Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (ในอนาคต ข้าจะเป็นคนออกหน้าเอง)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

ในอนาคต ข้าจะเป็นคนออกหน้าเอง

  • 07/08/2565

หลู่เจียวไม่ได้ชักชวนให้พวกเขาเลี้ยงในปริมาณมาก แม้ว่าการเลี้ยงปลิงจะทำเงิน แต่ก็มีความเสี่ยงมากมาย ดังนั้น นางได้คิดแผนการณ์เอาไว้แล้ว

 

หลู่เจียวมองดูหัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้อาวุโสอย่างครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า "ในปีแรก เลี้ยงในปริมาณน้อย นอกจากลดความเสี่ยง ทั้งยังต้องฝึกฝน หาปลิงแม่พันธุ์ และนำมาผสมพันธุ์รวมทั้งฝึกเลี้ยงฝึกผสมพันธุ์ในปีแรก"

 

หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้อาวุโสพอได้ฟังหลู่เจียว พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที "ตกลง ภรรยาหยุนจินคิดว่ายังไงถึงจะเหมาะสม"

 

"ลองเลี้ยงซักสิบไร่ก่อน"

 

สิบไร่จะว่าน้อยก็น้อยจะว่าเยอะก็เยอะ จึงเป็นที่ยอมรับจากทุกคน และทุกคนในห้องก็พยักหน้า

 

หลู่เจียวมองไปที่ทุกคนในบ้านและพูดว่า "ก่อนจะเลี้ยงปลิง ข้าต้องการพูดบางอย่าง อันดับแรก ข้าจะสอนเทคนิคการเลี้ยงปลิงให้พี่รอง และเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบการเลี้ยงปลิงแต่เพียงผู้เดียว"

 

เหล่าผู้เฒ่าก็ไม่ได้คัดค้าน "ตกลง แต่เอ้อจู จะไม่ยุ่งเกินไปใช่ไหม"

 

หลู่เจียวพยักหน้า "พี่รองสามารถมอบหมายงานของเขาให้กับคนงานได้ แต่การเลือกคนงานขึ้นอยู่กับพี่รอง ถือว่าพี่รองเป็นผู้จัดการ เหตุที่พี่รองมาดูแลเรื่องนี้เพราะข้าคิดว่าการเลี้ยงปลิงไม่สามารถทำได้ภายในวันหรือสองวัน และข้าก็เป็นผู้หญิง เมื่อต้องเจอกันตลอดกับผู้ชายในหมู่บ้าน คงจะดีกว่าหากเป็นพี่รอง หากเป็นคนอื่น ข้าก็ไม่รู้ว่าจะพูดคุยกันยังไง"

 

หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าผู้อาวุโสก็เข้าใจ เพราะว่านางพูดมีเหตุผลจริงๆ

 

หลู่เจียวไม่รอให้หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าพูดอะไร นางก็พูดสืบต่อ "การเลี้ยงปลิงเป็นกระบวนการที่ยาวนาน และยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องพูดคุยในภายหลัง หากเป็นพี่รองมาหาข้าเพื่อขอคำแนะนำ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะพวกเราคือ ครอบครัวเดียวกันและคงไม่มีใครพูดอะไรซุบซิบนินทา แต่ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะให้คนอื่นมาเรียนรู้กับข้า"

 

ทันทีที่หลู่เจียวกล่าวขยายความ หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็พากันพยักหน้าอย่างเข้าใจ หากว่านางต้องพบเจอผู้ชายหลายคนในหมู่บ้านบ่อยๆ ใครจะรู้ว่าบรรดาแม่บ้านพวกนั้นจะเอาไปคิดมากหรือซุบซิบนินทากันยังไง

 

“ตกลง มีเพียงเอ้อจู้เท่านั้นที่จะเรียนรู้เรื่องนี้?”

 

อย่างไรก็ดีหัวหน้าหมู่บ้านก็กังวลว่า เซี่ยเอ้อจู จะไม่ฉลาดพอจะเรียนรู้

 

หลู่เจียวยิ้มและกล่าวว่า "การเลี้ยงปลิงไม่ใช่เรื่องยาก เขาเป็นเกษตรกรทำไร่ทำนาที่ดีอยู่แล้ว เขาจะไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างไร หัวหน้าหมู่บ้านและท่านผู้เฒ่าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้"

 

หลังจากฟังคำพูดของหลู่เจียว หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็พากันพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและหลู่เจียวก็พูดต่อ

 

“หัวหน้าหมู่บ้านและท่านผู้เฒ่าอย่ากังวล ข้าจะบอกพี่รองว่าทักษะอาชีพนี้จะเป็นของตระกูลเซี่ย และวันหนึ่งเมื่อเขาแก่ตัวก็สามารถสืบต่อลูกหลานได้ และงานบางอย่างก็สามารถแบ่งให้กับคนต่างแซ่ได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าหัวเราะเมื่อได้ยินเรื่องนี้

 

“ภรรยาหยุนจิน เจ้าพูดก่อนหน้านี้ว่าเป่าเหอถังจะซื้อปลิงของเรา ต้องต้องคุยกันเจ้าของร้านคนนั้นก่อนไหม ถ้าเราสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับพวกเขาได้ ชาวบ้านก็จะโล่งใจมาก”

 

หลู่เจียวพยักหน้า “ตกลง หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าไปหาเจ้าของร้านจ้าวได้เลย ข้าเชื่อว่าเขาจะคุยกับท่านอย่างดี”

 

ตราบใดที่จ้าวหลิงเฟิงไม่โง่ เขาก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ดี 

 

หลังจากร้านขายยาเปิดแล้ว ร้านขายยาก็ต้องการยาจำนวนมาก และควรส่งเสริมให้ชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้านปลูกและเลี้ยงวัสดุยา

 

เมื่อคำพูดของหลู่เจียวจบลง หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็ยิ้มให้นางแล้วพูดว่า "ภรรยาหยุนจิน ทำไมเจ้าไม่พาเราไปคุยกับเจ้าของเป่าเหอถังล่ะ"

 

"ใช่ หากเป็นพวกเราไปด้วยตัวเอง พวกเราก็ไม่รู้จะพูดยังไง ทำไมเจ้าไม่พาเราไปคุยล่ะ"

 

ก่อนที่หลู่เจียวจะพูด เซี่ยหยุนจินที่ด้านข้างขมวดคิ้ว เขาอยากจะบอกว่า เขาจะไปคุยเอง แต่ตอนนี้ขาเขายังไม่หายดี ตอนนี้ยังเดินไม่ได้ เขาก็เลยไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา

 

หลู่เจียวไม่ได้ปฏิเสธ มันบังเอิญว่านางกำลังจะไปซื้อของในเมืองในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น การแวะไปทำธุระด้วยกันกับหัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าจึงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

 

“ตกลง วันพรุ่งนี้เช้าข้าจะไปในเมืองเพื่อซื้อของ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็ไปด้วยกันกับข้าได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็พากันหัวเราะและพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า "งั้นก็ไปกันเถอะ ไปพรุ่งนี้ด้วยกัน"

 

หลู่เจียวพยักหน้า พูดกับพวกเขา "ถ้าการเจรจาในวันพรุ่งนี้เสร็จสิ้น หัวหน้าหมู่บ้านก็เรียกคนมาปรับปรุงพื้นที่ แล้วขุดที่สำหรับวางหินและทำบ่อน้ำเพื่อเพาะพันธุ์ปลิงชั่วคราว"

 

“ตกลง” หัวหน้าหมู่บ้านทำการตัดสินใจครั้งสุดท้าย เรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้วทุกคนก็จากไปอย่างมีความสุข

 

ข้างหลัง หลู่เจียวกำลังจะลุกขึ้นและออกไป แต่ เซี่ยหยุนจิน ก็เอื้อมมือออกไปและจับมือนาง

 

หลู่เจียวตกใจและหันไปมองเซี่ยหยุนจิน เพียงเห็นเขาจ้องมองที่นางและพูดอย่างอบอุ่นว่า "ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่รองของข้า"

 

ในขั้นต้น หลู่เจียวสามารถเลือกชาวบ้านมาเรียนรู้วิธีเลี้ยงปลิงพร้อมกับพี่รองของเขาได้ แต่นางจะให้พี่รองเป็นผู้จัดการและสอนงานคนงานในด้านอื่นๆ เขาจึงรู้สึกขอบคุณ

 

หลู่เจียวให้โอกาสนี้กับพี่รองของเขา ด้วยสิ่งนี้ สถานะของพี่รองในหมู่บ้าน จะสูงขึ้น ในอนาคตชีวิตของเขาก็จะไม่ลำบากและเศร้ามากเกินไป

 

คนอื่นไม่เข้าใจ เซี่ยหยุนจินจะไม่เข้าใจได้อย่างไร เพราะเขาเข้าใจ เขาจึงรู้สึกขอบคุณสำหรับความตั้งใจของนาง

 

ในเวลาเดียวกัน เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความรู้สึกของหลู่เจียวที่มีต่อเขา และเขาจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีในอนาคต

 

ที่หลู่เจียวมอบสิทธิพิเศษกับเซี่ยเอ้อจู เพราะเซี่ยเอ้อจูเป็นคนซื่อสัตย์และใจดี แต่การแสดงออกของเซี่ยหยุนจิน มันเกินไปหรือเปล่า?

 

หลู่เจียวยิ้มและพูดว่า "ไม่เป็นไร คนดีเช่นพี่รอง ควรได้รับการตอบแทนอย่างดี"

 

ดวงตาของเซี่ยหยุนจิน ลุ่มลึกขึ้นอีกเล็กน้อย มุมปากของเขาก็ยกยิ้มอีกเล็กน้อย และเขาก็มีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เซี่ยหยุนจินคิดกับตัวเอง เขาจะไม่ปล่อยหลู่เจียวลำบากในอนาคตแน่นอน ตอบแทนน้ำใจของนาง

 

หลู่เจียวมองชายผู้นี้อย่างแปลกใจ นางจำได้ว่าไม่นานมานี้เขาดูท่าทางกลัวว่านางจะฉวยโอกาสจากเขา แต่ตอนนี้เขากลับจับมือนางหากเป็นแบบนี้ จะถือได้ว่าถูกเขาเอาเปรียบนางอยู่หรือเปล่า?

 

หลู่เจียวกำลังคิดที่จะดึงมือของนางออกเมื่อ เซี่ยหยุนจินก็พูดอีกครั้ง "รอให้ขาของข้าฟื้นตัว ในอนาคต ข้าจะเป็นคนออกหน้าเอง ไม่ให้เจ้าลำบาก"

 

หลู่เจียวรู้สึกว่าเซี่ยหยุนจินคงกำลังพูดถึงการนำหัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าไปติดต่อที่เป่าเหอถัง พูดถึงเรื่องงาน คงประมาณว่าผู้หญิงไม่ควรออกหน้าหรือเปล่า

 

หลู่เจียวรู้สึกว่าเซี่ยหยุนจิน เผด็จการเกินไปหรือเปล่า เขาคงไม่ชอบให้ผู้หญิงออกหน้าติดต่องานกับผู้ชายภายนอกมากเกินไป นี่น่าจะเป็นความคิดของผู้ชายในยุคนี้ ต้องงานภรรยาโง่ๆอ่อนแอๆจะได้ควบคุมง่ายๆ

 

หลู่เจียวไม่อยากคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้เขาหายดีก็จะหย่ากันแล้ว เรื่องนี้จึงไม่สำคัญ "ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง" นางกล่าว

 

เซี่ยหยุนจิน มองไปที่หลู่เจียว ในช่วงเวลานี้เขาสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมามาก แต่นางมีจิตใจที่ใจดีและเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ และนางคงไม่สามารถอยู่บ้านได้ตลอด วันข้างหน้าเขาจะไม่หยุดนาง และหากในอนาคตขาของเขาดีขึ้น เขาจะไปกับนาง เมื่อนางไปรักษาคนไข้หรืออะไรก็ตาม

 

เซี่ยหยุนจิน คิดเกี่ยวกับมัน เขาอารมณ์ดี และรอยยิ้มของเขาก็ชัดเจนมาก จนเขาลืมคิดไปว่า หากเขาหายดีจริงๆเขาก็คงต้องไปเรียนและไปสอบ เมื่อได้เป็นขุนนาง เขาก็ไม่สามารถไปด้วยกันกับนางไม่ได้อยู่ดี

 

หลู่เจียวเห็นว่าเขากำลังจับมือนางอยู่ และนางก็อธิบายไม่ถูกเล็กน้อย ถ้านางไม่รู้ว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนที่เอาเปรียบคนอื่น นางคงสงสัยว่าเขากำลังเอาเปรียบนาง

 

แต่เมื่อนึกถึงอารมณ์ของคนๆนี้ที่ขึ้นๆลงๆ เขาก็คงไม่ได้คิดอย่างนั้น อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้คิดอะไร หลู่เจียวคิดดึงมือของนางกลับ ลุกขึ้น และเดินออกไป ข้างหลังนาง เซี่ยหยุนจินก็มองดูนางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา การแสดงออกของเขามีความสุขอย่างสุดจะพรรณนา

 

นอกห้องหลัก เด็กตัวน้อยทั้งสี่คนก็กำลังสอนเด็กในหมู่บ้านให้อ่านตำราสามอักษร หลู่เจียวมองไปที่ต้าเป่า ที่กำลังสอนคนให้อ่านอย่างขยันขันแข็ง ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อนางเห็นความน่ารักของเด็กๆตัวเล็กที่น่ารัก อารมณ์ของนางก็เปลี่ยนเป็นมีความสุขและแอบยิ้มด้วยเช่นกัน…

 

 

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

-ขออภัย ช่วงนี้กำลังปั่นอีกเรื่องอยู่ แต่เรื่องนี้ยังไม่ทิ้งนะครับจะกลับมาอัพเดตเรื่อยๆ 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป