Your Wishlist

ภควานบันดาลรัก (ภควานบันดาลรัก 5)

Author: ༻☆ฐปิณชญงค์☆༺

เมื่อแม่ม่ายวัย 45 ได้ย้อนเวลากลับมาใน ยุค 90…

จำนวนตอน :

ภควานบันดาลรัก 5

  • 12/11/2565

 

ขณะนี้ดงกล้วยใหญ่หลังบ้านได้กลายเป็นเซฟเฮ้าส์ลับของปิยะลักษณ์ไปแล้ว แม่ม่ายในร่างเด็กหญิงลุกขึ้นมาเปิดสมุดเขียนคำขอแต่เช้า

 

ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ทางด้านการตั้งชื่อและจัดเบอร์มงคล

 

ครั้นจะขอความรู้โหราศาสตร์ทุกแขนงก็เกรงว่าสมองน้อย ๆ ของเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดขวบจะบรรจุวิชาความรู้ไม่ไหว ปิยะลักษณ์จึงเลือกเพียงเรื่องที่ตนเองสนใจเพราะจำได้ว่าในอนาคตการเปลี่ยนชื่อและจัดเบอร์มงคลจะกลายเป็นกระแสที่ฮ็อตมาก เธอเองยังเคยใช้เบอร์หงส์ที่ว่าดัง ๆ ตามกระแสนิยมเลยแต่แทนที่ชีวิตจะปังดันดิ่งลงเหวซะงั้น! จึงเกิดความสงสัยเป็นการส่วนตัวว่าวิชาโหราศาสตร์นั้นเป็นความรู้ที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้จริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่คนบางกลุ่มอุปโลกน์มันขึ้นมาเพื่อสร้างกระแสกอบโกยเงินทองเท่านั้น ที่สำคัญหากชาตินี้เธอต้องมีลูกเป็นเด็กพิเศษอีกครั้ง อาชีพอิสระแบบนี้ล่ะที่จะทำให้เธอสามารถทำงานอยู่บ้านกับลูกได้อย่างสบาย  เว้นเสียแต่ว่าบังเอิญพบเจอช่องทางอื่นที่ทำเงินได้อย่างมีความสุขมากกว่า เธอก็อาจไม่ทำอาชีพนี้เพราะการที่ต้องไปนั่งรับฟังปัญหาของคนอื่นอยู่ทุกวี่ทุกวันมันคงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสักเท่าไหร่

 

“พี่เอิง มาใส่บาตรเร็ว พระมาแล้ว!” เสียงเรียกของน้องชายคนกลางทำให้เธอต้องรีบโผล่หัวออกมาจากดงกล้วยวิ่งหน้าตั้งไปใส่บาตรอย่างรวดเร็ว วันนี้นอกจากเธอจะกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรแล้ว ยังอุทิศส่วนกุศลไปให้คุณลุงภควานและลูกสาวสุดที่รักด้วย หวังว่าบุญนี้จะส่งผลให้ลูกของเธออยู่ดีมีสุขไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิใดก็ตาม…

 

เมื่อกินข้าวอาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว ตาทองสุกเพื่อนบ้านผู้เป็นเจ้าของรถกระบะที่ตาได้ว่าจ้างไว้ล่วงหน้าก็ขับรถพาทุกคนเข้าไปในตัวเมือง ตาเสียสละให้ยายไปนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับแล้วตนเองก็มานั่งด้านหลังกับลูกหลาน กว่ารถจะแล่นเข้าไปถึงตัวเมืองก็แดดจ้าพอดี โชคดีที่น้าสาวเป็นคนรอบคอบพกผ้ายางผืนใหญ่มาด้วยสองผืนให้ใช้คลุมกันแดด

 

หลังจากนำเงินฝากธนาคารเรียบร้อยแล้ว ปิยะลักษณ์แบ่งเงินที่กันไว้บางส่วนให้ยายห้าพันสำหรับซื้อของเลี้ยงพระในวันพรุ่งนี้ ให้ตา น้าสาวน้าชาย และน้อง ๆ คนละสองพัน เพื่อให้ทุกคนได้ซื้อของที่อยากได้อยากกินอย่างอิสระ

 

อยู่พิจิตรมาหลายปีไม่เคยได้เที่ยวไหนเลยเพราะตายายไม่ได้ร่ำรวยแถมที่บ้านมีแค่จักรยานโบราณของตาคันเดียวหากไม่ไปไหนมาไหนด้วยเท้าก็ต้องโบกรถประจำทางเอา ถ้ากะเวลาผิด พลาดคงได้ยืนรอตากแดดจนเหงือกแห้งกว่ารถจะโผล่มาแต่ละครั้ง

 

ก่อนออกจากธนาคารปิยะลักษณ์แลกเหรียญกับแบงค์มาจำนวนหนึ่ง เมื่อถึงวัดจึงแจกจ่ายให้ทุกคนแบ่งไปทำบุญหยอดตู้ตามศรัทธา แล้วร่วมใจถวายสังฆทานชุดใหญ่ จากนั้นไปบึงสีไฟดูรูปปั้นจระเข้ยักษ์ตัวโตที่เคยแต่ได้ยินคนเขาเล่ามาพึ่งได้มีโอกาสเห็นของจริงก็วันนี้ ปิดท้ายด้วยตลาดย่านเก่าวังกรดที่เธอกับน้อง ๆ พากันกวาดขนมและของกินมาหลายชนิด กว่าจะซื้อของเสร็จแวะกินข้าวก็เดินทางกลับถึงบ้านตอนบ่ายคล้อยพอดี

 

ระหว่างที่ตายายน้าสาวน้าชายกำลังยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมทำของเลี้ยงพระ น้องชายทั้งสองคนมัวดี๊ด๊ากับการแกะของเล่นกินขนม ปิยะลักษณ์ก็หาจังหวะปลีกตัวเข้าไปในห้องคนเดียว เมื่อเปิดสมุดสมปรารถนาพลังงานบางอย่างได้พวยพุ่งเข้ามาในหัวของเด็กหญิงอย่างรวดเร็วเมื่อความพลุ่งพล่านสงบลงเธอจึงพบว่ามีความรู้ทางโหราศาสตร์หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวเรียบร้อยแล้ว

 

‘เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยลองวิชาแล้วกัน วันนี้ไปช่วยยายกับน้าเตรียมของเลี้ยงพระก่อน’

 

เมื่อเดินเข้าไปในครัวมองเห็นน้าชายช่วยขูดมะพร้าว ส่วนน้าสาวกำลังปั้นแป้งเตรียมไว้ทำ บัวลอยเธอจึงลงไปนั่งข้าง ๆ ช่วยปั้นแป้งบัวลอย

 

“ตากับยายล่ะ น้าภา” ปิยะลักษณ์ถามขึ้นเมื่อเหลียวซ้ายแลขวาแล้วไม่เห็น

 

“พากันลงไปนอนเอนหลังที่เปลใต้ถุนแล้วล่ะ” น้าบุญชัยตอบแทน

 

“เอ็งคิดไว้รึยังว่าจะเก็บเงินเอาไว้ทำอะไร?” บุญภาถามขึ้น

 

“เก็บเอาไว้เรียนหนังสือล่ะน้า อย่างอื่นหนูยังคิดไม่ออก” ความจริงเธอมีโปรเจ็กต์ในหัวเป็นล้านแต่ถ้าพูดออกไปก็เกรงว่าจะไม่สมเป็นเด็กอายุสิบเอ็ดย่างสิบสอง

 

“ขอบใจนะที่เอ็งแบ่งเงินให้พวกน้า แถมยังใจดีฝากเงินเข้าบัญชีบุญมามันด้วย”

 

“ในบรรดาพี่น้องของแม่หนูสนิทกับพวกน้าสามคนที่สุดแล้ว ยิ่งน้าบุญมาอยู่กรุงเทพฯตัวคนเดียวด้วยถ้าไม่มีเงินคงลำบากแย่” เธอพอจะรู้มาเหมือนกันว่าเงินที่ตายายส่งให้ลูกสาวคนที่หกนั้นไม่ได้มากมายนัก ทำให้น้าบุญมาต้องดิ้นรนทำงานส่งตัวเองเรียนไปด้วย โชคดีที่เรียนมหาวิทยาลัย R จึงไม่ต้องเข้าไปนั่งเช็คชื่อ เพียงแต่ต้องขยันอ่านหนังสือมีวินัยมีความรับผิดชอบต่อตนเองก็เท่านั้น

 

“เดี๋ยวอีกหน่อยเจ๊ภาคงต้องเข้ากรุงเทพฯเหมือนกันเพราะเฮียหมายทำงานอยู่ที่นั่น” 

 

เป็นที่รู้กันว่าตอนนี้บุญภามีหนุ่มกรุงเทพฯที่บังเอิญมาเยี่ยมญาติแถวนี้ติดพันอยู่ ความที่  บุญภาเป็นสาวสวยเรียบร้อยขี้อายจึงทำให้ชายหนุ่มถูกใจถึงขั้นส่งผู้ใหญ่มาเจรจาสู่ขอ

 

“ยังไม่ได้ตอบตกลงกับเขาเสียหน่อย” ใบหน้าของบุญภาแดงระเรื่อ

 

“แล้วน้าภาชอบน้าหมายรึเปล่าล่ะ ถ้าชอบก็โอเคเซย์เยสไปเลย!” ปิยะลักษณ์ส่งเสียงเชียร์

 

“แก่แดดนะเรา” บุญภาค้อนขวับใส่หลานสาวทีหนึ่ง

 

“ทำไมล่ะ ? เจ๊ภากลัวผู้ชายกรุงเทพฯมาหลอกเหรอ” บุญชัยพูดอย่างรู้ใจพี่สาวเพราะสนิทกันที่สุดอยู่ด้วยกันมานานที่สุด

 

“ทำนองนั้นล่ะ?” ยิ่งไปอยู่กรุงเทพฯห่างไกลพ่อแม่ด้วย ถ้าเกิดปัญหาจะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครเขาได้ บุญภานิ่งคิดคำนวณในใจ

 

“น้าหมายเขาไม่มาหลอกน้าภาหรอก เชื่อหนูสิ! หนูเป็นหมอดูผู้หยั่งรู้อนาคต! หมอเอิงเป๊ะปัง!” ปิยะลักษณ์วาดมือเป็นท่าประจำตัวแล้วกล่าวติดตลกทีเล่นทีจริง เพราะในอนาคตหลังจากแต่งงานกันแล้วน้าสมหมายจะพาน้าบุญภาไปตั้งรกรากอยู่แถวบางพลัด ซึ่งตอนแรกที่ไปซื้อที่ดินตรงนั้นมันมีแต่ป่า แต่ต่อมาเมื่อความเจริญมาเยือนอย่างรวดเร็วจะมีถนนในซอยตัดผ่านเข้าออกได้ถึงสามทาง แค่น้าสาวของเธอขายเพียงข้าวเหนียวหมูปิ้งรถเข็นตรงทางสามแพร่งก็ขายดิบขายดีจนมีทองใส่เส้นเบ้อเริ่ม น่าเสียดายที่น้าสาวคนนี้กลับอายุสั้นจากไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ตอนที่มีอายุเพียง 55 ปีเท่านั้น

 

โดยส่วนตัวเธอค่อนข้างชอบบุญภามากเพราะเป็นคนใฝ่บุญ วันพระทำบุญเข้าวัดไม่เคยขาดแถมยังกตัญญูอยู่ดูแลพ่อแม่จนกระทั่งแต่งงาน ที่สำคัญน้าสาวคนนี้เป็นคนใจดีชอบทำขนมไทยอร่อย ๆ ให้เธอกับน้อง ๆ กินกันเป็นประจำ

 

 

อ่าน NC และตอนพิเศษ!

E-BOOK

MEB :  https://shorturl.asia/Fly8b

 

 
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป