Your Wishlist

ขอโทษที! ความโกงของฉันคือเวลาบัพไม่จำกัด (บทที่ 35)

Author: Turtle Shell and Hemp Rope (Akira แปล)

กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!

จำนวนตอน : 500+

บทที่ 35

  • 10/07/2565

ในเวลานี้กลุ่มเซียน 2-3 คนกำลังล้อมเด็กที่นอนอยู่บนพื้นไว้และมองดูเขาบิดตัวไปมา แล้วในที่สุดเด็กน้อยก็ร้องไห้ออกมาทั้งที่ยังหลับอยู่ โดยที่ดวงตาของเขาก็ยังไม่ยอมเปิดออก เหมือนกับว่าเขาไม่สามารถตื่นจากฝันร้ายได้

 

“มันไม่ได้ผลจริง ๆ”

 

แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะน่าผิดหวัง แต่ทุกคนก็ไม่ท้อถอย พวกเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

 

ถ้าความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียวทำให้เด็กเหล่านี้ตื่นขึ้น พวกเขาคงไม่ต้องถ่อมาถึงที่นี่

 

เนื่องจากจินตนาการของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขต ดังนั้นการใช้วิธีทรมานเด็กที่ไม่ยอมตื่นขึ้นมาจึงไม่ควรทำอย่างพร่ำเพรื่อ

 

ระหว่างนั้นลู่เฉียนเฉียนก็เหมือนจะสังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าสนใจ

 

ต่อมา นางเอื้อมมือเล็กไปลูบไล้ทั่วร่างกายของเด็กชายอย่างเบามือ แล้วเข็มเงินสีเลือด 3 เล่มก็กลับมาที่มือของนาง

 

“เป็นอย่างไรบ้าง” ทุกคนรีบเอ่ยถาม เหตุผลที่พวกเขามั่นใจมากในครั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะลู่เฉียนเฉียน ซึ่งนางเป็นหมอที่ได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ของโลกเซียนและนางก็ค่อนข้างเก่งพอตัว

 

“มันไม่ใช่ยาพิษ แต่… เลือดของเขามีกลิ่นแปลก ๆ นิดหน่อย”

 

เด็กสาวนั่งลงอีกครั้งพร้อมกับลูกบอลน้ำใสสองลูกที่ปรากฏขึ้นบนมือของนาง จากนั้นนางก็กดมันลงบนร่างกายของเด็กหนุ่มและเริ่มการตรวจอย่างละเอียดมากขึ้น

 

“ลู่เฉียนเฉียนต้องมีประสบการณ์การรักษาคนมาก่อน ก่อนที่นางจะเข้าร่วมสำนักอย่างนั้นสินะ” เจียงหลีเปรยขึ้นมา

 

แม้ว่าหอฝึกตนในสำนักชั่งจิงกู่จะได้ให้ความรู้ดังกล่าว แต่มันก็เป็นเพียงความรู้แบบผิวเผินและไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนนางให้มาถึงจุดนี้ได้

 

"ถูกต้อง ครอบครัวของเฉียนเฉียนสืบทอดความรู้ทางการแพทย์มาช้านาน แม้ว่าวิชาของพวกเขาจะไม่ทรงพลังนัก แต่ก็มีความพิเศษในด้านการรักษาโรค”

 

“พวกเขามีชื่อเสียงมากในโลกมนุษย์ ในตำนานเล่าขานกันว่าไม่มีความเจ็บป่วยใดที่ตระกูลลู่ไม่สามารถรักษาได้”

 

หยูป้านเซียอธิบายให้เจียงหลีฟังด้วยความมั่นใจมาก

 

แล้วเด็กหนุ่มก็พยักหน้ารับ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่นางทำไม่ได้ผล ในตอนนี้เขาจึงเดินวนไปรอบเด็ก ๆ ที่ยังไม่ได้สติทั้งหมดพลางใช้ทักษะประเมินกับพวกเขาเป็นครั้งคราว

 

..

 

[ชื่อ: จ้าวอาซาน] 

[เพศ: ชาย] 

[คลาส: ไม่มี] 

[ระดับ: ไม่มี]

[ระดับอันตราย: ไม่มี]

 

..

 

[ชื่อ: จางอาหนิว] 

[เพศ: ชาย] 

[คลาส: ไม่มี]

[ระดับ: ไม่มี] 

[ระดับอันตราย: ไม่มี]

 

..

 

[ชื่อ: จางเสี่ยวฮวา] 

[เพศ: หญิง]

[คลาส: ไม่มี] 

[ระดับ: ไม่มี] 

[ระดับอันตราย: ไม่มี]

 

 

น่าเสียดายที่ระดับของทักษะการประเมินของเขายังไม่สูงพอ จึงไม่สามารถระบุสิ่งที่มีประโยชน์ได้มากมายนัก

 

หลังจากที่เจียงหลีเดินสำรวจผู้ป่วยไปรอบหนึ่ง เขาก็ยังพอได้ข้อมูลมาอยู่บ้าง

 

เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 8-14 ปี โดยไม่มีใครที่แก่กว่าหรือเด็กกว่านี้ แล้วพวกเขามีอะไรที่เหมือนกัน?

 

ระหว่างที่เขาใช้ความคิดพลางเดินไปรอบ ๆ เขาก็เห็นว่าลู่เฉียนเฉียนยังคงขมวดคิ้วสำรวจเด็กคนเดิมอยู่

 

ส่วนศิษย์นอกสำนักคนอื่น ๆ ในกลุ่ม ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาฝึกคาถาอาคมแตกต่างกันไปซึ่งมันไร้ประโยชน์ต่อการรักษาทุกคาถาเลย

 

ด้วยเหตุนี้เหล่านักพรตจึงแยกย้ายกันไปค้นหาชาวบ้านของเมืองอิงหนานเพื่อสอบถามข้อมูล และหยูป้านเซียก็กำชับให้พวกเขาสังเกตทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ

 

ตามหลักเหตุผลแล้ว ชาวบ้านควรให้ข้อมูลบางอย่างที่เหมือนกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวงกว้างเช่นนี้ 

 

อะไรทำให้พวกเขากลายเป็นแบบนี้กันแน่?

 

“ป้านเซีย ข้ามีคาถาที่ข้าสามารถลองได้เช่นกัน” เจียงหลีแจ้งหยูป้านเซียอย่างสุภาพ

 

“ลองดูสิ แต่อย่าทำให้ใครตายล่ะ” หยูป้านเซียเห็นว่าลู่เฉียนเฉียนเหงื่อออกมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจแล้ว ตอนนี้ถ้ามีโอกาสอะไรเข้ามาเขาควรคว้าเอาไว้ก่อนย่อมเป็นการดีที่สุด

 

ถัดมา เจียงหลีพลิกตัวเด็กที่ดูอายุมากกว่าเด็กที่ลู่เฉียนเฉียนตรวจสอบก่อนหน้านี้เล็กน้อยแล้วจัดแจงเปลี่ยนท่าให้เขานอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น

 

จากนั้นเด็กหนุ่มก็ประสานอินพลางพึมพำอะไรบางอย่าง เวลาผ่านไปสักพัก แสงสีเขียวก็กะพริบจากนิ้วของเขาและค่อย ๆ ลอยไปที่ด้านหลังศีรษะของเด็กคนนั้น

 

วิชาควบคุมซอมบี้!

 

วิชานี้สามารถควบคุมแม้กระทั่งซากศพที่ขาดเป็นท่อน ๆ ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะควบคุมคนที่มีชีวิต

 

แต่ถ้าเจียงหลีทำแบบนี้กับนักพรต พวกเขายังคงสามารถต่อต้านวิชานี้ได้ด้วยพลังปราณจิตวิญญาณและเจตจำนงของพวกเขา แต่เด็กเหล่านี้เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น

 

"จงลุกขึ้น!" ผู้ร่ายคาถาอาคมชี้นิ้วไปทางเด็กที่กำลังนอนอยู่บนพื้น โดยที่แสงสีเขียวยังถูกส่งไปที่ด้านหลังศีรษะของเด็กคนนั้นตลอดเวลา

 

ขณะนี้ร่างของเด็กหนุ่มเปรียบดั่งหุ่นเชิดที่มีเชือกผูกไว้ ทันใดนั้นเขาก็ขยับร่างกายอย่างแข็งทื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของเจียงหลี 

 

“เขาฟื้นแล้ว! เขาฟื้นแล้วจริง ๆ!”

 

“ท่านเซียน! ท่านเซียน! พวกท่านเก่งกาจจริง ๆ!”

 

เมื่อขุนนางที่อยู่รายล้อมเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขาก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นในทันที พร้อมกันนั้นพวกเขาก็แทบจะพุ่งมาคุกเข่าคารวะเจียงหลี

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เด็กที่ถูกควบคุมมีสีหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับว่าเจ้าตัวกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

 

"ตื่นขึ้นมา!"

 

เจียงหลีใช้พลังเพื่อบังคับให้ดวงตาของเด็กคนนั้นเปิดขึ้นช้า ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คืออีกฝ่ายสามารถต่อต้านวิชาควบคุมซอมบี้ได้จริง ๆ

 

จากนั้นร่างกายของเด็กชายกระตุกแล้วค่อย ๆ บิดเบี้ยวจนดูผิดรูปร่างและแปลกไปกว่าคนธรรมดามาก

 

ในตอนนั้นเอง เปลือกตาข้างหนึ่งของเขาถูกดึงขึ้นอย่างแรง แต่สิ่งที่อยู่ภายใต้เปลือกตายังคงเป็นตาขาวที่มีเส้นเลือดสีแดงก่ำ

 

มิหนำซ้ำ หลังจากเวลาผ่านไปชั่วครู่ เปลือกตาของเขาก็ปิดลงอีกครั้ง 

 

“เขาต่อต้านมันได้จริงหรือ!!?”

 

เจียงหลีรู้สึกตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาควบคุมมนุษย์ แล้วมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ!

 

เขารู้สึกได้ชัดเจนว่ายังมีเจตจำนงที่ฝังแน่นอยู่ในร่างของเด็กชายที่กำลังแย่งชิงบังเหียนที่ควบคุมร่างกายนี้ไว้

 

หรือว่าเด็กหนุ่มคนนี้อาจเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้? เขาสามารถต่อต้านคาถาขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นกลางด้วยเจตจำนงของมนุษย์ได้ด้วยหรือ?

 

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป!

 

เจียงหลียังคงตกตะลึงเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังเขา

 

“เจ้าปีศาจชั่ว! กล้าดียังไงมาก่อกรรมทำเข็ญในที่แบบนี้!” ทันใดนั้นหลวงจีนคนหนึ่งก็คำรามเสียงดังก้องเหมือนเสียงฟ้าร้อง

 

เจียงหลีรับรู้ได้เพียงลมกระโชกแรงที่พุ่งมาจากข้างหลังเขาด้วยความเร็วสูงจนผมด้านหลังของเขาสะบัดไปตามสายลม

 

มีคนลอบโจมตี!

 

จังหวะนั้นเขารีบปล่อยพลังปราณจิตวิญญาณไปทั่วร่างกายทันที ส่งผลให้ผิวหนังบนหลังของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทและมันก็แข็งยิ่งกว่าก้อนหินเสียอีก

 

แต่ในชั่วขณะต่อมา ร่างสีเหลืองกะพริบผ่านเขาไปจนฝุ่นตลบ แล้วพุ่งไปยังเด็กที่เขากำลังควบคุมอยู่

 

ผัวะ!

 

หมัดขนาดเท่าหม้อดินเผากระทบหน้าอกบาง ๆ ของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างจัง

 

แล้วเสียงกระดูกหักก็ดังขึ้นตามมา เด็กผู้โชคร้ายที่อาจจะเป็นอัจฉริยะที่สวรรค์ส่งมาถูกซัดปลิวไปเหมือนเศษผ้า หลังจากลอยขึ้นไปในอากาศ เขาก็ตกลงสู่พื้นอย่างแรง

 

“ฮึ่ม! ข้าสามารถบอกได้ทันทีว่าเจ้าไม่ใช่มนุษย์!” สุดท้ายหลวงจีนที่ห่มผ้าเหลืองก็กล่าวด้วยท่าทางฉุนเฉียว

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้พวกเจียงหลีและคนอื่น ๆ ถึงกับพูดไม่ออก

 

ขุนนางของเมืองอิงหนานเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร

 

“เอ่อ … ไต้ซือ ท่านเป็นใคร” เจียงหลีซึ่งอยู่ใกล้เขาที่สุดพูดขึ้นมาก่อน

 

หลวงจีนคนนี้ปรากฏตัวขึ้นก่อนที่พวกหยูป้านเซียจะทันได้รู้สึกตัว แล้วกว่าที่พวกเขาจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่าย เขาก็พุ่งผ่านคนอื่น ๆ ไปแล้ว

 

ความเร็วที่ชายห่มผ้าเหลืองพุ่งเข้ามานั้นเร็วมาก ซึ่งขนาดเจียงหลีที่มีบัฟ [เพิ่มระดับการมองเห็น] ก็ยังมองตามการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทัน

 

และหมัดนั้นก็ทรงพลังมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จัดการได้ง่ายอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ศัตรูรายนี้ไม่ได้โจมตีเจียงหลี แต่เขาซัดมนุษย์ที่อ่อนแอจนปลิวไปแทน ตอนนี้เด็กหนุ่มจึงไม่สามารถบอกได้ว่าคน ๆ นี้มีเจตนาจะทำอะไร

 

“เฮ้ ศิษย์น้อง อย่ามัวแต่ยืนนิ่งเฉย ๆ สิ ยามที่เราออกมาสู่โลกภายนอก เราควรช่วยเหลือกันและกัน เมื่อเห็นปีศาจที่ชั่วร้ายเช่นนี้ทำร้ายผู้อื่น อาตมาไม่อาจนิ่งนอนใจอยู่เฉย ๆ ได้”

 

“อาตมามีนามว่าเจิ้งหยวน เป็นลูกศิษย์ของวัดชีหัง ศิษย์น้อง เจ้ามีนามว่าอันใดหรือ?”

 

หลวงจีนผู้นั้นหันกลับมาถามเจียงหลีด้วยรอยยิ้มจริงใจ

 

เด็กหนุ่มที่ถูกถามรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นสดใสเจิดจ้าเสียจนอยากจะยิ้มตามพลางเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเอง

 

‘เป็นไปได้ไหมว่าข้าประเมินเด็กนั่นผิดไป? เด็กหนุ่มคนนั้นมีปีศาจซ่อนอยู่ในตัวจริง ๆ หรือ?’

 

บทที่ 35: พระ

 

-------------------------------------------

อากิระ talk: โอ๊ยยยย สงสารเด็กน้อย ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวกับเขาเลย แต่โดนซัดเป็นกระสอบทรายซะงั้น 

 

1/6/2022
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป