Your Wishlist

ภควานบันดาลรัก (ภควานบันดาลรัก 1)

Author: ༻☆ฐปิณชญงค์☆༺

เมื่อแม่ม่ายวัย 45 ได้ย้อนเวลากลับมาใน ยุค 90…

จำนวนตอน :

ภควานบันดาลรัก 1

  • 08/11/2565

 

ชีวิตมันเริ่มผิดพลาดมาจากตรงไหน ในอดีตใคร ๆ ต่างชื่นชมเธอว่าเป็นคนเรียนเก่งอนาคตไกล จบปริญญาตรีมาก็ได้เกียรตินิยมได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่มีชื่อเสียง บุคลิกรูปร่างหน้าตา รึ! ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ถึงขนาดเคยมีคนมาทาบทามให้เข้าวงการบันเทิงด้วยซ้ำ!

 

แล้วดูชีวิตตอนนี้สิ! เธอกลับกลายเป็นป้าแก่วัย สี่สิบห้าที่มีรูปร่างอ้วนฉุ ใบหน้าอันแสนยับย่นล้วนเต็มไปด้วยฝ้ากระริ้วรอยตีนกา หากไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วอนุมานจากหนังหน้าคงนึกว่าปาไปหกสิบ

 

กราฟชีวิตคู่เริ่มดิ่งลงเรื่อย ๆ เมื่อสามีเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังติดเหล้าอย่างหนักถึงขั้นต้องดื่มทุกวัน หากวันไหนไม่ได้ดื่มหรือดื่มมากจนเกินไปมักเกิดอาการทางประสาท คลุ้มคลั่งถือมีดวิ่งไล่แทงคนอื่นไม่เว้นแม้กระทั่งคนในครอบครัว บ้านทั้งบ้านจึงร้อนรุ่มลุกเป็นไฟเดือดระอุอยู่แทบทุกวัน นอกจากปัญหาโรคพิษสุราเรื้อรังแล้ว สามียังสวมเขาให้เธออีกต่างหาก ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน รู้จักกันจากการแนะนำของบรรดาเพื่อนฝูงในวงเหล้า กินเหล้าไปกินเหล้ามาสุดท้ายเลยหันมากินกันเอง แถมยังกินกันแบบ รอบวงอีกต่างหาก จึงทำให้สามีมีเรื่องชกต่อยกับคนในวงเหล้าด้วยแรงหึงหวง

 

ถ้าเป็นคนทั่วไปที่มีรอยหยักในสมอง ผู้หญิงผ่านศึกโชกโชนมาขนาดนี้แถมยังพร้อมหลับนอนกับใครก็ได้ที่สามารถหยิบยื่นเงินทองให้... เขาคงไม่คิดจริงจัง แต่สามีผู้โง่เขลาที่มีรอยหยักในสมองน้อยแถมยังสมองเสื่อมจากฤทธิ์สุรากัดกร่อนกลับยกย่องผู้หญิงคนนั้นอย่างออกหน้าออกตากอดจูบลูบคลำนั่งตักโชว์คนในซอย เที่ยวประกาศตัวบอกใครต่อใครอย่างภาคภูมิใจว่า…

 

“นี่เมียกู!”

 

นอกจากติดเหล้ามีชู้แล้ว แน่นอนเงินทองย่อมไม่เหลือ…เพราะรักชู้คลั่งชู้หลงชู้ปานจะแหกก้นดม สามีจึงไม่เคยให้เงินลูกเมียใช้แถมยังพาลหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งไล่ออกจากบ้านทุกวี่ทุกวัน รายได้ทุกบาททุกสตางค์ล้วนถูกประเคนสู่คู่สวาทราวกับทาสรักผู้ซื่อสัตย์ภักดีแถมยังปรนนิบัติพัดวีนวดตีนคู่ขาโชว์เพื่อนบ้านประหนึ่งทั้งโลกมีเพียงพวกมันสองคน ไม่ว่าชู้รักอยากได้อะไร สามีก็พร้อมปรนเปรอให้ทุกอย่าง ไม่ว่าชู้จะยุแยงเป่าหูสิ่งใด สามีก็พร้อมจะเชื่ออย่างไม่มีข้อกังขาถึงขนาดแล่นมาด่าลูกเมียตนเองอย่างสาดเสียเทเสียก็บ่อยครั้ง

 

ผิดกับเธอ… ที่จู่ ๆ ก็ถูกยัดเยียดตำแหน่งเมียหลวง แม้นอยู่กินกับเขามายี่สิบกว่าปี เงินสักบาทที่จะให้เข้าร้านเสริมสวยรึ ? สามีไม่เคยหยิบยื่นให้ ซ้ำร้ายพอลูกเกิดมามีความบกพร่อง คนสารเลวกลับปล่อยให้เธอดูแลลูกอยู่ฝ่ายเดียว ไม่เคยสนใจไยดีลูก ด้วยความรักและทุ่มเท แม่อย่างเธอจึงยอมลาออกจากงานประจำเพื่อจะได้มีเวลาฝึกฝนพัฒนาการของลูกน้อย เบนเข็มมาทำการค้าแทนแต่เหมือนถูกเวรซ้ำกรรมซัดไม่ว่าหยิบจับธุรกิจอะไรดันเจ๊งมันทุกกิจการ จากที่พอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็พลันสลายละลายหายไปราวกับอากาศธาตุ แถมยังได้หนี้กลับมาอีกก้อนโต

 

“แม่คะ คืนนี้พวกเราจะไปนอนที่ไหนกันคะ?” แม้นเด็กน้อยมีพัฒนาการล่าช้าแต่ยังพอมีความเข้าใจเรื่องพื้นฐานของการใช้ชีวิตจึงถามขึ้นอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นมารดายืนเหม่อลอย

 

สองแม่ลูกเตร็ดเตร่อยู่ข้างถนนจนฟ้ามืด จากที่มีผู้คนเดินสวนไปมาคลาคล่ำก็เริ่มบางตาลง วันนี้เธอพึ่งถูกสามีกับเมียใหม่รุมตบตีไล่ออกจากบ้านเหมือนหมูเหมือนหมา มีเพียงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่บรรจุเสื้อผ้าแบกใส่หลังเพียงใบเดียว เธอไม่มีของมีค่าหรือของสะสมอะไรมีเพียงเงินทองติดตัวมาเล็กน้อย ส่วนลูกสาวก็สะพายเป้ใบเล็กที่มีของใช้ส่วนตัวเด็กน้อยอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น

 

ความมืดมิดยามราตรีที่คืบคลานเข้ามาก็มิต่างอะไรกับชีวิตอันมืดมน ยามอ่อนล้าโรยแรง ชั่วขณะหนึ่งเคยมีเสียงความคิดแวบเข้ามาในหัวสั่งให้เธออุ้มลูกกระโดดน้ำฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอดเสียจะได้หมดสิ้นพ้นเวรพ้นกรรมในชาตินี้กันไปสักที

 

ครั้นจะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่มีที่ให้พึ่งพิงเพราะถูกทางบ้านตัดขาดตั้งแต่เลือกผู้ชายคนนี้ พ่อกับแม่คงมองเห็นความเลวร้ายบางอย่างในตัวของเขา จึงพากันคัดค้านอย่างหัวชนฝา แถมยังชิงตัดไฟเสียแต่ต้นลมเฝ้าเฟ้นหาคนมาดูตัว นัดบอดให้พบเจอกันอีกต่างหาก เธอรู้เพียงข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับชื่อของเขาและรู้ว่าทำงานอยู่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่สุดท้ายเธอก็เบี้ยวนัดเพราะนิสัยอันดื้อดึงทำให้พวกท่านโมโหเป็นอย่างมาก

 

อนิจจา… ความรักมักทำให้คนตาบอด เธอเองก็เช่นกัน เธอหลงงมงายในคำหวานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ฟังคำทัดทานจากใคร มองไม่เห็นแม้กระทั่งความรักความหวังดีของผู้ให้กำเนิด ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่กับผู้ชายจน ๆ ที่เรียนไม่จบแม้กระทั่งปริญญาตรีเพื่อพิสูจน์รักแท้ พอวันหนึ่งมันปีกกล้าขาแข็งเธอกลับถูกถีบหัวส่งถูกทรยศหักหลังเหมือนเป็นขยะที่ไร้ค่า อย่าว่าแต่เธอเลย… แม้แต่ลูกสาวในไส้มันยังไม่เคยเหลียวแล

 

ส่วนเพื่อนฝูงน่ะเหรอ ? ตั้งแต่แต่งงานมาเธอแทบไม่ได้ติดต่อเพื่อนคนไหนเลย ยิ่งลูกมีความบกพร่องยิ่งยกทั้งชีวิตอุทิศให้ลูกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ครั้นจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือก็นึกละอายใจเพราะร้อยวันพันปีแทบไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันเลย

 

“ถ้าลุงไม่รังเกียจก็ทานซาลาเปากับน้ำนี่นะคะ” ปิยะลักษณ์แบ่งอาหารที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อวางไว้ตรงหน้าชายชราเร่ร่อนข้างถนน สภาพเนื้อตัวของเขาขะมุกขะมอมผมเผ้าพันกันรุงรังทำให้หญิงม่ายหมาด ๆ อย่างเธออดรู้สึกเวทนาสงสารไม่ได้

 

“ขอบใจนะนังหนู” น้ำเสียงนั้นทรงพลังจนหญิงม่ายนึกสะดุดใจ แต่เธอมีเรื่องสำคัญมากกว่าให้ต้องขบคิดจึงจูงลูกเดินจากมา คืนนี้คงต้องหาโรงแรมหรือห้องเช่ารายวันราคาถูกสักแห่งอาศัยหลับนอนไปก่อนไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันอีกที

 

“เดี๋ยวสิ! นังหนู! เอ็งเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์รึเปล่า?” ชายชราเร่ร่อนส่งเสียงดังตามหลังสองแม่ลูกมา ทำให้ปิยะลักษณ์กับลูกต้องหยุดเดิน หันหลังกลับไปมองลุงอีกครั้ง…

 

•°*.° .:*❅❀❅*:. °. *°•

 

ฟินจิกหมอนก่อนใครไม่ต้องรอนาน!

E-BOOK

MEB :  https://shorturl.asia/Fly8b

 

 
กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป