Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (น้องของพวกเจ้าคงจะโชคดีมาก)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

น้องของพวกเจ้าคงจะโชคดีมาก

  • 24/10/2565

ผู้คนในหมู่บ้านเซี่ยเจีย รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเซี่ยหยุนจิน ต้องการปรับพื้นดินด้านข้างและรื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่ และบ้านก็ทำจากอิฐสีน้ำเงิน

อิฐสีน้ำเงินมีราคาแพงมาก จนถึงขณะนี้ ในหมู่บ้านเซี่ยเจีย ยังไม่มีบ้านที่สร้างจากอิฐสีน้ำเงินดังกล่าว

ไม่ต้องพูดถึงหมู่บ้านเซี่ยเจีย หมู่บ้านใกล้เคียงก็มีเพียงไม่กี่แห่ง มีเพียงสองหรือสามครอบครัวที่ร่ำรวยเท่านั้นที่มีบ้านอิฐสีน้ำเงิน และส่วนที่เหลือนั้นเป็นบ้านดินบ้านไม้

ไม่ต้องพูดถึงว่าอิฐสีน้ำเงินมีราคาแพง แต่บางครั้งก็ไม่มี ถือว่าเป็นของหายาก

แต่เมื่อชาวบ้านได้ยินเช่นนี้ก็ไม่ริษยามากเกินไป เพราะเมื่อไม่นานนี้ ทุกครัวเรือนในหมู่บ้านทำเงินได้ แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ครัวเรือนที่หาเงินได้ประมาณสิบตำลึง และหลายครัวเรือนที่หาได้หลายสิบตำลึง จึงไม่มีใครอิจฉาเซี่ยหยุนจิน เท่าไหร่นัก ตรงกันข้าม ทุกคนกังวลว่าอิฐสีน้ำเงินราคาเท่าไหร่ พอจะหาซื้อมาใช้บ้างได้หรือเปล่า

“หยุนจิน อิฐสีน้ำเงินนั้นราคาเท่าไหร่?”

ตอนนี้ในหมู่บ้านไม่ได้ยากจน เมื่อพวกเขามีเงินมากขึ้น พวกเขาก็อยากสร้างบ้านด้วยอิฐสีน้ำเงินบ้าง อย่างน้อยๆก็ห้องหลัก บ้านอิฐสีน้ำเงิน สามารถอยู่ได้หลายชั่วอายุคน แต่บ้านโคลนบ้านดินใช้งานไม่ถึงสิบปีก็ต้องสร้างใหม่

แม้ว่าเซี่ยหยุนจิน รู้ว่าอิฐสีน้ำเงินมีราคาแพง แต่เขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการซื้ออิฐสีน้ำเงิน เขาจึงตอบอย่างคลุมเครือ

"มันอาจจะใช้เงินหลายสิบตำลึง และก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสร้างบ้านใหญ่แค่ไหน"

"ถ้าเราพอซื้อได้ เราก็จะสร้างลานอิฐสีน้ำเงินด้วย"

"เมื่อเราประสบความสำเร็จในการทำฟาร์มปลิง เราจะมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี ในอนาคต ทุกครอบครัวก็สามารถสร้างลานอิฐสีน้ำเงินได้”

คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านทุกคนมีความสุขและทุกคนก็พูดอย่างกระตือรือร้น

หลังจากฟังคำพูดของชาวบ้านแล้ว หลู่เจียวก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอิฐสีน้ำเงินที่ใช้สร้างบ้านในยุคนี้ 

อิฐสีน้ำเงินมีราคาแพง มีความซับซ้อนในงานฝีมือ ผลผลิตมีขนาดเล็ก และไม่สามารถผลิตเป็นจำนวนมากได้ ดังนั้นพวกมันจึงมีราคาแพง แต่อิฐสีแดงนั้นทำง่ายกว่า ขบวนการผลิตก็ง่ายกว่าและราคาที่ถูกกว่า และความแข็งแรงก็พอๆกัน คงจะดีกว่าถ้าทำเตาเผาอิฐสีแดง

หลู่เจียวนึกถึงโรงงานสกัดน้ำมัน โรงงานด้านเวชสำอาง และโรงงานด้านเภสัชกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

เรื่องนี้ควรละไว้ก่อน แค่สามโรงงานนี้ก็ยุ่งพอแล้ว ไม่ควรเพิ่มข่ายงานในช่วงนี้

ที่ลานบ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็หันไปมองชาวบ้านนอกสนามแล้วพูดว่า “บ้านของหยุนจินมีขนาดเล็กเกินไป เขาจึงต้องการขยายไปทางทิศตะวันออก ในช่วงสองที่ผ่านมา เขามีแผนจะขอให้คนมาช่วยปรับพื้นที่ วางรากฐาน ตามความเห็นของข้า ทุกคนมาช่วยได้ และหยุนจิน ยืนยันว่าจะจ่ายเงิน คนที่มาช่วย 30 เหวินต่อวันและยังดูแลอาหารกลางวัน"

พอหัวหน้าหมู่บ้านพูดและบางคน ของชาวบ้านตะโกนว่า "เราไม่อยากได้เงิน แค่เลี้ยงอาหารกลางวันก็พอ" 

มีคนยืนขึ้นและพูดว่า "เจียวเจียว ให้คนของข้าช่วยวางรากฐานสำหรับบ้านของเจ้า เราไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องให้เงินข้าทั้งนั้น”

ทันทีที่คำพูดของป้ากุ้ยฮวาจบลง คนอีกหลายคนก็ยืนขึ้นและบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการเงินใดๆเช่นกัน

ชาวบ้านอีกหลายคนก็พากันยืนขึ้น ยืนยันด้วยเช่นกัน

แต่เซี่ยหยุนจินปฏิเสธ เขามองไปที่ชาวบ้านทั้งภายในและภายนอกลานบ้านและกล่าวว่า "มันไม่ง่ายสำหรับทุกคน ถ้าทุกคนยินดีช่วย พวกท่านสามารถทำตามที่ข้าพูดได้ ข้าไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับทุกคน พวกท่านต้องรับเงินและรับอาหารกลางวันอย่างที่ข้าบอก"

พอเซี่ยหยุนจินกล่าว ชาวบ้านก็ไม่ยืนกรานอีกต่อไป แต่พวกเขาทั้งหมดมีความสุข การได้เงินและอาหารกลางวันเป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน เช่นนั้นก็จะทำงานเต็มที่มากขึ้น

ในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันที่ลานบ้านเล็กๆ ของครอบครัวเซี่ย เพื่อช่วยกันทำงาน

ไม่เพียงแต่ชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังมี เซี่ยหยวนเซิน, เซี่ยต้าเฉียง, เซี่ยเอ้อจู และ เซี่ยหยุนหัว ก็มาช่วยด้วย

เซี่ยหยุนจินไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ตราบใดที่พวกเขาทำสิ่งต่างๆ อย่างจริงจัง เขาก็ไม่สนใจว่าใครเป็นใคร เขายินดีจ่ายและเลี้ยงอาหารกลางวัน

ในท้ายที่สุดเซี่ยหยุนจิน สั่งให้คนยี่สิบคนช่วยเสริมรากฐาน

ทุกวันนี้ ในชนบท ตอไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดเป็นทรงกลมเป็นท่อนใหญ่ และผู้คนหลายคนก็ช่วยกันทุบดินให้แน่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างฐานราก

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลู่เจียวจำได้อย่างรวดเร็วว่าในทศวรรษ 1960 และ 1970 ผู้คนในชนบทใช้ฐานรากหินขนาดใหญ่ ส่วนฐานรากที่กระแทกด้วยหินจะต้องแข็งแรงกว่าดินที่กระแทกด้วยไม้

หลู่เจียวไม่ต้องการดูแลเรื่องนี้ แต่การคิดเกี่ยวกับที่นี่คือที่ที่เด็กน้อยสี่คนจะอาศัยอยู่ในอนาคต ถ้ามันสามารถสร้างให้ดีขึ้นได้ มันก็จะดีโดยธรรมชาติ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางเรียกเซี่ยหยุนจิน ไปด้านข้างและกระซิบว่า "ข้าคิดว่ารากฐานที่ทำจากไม้จากดินไม่ค่อยแข็งแรงเท่ากับที่ทำด้วยหิน"

เซี่ยหยุนจินรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของหลู่เจียว คิดว่านางคงเป็นสัมภเวสีที่อยู่มานาน คงรู้เห็นอะไรมาเยอะ ดังนั้นทันทีที่นางพูด เขาก็เดาว่ามันน่าจะเป็นวิธีในการสร้างรากฐานในโลกของนาง 

อย่างไรก็ดีรากฐานที่กระแทกด้วยหินนั้นแข็งแกร่งกว่าที่กระแทกด้วยไม้อย่างแน่นอน แต่ว่าจะทำอย่างไร

เซี่ยหยุนจินมองไปที่หลู่เจียวและพูดว่า "จะทุบรากฐานได้อย่างไรเมื่อก้อนหินหนักกว่า"

หลู่เจียวชี้นิ้วและกล่าวว่า "หาหินก้อนพอเหมาะ เจาะรูส่งเชือกผ่านรูและทุกคนที่ทุบรากฐานดึงเชือก ภายใต้การนำของผู้นำ ให้ยกโยนพลังขึ้นไปในอากาศพร้อมกัน แล้วทุบมันลง พลังนั้นเทียบได้กับพลังของไม้สองเท่า"

ทันทีที่หลู่เจียวกล่าวว่า เซี่ยหยุนจิน ก็เข้าใจว่า วิธีการใช้หินทุบกับการใช้ไม้ทุบก็เหมือนๆกัน แต่หาหินที่มีรูได้ไม่ง่ายนัก

อย่างไรก็ตาม วิธีการที่หลู่เจียวกล่าวนั้นดีกว่าการทุบด้วยไม้จริงๆ

เซี่ยหยุนจินตัดสินใจขอให้คนสองสามคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อค้นหาหินพวกนี้

“ข้าจะขอให้คนสองสามคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถหาหินแบบนั้นได้หรือไม่”

หลู่เจียวพยักหน้า อันที่จริงนางมีสว่านมืออยู่ในพื้นที่มิติของนาง แต่นางไม่สามารถเอาออกไปข้างหน้าได้ 

นางจึงตัดสินใจขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดูว่านางสามารถหาหินพอเหมาะได้หรือเปล่า ถ้าไม่มี นางก็หาหินแล้วเจาะรูสองสามรูด้วยสว่านมือ

“ข้าจะขึ้นไปบนภูเขากับพวกเขาเพื่อไปช่วยดู”

หลู่เจียวพูดจบและลุกขึ้นเพื่อเตรียมอาหารกลางวัน

เซี่ยหยุนจินเอื้อมมือไปหยุดนางและเตือนว่า “ระวังตัวด้วย เมื่อเจ้าขึ้นไปบนภูเขา”

หลังจาก เซี่ยหยุนจินพูดจบ นางก็ตกตะลึง มันไม่แค่ครั้งแรกที่นางขึ้นเขาจะมาห่วงอะไรตอนนี้ มีแผนการณ์อะไรหรือเปล่า หลังจากนั้น หลู่เจียวก็มึนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “ข้าจะระวัง” 

หลังจากที่ทั้งสองพูดจบ พวกเขาก็หันกลับมาเตรียมไปทำงาน ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะของชาวบ้านข้างหลัง

“ต้าเปา ดูสิว่าพ่อแม่ของเจ้าดีแค่ไหน เจ้าต้องการให้พ่อแม่ของเจ้าให้กำเนิดน้องสาวอีกคนให้กับเจ้าหรือไม่”

เซี่ยหยุนจินและหลู่เจียวหันไปมองผู้พูดอย่างรวดเร็ว

วันนี้ นอกจากคนที่มาช่วยวางรากฐานแล้ว ยังมีแม่บ้าน อีกหลายคนที่อาสาช่วยทำความสะอาดลานและช่วยหลู่เจียวทำอาหารกลางวัน

ในเวลานี้ พวกผู้หญิงหยอกล้อเด็กน้อยสี่คน และเด็กชายทั้งสี่ก็มีความสุขมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และเด็กชายทั้งสี่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส

"ข้าคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายหรือน้องสาวของข้า เราก็จะรักเขามากๆ"

"ข้าจะให้ของเล่นของข้ากับน้องชายหรือน้องสาวของข้า และข้าจะเล่นกับพวกเขา"

"ข้าจะแต่งตัวนางเลี้ยงนาง ป้อนข้าวนางด้วย”

“ข้าโตมา ข้าจะหาเงินให้น้องสาวใช้ และซื้อของอร่อยๆ ให้นาง”

เมื่อเด็กน้อยทั้งสี่คนพูดอย่างนั้น ชาวบ้านทั้งหมดก็พากันหัวเราะ บรรดาเหล่าแม่บ้านก็อดไม่ได้ที่จสรรเสริญ 

"โอ้ เจ้าเด็กน้อย เจ้าเป็นคนมีเหตุมีผล น้องของพวกเจ้าคงจะโชคดีมาก"

"ใช่ สี่คนนี้มีคุณธรรมมาก"

หลังจากหลายคนพูดจบ พวกเขาก็มองขึ้นไปเห็นเซี่ยหยุนจินและหลู่เจียวมองดูและพูดติดตลกทันที 

“หยุนจิน ภรรยาของหยุนจิน เจ้าต้องทำงานให้หนักเพื่อให้กำเนิดน้องชายและน้องสาวสำหรับเด็กน้อยทั้งสี่ ดูว่าพวกเขาต้องการน้องชายและน้องสาวมากแค่ไหน” 

เด็กน้อยทั้งสี่หันกลับมามองเซี่ยหยุนจินและหลู่เจียวอย่างคาดหวัง สมองน้อยๆของพวกเขา กำลังครุ่นคิด ถ้าพวกเขามีน้อง แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่ดีขึ้น และแม่จะไม่จากไปแน่นอน นี่คือสิ่งที่ท่านยายบอก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป