กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
เมื่อเจียงหลีรู้สึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของผีดิบสีดำ เขาก็นิ่งคิดอยู่บนผิวน้ำครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจกัดฟันคลายวิชาเกราะไม้ออก
หากปราศจากทุ่นลอยน้ำอย่างเกราะไม้ ร่างของเด็กหนุ่มก็จมลงไปในแม่น้ำที่ปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว
เขากลิ้งและหมุนไปตามกระแสน้ำวนอีกครั้ง มันทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อตามสัญชาตญาณขณะที่เขาพยายามต้านทานการไหลของน้ำ
‘ใจเย็น ๆ! ใจเย็น ๆ!’
‘ผ่อนคลาย! ผ่อนคลาย!’
ขณะนี้เจียงหลีกำลังพยายามปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสน้ำและผ่อนคลายกล้ามเนื้อของเขา
เช่นเดียวกับตัวละครในเกมที่ไม่ถูกควบคุม เขาละทิ้งความรู้สึกของร่างกายและมองดูตัวเองไหลไปตามน้ำที่เชี่ยวกราก
ในตอนแรก ร่างของเขาไม่ได้หมุนช้าลง แต่มันกลับหมุนเร็วขึ้น
ภายใต้แม่น้ำที่มืดสลัว เงาข้างหน้าขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นหินอีกก้อนหนึ่ง!
เกราะวิญญาณ! คัมภีร์คีรีพินาศ!
เนื่องจากสิ่งกีดขวางที่ใกล้เข้ามาทำให้เขาต้องปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณ
อย่างไรก็ตาม… แม้ว่าเขาจะกระแทกกับหินอีกครั้ง แต่ตราบใดที่ค่าความทนทานช่วยลดความเสียหายที่ได้รับ เขาก็จะไม่ตายใช่ไหม… งั้นทำไมไม่ลองดูล่ะ?
‘เอาวะ! ลองดูสักตั้ง!’
‘ตายเป็นตาย!!’
ทันใดนั้นเอง เจียงหลีก็ถอดเกราะวิญญาณออกและผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการใช้คัมภีร์คีรีพินาศ
จากนั้นเขารู้สึกว่าตัวเองถูกกระแสน้ำพัดไปแล้วหัวของเขาก็พุ่งตรงเข้าไปหาหินก้อนนั้น
ฟิ้ว~
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไม่ตื่นตระหนก ทว่าแรงกระแทกของหัวที่ฟาดกับหินกลับไม่เกิดขึ้น
ท่ามกลางเสียงของของเหลวที่ไหลผ่าน ร่างกายของเจียงหลีดูเหมือนจะไร้กระดูก ต่อจากนั้นกระแสน้ำที่หมุนรอบ ๆ เขาก็บิดตัว และเขาก็แทบจะไม่กระแทกกับหินอีกเลย
มันได้ผล! เขาหลบหินได้จริง ๆ!
หลังจากที่เด็กหนุ่มได้รู้ผลลัพธ์ เขาก็รู้สึกดีใจจนพ่นฟองอากาศออกมาจากปากอย่างตื่นเต้น
เขาทำได้จริง ๆ ด้วย!
เมื่อเจียงหลีคาดเดาถูกต้อง ความมั่นใจของเขาก็เพิ่มขึ้นสูงมาก แล้วร่างกายของเขาก็ผ่อนคลายมากขึ้นยามที่เขาปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว
…
แล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้เกลียวคลื่นล้อแสงจนทอประกายเป็นแสงสีทอง พร้อมกันนั้นแสงที่สาดส่องไม่ถึงทำให้มีเงาดำปกคลุมบนใบหน้าของเจียงหลี
บุ๋มๆๆ~
ระหว่างนั้น ฟองอากาศสองสามฟองพุ่งออกมาจากจมูกของเด็กหนุ่ม ก่อนที่เขาจะคลายวิชาพฤษาซาตานที่ฝึกมาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาและรู้สึกว่าน้ำรอบ ๆ ตัวเขาเริ่มสงบลงแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมาถึงบริเวณที่ราบแล้ว
ในขณะนี้ ผมและผิวหนังของเขาตึงจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
จังหวะที่เจียงหลีลืมตาขึ้นมา เขาเห็นว่ามีกลุ่มปลาขนาดเท่าฝ่ามือกำลังพุ่งเข้าใส่เขาเหมือนจรวด
เขาจึงรีบยกมือขึ้นมาป้องกันตัวเองตามสัญชาตญาณและเรียกใช้ทักษะการประเมินไปพร้อมกันด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว การใช้ทักษะการประเมินกับสิ่งมีชีวิตธรรมดาที่อ่อนแอและระดับต่ำเหล่านี้นั้นได้ผลดีกว่ามาก
[ชื่อ: ปลาปิรันยาฟันเลื่อย]
[ประเภท: สัตว์น้ำ]
[อายุ: โตเต็มวัย]
[เพศ: เมีย]
[บริโภค: เนื้อสัตว์]
[นิสัย: ล่าเป็นฝูง]
ตอนนี้เขากำลังตกเป็นเหยื่อของกลุ่มปลาปิรันยาใช่หรือไม่?
เจียงหลีส่ายหัวพลางโบกมือเป็นพัลวันเพื่อสลัดปลาปิรันยา 2-3 ตัวที่กำลังกัดเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม ปลาปิรันยาไม่กลัวมนุษย์ซึ่งต่างจากปลาที่จะตื่นกลัวเมื่อเจอสิ่งผิดปกติ และพวกมันรู้สึกว่าการต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดของเหยื่อก่อนที่จะตายทำให้พวกมันตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก
ขณะนี้ฝูงปลามรณะกำลังเวียนว่ายเข้าไปกัดทึ้งเนื้อหนังและผมของเด็กหนุ่มที่กำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
แล้ว…คิดว่าเจียงหลี นักพรตผู้สง่างามจะกลัวปลาตัวเล็ก ๆ แบบนี้หรือ?
ไม่นานเขาก็คว้าปลาปิรันยาตัวที่กำลังฝังเขี้ยวเข้าไปในเนื้อของเขาและกระชากมันออกมา
ฟันแหลมคม 2-3 ซี่ไม่สามารถทะลุผ่านผิวหนังของเด็กหนุ่มได้ ตอนนี้ฟันของมันกลับติดอยู่บนตัวเขาแล้วหลุดออกจากปากปลาแทน
“อยากกินข้ารึ? เสียใจด้วย แต่ฟันของพวกเอ็งไม่คมพอโว้ยยย!!”
เจียงหลีตะโกนพร้อมกับส่งกำลังไปที่มือเพื่อบดขยี้ปลาปิรันยาที่ยังคงดิ้นรนอยู่ในมือจนร่างเล็ก ๆ ของมันแหลกเหลว
ในขณะที่เขากำลังจะทำเช่นเดียวกันกับปลาปิรันยาฟันเลื่อยตัวอื่น ๆ…
จังหวะนั้นเขาสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ
กระแสน้ำดูเหมือนจะ… สั่นสะเทือน?
ตามธรรมชาติแล้ว ของเหลวกระจายการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าแก๊ส ในไม่ช้า แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ไกลจากเขา มีเงาสีดำทมึนกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง
เดี๋ยวก่อนนะ… [นิสัย: ล่าเป็นฝูง]…
เมื่อเจียงหลีคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกว่าขนตามร่างกายของเขาลุกชันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า! แม่เจ้า!
กลิ่นเลือดก่อนหน้านี้ได้กระตุ้นคลื่นยักษ์ของปลาปิรันยาฟันเลื่อยให้มารวมกันอยู่ที่จุดนี้!
บัดนี้พวกมันน่ากลัวยิ่งกว่ารังแตนเป็นร้อยเท่า!
เด็กหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายอยากจะว่ายน้ำหนีไปให้เร็วที่สุด แต่เขาไม่ใช่ปีศาจมัสยา แล้วเขาจะว่ายได้เร็วกว่าปลาพวกนี้ได้อย่างไร?
หากมองจากด้านบนจะเห็นเหมือนเมฆสีดำกำลังปกคลุมน่านน้ำรอบบริเวณที่เขาอยู่ ขณะนี้ปลาปิรันยาที่ดุร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังแหวกว่ายมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันอย่างบ้าคลั่ง
ฟ้าววว!
ปลาปิรันยาฟันเลื่อยหลายแสนตัวพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง แล้วจู่ ๆ เจียงหลีก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และเขาก็ยกมือขวาขึ้นมาแตะที่อกตัวเอง ก่อนที่เขาจะหยิบยาเม็ดสีดำออกมาบดขยี้แล้วปล่อยให้มันละลายไปในน้ำ
ทันใดนั้น หมึกสีดำก็กระจายออกไปในแม่น้ำสีขุ่นทันที ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ปลาปิรันยาที่กำลังกัดเขาก็หยุดเคลื่อนไหวก่อนจะอ้าปากค้างพร้อมกับตกลงไปที่ก้นแม่น้ำ
ฝูงปลากลุ่มใหญ่ที่พุ่งเข้ามาก็หยุดกะทันหันเช่นกัน พวกมันกำลังรู้สึกขยะแขยงกับกลิ่นของยาเสีย และพวกมันก็เคลื่อนตัวไปทั่วบริเวณที่มืดมิดอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีตัวไหนกล้าที่จะว่ายผ่านบริเวณที่น้ำเปลี่ยนเป็นสีดำเลยแม้แต่ตัวเดียว
ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เขาเกือบหัวใจวายตายแล้ว!
ยาเสียนี่มันเป็นของดีจริง ๆ !
เจียงหลีรู้สึกประทับใจมาก เพราะตามปกติแล้วในหอโอสถมักจะมียาเสียถูกหลอมออกมาเป็นจำนวนมาก
แต่ละครั้งที่ยาพวกนี้ถูกฝังลงในหลุมฝังกลบ มันจะต้องถูกฝังไว้ใต้ดินลึกลงไปอย่างน้อย 6 จั้ง มิฉะนั้น กลิ่นของยาเสียจะก่อให้เกิดมลพิษต่อวัตถุดิบวิญญาณที่เติบโตบนพื้นดิน
พร้อมกับกลิ่นและสีสันที่น่าสะอิดสะเอียนนั้นทำให้ดูเหมือนมันเป็นพิษที่ผู้คนรังเกียจ มันก็เป็นเหมือนขยะอันตรายที่ต้องถูกกำจัดอย่างถูกต้องเท่านั้น
แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ายาเสียนี้จะช่วยชีวิตเขาได้หลายครั้ง มันเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด เจียงหลีผู้นี้เป็นอัจฉริยะ!!
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เด็กหนุ่มก็ยังมีอารมณ์มายกย่องในความเฉลียวฉลาดของตนเอง...
แล้วจู่ ๆ เจียงหลีก็เห็นวัตถุสีเหลืองพุ่งลงมาในน้ำจากหางตา
ด้วยสายตาอันเฉียบคมและประสบการณ์ของเขา มันเป็นแผ่นยันต์อย่างแน่นอน
ตูม!
ทันใดนั้นน้ำบริเวณรอบ ๆ ก็แยกออกจากกันโดยมีกระดาษยันต์สีเหลืองเป็นศูนย์กลาง ทำให้เกิดสุญญากาศชั่วคราว และคลื่นกระแทกรุนแรงได้แผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ไม่ว่าคลื่นกระแทกจะผ่านไปที่ใด ปลาจำนวนมากก็ไม่สามารถต้านทานมันได้และถูกคลื่นโจมตีจนหมดสติลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำ
ในตอนนั้นเจียงหลีอยู่ไกลจากจุดศูนย์กลางของคลื่นไปเล็กน้อย เมื่อคลื่นดังกล่าวกระทบเข้ากับร่างกาย จิตใจของเขาก็พลันว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง
เฟี้ยว! เฟี้ยว! เฟี้ยว!
ต่อมา ยันต์อีกชุดถูกยิงลงน้ำ ทำให้เกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กลุ่มปลาปิรันยาที่ยังคงว่ายอยู่รอบ ๆ รู้สึกวิงเวียน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี เจียงหลีจึงตัดสินใจใช้โซ่ที่พันรอบเอวเขาเหวี่ยงลงไปข้างใต้แม่น้ำ
ภายใต้อิทธิพลของแรงมหาศาล โซ่หนาและยาวก็พุ่งตรงลงไปที่ก้นแม่น้ำก่อนจะไปพันรอบก้อนหิน
ในอีกด้านหนึ่ง เจียงหลีรีบคว้าโซ่พร้อมกับออกแรงดึงเต็มกำลัง จากนั้นตัวเขาก็จมลงอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่คลื่นของยันต์ครอบคลุมอยู่
ในที่สุดเท้าของเด็กหนุ่มก็เหยียบพื้นใต้แม่น้ำ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขายังคงถูกจำกัดอย่างมาก แต่ความรู้สึกของการได้ยืนอยู่บนพื้นแข็งทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นกว่าเดิม
ถัดมาเขายกหินก้อนใหญ่ที่ก้นแม่น้ำขึ้นมาแล้วระบุทิศทางการไหลของกระแสน้ำ จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าต่อไป
บทที่ 45: ปลาปิรันยา
-------------------------------------------
อากิระ talk: หลัง ๆ ชักเริ่มหมั่นไส้ความมั่นหน้ามั่นโหนกของน้องหลี คนอะไรจะหลงตัวเองได้ขนาดนี้ 5555