Your Wishlist

ขอโทษที! ความโกงของฉันคือเวลาบัพไม่จำกัด (บทที่ 46)

Author: Turtle Shell and Hemp Rope (Akira แปล)

กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!

จำนวนตอน : 500+

บทที่ 46

  • 17/07/2565

บัดนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเจียงหลีเต็มไปด้วยโคลนในขณะที่เขาแบกหินที่มีความสูงประมาณครึ่งตัวขึ้นจากแม่น้ำอย่างยากลำบาก

 

“ฟืดดดด! ถุยๆๆ!” 

 

เด็กหนุ่มถ่มน้ำลายออกมาทันทีที่เขาขึ้นมาถึงบนฝั่ง เสร็จแล้วเขาก็เริ่มถ่มทรายจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ในจมูกและปากของเขา

 

บวกกับสภาพที่เนื้อตัวมอมแมมเพราะเปื้อนโคลนและเศษพืชน้ำมากมาย นอกจากนี้ยังมีหอยทากตัวอ้วน 3 ตัวเกาะอยู่บนหน้าผากของเขาอีก

 

ขณะนี้เขาไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำสักเท่าไหร่เลย

 

ตอนที่เขากำลังตั้งท่าจะอาเจียน จู่ ๆ เขาก็ชะงักไป แล้วสักพักกล้ามเนื้อแขนของเขาก็โปนขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็ขว้างหินที่ถือไว้ออกไปสุดกำลัง

 

ตูม!

 

ก้อนหินยักษ์ลอยไปได้ครึ่งทางก่อนที่แสงวูบวาบจะปะทะเข้ากับหินจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

 

หลังจากที่หินถูกเจาะทะลุ การเคลื่อนที่ของสายธารแห่งแสงก็ช้าลงเล็กน้อย แต่ด้วยความเร็วของสายตาของเจียงหลีก็ยังแทบจะไม่สามารถจับภาพวิถีการโคจรของแสงได้

 

นอกจากนี้… เขาเองก็ไม่สามารถหลบมันได้อีกด้วย!

 

วิชาเกราะไม้! เสริมความแข็ง!

 

ผลั่ก!

 

ในขณะเดียวกัน มือของเจียงหลีที่ปกคลุมด้วยเกราะไม้และหุ้มผิวด้วยเกราะวิญญาณพุ่งไปจับกระแสแสงไว้อย่างแน่นหนา

 

การโจมตีที่รุนแรงเข้าจู่โจมเด็กหนุ่มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แม้ว่าขาของเขาไม่ขยับ แต่เขายังคงถูกเส้นแสงนั้นผลักกลับจนทำให้ขาทั้งสองข้างไถลและจมลงกับพื้น

 

สิ่งที่กำไว้ในมือของเขานั้นดิ้นรนและแผ่ความร้อนออกมา มันพยายามที่จะพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขาเพื่อเผาผลาญหัวใจ

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา เกราะไม้ที่คลุมมือของเขาไว้ถูกความร้อนแผดเผาอย่างรวดเร็ว

 

ฉ่าาา!

 

ทันใดนั้น ผิวสีดำที่ปกคลุมไปด้วยเกราะวิญญาณสัมผัสกับกลุ่มแสงโดยตรง

 

แล้วเขาก็รู้สึกถึงอาการปวดแสบปวดร้อนพร้อมกับกลิ่นไหม้ที่ลอยมาตีจมูก แต่อุณหภูมินี้เขายังสามารถทนรับไหว!

 

บัฟ [ผิวเย็น] ทำให้เจียงหลีสามารถต้านทานเปลวเพลิงได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนั้นมือสีดำสนิทก็จับแสงในมือแน่นเพื่อต้านทานมันไว้

 

ด้วยการเพิ่มสถานะ [พลังโลหิตเดือดพล่าน] พละกำลังของเขาจึงสูงขึ้นจนน่าประหลาดใจก่อนจะกระชับแสงที่กำลังเคลื่อนที่และออกแรงดันมันกลับไปไกลกว่า 6 จั้ง

 

เขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าเขาจะผลักมันกลับไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ

 

ระหว่างนั้น แสงระยิบระยับในมือของเขาดูเหมือนจะหมดกำลังแล้วสักพักก็สลายไป จากนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ในมือของเขาคือกระบี่ยาวสีแดงเข้ม

 

“โอ้แม่เจ้า! นี่มันกระบี่บินนี่นา!”

 

เจียงหลีอุทานออกมาก่อนที่เขาจะรู้ว่ากระบี่บินที่อยู่ในมือของเขาลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ยังไม่ยอมหยุดอีก! เดี๋ยวข้าจะช่วยดับไฟให้เอง!”

 

เขากล่าวพลางมองไปทางแม่น้ำสีขุ่นที่อยู่ข้างหลังเขา ในอึดใจต่อมา เขากอดกระบี่บินสีแดงแล้วหันหลังกระโดดลงไปในแม่น้ำ

 

ซูมมม!

 

แล้วฟองอากาศจำนวนมากก็พุ่งขึ้นเหนือผิวน้ำราวกับน้ำกำลังเดือด บวกกับมีควันขาวลอยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

 

“ไอ้บ้าเอ๊ย! กระบี่บินของข้า!”

 

ครู่ต่อมา ร่างในชุดขาวก็ปรากฏออกมาจากหลังต้นไม้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงริมน้ำ ท่าทางของเขาดูกังวลมากจนคนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาต้องรีบกลับบ้านไปหาแม่ของตนที่กำลังจะป่วยตาย…

 

ชายที่อยู่ในชุดขาวคนนี้ดูเด็กมาก และเขาคงไม่ได้แก่ไปกว่าเจียงหลีมากนัก ใบหน้าของเขาทั้งหล่อเหลาและสะอาด ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาอาจจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่สง่างามอีกคนหนึ่งที่สามารถทำให้หญิงสาวจำนวนนับไม่ถ้วนคลั่งไคล้

 

บนหน้าอกของเสื้อผ้าสีขาวของเขามีรูปกระบี่สีแดงเพลิงเล่มเล็ก ๆ ปักอยู่

 

นี่หมายความว่าเขาเป็นศิษย์ของสำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซาน!

 

“กระบี่หงเวหา! จงกลับมา! … จงกลับมา!!”

 

“ทำไมมันไม่ฟังข้าล่ะ”

 

ศิษย์สำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานมองไปยังจุดที่มีน้ำเดือดด้วยสีหน้างุนงง ทว่ากระบี่บินอันล้ำค่าของเขาก็ยังไม่ลอยออกมา

 

“ใช้การไม่ได้แล้วหรือ! บรรลัยแล้วไง!” เขาบ่นกับตัวเองพลางเกาหัวอย่างกังวล

 

ฟิ้ว!

 

แต่ในขณะนั้นจู่ ๆ ก็มีโซ่พุ่งออกจากใต้น้ำมาพันรอบตัวเขาด้วยความเร็วแสง

 

ศิษย์ของสำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานล้วนมีความชำนาญในวิถีแห่งกระบี่ ในขณะนี้กระบี่บินของเขาถูกกระชากออกไปและเขาก็ถูกโจมตีอย่างกะทันหัน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้ตอบโต้ เขาก็ถูกโซ่ล่ามไว้แล้ว

 

ครืด ๆ!! 

 

แล้วโซ่นั้นก็กำลังลากเขาไปทางแม่น้ำ

 

แม้ว่าศิษย์คนนี้จะอยู่ในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นสุดท้าย แต่ร่างกายของเขาไม่ได้ถูกฝึกมาแบบพิเศษ และความแข็งแกร่งของเขานั้นด้อยกว่าเจียงหลีมาก เขาจึงถูกลากไปทางฝั่งแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง

 

ทางด้านของเจียงหลีที่อยู่ใต้น้ำรู้สึกว่าชัยชนะกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เขาแค่ต้องลากคนที่ซุ่มโจมตีเขาลงมาในน้ำและเอาคืนอีกฝ่ายให้อยู่หมัด

 

ทันใดนั้นความสุขที่พุ่งขึ้นสุดขีดกลับดิ่งลงกลายเป็นความเสียใจ!

 

วิชากระบี่แห่งแสง!

 

ทันใดนั้น บนมือขวาของศิษย์สำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานก็มีกระบี่แสงสีแดงที่ยาวกว่า 2 ฉื่อ*ปรากฏขึ้น

*1 ฉื่อ = ประมาณ 30 เซนติเมตร

 

หลังจากที่เขาโบกมือ กระบี่แสงกับโซ่ที่หนาสองนิ้วก็ปะทะกันโดยที่โซ่ถูกตัดขาดอย่างง่ายดาย

 

แม้ว่าโซ่เส้นนี้จะมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอยู่บ้าง แต่ในท้ายที่สุดมันก็เป็นเพียงสิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำโซ่ก็มีคุณภาพต่ำเกินไป มันอาจจะนำมาใช้งานทั่วไปได้ก็จริง แต่เมื่อมันปะทะกับคาถาอาคมหรือแม้แต่อุปกรณ์วิญญาณ ผลลัพธ์เดียวก็คือ ‘ขาดสะบั้น’ เท่านั้น

 

แต่ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจของผู้เป็นเจ้าของโซ่เจ็บปวด เขาใช้หินวิญญาณทั้งหมด 3 ก้อนเพื่อซื้อโซ่เส้นนี้มาเลยนะ!

 

นั่นทำให้เจียงหลีกระโดดขึ้นจากน้ำทันที มือของเขาคว้าด้ามกระบี่หงเวหาแล้วกระโจนเข้าหาศิษย์สำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 3 ก้าว

 

“คืนอุปกรณ์วิญญาณของข้ามานะ!”

 

ลูกศิษย์ของสำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานตกตะลึงในสิ่งที่ได้ยิน!

 

"เจ้าว่าอะไรนะ! สิ่งนั้นเป็นอุปกรณ์วิญญาณจริง ๆ หรือ?”

 

หลังจากที่เขากล่าวเช่นนั้น อีกฝ่ายก็มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว

 

ท่าทางของเจียงหลีในตอนนี้ราวกับเสือโคร่งที่พร้อมกระโจนใส่เหยื่อของมัน เขากำกระบี่ไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งกำลังกางกรงเล็บ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาคือพลังอันดุร้ายดั่งปีศาจ ในเวลาเพียงครู่เดียว เขาสามารถฉีกนักพรตที่ใช้กระบี่ที่อ่อนแอนี้เป็นชิ้น ๆ ได้อย่างแน่นอน

 

ทว่าสำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานเป็นผู้นำของ 4 สำนักที่ยิ่งใหญ่ของเขาฉงซาน ลูกศิษย์ของสำนักนี้ไม่ใช่คนขี้ขลาด

 

ในตอนนั้นนักพรตผู้ใช้กระบี่ชุดขาวไม่ได้หลบเลี่ยง พร้อมกันนั้นเขาตั้งท่าเตรียมพร้อมและเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างกล้าหาญ

 

จากนั้นร่างทั้งสองก็พุ่งเข้าหากันอย่างไม่มีใครกลัวใคร และศิษย์สำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซานที่แก่กว่าเล็กน้อยกลับเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำถูกเจียงหลีคว้าคอแล้วกดลงไปที่พื้นเต็มแรง

 

อย่างไรก็ตาม การกระทำของเจียงหลีก็หยุดลงกะทันหัน

 

เนื่องจากส่วนปลายของกระบี่หงเวหาซึ่งเดิมเขาถือไว้ในมือซ้ายแน่นได้เปลี่ยนทิศทาง แล้วใบมีดคมก็ถูกกดลงมาที่คอของเด็กหนุ่มจนเลือดซิบในขณะที่มันปล่อยความร้อนออกมาเล็กน้อย

 

สถานการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็หยุดเผชิญหน้ากันโดยใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่มากนักจนแทบจะหายใจรดกันกินเวลา 4-5 อึดใจ

 

ในช่วงเวลานี้ มือซ้ายของเจียงหลีออกแรงอย่างต่อเนื่องพร้อมกับพยายามใช้กำลังเพื่อควบคุมกระบี่บินอีกครั้ง แต่หลังจากพยายามได้ไม่นาน เขาก็ยืนยันว่าพละกำลังของมือเพียงข้างเดียวไม่สามารถรั้งกระบี่บินไว้ได้จริง ๆ

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็เปลี่ยนสีหน้ามายิ้มอย่างสดใสและเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน

 

“ศิษย์พี่ ท่านคิดว่าระหว่างเราอาจจะมีความเข้าใจผิดบางอย่างหรือไม่?”

 

“ข้าเป็นศิษย์ของสำนักชั่งจิงกู่ มีนามว่าเจียงหลี ข้าบังเอิญตกลงไปในน้ำและเพิ่งขึ้นมาบนฝั่ง ทำไมศิษย์พี่ถึงใช้กระบี่บินแทงข้าล่ะ?”

 

เจียงหลีถามอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม แต่มือของเขายังคงจับคอของศิษย์ตรงหน้าไว้แน่นและเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือเลยสักนิด

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เด็กหนุ่มพูดแบบนั้น ผู้เป็นศิษย์พี่ก็นึกขึ้นได้ในที่สุด 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะแทงผิดคนใช่ไหม?

 

สำนักที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 อาจกล่าวได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่อย่างน้อยพวกเขาก็อยู่ฝ่ายเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์ปกติ อาจจะมีความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างที่ไม่ได้ส่งผลให้พวกเขาเกิดการต่อสู้หรือการเข่นฆ่ากัน

 

บทที่ 46: นักพรตผู้ใช้กระบี่จากสำนักอู่ซิงแห่งยอดเขาซูซาน

 

-------------------------------------------

อากิระ talk: เกือบขิตแล้ว เปลี่ยนหน้าไวอย่างกับลิง เอาตัวรอดเก่งงง แต่มือน่ะไม่ผ่อนเลยนะ!

 

1/6/2022
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป