กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
นักพรตไร้สำนักที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มไม่พอใจมากที่เจียงหลีหนีไปได้ เขาจับก้อนหินขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลขึ้นมาแล้วทุ่มลงไปในแม่น้ำด้วยความโมโห
อย่างไรก็ตาม ระลอกน้ำก็กลืนหายไปท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกรากของแม่น้ำมาซูจนไม่สามารถมองเห็นร่องรอยอะไรได้เลย
“พี่ใหญ่ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เราทุกคนพยายามแล้ว ในบรรดา 8 คนนั้น มี 2 คนที่อยู่ในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นกลาง ส่วนที่เหลือทั้งหมดอยู่ในขั้นเริ่มต้น”
“แล้วพวกมันก็ไม่มีประสบการณ์เลย ในวันนี้เรายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่พวกมันไม่ได้สังเกตเห็นเราด้วยซ้ำ”
“พี่ใหญ่ ทำไมเราไม่รีบเข้าไปในวังคืนนี้เลยล่ะ? ตามปกติเราจะเก็บผู้หญิงไว้และฆ่าผู้ชายทิ้ง—”
นักพรตคนหนึ่งแนะนำขึ้นมา
ปึก! ตึง!
ทว่าก่อนที่คนพูดจะทันได้ยิ้มออกมา เขาก็ถูกคนเป็นหัวหน้าเตะจนล้มลงกับพื้น
“เอ็งนี่มันโง่จริง ๆ พวกมันเป็นลูกศิษย์ของสำนัก ถ้าเราสามารถฆ่าพวกมันพร้อมกับขจัดหลักฐานทั้งหมดได้มันก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนนี้ หนึ่งในพวกมันหนีไปแล้ว เอ็งยังจะกล้าแนะนำให้เราเคลื่อนไหวอีกหรือ? อยากตายหรือไง!”
หัวหน้าของนักพรตไร้สำนักตะคอกด้วยใบหน้าถมึงทึง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับความโง่เขลาของน้องชายของเขาดี แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็โกรธสำนักที่คอยกดขี่นักพรตไร้สำนักด้วยเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้น… เราจะทำอย่างไรดี”
ผู้เป็นน้องชายเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา
"เราจะทำอย่างไร? ก็หาตัวมันให้เจอสิ! ไปหามันที่ริมฝั่งแม่น้ำกันเถอะ! ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่โผล่ขึ้นมาหายใจ!”
ในขณะที่นักพรตไร้สำนักเหล่านี้กำลังค้นหาตามริมฝั่งแม่น้ำ เจียงหลี และผีดิบสีดำก็ถูกน้ำพัดไหลไปอย่างรวดเร็ว
เหตุผลที่เด็กหนุ่มเลือกที่จะออกเดินทางตามลำพังไม่ใช่เพราะเขาต้องการรับผิดชอบ และเขาไม่มีความตั้งใจที่จะทำตัวเป็นวีรบุรุษด้วย อีกทั้งความสัมพันธ์ของเขากับหยูป้านเซียและคนอื่น ๆ ยังไม่สนิทสนมกันถึงขั้นตายแทนกันได้
เขาเลือกที่จะทำเช่นนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความคิดของเขาในฐานะคนที่กลับชาติมาเกิด เขารู้สึกว่าตนเองถูกกำหนดให้มาพบสมบัติล้ำค่าโดยบังเอิญ เขาไม่อยากฝืนชะตาฟ้าลิขิต
และอีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นเพราะความมั่นใจในตัวเอง แม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นกลาง แต่เขาได้ทดสอบความแข็งแกร่งของเขากับสองพี่น้องที่โชคร้ายอย่างปีศาจแฝดแห่งแม่น้ำจิงเหอมาแล้ว
เสริมด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพจากบัฟต่าง ๆ เขาเกือบจะสามารถเอาชนะนักพรตขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณได้แทบทั้งหมด
สำหรับนักพรตที่แข็งแกร่งกว่าขอบเขตนี้ พวกเขายังคงยุ่งอยู่กับการค้นหาปีศาจผีดิบ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปรากฏตัวที่ห่างไกลจากเป้าหมาย นอกจากนี้เจียงหลีวางแผนที่จะลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำและหลีกเลี่ยงนักพรตส่วนใหญ่ หากทำอย่างนี้รับรองได้เลยว่าเขาจะปลอดภัยอย่างแน่นอนและมันอาจจะปลอดภัยกว่าการอยู่ในเมืองด้วยซ้ำ
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เจียงหลีอาสาที่จะยอมรับภารกิจนี้คนเดียว
อย่างไรก็ตาม… แผนยังสามารถเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ได้ตลอด
ปัง!!
ทันใดนั้นเสียงของบางอย่างปะทะกันดังมาจากใต้น้ำ ในขณะเดียวกัน ผิวของเจียงหลีเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในจังหวะที่เขาชนกับหินใต้น้ำอย่างแรง
ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ จากในลำคอของเขา เจียงหลีผู้ซึ่งฝึกฝนคัมภีร์คีรีพินาศทุกวันยังได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันครั้งนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาคงตายคาที่ไปแล้ว
หลังจากการชนกัน เด็กหนุ่มก็หน้ามืดไปอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะถูกกระแสน้ำห่อหุ้มไว้และตัวเขาก็หมุนเหมือนเป็นพายุหมุนอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกนี้มันเกินทนจริง ๆ!
[หมุนตัวด้วยความเร็วสูง เพิ่มสถานะ: เวียนศีรษะ]
[เวียนศีรษะ: การรับรู้ทิศผิดพลาดไป 60 องศา ความเร็วในการคิดลดลง 40% จิตวิญญาณลดลงชั่วคราว 0.3 แต้ม ระยะเวลา: 20 นาที] (- +)
แม้ว่าเจียงหลีจะสามารถว่ายน้ำได้ แต่ก็อยู่ในระดับที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ให้จมน้ำตายเท่านั้น มันเทียบไม่ได้เลยกับการว่ายน้ำได้เก่งเหมือนปลา
บวกกับที่ตอนนี้คลื่นใต้น้ำแรงมากจนเขาไม่สามารถรักษาสมดุลของตัวเองได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการว่ายน้ำเลย ร่างกายของเขาถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำคลั่งที่กำลังไหลไปทางซ้ายสามครั้ง ขวาสามครั้ง ขึ้นสามครั้ง และลงสามครั้ง ตอนนี้ตัวเขากลิ้งไปมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว
ในเวลาเพียงไม่กี่เฟิน เด็กหนุ่มก็ตะลึงเพราะภาพตรงหน้าหมุนคว้างเร็วมาก ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว เขาคงจะไม่สามารถขจัดอาการเวียนศีรษะได้ทันเวลา หากอาการเวียนศีรษะยังคงอยู่ เขาอาจจะหมดสติไปก่อนที่จะทันได้ลงมือทำอะไร
ไม่น่าแปลกใจที่นักพรตไร้สำนักทั้ง 3 ไม่กล้าตามลงน้ำมา พวกเขาอาจคิดว่านักพรตขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณก็อาจจะจมน้ำตายอยู่ที่นี่ได้
พลังของธรรมชาติในโลกนี้โหดร้ายกว่าในชีวิตก่อนของเจียงหลีมาก เพราะพลังของแม่น้ำและคลื่นใต้น้ำก็เพียงพอที่จะฉีกร่างของคน ๆ หนึ่งเป็นชิ้น ๆ ได้แล้ว หากไม่มีความสามารถในการว่ายน้ำที่เหนือมนุษย์ มันก็เป็นไปได้สูงมากที่คน ๆ นั้นจะถูกกระแสน้ำดึงลงสู่ก้นบึ้งจนจมน้ำตาย
แต่โชคดีที่เขามีหญ้าเหงือกปลา และผลของมันก็ดีมาก
แม้ว่าการหายใจของเขาจะไม่ราบรื่นเหมือนตอนที่เขาอยู่บนบก แต่เมื่อน้ำไหลเข้าจมูกของเขา มันจะกลายเป็นฟองอากาศจำนวนมากแทน
ออกซิเจนที่หลอมละลายในน้ำถูกสกัดออกมาเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจมน้ำตาย
แต่มันก็แค่นั้น..
ปัง!!
เจียงหลีกระแทกเข้ากับหินอีกก้อนหนึ่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้มีก้อนเลือดปรากฏขึ้นในแม่น้ำและกระจัดกระจายไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว
บัฟ [หายใจใต้น้ำ] ไม่สามารถช่วยเรื่องทักษะการว่ายน้ำของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ในระหว่างนั้นเจียงหลียังพยายามที่จะต่อต้านกระแสน้ำหรือไม่ก็ลองปล่อยตัวให้ไหลไปกับมันเพื่อควบคุมร่างกายของตัวเองและลดการปะทะกับหินที่อยู่ใต้น้ำ
อย่างไรก็ตาม ทักษะเชิงลึกดังกล่าวจะมีใครสามารถทำความเข้าใจได้ในเวลาอันสั้น?
ขณะนี้เด็กหนุ่มยังคงหมุนไปรอบ ๆ และชนเข้ากับแนวหินต่าง ๆ
แต่ในระหว่างที่เขากระแทกกับหินอย่างแรงนี้ เขาสัมผัสได้ว่าคัมภีร์คีรีพินาศของเขากำลังก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด ผลกระทบของวิชาในตอนนี้ดีกว่าผลกระทบที่เขาชนเข้ากับหน้าผาเสียอีก
ดูเหมือนว่าคัมภีร์คีรีพินาศนี้เป็นวิธีการฝึกตนที่ทำร้ายตัวเองอย่างแท้จริง ยิ่งเขาได้รับแรงกระแทกที่โหดเหี้ยมมากเท่าไหร่ ผลกระทบของการฝึกของเขาก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
‘ไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปข้าจะตายก่อนน่ะสิ!’
หลังจากที่เจียงหลีอยู่ใต้น้ำนานกว่าครึ่งชั่วยาม เขาก็เห็นว่าแถบพลังชีวิตในระบบของเขาลดลงไป 1 ใน 4 แล้ว
แน่นอนว่าค่าตัวเลขของพลังชีวิตและค่าความอึดในระบบไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้อย่างแม่นยำว่าสภาพร่างกายจริง ๆ ในขณะนี้ของเขาเป็นอย่างไร แต่มันก็ยังช่วยอ้างอิงได้ว่าเขาอยู่ในขีดอันตรายถึงขั้นจะตายแล้วหรือไม่
“ไม่ ข้าต้องขึ้นไปสูดลมหายใจ”
วิชาเกราะไม้!
ไม่กี่อึดใจเด็กหนุ่มก็ใช้พลังปราณธาตุไม้และร่ายอาคมได้สำเร็จ
ท่ามกลางแสงที่เต็มไปด้วยพลัง ชั้นของเกราะไม้ได้งอกออกมาอย่างรวดเร็วและปกคลุมร่างกายของผู้ใช้คาถาทั้งร่าง ซึ่งเกราะไม้ที่ปกคลุมทั้งตัวของเขาช่วยให้เขาลอยขึ้นไปด้านบน
ตอนนี้ร่างกายที่เกือบจะจมหายไปกับสายน้ำของเด็กหนุ่มถูกยกขึ้นสู่พื้นผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง
ในบางครั้ง กระแสน้ำบางส่วนจะก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนและดึงเขากลับลงไปในน้ำ แต่วังวนนี้อยู่ได้ไม่นานและจะสลายไปในไม่ช้า
การลอยตัวของชุดเกราะไม้จะไม่มีวันจม หลังจากที่มันลอยขึ้นและลงสักพัก ในที่สุดเจียงหลีก็โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำได้
ตอนนี้เขารู้สึกพูดไม่ออกเลยจริง ๆ เขาไม่ได้คาดคิดว่าความพยายามครั้งแรกของเขาในการใช้วิชาเกราะไม้นี้จะเป็นการใช้มันเป็นเสื้อชูชีพ
การอยู่ใต้น้ำนั้นอันตรายมาก นักพรตที่มีรากฐานทางจิตวิญญาณที่เป็นธาตุน้ำอาจจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีกว่า แต่คนอย่างเขาที่มีธาตุหยิน-ไม้นั้นไม่ต่างอะไรจากเป็ดที่แม้ว่าจะว่ายน้ำได้ แต่ถ้าจมลงไปในน้ำเขาก็ยังจมน้ำตายได้อยู่ดี
เมื่อเด็กหนุ่มพ้นจากภัยอันตรายแล้ว เขาก็นอนแผ่อยู่บนผิวน้ำโดยปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาเขาให้ล่องลอยไปพลางคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
การลอยอยู่บนผิวน้ำทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ความเร็วในการเคลื่อนที่ยังช้ากว่าใต้น้ำหลายเท่า จากข้อเท็จจริงทั้งสองข้อ เขาไม่ควรปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้ และอีกไม่นานผีดิบสีดำอาจถูกพัดพาหายไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาลงไปใต้น้ำอีกครั้ง ร่างกายเล็ก ๆ ของเขาจะไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้
เดี๋ยวก่อนนะ… ผีดิบสีดำ?
เจียงหลีเพิ่งคิดออกว่ามันก็ลงมาในน้ำด้วยเหมือนกัน เขาจึงรีบใช้ 'เมล็ดพันธุ์ผีดิบ' เพื่อสื่อสารกับผีดิบสีดำ แม้ว่าร่างกายของผีดิบจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่รู้จักการป้องกันตัว ดังนั้นมันจึงอาจด้อยกว่าเขา เป็นไปได้ไหมว่ามันร่างแหลกเพราะชนกับหินไปแล้ว?
พอเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงสภาพของผีดิบสีดำ การแสดงออกของเขาก็แปลกไป
ไม่ใช่ว่าผีดิบสีดำไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่อาการบาดเจ็บของมันเบากว่าของเจียงหลีมาก
มันไม่เคลื่อนไหวเลยแล้วก็ไหลไปตามกระแสเหมือนซากศพ แต่ทุกครั้งที่มันกำลังจะชนกับหิน มันจะเคลื่อนตัวหลบออกไปตามกระแสน้ำ ดังนั้นมันจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก...
เป็นไปได้ไหมว่า... สิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้นอกจากจะไร้ประโยชน์แล้วยังให้ผลตรงกันข้ามอีก?
บทที่ 44: ล่องลอย
-------------------------------------------
อากิระ talk: ขรรมเจ้าผีดิบมาก ล็อกหลบแบบดิจิตอล!!