Your Wishlist

พระชายาเจ้าน้ำตาของท่านอ๋องจอมโหด (จำแม่ไม่ได้หรือ?)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

ข้ามมาเป็นตัวประกอบที่ตอนจบแสนรันทดเพราะแต่งงานกับชายชั่วผู้นั้นเกิดใหม่ชาตินี้นางต้องหนีเขาให้พ้นแต่เหมือนว่านางยังซวยไม่พอกลับตกไปอยู่ในอุ้งมือของนายท่านแปดที่ร่ำลือว่าฆ่าคนตาไม่กระพริบจนได้

จำนวนตอน :

จำแม่ไม่ได้หรือ?

  • 01/12/2565


หมอหลวงเฉียนไม่ปฏิเสธสินน้ำใจของเขาแต่อย่างใด เขาขึ้นรถม้าที่จวนจงหย่งโหวจัดไว้ให้แล้วจากไป

หยิ่นอี้เฉินเรียกสาวใช้เข้ามาส่งเทียบยาให้นางไปจัดการหาตัวยาและส่งไปที่เรือนของน้องสาวคนโตของเขา

“แค่กๆๆ” เสียงไอเล็ดลอดออกมาจากเรือนหมินซิ่ว ชุยอวี้มองไปที่หยิ่นหรูจูอย่างกังวล ไม่มีใครให้ความสนใจคุณหนูของนางเลย ตอนนี้มีแต่คนวิ่งไปที่เรือนอี้ฉิงกันหมด ทั้งๆ ที่คุณหนูเองก็ลงไปช่วยคุณหนูรองในสระบัวด้วยตนเอง ยามนี้นางถึงกับเป็นไข้ด้วยเช่นกัน

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ..ให้ข้าไปตามหมอมาเถอะ! " ชุยอวี้ลูบหลังของหยิ่นหรูจูเบาๆ

“แค่กๆ ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่กี่วันก็ดีขึ้นเอง” หลังจากไอแล้วนางจึงหยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอีกครั้ง

" เจ้าจะไม่ดูแลตัวเองแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ "

น้ำเสียงที่อบอุ่นดังขึ้นที่หน้าประตู

“คุณชายใหญ่! " ชุยอวี้อุทานออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของหยิ่นอี้เฉิน

“พี่ชาย..ข้าไม่เป็นอะไรมากหรอก..พี่ควรจะไปดูน้องรองมากกว่า” ดวงตาของหยิ่นหรูจูสองประกายแวววาวออกมาอย่างดีใจ หากแต่แล้วกลับหม่นลง

“เจ้าก็เป็นน้องสาวของข้าด้วยเช่นกัน เจียวเจียวมีท่านพ่อท่านแม่คอยอยู่ดูแลแล้ว เจ้าสิไม่เคยดิ้นรนแย่งชิงความสนใจเหมือนคนอื่นเขาเลย มา..ดื่มยาเสียถ้ายังไม่หายดี พรุ่งนี้ข้าจะหมอมาดูอาการของเจ้า " หยิ่นอี้เฉินถึงกลับส่ายหน้าเมื่อเห็นอาการของน้องสาวผู้นี้ของเขา

“ร่างกายข้าจะแย่ปานนั้นได้อย่างไรกัน? "หยิ่นหรูจูหน้าแดง ตอนนี้ท่าทีของนางดูเหมือนสาวน้อยในวัยแรกรุ่นมากกว่าเดิม

หยิ่นอี้เฉินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร หากในใจของเขากลับนึกโปรดปรานน้องสาวผู้ที่เพิ่งกลับมาอยู่จวนได้เมื่อตอนอายุแปดขวบผู้นี้มากกว่า นางเป็นเด็กมีเหตุผล ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัยไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็เป็นกุลสตรีที่ดีไม่เหมือนฝาแฝดผู้น้องของนางเลยสักนิดเดียว

********

หยิ่นเจียวเวียนหัวแทบตาย นางจำได้ว่ากำลังวาดรูปอยู่ดีๆ แต่แล้วเจ้าแมวอ้วนที่นางเลี้ยงมาก็ทำแก้วล้ม น้ำหกราดบนแป้นพิมพ์อย่างไม่ได้ตั้งใจหญิงสาวรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลเวียนไปทั่วร่างกายจากนั้นนางก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

เมื่อได้สติขึ้นมาอีกครั้งก็ยามที่หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำ หยิ่นเจียวสงสัยเหลือเกินว่ามีใครกำลังจะฆาตกรรมนางแล้วโยนนางโยนลงแม่น้ำเพื่ออำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่า?

หยิ่นเจียวเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย แต่บิดามารดาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อตอนที่อายุได้แค่สิบหกปีเท่านั้น ท่านทั้งสองทิ้งสมบัติและทรัพย์สินไว้ให้อย่างมากมาย รวมไปถึงบรรดาญาติพี่น้องที่จ้องจะฮุบสมบัติของนาง หยิ่นเจียวไม่มีปัญญาที่จัดการญาติที่โลภเหล่านั้นได้เลย หญิงสาวจึงมีอาการหวาดกลัวที่จะเข้าสังคมกับผู้อื่น อาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเล่น เข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ หากมีคนมากเกินไปหยิ่นเจียวจะตกประหม่าทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งก้มหน้าเนื้อตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งร่างกายยังอ่อนแอ ผิวหนังบอบบางหากไม่ระวังก็เป็นรอยฟกช้ำๆ ได้อย่างง่ายดาย ต่อมน้ำตาก็ตื้นมีอะไรมากระทบจิตใจแค่เพียงเล็กน้อยก็พร้อมที่จะน้ำตาคลอตลอดเวลา นี่เป็นร่างกายที่นางไม่ชอบเลยสักนิด ไม่อาจจะห้ามไม่ให้น้ำตาไหลได้ด้วย รูปลักษณ์แบบนี้ยิ่งทำให้หยิ่นเจียวเป็นสาวน้อยที่ขี้อายและหวาดระแวงกลัวผู้คนอย่างช่วยไม่ได้!!

แม้ว่าจะเป็นสาวน้อยที่หน้าตางดงาม ได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็นทายาทเศรษฐีมรดกนับพันล้าน แต่ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นก็ยังนำเอาออกมาใช้ไม่ได้จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะเท่านั้น นอกจากเงินค่าเล่าเรียนและค่าขนมที่ไม่มากนัก…ก็มีเพียงอพาร์ทเม้นท์สุดหรูใหญ่โต ที่หญิงสาวอยู่เพียงลำพังแต่ผู้เดียวดูไปแล้วช่างเป็นชีวิตที่น่าเวทนาไม่น้อย…

งานอดิเรกอย่างอื่นจึงไม่มีนอกจากการอ่านนิยายและกินขนมหวานแล้ว หญิงสาวยังชอบวาดรูปภาพประกอบอีกด้วย บางครั้งเพื่อที่จะหาเงินเล็กน้อยเพื่อไปซื้อขนมหวานที่อยากกิน นางจะตั้งใจทำได้ดีทีเดียว แต่ถ้าอาจารย์ผู้สอนวาดรูปรู้ว่านางเอาวิชาที่เขาสอนไปทำมาหากินโดยวาดรูปประกอบแบบนั้น อาจารย์คงจะกระอักเลือดตายเป็นแน่ ..

ใช่แล้ว!..ภาพประกอบที่นางวาดล้วนเป็นแนวชายรักชายหรือที่เรียกกันว่า ตันเม่ย นั่นแหละ อืม…ก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละ!!

เนื่องจากอาชีพที่ทำอยู่จึงทำให้หญิงสาวต้องอ่านนิยายแนวนี้แทบทุกวัน แม้บางครั้งจะเป็นแนวชายหญิงบ้างก็เถอะแต่ก็ช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน จนกระทั่งเมื่อวานนี้เองที่หญิงสาวอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่านะที่ทำให้ถูกโยนทิ้งลงน้ำ เพื่อมรดกนับพันล้านนั่น!..มีใครมาช่วยนางเอาไว้หรือ?

“น้ำ..น้ำ “ หยิ่นเจียวทั้งแสบคอ ลำคอแห้งผากเปล่งเสียงที่แหบแห้งออกมา อย่างไม่รู้ตัว

หงเซี่ยผู้โดยโบยที่ก้นมาหมาดๆ กำลังยืนอยู่ข้างเตียง นางเทน้ำเย็นเฉียบให้คุณหนูรอง เป็นการแก้แค้นที่คุณหนูผู้นี้ทำให้บ่าวไพร่ที่อยู่ในเรือนพากันถูกโบยไปถ้วนหน้าไม่มีเว้นเลยสักคนเดียว ยิ่งทำให้หงเซี่ยเกลียดชังคุณหนูรองผู้นี้เพิ่มมากขึ้น

“แค่กๆๆ " ทันทีที่น้ำเย็นไหลลงคอหยิ่นเจียวรู้สึกราวกับโดนคมมีดบาด เจ็บปวดเหลือเกิน

“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? “"น้ำเสียงหงเซี่ยดูราวกับกังวลเป็นห่วงคุณหนูของนางเหลือเกิน หากแต่แววตากลับทอประกายที่เย็นชาออกมา

ในที่สุดหยิ่นเจียวก็ได้สติกลับมา หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง แต่แล้วเมื่อเห็นคนแปลกหน้าอย่างหงเซี่ย นางสะดุ้งจนสุดตัว อาการตื่นกลัวคนแปลกหน้ากำเริบขึ้นมา

“เจ้า..เจ้าเป็นใคร?” หญิงสาวจับผ้าห่มแน่นกระถดถอยหลังไปแทบจะสุดเตียง เสียงสั่น น้ำในดวงตาคลอราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตื่นกลัว

หงเซี่ยตกตะลึงเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นภาพลักษณ์ที่อ่อนแอไม่มีอันตรายต่อผู้คนของคุณหนูรอง..แต่แล้วนางกลับสลัดความคิดนั้นออกไป นี่คงเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

“คุณหนู..หงเซี่ยเป็นสาวใช้ของคุณหนู ..จำไม่ได้หรือเจ้าคะ? " หงเซี่ยทำสีหน้ากังวล พร้อมทั้งยกมือขึ้นอังหน้าผากของนางเพื่อวัดไข้

“อย่า..อย่ามายืนใกล้ๆ ข้าไม่เป็นไร? " น้ำเสียงของหยิ่นเจียวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ดูเหมือนดอกไม้ที่เปราะบางและน่าสงสาร

“คุณหนู..บ่าวจะไปเรียกฮูหยินมาก่อนนะเจ้าคะ!!” คราวนี้หงเซี่ยถึงกับแตกตื่นตกใจขึ้นมาแล้วจริงๆ หยิ่นเจียวดูผิดปกติ ผิดปกติอย่างมาก!!

หงเซี่ยอยู่ข้างกายคุณหนูรองมาหลายปีแล้วไม่เคยเห็นนางทำท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย ช่างดูน่ากลัวและอ่อนแอเหลือเกิน เป็นไปไม่ได้!!

ในที่สุดหงเซี่ยก็ออกไปจากห้อง หยิ่นเจียวถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยแต่การที่ได้อยู่ตามลำพังกลับทำให้นางสบายใจขึ้น

หยิ่นเจียวกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง ห้องนี้ตกแต่งอย่างหรูหรา ไม่ต้องพูดถึงโบราณวัตถุที่ดูล้ำค่า แม้แต่พื้นห้องยังดูราวกับปูด้วยหินหยกด้วยซ้ำ ครอบครัวของนางทำเกี่ยวกับอัญมณีหญิงสาวจึงได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้มาบ้าง แม้แต่วันที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่ห้องนี้คงจะเย็นสบายทีเดียว

“เจียวเจียว..เจ้าฟื้นแล้วหรือ? "หญิงสาวสวยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับบ่าวรับใช้กลุ่มใหญ่ หยิ่นเจียวตกใจมาก หญิงสาวซุกตัวลงในผ้าห่ม นำตาไหลออกมาจากหางตา

“ท่าน..ท่านเป็นใคร? " นิ้วที่จับขอบผ้าห่มของหยิ่นเจียวขาวซีด

“นี่แม่เอง..เจียวเจียวทำไมจำแม่ไม่ได้ ? เจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ? " หลี่อวี้เหยียนเดินไปจับมือของลูกสาวเอาไว้

“แม่? " หยิ่นเจียวแปลกใจ

“ใช่...นี่แม่เอง หลี่อวี้เหยียน!” หลี่อวี้เหยียนพยักหน้าต่อให้นางจะจำใครไม่ได้ แต่นางควรจะจำมารดาของตนได้ไม่ใช่หรือ?





 



 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป