กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
“เราจะพูด! เจ้าถามอะไรมาเราก็จะตอบ!”
หลังจากเจียงหลีได้ยินเช่นนั้น เขาก็พอใจกับคำตอบของปีศาจแฝดแห่งแม่น้ำจิงเหอเป็นอย่างมาก
มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ เมื่อพวกเขาไม่หลงเหลือสิ่งใด พวกเขาก็ไม่กลัวแม้ตัวจะต้องตาย แต่เมื่อพวกเขาได้รับบางอย่างที่สำคัญ พวกเขาก็กลัวที่จะสูญเสียมันไป
“ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยกันก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับการปรากฏตัวของปีศาจในแคว้นอิงหนาน?”
เจียงหลีถามคำถามที่เขาอยากรู้มากที่สุด
“นี่เจ้าไม่รู้รึ? แต่ก็ช่างเถอะ… เราไม่ค่อยรู้อะไรมากนักหรอก”
“เราได้ยินแต่ข่าวที่ว่ามีนักพรตเห็นปีศาจผีดิบเท่านั้น มันเป็นปีศาจผีดิบที่เปลี่ยนมาจากนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันที่เสียชีวิตอยู่ในบริเวณใกล้เคียง”
อู๋เจียงรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของเด็กหนุ่ม แต่เขาผู้ซึ่งถูกพิษจากยาเสียก็ไม่มีอารมณ์ที่จะมาพิจารณาเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้อีกต่อไป
“ปีศาจผีดิบที่เปลี่ยนร่างจากนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันอย่างนั้นหรือ!? ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่?”
“นอกจากนี้ ปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว น่าแปลกที่พวกเจ้าไม่หนีไปให้ไกล แต่ทำไมถึงกล้าเข้ามาร่วมสนุกด้วยล่ะ? อย่าบอกข้านะว่าพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อกำจัดปีศาจและปกป้องมนุษย์”
เมื่อเจียงหลีถามคำถาม 2 ข้อนี้ พี่น้องตระกูลอู๋ก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาในทันที
สหายคนนี้แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของโลกเซียนเลย เขายังเด็กมากจริง ๆ แต่ทว่าปีศาจแฝดแห่งแม่น้ำจิงเหอกลับตกไปอยู่ในมือของศิษย์ใหม่เช่นนี้ มันน่าเจ็บใจเสียเกินจะพรรณนา
“พรรคเซิงเซียนเป็นคนแพร่กระจายข่าวนี้ พวกเขามีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ข้อมูลประเภทนี้ไม่สามารถปลอมแปลงได้หรอก”
“พวกเขายังให้หลักฐานว่ามีนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันที่เสียชีวิตที่นี่เมื่อ 70 ปีก่อนจริง ๆ แต่ยังไม่มีใครพบร่างของเขา”
“สำหรับเหตุผลที่ทุกคนมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะผีดิบที่เปลี่ยนมาจากนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตัน แต่เป็นเพราะทรัพย์สมบัติที่นักพรตคนนั้นทิ้งไว้ต่างหากที่ทำให้ทุกคนทุ่มสุดกำลัง ข้าพูดถูกไหม?”
จากสิ่งที่อู๋เจียงบอกมันตรงกับคำกล่าวที่ว่า ‘มนุษย์ยอมตายเพื่อความมั่งคั่ง นกยอมตายเพื่ออาหาร’
สิ่งล่อใจอย่างมรดกของนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันเป็นสิ่งที่แม้แต่นักพรตระดับสูงที่อยู่ในขอบเขตเดียวกันก็ไม่สามารถต้านทานได้
แม้ว่าข่าวลือนั้นจะมีความเป็นไปได้ต่ำมาก แต่ถ้าพวกเขาพบสมบัติจริง ๆ ล่ะ? และเจียงหลีคิดว่าเกือบทุกคนมาที่นี่พร้อมกับความคิดนี้
แม้แต่เด็กหนุ่มเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากลองตามหาทรัพย์สมบัตินั้นดูหลังจากได้ยินข่าวนี้
“ดูเหมือนว่าขอบเขตของข่าวและอิทธิพลนี้จะกว้างมาก มีนักพรตมาที่แคว้นนี้กี่คนแล้ว? พวกเขารวมตัวกันที่ไหน แล้วใครมาถึงแล้วบ้าง? พวกเขาอยู่ที่ไหน?"
เจียงหลีถามคำถามยาวเหยียดอีกชุดหนึ่ง ในท้ายที่สุด เขาก็หยิบแผนที่ของแคว้นอิงหนานออกมาและขอให้ทั้งสองคนทำเครื่องหมายขณะที่อธิบายไปด้วย
การที่ศพเปลี่ยนเป็นปีศาจผีดิบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และการเป็นนักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันนั้นยากยิ่งกว่าการกลายเป็นปีศาจผีดิบเสียอีก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักพรตเหล่านั้นจึงค้นหาหลุมฝังศพหรือดินแดนที่อุดมไปด้วยธาตุหยินทุกที่
ถ้าไม่ใช่สาเหตุเพราะเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม นักพรตขอบเขตฝึกร่างเซียนกำเนิดแก่นพลังขั้นจินตันจะแปลงร่างเป็นปีศาจผีดิบได้อย่างไร?
"ช้าก่อน หากเป็นกรณีนี้ ผู้ต้องสงสัยหลักต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือ?”
เจียงหลีเอ่ยถามพร้อมกับมองไปยังแผนที่ แม้ว่าจะมีนักพรตกระจัดกระจายไปทั่ว แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาทั้งหมดกระจายตัวไปตาม ‘แม่น้ำมาซู’ ที่ไหลผ่านแคว้นอิงหนาน
"เจ้าพูดถูก ที่ซ่อนของปีศาจผีดิบน่าจะอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้”
ดวงตาของอู๋เจียงสั่นไหว จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกเจียงหลีทุกอย่างตามความจริง
เขารู้สึกว่าในเมื่อเด็กคนนี้ไม่รู้อะไรมาก ข้อมูลนี้อาจเป็นอันตรายต่ออีกฝ่ายและอาจช่วยให้พวกเขาได้แก้แค้นให้สาสมใจ
“ยิ่งไปกว่านั้น นักพรตที่เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยได้คำนวณว่าเมื่อศพตกลงไปในแม่น้ำและถูกน้ำพัดพาไป จุดที่มันจะไปอยู่ไม่แตกต่างกันมากนัก มันจะอยู่ช่วงระหว่างนี้”
“ตอนนี้นักพรตส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น นักพรตของแต่ละสำนักต่างครอบครองแม่น้ำคนละฝั่งเพื่อจับตัวมัน ในขณะที่นักพรตไร้สำนักทำได้เพียงเสี่ยงโชคได้เฉพาะตรงจุดรอยต่อเท่านั้น” อู๋เจียงอธิบายแล้วชี้ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ในแผนที่
“ข้าได้พูดทุกอย่างที่จำเป็นต้องพูดแล้ว เจ้าเป็นนักพรตที่มีสำนักอยู่แล้ว ถ้าเจ้าต้องการเข้าร่วมก็ลองไปจุดที่สำนักของเจ้าอยู่ก็ได้”
เจียงหลียังคงเหลือบมองแผนที่ แน่นอนว่าเขาเห็นชื่อของสำนักชั่งจิงกู่อยู่ใน 4 พื้นที่ที่กว้างขวางที่สุด
“ได้ เจ้าเป็นคนซื่อสัตย์มาก คนซื่อสัตย์ต้องได้รับการตอบแทน ตอนนี้พวกเจ้าเป็นอิสระแล้ว”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น อู๋เจียงกับอู๋เหอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกเจ็บที่บริเวณคอเพราะถูกเจียงหลีฟาดจะหมดสติไป
“ข้าได้สอบปากคำพวกเขาแล้ว แต่สัญญานี้ยุ่งยากจริง ๆ ข้าฆ่าพวกเขาทั้งแบบนี้ไม่ได้”
“แต่การปล่อยให้พวกเขาไปแบบนี้มันก็ง่ายดายเกินไป”
ก่อนหน้านี้ปีศาจแฝดแห่งแม่น้ำจิงเหอต้องการจะฆ่าเขา ด้วยบุคลิกที่คิดเล็กคิดน้อยของเขา มันจึงยากมากที่เขาจะยอมปล่อยอีกฝ่ายไปแบบนี้
หลังจากเจียงหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ควบคุมผีดิบสีดำเพื่อดูดเลือดของสองพี่น้องตระกูลอู๋อย่างระมัดระวังจนกว่าพวกเขาจะเป็นโรคโลหิตจาง จากนั้นเขาก็ป้อนยาเสียอีก 2 เม็ดให้ทั้งสองก่อนที่เขาจะรู้สึกวางใจจริง ๆ
พอทั้งคู่กินยาเสียไปทั้งหมด 5 เม็ด พิษจากการกินยาเสียที่สะสมไว้ก็น่ากลัวมาก แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะระงับระดับการฝึกตนของพวกเขาไว้เกือบ 100 ปี
นอกจากนี้พิษจะกัดกร่อนพวกเขาอย่างช้า ๆ แล้วทำลายรากฐานทางจิตวิญญาณรวมไปถึงอายุขัยของพวกเขาอย่างถาวร
ในเวลาอีก 100 ปีข้างหน้า พวกเขาจะกลายเป็นคนป่วยที่อ่อนแอยิ่งกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ
มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าอายุขัยเพียงเล็กน้อยของนักพรตไร้สำนักที่อยู่ในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณสองคนนี้จะสามารถมีชีวิตรอดได้จนกว่าฤทธิ์ยาจะหมดลง
จากนั้นเจียงหลีก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อเขาเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เขาก็สวมชุดคลุมสีดำให้ตัวเองและผีดิบอีกครั้ง เสร็จแล้วเขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังจวนใหญ่โตในเมืองหลวงที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน
ก่อนหน้านี้ในระหว่างที่กลุ่มของเจียงหลีออกมาข้างนอก เขาจงใจกล่าวว่า ‘กลับไปรวมตัวกันที่วัง’ ซึ่งนั่นเป็นเพียงกลลวงคนที่แอบติดตามพวกเขาอยู่
สถานที่นัดพบที่แท้จริงของพวกเขาอยู่ในจวนไร้นามแห่งนี้ต่างหาก
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ดอกไม้ที่ปลูกเองไม่หอมเหมือนดอกไม้ป่า’ ฮองเฮาคนปัจจุบันของแคว้นอิงหนานเป็นคนที่เข้มวงดมาก พระองค์ทรงไม่ยอมให้ฮ่องเต้มัวเมากับโลกโลกีจนละทิ้งการปกครอง
อย่างไรก็ตาม ฮ่องเต้องค์นี้เป็นคนกินไม่เลือก นางสนมในวังมากกว่า 10 คนยังไม่เพียงพอที่จะสนองตัณหาตัวเอง เขาได้ขุดอุโมงค์จากพื้นดินมาที่จวนนี้และสร้างจวนอยู่ข้างนอกวังหลวง
แต่นี่มันทำให้พวกเจียงหลีสามารถพบปะกันแบบลับ ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อเจียงหลีกลับมาที่จวน อีก 3 คนยังมาไม่ถึงจุดนัดพบ และเด็กหนุ่มก็ไม่ทราบด้วยว่าพวกเขากำลังหาข้อมูลอยู่หรือว่าพวกเขาเสียชีวิตไปแล้วภายใต้การขัดขวางของนักพรตไร้สำนักที่มุ่งร้าย
แต่ความจริงแล้ว สหายอีก 4 คนที่เหลือในกลุ่มมาถึงจวนแล้วและกำลังซ่อนตัวอยู่ในห้องเพื่อรอเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ถัดมา เจียงหลีปล่อยให้ผีดิบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดนอกห้องและคอยเฝ้าระวัง ในขณะที่เขาไปรายงานกับเพื่อน ๆ ว่าตนเองปลอดภัยดี
แล้วเวลา 2 ชั่วยามก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นเองผีดิบสีดำได้กลิ่นเลือดจาง ๆ ลอยมาตามสายลม
จากนั้นเจียงหลีก็เห็นว่าสหายที่ออกไปรวบรวมข้อมูลทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขากำลังช่วยพยุงกันเดินเข้ามาในห้อง
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาพที่น่าสงสารพอสมควร แต่ไม่มีคนไล่ตามมาแล้วจึงทำให้ทั้งหมดถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กหนุ่มทั้ง 3 คนกลับมาเจอเจียงหลีนั่งกินผลไม้สบาย ๆ อยู่ที่นี่ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
ระหว่างทางพวกเขาถูกนักพรตไร้สำนักโจมตีเช่นเดียวกับเจียงหลี ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งของที่ครอบครัวของหยูป้านเซียให้ติดตัวมาปกป้องพวกเขา และเพราะเขากลับไปช่วยอีก 2 คนได้ทันเวลา พวกเขาคงตายไปแล้ว
ทว่าเจียงหลีที่อยู่คนเดียวกลับสามารถต่อกรกับคนที่มาขัดขวางได้และกลับมาที่นี่อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน!
ทำไมเขาถึงไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลยสักนิด!!?
บทที่ 42: ข้อมูล
-------------------------------------------
อากิระ talk: ไหนน้องหลีบอกแฝดว่าจะให้ทางเลือกไม่ใช่เหรอ สรุปก็ไม่ได้เลือก ไม่มีสัจจะในหมู่โจรของแท้เลย