวถึงกับตกตะลึงไปกับความอ่อนโยนของมารดา ใบหน้าและโคนหูของหญิงสาวถึงกับแดงขึ้นมา

“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ “ หยิ่นเจียวสูดลมหายใจเข้า สองสามครั้ง ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำ แก้มแดงก่ำเห็นแล้วหลี่อวี้เหยียนยิ่งเพิ่มความรักความสงสารในตัวบุตรสาวผู้นี้มากขึ้นไปอีก

เมื่อหยิ่นเจียวมองไปรอบๆ เห็นสาวใช้ที่ติดตามมารดาอีกทั้งหลี่อวี้เหยียนต่างพากันมองนางเป็นตาเดียวกัน หัวใจของนางเต้นโครมครามขึ้นมาทันที นางกำมือแน่นเอ่ยถามเบาๆ

"ท่านแม่ ..ท่านทำไมมองข้าแบบนั้นละเจ้าคะ ?"

"ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรๆ เจียวเจียวของแม่โตขึ้นแล้ว..ปีหน้าเจ้าก็ต้องออกเรือนแล้ว..พอคิดแบบนี้แล้วแม่อดใจหายไม่ได้จริง ๆ "

ดวงตาของหลี่อวี้เหยียนที่เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูลูกสาวของนางนั้นกลับไปกระตุ้นความทรงจำของหยิ่นเจียวเข้าอย่างจัง…นางอดคิดถึงมารดาที่แท้จริงของนางไม่ได้

ในภพปัจจุบัน หยิ่นเจียวเป็นเด็กสาวที่เติบโตมาจากความรักของบิดามารดาเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เป็นเด็กสาวที่อ่อนไหว เปราะบางแบบนี้หรอก เมื่อตอนที่คนทั้งคู่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน หยิ่นเจียวไม่ได้ไปงานศพด้วยซ้ำ จนญาติๆ พากันว่ากล่าวใส่ร้ายว่านางเป็นลูกอกตัญญู นางไม่สมควรได้รับมรดกมากมายมหาศาลเช่นนั้น

แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือนางได้แต่ปิดประตูห้องขังตัวเองอยู่เงียบๆ ร้องไห้เป็นเวลาสามวันสามคืนอย่างไม่หยุด โดยที่ไม่ได้แม้แต่กินข้าวสักคำหรือน้ำสักหยด นางร้องไห้จนหลับไป ยามตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้อีกจนกระทั่งตาบวมราวกับเหอเถา ถ้าหากแม่บ้านที่ทำงานบ้านไม่เอะใจมาดูนาง รีบพานางไปส่งโรงพยาบาล นางคงได้ตายไปแล้ว หลังจากนั้นนางก็ต้องพบหมอจิตแพทย์ตลอด อาการหวาดกลัวสังคมของหยิ่นเจียวเพิ่มมากขึ้น นางจะรู้สึกไม่สบายใจอึดอัดและไม่ปลอดภัยท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย

ก่อนหน้าที่จะเป็นโรคนี้ หยิ่นเจียวเป็นแค่เด็กสาวผู้เงียบขรึมและเก็บตัวเท่านั้น นางยังสามารถไปโรงเรียนหรือออกไปข้างนอกได้ เพียงแต่ไม่ได้มีเพื่อนและไม่สุงสิงกับใคร แต่หลังจากที่บิดามารดาของนางจากไปอย่างกะทันหัน อาการของโรคที่กำเริบขึ้น ทำให้นางไม่สามารถไปโรงเรียนได้ด้วยซ้ำ หญิงสาวลาหยุดเรียนอย่างไม่มีกำหนด แล้วจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน วันเวลาที่เหลือก็แค่วาดรูปประกอบและอ่านนิยายเบาสมองเท่านั้น

ใครจะไปรู้ว่าทำไมพระเจ้าจึงส่งนางมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้? อีกทั้งยังส่งให้มารับชะตากรรมที่เจ้าของร่างเดิมทำไว้ เรื่องราวที่ฉาวโฉ่ จุดจบที่เลวร้าย นางจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมตัวประกอบปลายแถวแบบนี้ได้หรือ?

แต่..ต่อให้เจ้าของร่างเดิมจะเป็นคนมีนิสัยเลวร้ายอย่างไร? มารดาของนางก็ทั้งรักทั้งตามใจนางมากเหลือเกิน

“เจียวเจียว เป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้ดูผิดปกติแบบนี้ ลูกไม่ต้องห่วงนะ แม่รู้แล้วว่าใครเป็นคนผลักลูกตกน้ำ แม้ว่าตอนนี้เราจะทำอะไรนางไม่ได้ แต่ว่า..แม่จะไม่ปล่อยคนผู้นั้นเอาไว้หรอก..ไม่เชื่อลูกก็คอยดู!” แววตาอำมหิตส่องประกายจนเจิดจ้าของหลี่อวี้เหยียนทำให้หยิ่นเจียวหนาววูบขึ้นมา

*****************

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป