Your Wishlist

ภควานบันดาลรัก (ภควานบันดาลรัก 2)

Author: ༻☆ฐปิณชญงค์☆༺

เมื่อแม่ม่ายวัย 45 ได้ย้อนเวลากลับมาใน ยุค 90…

จำนวนตอน :

ภควานบันดาลรัก 2

  • 09/11/2565

 

ปิยะลักษณ์ยืนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนยิ้มเศร้าออกมาอย่างขมขื่น

 

“ตอนเด็ก ๆ หนูก็เคยเชื่อนะ แต่พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กเท่านั้น ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง ทำดีแล้วได้ดีจริง ๆ หนูกับลูกจะถูกอัปเปหิออกมาจากบ้านแบบนี้เหรอ?” นาทีนี้เธอกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่ากำลังหมดศรัทธากับการทำความดีอย่างถึงที่สุด

 

“อย่าพึ่งหมดศรัทธาเพราะข้าจะให้โอกาสเอ็งอีกครั้ง!”  เสียงนั้นดังกังวานเปี่ยมด้วยพลังหนักแน่นอย่างน่าขนลุก

 

“โอกาสอะไรหรือคะลุง ? ถูกล็อตตารี่รางวัลที่ 1 อย่างนั้นเหรอ ?” ในน้ำเสียงมีแววกึ่งประชดประชัน อะไรที่ว่าดังอะไรที่ว่าศักดิ์สิทธิ์เธอทั้งขอพรทั้งบนบานแต่ก็ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง สุดท้ายก็มีแต่ต้องพึ่งพาตนเอง อย่างน้อยครั้งหนึ่งเธอถึงกับเคยนึกหวังว่าความดีที่ทำมาตลอดชีวิตจะทำให้สามีคิดได้กลับตัวกลับใจในวันหนึ่ง แต่สุดท้ายตัณหาราคะก็ครอบงำจนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวคน ๆ หนึ่งสูญสิ้น เขาจึงยิ่งมีพฤติกรรมเลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ยิ่งกว่าถูกล็อตตารี่รางวัลที่ 1 อีก! เอ็งนึกเสียใจมาตลอดไม่ใช่รึ ? เสียใจ… ที่เอ็งเลือกผัวผิด! เสียใจ… ที่เลือกทางเดินชีวิตผิดพลาด! ข้าจะให้โอกาสเอ็งกลับไปแก้ไขเส้นทางชีวิตใหม่ด้วยพรสามประการ!”

 

‘ป้าดโธ่! ก็นึกว่าอะไร ไม่น่าเสียเวลาคุยกับคนบ้าเลยเรา’ เธอถึงกับเอามือตบหน้าผากดังฉาดนึกพร่ำบ่นกับตนเองในใจ

 

“เชิญไปรับยาที่ช่องสามเลยค่ะลุง” ปิยะลักษณ์กลอกตามองบนถอนหายใจออกมาดังเฮือกก่อนโบกมือไล่ชายชราให้ไปเล่นมุกตลกไกล ๆ เพราะเธอไม่มีอารมณ์จะขำ

 

“ข้าไม่ได้บ้า! ข้าช่วยเอ็งได้จริง ๆ นะ” ชายชราเร่ร่อนพูดออกมาราวกับรู้ถึงความนึกคิดของเธอ ทำให้หญิงม่ายสะดุ้งโหยง แต่พอคิดได้ว่ามันอาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ท่าทีของเธอก็พลันสงบลง

 

“ลุงจะพาหนูย้อนเวลากลับไปในอดีตเหรอคะ ? เหมือนกับที่หนูเคยดูในละครพวกทะลุมิติอะไรทำนองนั้นใช่ไหม ? งั้นลุงก็ต้องให้หนูมีความ สามารถพิเศษอะไรติดตัวกลับไปด้วยนะคะ” ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรทำรับมุกคนจรสักหน่อยคงไม่เสียหาย บางทีเขาอาจมีความสุขกับการที่ได้ตั้งตนเป็นผู้วิเศษก็เป็นได้

 

“ข้าให้พรเอ็งตั้งสามข้ออยากได้อะไรก็ขอเอาสิ! จงบอกพรข้อแรกของเอ็งมา…”

 

“เอาจริงดิ!” ปิยะลักษณ์เลิกคิ้วถามเสียงสูง เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของชายชรา ความจริงเธอไม่เชื่อหรอกนะว่าพรจะมีอยู่จริง แต่ก็เอาเถอะ! คิดเสียว่าสร้างความบันเทิงให้คนแก่… สร้างบุญสร้างกุศล! 

 

“จริง! คนอย่างข้าคำไหนคำนั้น!” ชายชราจ้องมองหญิงม่ายอย่างแน่วแน่ไม่หลบสายตา

 

“ลุงชื่ออะไร ? แล้วทำไมถึงต้องมาช่วยหนูด้วย?” จู่ ๆ เธอก็นึกอยากรู้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น

 

“ข้าชื่อ ภควาน ชาติสุดท้ายของการเป็นมนุษย์ ข้าเป็นโต้โผสร้างพระประธานทองคำบริสุทธิ์องค์ใหญ่ ตอนหล่อพระเอ็งเป็นผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลแรงกล้า นำทองคำทั้งหมดที่มีอยู่มาร่วมเททองหล่อพระประธานกับข้า ด้วยอานิสงส์นั้นยามสิ้นอายุขัยข้าจึงได้จุติเสวยสุขเป็นเทวดาอยู่หลายภพชาติและเพื่อไม่ให้เป็นเศษกรรมที่ติดค้างต่อกันข้าจึงต้องมาช่วยเอ็งนี่ไง…”

 

“ภควาน ชื่อแปลกจัง! มันแปลว่าอะไรเหรอคะ?”

 

“ภควาน แปลว่า ‘ผู้มีโชค’ หรือ ‘ผู้มีความสุข’ เพราะข้านั้นมีอิทธิฤทธิ์ในการบันดาลโชคลาภและความสุขให้แก่ผู้ใดก็ได้…”

 

“แล้วพระที่ลุงสร้างชื่อว่าอะไรล่ะ ? อยู่ที่วัดไหน?” หากมีโอกาสต้องขอท้าพิสูจน์หาข้อมูลดูสักหนว่ามีอยู่จริงรึเปล่า ?

 

“หลวงพ่อทองคำ วัดสุวรรณรัศมี ว่าแต่เอ็งจะเอามั๊ยเนี่ยะ ? พรสามประการจากข้า! ลีลามากถามมากจริง ๆ” ชายชราชักเสียงแข็งถามขึ้นอย่างเริ่มมีน้ำโห

 

“โอ๊ย…ใจเย็น ๆ น่าลุง ขอคิดก่อนนะ”

 

ไหน ๆ คนตรงหน้าก็ดูจริงจังมาก ปิยะลักษณ์ย่อมไม่ขัดศรัทธา จะว่าไปแล้วเธอก็บ้าอ่านนิยายมาตั้งเยอะ เรื่องจินตนาการเพ้อฝันเพ้อเจ้อเธอก็มีมากไม่แพ้ใครในโลกเหมือนกัน

 

“ข้อแรกนะ หนูขอสมุดวิเศษที่เขียนอะไรแล้วเป็นจริงทุกอย่าง ที่สำคัญเขียนได้ไม่มีวันหมดเล่ม ด้วยความที่มันเป็นสมุดวิเศษก็ขอให้มีหนูคนเดียวที่สามารถมองเห็นมันได้ สามารถเรียกใช้งานและเก็บได้ดังใจนึก”

 

“แค่พรข้อแรกก็โลภเชียวนะเอ็ง!” ชายชราถลึงตาใส่บ่นอุบอิบเล็กน้อย

 

“แหม…ลุง สนอง Need ในวัยเด็กน่า… ลุงเคยดูโดเรม่อนมั้ย ? สมัยหนูยังเด็กมันเป็นการ์ตูนที่ดังมากเลยนา หนูเคยอ่านการ์ตูนโดเรม่อนแล้วมีอยู่ตอนหนึ่งที่โนบีตะเอาสมุดวิเศษเขียนให้  ลูกอมตกลงมาจากท้องฟ้า หนูประทับใจมากกกก… อยากมีสมุดวิเศษกับเขาสักเล่ม!” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ล่ะ มันต้องเล่นใหญ่แล้วไปให้สุด ดูซิ! ระหว่างลุงภควานกับโดเรม่อนใครมันจะเจ๋งกว่ากัน ?

 

ชายชราเร่ร่อนส่ายหน้ามองเธอราวกับเป็นคนติ๊งต๊อง ก่อนล้วงมือเข้าไปในย่ามเก่า ๆ แล้วหยิบสมุดออกมาเล่มหนึ่งยื่นให้ ปิยะลักษณ์รับมันมา ทั้งปกหน้าปกหลังล้วนทำจากเปลือกไม้ลวดลายสวยงามแปลกตาเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง เนื้อกระดาษขาวเนียนละเอียด แต่ทั้งเล่มกลับมีหน้ากระดาษให้เขียนอยู่เพียงแผ่นเดียว แนบมาพร้อมกับปากกาที่ตัวด้ามทำจากไม้เช่นกัน

 

“สมุดเล่มนี้ มีชื่อว่า ‘สมปรารถนา’ เอ็งสามารถเขียนขอพรในสมุดได้เพียงเดือนละสามครั้งเท่านั้น และสมุดเล่มนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของมนุษย์จากเกลียดเป็นรักหรือเปลี่ยนนิสัยของคนเลวให้กลายเป็นคนดีได้ ฉะนั้นก่อนจรดปากกาเขียนลงไป เอ็งต้องคิดให้ดีว่าอยากได้อะไร ที่สำคัญต้องทำความดีเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อสั่งสมพลังบุญให้สมุดเล่มนี้คงความมีอิทธิฤทธิ์ เห็นปรอทสีทองตรงปกสมุดด้านในนั่นไหม ? นั่นคือ ‘มาตรวัดความดี’ เมื่อเอ็งทำความดีจนปรอทสีทองเปลี่ยนเป็นสีแดง คำขอที่เขียนเอาไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นข้อความสีแดงตามแล้วเอ็งก็จะสมหวังดังความปรารถนา… แต่สิ่งที่ข้าอยากเตือนเอ็งก็คือ อะไรก็ตามถ้าสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยมือของตนเองย่อมทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจมากกว่า หากเอ็งฉลาดก็จงอย่าพึ่งพามันมากนัก!” ชายชราเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“โอ้โห…ลุง! จินตนาการล้ำเลิศ! พล็อตเรื่องแจ่มแจ๋ว! ไปเป็นคนแต่งนิยายขายเหอะ!” เธอว่าเธอเล่นใหญ่แล้ว แต่ลุงภควานกลับเล่นใหญ่ยิ่งกว่า… ยอมใจขอยกรางวัลลูกโลกทองคำให้เลย เอ้า!

 

“เออ! เดี๋ยวเอ็งได้ลองเขียนลงไป เอ็งก็จะรู้ว่าข้าไม่ได้พูดปด พรข้อต่อไปคืออะไรว่ามา!” ลุงภควานถามอย่างไม่พอใจในความปากดีของหญิงม่าย

 

“หนูขอย้อนเวลากลับไปในปี 2532” ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของปิยะลักษณ์ได้หย่าร้างแยกทางกันเดิน ทำให้เธอและน้อง ๆ ต้องระหกระเหินไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัดกับตายาย แต่ในปีนี้พ่อกับแม่ของเธอจะกลับมาคืนดีกันและพาครอบครัวไปเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพฯ

 

“หากย้อนเวลากลับไป ตัวตน ความคิดและจิตวิญญาณของเอ็งในขณะนี้ก็จะค่อย ๆ เลือนหายไปนะ เอ็งจะไม่ใช่หญิงม่ายที่มีอายุ 45 ปี อีกต่อไป ถึงแม้ว่าเอ็งจะสามารถจดจำเรื่องราวในชาติภพนี้ได้ แต่นิสัย ความคิด และการกระทำก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปจนเท่ากับอายุจริงในชาติภพใหม่… พรข้อสุดท้ายล่ะ?”

 

“เมื่อย้อนเวลากลับไป ไม่ว่าหนูจะแต่งงานหรือได้เสียกับใครก็ขอให้เด็กคนนี้ได้มาเกิดเป็นลูกสาวของหนูอีกครั้ง!” ปิยะลักษณ์อยากมีโอกาสชดเชยให้กับลูก อยากเลี้ยงเขาให้อยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบากเหมือนตอนนี้ที่เธอเลือกผัวผิดจนชีวิตของลูกต้องพลอยย่ำแย่ไปด้วย

 

“เอ็งจะได้พรตามที่ขอทั้งสามประการ ข้าทำภารกิจสำเร็จลุล่วงแล้ว คงต้องไปเสียที…”

 

ยังไม่ทันที่ปิยะลักษณ์จะได้กล่าวอะไรต่อ ลุงภควานก็ลุกขึ้นแล้วเดินหายวับไปต่อหน้าต่อตาทำเอาหญิงม่ายถึงกับขนหัวลุกชัน

 

“นี่เราโดนผีหลอกเหรอเนี่ยะ ? บรื๋อออ!!!”

 

“ข้าเป็นเทวดาไม่ใช่ผี!” น้ำเสียงสุดท้ายของลุงภควานกลายเป็นเสียงสะท้อนก้องไปมาอยู่ในหัวเธอหลายตลบ

 

“แม่คะหนูง่วงนอนแล้วค่ะ” เด็กหญิงเขย่าแขนเรียกแม่ให้ตื่นจากภวังค์พร้อมกับอ้าปากหาวหวอด

 

ปิยะลักษณ์ตัดสินใจเปิดห้องพักในโรงแรมแถวนั้นนอนหนึ่งคืน เมื่อสองแม่ลูกอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วก็มานอนกอดกันบนเตียง

 

“แม่คะ พรที่คุณลุงคนนั้นให้จะเป็นจริงไหมคะ?” แม้นลูกสาวจะโตแต่ตัวมีพัฒนาการทางสมองเท่าเด็กหกขวบแต่ก็สามารถประมวลผลสิ่งที่ผู้ใหญ่คุยกันในบางเรื่องได้เพราะเรื่องพรเรื่องเทวดานางฟ้าล้วนมีอยู่ในหนังสือนิทานที่เด็กหญิงชอบอ่าน

 

“แม่ไม่รู้เหมือนกันจ่ะ แต่ถ้าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้จริง ๆ แม่จะหาเงินไว้เยอะ ๆ เพื่อรอหนูกลับชาติมาเกิดเป็นลูกของแม่อีกครั้ง แล้วแม่จะดูแลหนูให้อยู่อย่างสุขสบายไม่ต้องลำบากหรือทุกข์ร้อนใด ๆ อีก หนูต้องตามมาเกิดเป็นลูกของแม่นะคะเพราะแม่รักหนูมากๆๆๆๆ” ผู้เป็นแม่ลากเสียงยาวพลางใช้สองมือประคองใบหน้าของลูกสาวมาฟัดแก้มกลมทั้งซ้ายขวาอย่างหมั่นเขี้ยวทำเอาเด็กหญิงหัวเราะคิกคักดังลั่นห้อง

 

เธอไม่รู้หรอกนะ… ว่าชะตากรรมในวันพรุ่งนี้หรือวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่คืนนี้เธอขอนอนกอดลูกรักอย่างมีความสุขเพื่อชาร์จพลังก่อนล่ะกัน      

 

•°*.° .:*❅❀❅*:. °. *°•

 

ฟินจิกหมอนก่อนใครไม่ต้องรอนาน!

E-BOOK

MEB :  https://shorturl.asia/Fly8b

 

 

 
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป