ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้
ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้
หยิ่นอี้เฉินโกรธมาก แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีคนมาดึงชายเสื้อของเขา พอมองไปก็เห็นหยิ่นเจียวที่ขอบตาแดงก่ำ น้ำตาเอ่อคลอจมูกเป็นสีแดงดูแล้วน่าสงสารเหมือนเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง
“พี่ชาย..ข้ารู้ผิดแล้ว.ต่อไปข้าไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว พี่อย่าโกรธข้าเลยนะ!” เสียงของหยิ่นเจียวติดสะอื้นจนขึ้นจมูกฟังแล้วชวนให้เวทนา สีหน้าของหยิ่นอี้เฉินอ่อนลง เขายื่นมือไปช่วยจะพยุงนางขึ้นมาหากแต่แล้วกลับรู้สึกตัว ชายหนุ่มผงะถอยหลังไปสองสามก้าวเล่นเอาหยิ่นเจียวที่นึกว่าพี่ชายจะฉุดนางขึ้นมากลับเสียหลักล้มลงกระแทกพื้นโดยเอาฝ่ามือยันตัวไว้
น้ำตานางหล่นลงมาสองหยด หญิงสาวเจ็บจนพูดไม่ออก
“โอ๊ย!”
“หงเซี่ย! เจ้ายืนเฉยอยู่ทำไม? รีบช่วยนายหญิงของเจ้าสิ " หยิ่นอี้เฉินหันไปดุหงเซี่ยทันทีแก้อาการประหม่าของเขา จากนั้นก็รีบสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีราวกับมีใครไล่ตาม หยิ่นอี้เฉินกลัวว่าหากเขาอยู่ต่อ อาจจะหลวมตัวทำบางอย่างไปโดยไม่รู้ตัวเป็นแน่ เรื่องนี้ต้องเป็นหยิ่นเจียวน้องสาวเจ้าเล่ห์ของเขาที่วางแผนเอาไว้อย่างแน่นอน
“หงเซี่ย! มือข้าเจ็บ!” หยิ่นเจียวเงยหน้าพร้อมกับยื่นมือให้หงเซี่ยดู ฝ่ามือทั้งสองข้างถูกก้อนหินบาดจนเลือดซิบ หยิ่นเจียวเจ็บจริงๆ ไม่ได้แกล้ง หลังจากสะบัดมือไปมาก็ยังไม่หายเจ็บ ราวกับใครเอามีดมากรีดที่ฝ่ามือแบบนั้น
หงเซี่ยใจหาย นางก้าวเข้าไปช่วยหยิ่นเจียวให้ลุกขึ้น
“คุณหนูรอง ข้าจะช่วยพยุงท่าน”
“อืม” หยิ่นเจียวลุกขึ้นให้หงเซี่ยพยุงนางนั่งบนเก้าอี้ม้าหิน ดวงตาโตของนางยังมีน้ำตาคลออยู่ พอหงเซี่ยเห็นนางเชื่อฟังอย่างว่าง่าย นางก็แอบยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีบ่าวรับใช้เอาอาหารมาให้
“หงเซี่ย! “ หยิ่นเจียวท้องร้องหลายรอบแล้ว นางมองหงเซี่ยตาเป็นประกาย หงเซี่ยหยิบชามโจ๊กมาให้นางด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ตักโจ๊กเข้าปากคุณหนูรอง
“หงเซี่ยเป่าก่อน!” นางเม้มปากบ่นเบาๆ แก้มพองอย่างไม่พอใจเมื่อรู้สึกว่าโจ๊กยังร้อนอยู่ หงเซี่ยเห็นแล้วก็รีบเป่าให้อย่างไม่รู้ตัวอาจเป็นเพราะนางดูน่าเวทนาก็เป็นได้ ไม่นานหลังจากกินโจ๊กจนหมด จางมามาสาวใช้ข้างกายมารดาของหยิ่นเจียวก็มาที่เรือน พอสาวใช้เห็นจางมามาทุกคนก็พากันถอยออกไป หยิ่นเจียวหันรีหันขวางมองตามหงเซี่ย ใจนางเต้นแรง อาการกลัวคนแปลกหน้าเริ่มกำเริบขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวรู้สึกประหม่าจนต้องกำมือตนเองไว้แน่น
"คุณหนูรอง..จำบ่าวชราไม่ได้หรือเจ้าคะ? บ่าวคือจางมามาเป็นสาวใช้ข้างกายมารดาของคุณหนู..บ่าวมาทาน้ำมันหอมให้คุณหนูเจ้าค่ะ " จางมามายิ้มแย้มท่าทางใจดีจนหัวใจที่เต้นรัวของหยิ่นเจียวค่อยสงบลง
"น้ำมันหอม?? " ทำไมในนิยายไม่เห็นมีฉากนี้เลย จางมามาเหลียวมองไปรอบๆ ก่อนที่จะพูดเสียงเบาว่า
“น้ำมันหอมตัวนี้ทำจากสมุนไพรช่วยบำรุงผิวพรรณนะเจ้าคะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ จะได้ใช้กันง่ายๆ เป็นสูตรลับของจวนจงหย่งโหวเลยทีเดียว หลังจากทาผิวแล้วจะทำให้ร่างกายมีกลิ่นหอมมาก ไม่เช่นนั้นแล้วจวนจงหยงโหวนี้จะมีพระสนมกุ้ยเฟย เซียนเฟยมาหลายคนหรือเจ้าคะ!"จางมามาดูราวกับภูมิใจในเกียรติยศเช่นนี้เหลือเกิน
หากหยิ่นเจียวกลับตกตะลึง..มิน่าเล่าร่างกายของนางจึงได้บอบบางถึงเพียงนี้ โดนกระแทกนิดหน่อยก็เป็นรอยช้ำแล้วเป็นเพราะน้ำมันหอมสูตรลับนี้หรือเปล่านะ?
หลังจากนั้น จางมามาให้นางถอดเสื้อผ้าออกให้หมด หยิ่นเจียวถึงกับกระโดดเหมือนกระต่ายด้วยความตกใจ นางโอบแขนรอบตัวอย่างแน่นหนา ยืนยันอย่างหนักแน่น
“ไม่ ๆ ..จางมามาข้าจะทาน้ำมันหอมเอง!”
“ฮ่าๆๆ คุณหนูรองอายหรือเจ้าคะ? ข้าเห็นคุณหนูมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ คุณหนูอย่าอายเลย ..ให้บ่าวทาให้เถอะจะได้ทาได้ทั่วตัวด้วย!"ว่าแล้วจางมามาก็ปลดเสื้อผ้านางออกอย่างผู้เชี่ยวชาญ ต่อให้หยิ่นเจียวจะหลบเลี่ยงอย่างไรก็หนีไม่พ้นอยู่ดี หยิ่นเจียวจะปฏิเสธท่าไหนผลสุดท้ายก็ถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมด หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำนอนคว่ำหน้าให้จางมามาทาผิวให้ด้วยน้ำมันสูตรลับตามที่ว่า..
จางมามามองไปที่แผ่นหลังที่สวยงามของหยิ่นเจียวก่อนที่จะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ผิวของคุณหนูรองดีมาก แม้ว่าคุณหนูใหญ่จะผิวขาวหากแต่กลับไม่ได้มีความละเอียดเหมือนกับของคุณหนูรองเลย น่าเสียดายหากหยกงามเช่นนี้จะไม่ได้เข้าวังหลัง..
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะให้ความสำคัญกับคุณหนูรองมากถึงเพียงนี้
“เอาละ! บ่าวทาน้ำมันหอมให้คุณหนูเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะซึมเข้าผิวหนัง คุณหนูนอนพักไปก่อนน่ะเจ้าคะ " หยิ่นเจียวเอาผ้าห่มคลุมหัว นางข้ามมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้อย่างไม่มีสาเหตุ หญิงสาวพยายามอย่างดีที่สุดให้คนรอบข้างของตนเองพอใจเพื่อชีวิตน้อยๆ ของนาง แต่เรื่องวันนี้ดูแล้วช่างน่าอับอายเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นเรื่องจดหมายรักฉบับนั้นหรือแม้แต่การทาน้ำมันหอมจนถึงกับต้องถอดเสื้อผ้าทั้งตัวแบบนี้ หยิ่นเจียวผู้กลัวการเข้าสังคม กลัวการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นรู้สึกทุกข์ใจเกินกว่าจะรับได้!! คิดแล้วก็นอนหลับเสียจะดีกว่าเพื่อว่าตื่นมาแล้วนางอาจจะได้กลับไปยังโลกปัจจุบันของนางก็เป็นได้ หยิ่นเจียวจึงเอาผ้าห่มคลุมโปงแล้วผล็อยหลับไปแบบนั้น
หลังจากที่หยิ่นเจียวหลับไปสักพักใหญ่ จึงมีคนเดินเข้ามาในห้อง คนผู้นั้นเข้ามายืนใกล้เตียงของหยิ่นเจียวแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่คลุมหัวของนางลงมา ใบหน้าของหญิงสาวเป็นสีแดงระเรื่อเพราะถูกผ้าห่มปิดเอาไว้
คนผู้นั้นจ้องมองใบหน้าของหยิ่นเจียวอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เอื้อมมือที่เย็นเฉียบไปสัมผัสที่ผิวหน้าของหญิงสาวผู้กำลังหลับใหลอย่างมีความสุข ความเย็นจากปลายนิ้วทำให้หยิ่นเจียวสะลึมสะลือราวกับจะลืมตาขึ้นมา หญิงสาวขมวดคิ้วปรือตาหากแต่แล้วกลับได้กลิ่นหอมบางอย่าง นางจึงหมดสติหลับไปอีกครั้ง
มือเย็นคู่นั้นเอื้อมมาที่ลำคอขาวผ่องของหญิงสาว หากเจ้าของมือคู่นั้นตัดสินใจที่จะบีบคอหยิ่นเจียว ..นางคงไม่รอดชีวิตไปได้!! หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่มือเย็นเฉียบก็กดลงไปที่ลำคอของนางเพิ่มแรงบีบมากขึ้น หากแต่แล้วเหมือนจะตัดใจไม่ได้ คนผู้นั้นกลับปล่อยมือออกอย่างกะทันหัน เหลือทิ้งไว้แต่รอยจางๆ สีแดงตรงลำคอของหยิ่นเจียว
ร่างนั้นถอยหลังเดินออกไปอย่างตระหนก บังเอิญไปชนม่านลูกปัดส่งเสียงกระทบกันดังกังวาน แต่กระนั้นหยิ่นเจียวก็ยังนอนหลับอย่างสนิทไม่ได้รู้เลยว่าคืนนี้นางเกือบจะโดนฆาตกรรมเสียแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นหยิ่นเจียวตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกลำคอแห้งผาก หญิงสาวเอื้อมมือไปลูบคอตนเองอย่างแปลกใจ นางเป็นหวัดหรือไงนะ? หยิ่นเจียวลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะรินน้ำให้ตนเองดื่มอดแปลกใจจนต้องเลิกคิ้ว ปกติแล้วหยิ่นเจียวมักจะได้ดื่มแต่น้ำเย็นๆ แต่วันนี้น้ำกลับอุ่นกำลังดีเลย ….แปลกจริงๆ ?
หลังจากดื่มน้ำอุ่นแล้วหยิ่นเจียวก็สดชื่นขึ้น หากทว่าอาการเจ็บคอยังไม่หายดี นางเดินไปที่กระจกทองเหลืองบานใหญ่ในห้อง…หญิงสาวเอนตัวเข้าไปใกล้แต่แล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นรอยแดงช้ำที่ลำคอของตนเอง!
**********************
ผรร : เพื่อนๆพอจะเดาได้ไหมว่าเป็นใคร ^^
เพื่อนๆชอบก็ทิ้งเม้นท์ไว้บ้างนะคะ