Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (มาเยี่ยมนางเอก)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

มาเยี่ยมนางเอก

  • 01/12/2565


หยิ่นเจียวเกาหัวอย่างหงุดหงิด จนผมทรงซาลาเปาของนางยุ่งเหยิง สาวใช้ในชุดสีชมพูเห็นท่าทางของนางแล้วก็อดกระซิบกับหงเซี่ยไม่ได้ว่า

“พี่หงเซี่ย! นางไข้ขึ้นจนปัญญาอ่อนไปแล้วกระมัง? "

ดวงตาหงเซี่ยมืดลง นางมองหยิ่นเจียวที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลโพกหัวเอาไว้ ท่าทางของนางดูหดหู่ เศร้าเสียใจทั้งดูตื่นตระหนก คละเคล้ากันไปอย่างบอกไม่ถูก เป็นอารมณ์ที่หงเซี่ยไม่เคยเห็นเลยนับแต่นางอยู่ข้างกายคนผู้นี้ หงเซี่ยรู้สึกว่าคุณหนูรองเปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนไปอย่างไรนางก็บอกไม่ถูกเช่นกัน อย่างเช่น..ครั้งนี้นางฟื้นขึ้นมาแต่กลับไม่โกรธไม่อาละวาดใส่ใครเลย นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกหรือ?

“เอาแบบนี้ดีกว่า!” น่าแปลกที่หลังจากคุณหนูรองอุทานออกมา ความเศร้าบนใบหน้าของนางก็หายไป หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข รอยยิ้มสว่างสดใสราวกับได้ขับไล่ความมืดมิดออกไปจนทำให้ห้องดูสว่างขึ้นมาทันที รูม่านตาของหงเซี่ยหดตัวลง นางรอคอยรอยยิ้มที่ดูบริสุทธิ์แบบนี้ของคุณหนูมานานมากแล้ว

หลังจากคิดตกแล้วหยิ่นเจียวก็รู้สึกหิวขึ้นมา นางแตะหน้าท้องที่หิวโหย หันไปดูโจ๊กและเครื่องเคียงบนโต๊ะ จากนั้นก็เลียปาก

“ข้าจะกินแล้วนะ!” หยิ่นเจียวพูดพลางหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกินโจ๊ก ทันทีที่โจ๊กเนื้อแน่นนุ่มละมุนเข้าปาก หยิ่นเจียวก็หรี่ตาลงอย่างพอใจ โจ๊กไหลลงคอพร้อมกับรสชาติของขึ้นฉ่ายที่สับละเอียดยังค้างอยู่ในปาก นางตักรังนกขึ้นมาอีกหนึ่งคำ ความไม่พอใจทั้งหลายล้วนอันตรธานหายไป บรรดาสาวใช้พากันมองหน้า คุณหนูดูแปลกไป พวกเขาติดว่านางจะโยนโจ๊กทิ้งเสียแล้ว..คุณหนูไม่ชอบอาหารรสจืดๆ พวกเขาคิดว่าจะโดนนางดุด่า ไม่น่าเชื่อที่จู่ๆ นางจะกลับมากินอาหารรสอ่อนจืดชืดแบบนี้ได้

******

“หงเซี่ย!” หยิ่นเจียวเรียกชื่อสาวใช้เบาๆ อย่างระมัดระวัง น้ำเสียงของนางนุ่มนวลราวกับน้ำตาลสายไหม ไม่มีร่องรอยความเกลียดชังอยู่เลย

หงเซี่ยไม่ตอบสนองอยู่ชั่วครู่ จนกระทั่งหยิ่นเจียวเรียกนางอีกครั้ง

“หงเซี่ย เจ้าเข้ามาหาข้าสักครู่ได้ไหม? " น้ำเสียงของนางดูสั่นไหวราวกับว่านางกำลังประหม่า ..

“เจ้าค่ะ " หงเซี่ยเก็บอารมณ์ที่พลุกพล่านของตนเดินเข้าไปเพื่อให้หยิ่นเจียวเฆี่ยนทำโทษนาง!!

หงเซี่ยรออยู่นานก็ไม่เห็นแส้จะมาปะทะหลัง  แต่กลับรู้สึกได้ว่าแขนเสื้อของนางถูกดึง พอมองไปก็เห็นหยิ่นเจียวคว้าชายแขนเสื้อนางแล้วแกว่งเบาๆ ดวงตาของนางมองดูหงเซี่ยอย่างเว้าวอน ดูน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก 

“หงเซี่ย…เจ้าช่วยพาข้าไปหาพี่สาวจะได้หรือไม่? ..ตั้งแต่ข้าฟื้นขึ้นมา ข้ายังไม่ได้ไปขอบคุณนางเลย …” หยินเจียวพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน กระพริบตาอย่างเว้าวอน นางคิดตกแล้ว ในเมื่อนางเป็นแค่ตัวประกอบนางก็ทำได้แต่เพียงกอดต้นขาทองคำของนางเอกเรื่องนี้สิ!

ขั้นแรกก็ต้องไปหานางเอกก่อนเพื่อแสดงความขอบคุณ ไม่ก็ไปขอให้นางยกโทษกับเรื่องราวที่หยิ่นเจียวผู้นี้เคยทำมาในอดีต เพื่อที่ต่อไปนางจะได้ไม่เฉยชากับตระกูลหยิ่นอีก

“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ แค่คุณหนูฝากบ่าวไปบอกก็ได้ "หงเซี่ยกลับมามีสติอีกครั้งนางรีบดึงชายแขนเสื้อของนางออกจากมือของหยิ่นเจียว

หยิ่นเจียวเคว้ง..นางผิดหวังและหงุดหงิด เจ้าของร่างเดิมทำอะไรเอาไว้นะ? ทำไมแม้แต่สาวใช้ข้างกายยังไม่สนิทใกล้ชิดกับนางเลย??

หัวใจของหงเซี่ยสั่นไหว ..ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกทนไม่ไหวเมื่อเห็นอาการที่ผิดหวังอย่างน่าประหลาดใจของคุณหนูรอง นางอดสงสัยไม่ได้ว่าคุณหนูทำท่าแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

“เอาล่ะ! ข้าจะพาคุณหนูไปก็ได้เจ้าค่ะ!”

******

หงเซี่ยเดินนำหน้าไปสองสามก้าวเพื่อซ่อนอาการแปลกใจของนางเอาไว้ หยิ่นเจียวรีบเดินตามไปอย่างมีความสุข ราวกับเด็กที่ได้กินขนม หญิงสาวเดินตามหงเซี่ยพร้อมกับดูโน่นดูนี่ไปตลอดทาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ออกมาจากเรือน..บางครั้งเมื่อเห็นบ่าวไพรหลายคนเดินขวักไขว่ไปมา  นางก็รีบก้มหน้าอย่างตื่นตระหนก แล้วรีบเร่งฝีเท้าตามหงเซี่ยไปอย่างเร็ว หยิ่นเจียวรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้หงเซี่ย แต่หลังจากเดินเร็วไปได้สักพัก นางก็เริ่มหายใจไม่ออก

นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่! ตอนนี้ร่างกายนางไม่แข็งแรงหรือ? แม้แต่จะเดินยังต้องเดินทีละก้าว พูดก็ต้องช้าๆ ร่างกายก็บอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้อง สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็ทิ้งรอยเอาไว้แล้ว ..หงเซี่ยสังเกตว่าตนเองเดินเร็วจนคุณหนูตามไม่ทัน คุณหนูร่างกายอ่อนแอบอบบาง ไหนเลยจะเหมือนนางซึ่งเป็นสาวใช้ได้อย่างไร?

หยิ่นเจียวเกาหัวอย่างรำคาญและหงุดหงิดตัวเอง นางยังหมกหมุ่นอยู่ในความคิดอย่างไม่รู้ตัวว่า หงเซี่ยได้ชะลอฝีเท้าลง

“คุณหนู ..เรามาถึงเรือนหมินซิ่วแล้ว” หงเซี่ยเอ่ยแล้วจึงเดินไปเปิดประตู

หยิ่นเจียวเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปข้างใน เรือนนั้นดูแล้วเงียบเหงาไร้ความสดชื่นเหมือนกับลักษณะท่าทางของนางเอกในเรื่องนี้ ไม่เหมือนเรือนของนางที่มีดอกไม้บานอยู่เต็มสวน ในเรือนของหยิ่นหรูจูมีสวนไผ่ และมีต้นแปะก๊วยต้นใหญ่อยู่ข้างลานม้าหิน

“หงเซี่ย..เจ้าจะเข้าไปกับข้าไหม? "

หยิ่นเจียวกอดอก นางรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง

มือของหงเซี่ยขยับหากนางยังคงก้มหน้าตอบ

“คุณหนูใหญ่ชอบความสงบ ถ้าหากคุณหนูรองอยากจะเข้าไปขอบคุณนาง ควรเข้าไปแต่ผู้เดียวจะดีกว่า "

แม้หงเซี่ยจะพูดแบบนั้น หากนางรู้ดีว่าคุณหนูรองนั้นชอบเอานางบังหน้าเวลานางกลั่นแกล้งคุณหนูใหญ่เสร็จเรียบร้อยดีแล้ว นางก็จะโบ้ยความผิดมาที่หงเซี่ยทุกครั้ง

“ก็…ได้ " หยิ่นเจียวไม่มีทางเลือก นางจึงยกชายกระโปรงเดินเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ หญิงสาวหันหน้าไปมารีๆรอๆ

ในนิยายเรื่องนี้ ผู้ที่นางใกล้ชิดที่สุดก็คือหงเซี่ยอีกทั้งสาวใช้ผู้นี้ก็อยู่กับนางมานานแล้ว  นางจึงมีความจำเป็นที่ต้องผูกไมตรีกับหงเซี่ยเอาไว้ให้ดี 

หยิ่นเจียวเดินเข้าไปช้าๆ ในเรือนนี้นางไม่เห็นสาวใช้เลย ไม่เหมือนเรือนของนาง ในเรือนอี้ฉิงนั้นนางมีทั้งสาวใช้ส่วนตัว สาวใช้ที่ทำงานทั่วไปสี่คนและกลุ่มสาวใช้ที่ทำงานบ้านอีกหลายคน มีคนเดินไปมาพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา จนหยิ่นเจียวแทบจะไม่กล้าเดินออกไปไหน

ในขณะที่ยืนรีรออยู่หน้าลานบ้าน พลันก็ได้ยินเสียงของตกดังเพล้ง! หยิ่นเจียวเหลียวไปตามเสียง เห็นอ่างทองแดงกลิ้งอยู่กับพื้น น้ำไหลนองเจิ่งไปทั่ว เด็กสาวร่างผอมบางกำลังจ้องมองนางด้วยแววตาหวั่นวิตก

“เอ่อ..เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? " หยิ่นเจียวแม้จะประหม่าต่อคนแปลกหน้าแต่ก็พยายามบังคับตนเองให้เอ่ยทักทายเด็กสาวผู้นั้น

ชุยอวี้คุกเข่าลงบนพื้นอย่างเงอะงะ

“คุณหนูรอง..คุณหนูใหญ่เพิ่งจะหายจากไข้เมื่อไม่กี่วันมานี้เองเจ้าค่ะ ขอ..ขอให้คุณหนูรองเมตตานาง…ที่ได้ช่วยคุณหนูรองขึ้นจากน้ำด้วยเจ้าค่ะ!” ชุยอวี้พูดไปก็โขกหัวขอความเมตตาไปด้วย ไหล่ที่บอบบางของนางสั่นไหว เห็นได้ว่านางกลัวหยิ่นเจียวมากเหลือเกิน

หงเซี่ยที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงชุ่ยอวี้ หญิงสาวคลี่รอยยิ้มออกมาอย่างประชดประชัน แววตาเป็นประกายวาวโรจน์

เหอะ! สุนัขชอบกินอึฉันใดคุณหนูรองผู้มีจิตใจชั่วร้ายก็ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยฉันนั้น




 



 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป