กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
กินยาเพิ่มพลังปราณ ปรับปรุงร่างกาย หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและเพิ่มอายุขัย เขาแค่ต้องกินยาเม็ดเดียวเพื่อให้สถานะมีผลตลอดชีวิต เขาคือ‘เจียงหลี’ คุณชายผู้ทรงเสน่ห์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะให้เป็นถาวรได้ในพริบตา!
เจียงหลีเหลือบมองไปที่ป้ายประกาศภารกิจมากมายบนศิลา และส่วนใหญ่ภารกิจสำหรับนักพรตในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นเริ่มต้นนั้นเป็นภารกิจระยะยาว
ภารกิจเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ประกอบไปด้วย
ประเภทที่หนึ่ง: 'แรงงานใช้แรงกาย' ภารกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นของสำนักโดยตรงซึ่งมันเป็นภารกิจที่มีความยากน้อยที่สุดและค่าตอบแทนต่ำที่สุดในบรรดาภารกิจทั้งหมด ซึ่งการทำความสะอาด การขนส่งสิ่งของ และงานหนักหรืองานสกปรกอื่น ๆ ก็จัดอยู่ในภารกิจประเภทนี้
คนธรรมดาที่มีสุขภาพดีสามารถทำภารกิจพวกนี้ได้ สำหรับศิษย์ที่ยังไม่ได้ดึงพลังปราณเข้าสู่ร่างกายหลังจากที่ผ่านไป 1 ปีก็สามารถทำได้เช่นกัน
ประเภทที่สอง: ‘แรงงานใช้ทักษะ’ ภารกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของเหมือง ทุ่งวิญญาณ สวนสมุนไพรและองค์กรอื่น ๆ ของสำนัก โดยที่เนื้อหาภารกิจส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการขุดเหมือง การทำฟาร์ม เก็บเกี่ยวทุ่งวิญญาณ และงานอื่น ๆ
เนื่องจากการขุดเหมืองวิญญาณกับการปลูกพืชวิญญาณมีความแตกต่างจากการขุดเหมืองและปลูกพืชธรรมดาในโลกมนุษย์ เหล่าศิษย์จำเป็นต้องไปถึงขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณและมีความเชี่ยวชาญในทักษะเฉพาะทางบางอย่างก่อนถึงจะมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมทำภารกิจได้
ประเภทที่สาม: ‘แรงงานที่ใช้พลังปราณแห่งจิตวิญญาณ’ ศิษย์นอกสำนักที่มีประสบการณ์จะรู้ดีว่าภารกิจประเภทนี้ค่อนข้างยาก
ยกตัวอย่างเช่น ภารกิจที่ต้องควบคุมไฟของเตาหลอมยาต้องการให้พวกเขาส่งพลังปราณธาตุไฟหรือไม้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วยามเต็ม ด้วยเหตุนี้ ศิษย์ที่อยู่ในขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณธรรมดาที่ไม่มีทักษะใด ๆ จะไม่สามารถอดทนต่อภารกิจนี้ได้ โดยปกติแล้วยาฟื้นฟูปราณที่พวกเขาได้รับมาเป็นรางวัลจะถูกใช้ทันที
หากศิษย์คนไหนยังไม่เข้าสู่ขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณขั้นเริ่มต้นหรือมากกว่านั้น พวกเขาก็ไม่ควรฝืนรับภารกิจประเภทนี้ มิฉะนั้น จุดตันเถียนอาจจะได้รับความเสียหายและระดับการฝึกตนก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งผลที่ตามมานั้นมันได้ไม่คุ้มเสีย
ประเภทที่สี่: ‘แรงงานเก็บเกี่ยว’ ภารกิจดังกล่าวมักจะทำภายนอกสำนัก ผู้มอบหมายภารกิจจะระบุวัตถุดิบเฉพาะและจะมีการให้ข้อมูลตำแหน่งที่ชัดเจนให้ แล้วเหล่าศิษย์ก็จะต้องไปหามันมา
นี่เป็นภารกิจเดียวที่ศิษย์ในขั้นเริ่มต้นของขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณสามารถทำได้ รวมถึงในระหว่างปฏิบัติภารกิจมักจะมีกำไรที่ไม่คาดคิดหรือไม่ก็ค่าตอบแทนพิเศษ ทำให้ภารกิจประเภทนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักเก็งกำไรหลายคน
แต่เนื่องจากพื้นที่ภารกิจอยู่นอกอาณาเขตของสำนัก จึงมักจะมีความเสี่ยงในการเก็บรวบรวมสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้นเหล่าศิษย์จำเป็นจะต้องมีความสามารถในการปกป้องตนเองในระดับหนึ่งและมีความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบวิญญาณอีกด้วย
ประเภทที่ห้า: ‘แรงงานเสี่ยงอันตราย’ ภารกิจประเภทนี้เป็นที่ถกเถียงกันมากมาย มันมีชื่อเสียงในเรื่องการหารายได้อย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งที่พวกเขาทำภารกิจ พวกเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้ และมันขึ้นอยู่กับโชคของคน ๆ นั้นด้วย ภารกิจนี้เหมือนกับการถวายชีวิตและร่างกายเพื่อแลกกับหินวิญญาณ
จากป้ายประกาศภารกิจที่เจียงหลีอ่าน เขาคิดว่าภารกิจ ‘เก็บหญ้าเข็มผี’ และ ‘ศิษย์ทดสอบยา’ มีความคล้ายคลึงกัน การเก็บหญ้าเข็มผีได้ผลตอบแทนที่ดีแม้ว่าจะมีเลือดตกยางออกกันบ้าง บวกกับอาการบวมและปวดที่ฝ่ามือก็จะหายไปภายใน 2-3 วัน
แต่การเป็นศิษย์ทดสอบยานั้นเป็นเหมือนกับการเสี่ยงโชค สำนักจะไม่ให้ยาพิษแก่ศิษย์ผู้ทดสอบยาแน่นอน แต่ผลของยาที่พัฒนาขึ้นใหม่และผลข้างเคียงที่ได้รับก็มีมากมายจนไม่สามารถจินตนาการได้ ซึ่งผู้ทดสอบยาจะต้องใช้ความกล้าหาญและร่างกายแข็งแรงเพื่อสัมผัสมันด้วยตัวเอง
โดยรวมแล้ว ตราบใดที่พวกเขาลงมือทำ พวกเขาก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งมันมีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือราคาที่ต้องจ่าย
เมื่อเจียงหลีคิดเช่นนั้น เขาก็เลียริมฝีปากของตัวเองก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาทันที เขาชอบภารกิจบางอย่างที่ประกาศอยู่บนศิลามาก
ต่อมา เด็กหนุ่มเดินยิ้มอย่างมั่นใจไปที่โต๊ะลงทะเบียนในโถงภารกิจ
คนที่ประจำการอยู่ที่นั่นคือ ศิษย์หญิงผู้มีนามว่า ‘ซูเสวี่ยเว่ย’ ขณะนี้นางเห็นศิษย์คนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาตนเองด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ นางคิดว่าเขากำลังจะลงทะเบียนทำภารกิจกู้โลก หรือบางทีเขาอาจเพิ่งทำภารกิจที่น่าเหลือเชื่อสำเร็จ
ในขณะเดียวกันนางรีบนั่งตัวตรงและยิ้มรับเจียงหลี
“ศิษย์น้อง เจ้าต้องการรับภารกิจ แจกจ่ายภารกิจ หรือส่งมอบภารกิจหรือ?”
อันที่จริงแล้วนางคือศิษย์ที่ทำงานอยู่หลังโต๊ะยาวในโถงภารกิจและจัดการเอกสารง่าย ๆ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนมหาศาล เป็นไปได้ไหมที่จะมีใครบางคนคิดว่าเจ้าหล่อนเป็นศิษย์นอกสำนัก?
ในสำนักเซียนทั้งหลาย ศิษย์ที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญและทำงานสบาย ๆ แลกกับการได้รับรางวัลมากมายนั้นล้วนเป็นศิษย์ในสำนักทั้งสิ้น ซึ่งศิษย์พวกนี้บางคนมีพรสวรรค์อย่างมาก บางคนได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากสำนักชั้นนอกและบางคนก็เป็นคนที่ถือกำเนิดและได้เป็นศิษย์ในสำนักตั้งแต่เกิด
แน่นอนว่าศิษย์ในสำนักระดับสูงและทรงพลังไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพลังในขอบเขตฝึกปราณกำเนิดร่างเซียน พวกเขายังจะต้องผ่านขอบเขตฝึกจิตกำเนิดปราณไปก่อน ในเวลานั้นพวกเขาถึงจะสามารถเข้ารับตำแหน่ง ‘ทางการ’ เหล่านี้ได้ และซูเสวี่ยเว่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น
ถึงแม้ว่านางอาจจะอายุน้อยและระดับการฝึกตนของนางไม่สูงมากนัก แต่นางสามารถเรียกศิษย์นอกสำนักทั้งหมดว่าเป็นศิษย์น้องได้
“ศิษย์น้อ– ศิษย์พี่ ข้าต้องการรับภารกิจนี้!”
เจียงหลีเกือบจะเรียกอีกฝ่ายว่าศิษย์น้อง แต่เขาเปลี่ยนคำพูดของเขาทันเวลาก่อนจะยื่นกระดาษที่มีคำว่า ‘ศิษย์ทดสอบยา’ เขียนอยู่
แม้ว่ารางวัลสำหรับภารกิจนี้จะสูง แต่มันก็ไม่ต่างจาก ‘อาสาสมัครมนุษย์ทดลอง’ ที่ลองใช้ยาตัวใหม่ในชีวิตเก่าของเด็กหนุ่มมากนัก
"ได้สิ เจ้าต้องการที่จะรับภารกิจเก็บสมุนไพรใช่ไหม? ภารกิจไหนล่ะ? เก็บถุงน้ำดีของปีศาจงูหรือ?”
ซูเสวี่ยเว่ยเหลือบมองกระดาษที่อีกฝ่ายยื่นมา นางเห็นไม่ชัดว่าในนั้นเขียนอะไรไว้ นางจึงถามเกี่ยวกับภารกิจที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เขียนอยู่ในกระดาษออกไป ในขณะที่ดวงตากลมโตของนางกะพริบปริบ ๆ เพื่อรอให้เจียงหลีพูดต่อให้จบ แต่นั่นกลับทำให้เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“อะแฮ่ม… ศิษย์พี่ ท่านเห็นข้อความนั้นแล้ว แต่ท่านไม่เห็นมันทั้งหมด ทำไมท่านไม่ลองมองดูให้ชัด ๆ อีกครั้งล่ะ?”
คนถูกทักตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปยังข้อความที่เขียนในกระดาษอีกครั้ง
"ศิษย์ทดสอบยา?!”
นางอ่านทีละคำด้วยเสียงที่ดังฟังชัด ทำให้เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวนางพากันหัวเราะออกมา
ตอนแรกเด็กสาวคิดว่าเขากำลังจะรับภารกิจที่น่าเหลือเชื่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเพียงแค่ภารกิจที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร
"โอ้ ๆ ศิษย์น้อง ข้าเข้าใจผิดเอง มันควรจะเป็นภารกิจ ‘ศิษย์ทดสอบยา’ จงมอบป้ายประจำตัวของศิษย์นอกสำนักของเจ้าให้ข้า แล้วข้าจะลงทะเบียนให้”
ในขณะเดียวกันเจียงหลีอยากจะปิดปากนางใจแทบขาด ไยนางถึงไม่คิดบ้างว่าทำไมเขาถึงต้องเขียนภารกิจที่จะรับลงในกระดาษแล้วส่งให้นาง? แต่นางก็ยังจะตะโกนออกมาเสียงดังอีก...
โชคดีที่ไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่แถวนี้ หลังจากนี้เขาก็แค่ทำตัวตามปกติและทำเป็นไม่สนใจสายตาที่คนอื่นมองมา เพียงเท่านี้เขาก็ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจแล้ว
ตอนนี้การแสดงออกของเจียงหลีไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่เขาลงทะเบียนข้อมูลเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็นำป้ายประจำตัวกลับคืนมาก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปอย่างสงบ
“ศิษย์น้อง เจ้าต้องไปที่ห้องปรุงยาของหอโอสถตอนยามซื่อ*ของวันพรุ่งนี้ อย่าไปสายล่ะ!”
*ยามซื่อ คือ 09.00 - 10.59 น.
“จริงสิ ศิษย์น้อง! รักษาตัวด้วยนะ!"
ระหว่างที่เด็กหนุ่มเดินออกจากโถงภารกิจ เด็กสาวที่ประจำอยู่โต๊ะลงทะเบียนก็ยังไม่วายตะโกนตามหลังเขามาดังลั่น
คราวนี้ คนในโถงภารกิจแทบทั้งหมดก็ได้รู้เรื่องของเจียงหลีแล้ว เหล่าศิษย์ที่ดูต่ำต้อยกำลังมองเขาราวกับว่าพวกเขาเห็นพวกพ้องของตนเอง
นี่เป็นเพียงวันแรกที่เขาเข้ามาในโถงภารกิจและเขากำลังจะกระอักเลือดตายด้วยความอับอายขายหน้า
"ข้ารู้แล้ว! ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่านนะศิษย์พี่!”
เขาไม่รู้ว่าศิษย์พี่คนนั้นตั้งใจทำแบบนี้หรือไม่ แต่สิ่งที่นางทำมันทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกหดหู่ เพราะท้ายที่สุดแล้วหากมีข่าวแพร่ออกไปเขาก็จะต้องรู้สึกอับอายมากแน่ ๆ
ลืมมันไปเสียเถอะ ชื่อเสียงจอมปลอมนั้นนำมาเปรียบกับความแข็งแกร่งมิได้
ตอนนี้พวกเขาเยาะเย้ยเจียงหลีที่เป็นคนทดสอบยา แต่เมื่อเขากลายเป็นผู้มีอำนาจในวันสักหนึ่ง เขาจะทำให้คนพวกนั้นรู้ว่าการไม่สามารถปีนขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูง ๆ ของสังคมได้นั้นมันหมายความว่าอย่างไร
แล้วครั้งหน้าเขาควรสวมหน้ากากเข้ามาในโถงภารกิจดีหรือไม่?
ขณะที่เจียงหลีคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็เดินมุ่งหน้าไปที่สุสานของสำนักชั้นนอก เขาต้องมาที่นี่ทุกวันเพื่อเดินเล่นและปกปิดความเร็วในการฝึกตนของเขา
นอกจากนี้ ก่อนที่จะซื้อซอมบี้ตัวจริงมาได้ เขาต้องการหาศิษย์พี่ใจดีและขอยืมร่างของอีกฝ่ายมาใช้ก่อนชั่วคราว
-------------------------------------------
อากิระ talk: ในใจน้องหลีคงอยากจะบอกศิษย์พี่คนนั้นว่า ไม่ต้องพูดดดดด!