Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว

  • 31/05/2565

หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้อาวุโส มองดูสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ครุ่นคิดเล็กน้อย

 

คิดว่านางเหยียนก่อเรื่องอีกแล้ว ท่านผู้เฒ่าก็มองดูนางอย่างเย็นชา

 

ในห้อง เด็กทั้งสี่ไม่ค่อยเข้าใจว่านางเหยียนและหลู่เจียวกำลังพูดอะไร พวกเขาพูดอย่างกังวลว่า "แม่ ข้าไม่ต้องการให้นางมาอยู่ที่บ้าน"

 

"ใช่ นางเอาแต่ร้องไห้"

 

หลู่เจียว มองไปที่เด็กน้อยทั้งสี่ นางพูดเบาๆว่า "นี่คือคนที่ท่านย่าหามาช่วยเราทำงาน ตอนนี้แม่มีงานต้องทำมาก ถ้ามีคนช่วยทำงานบ้าน แม่ก็สามารถเล่นกับพวกเจ้าได้"

 

"เป็นอย่างนี้นี่เอง" เด็กๆทั้งสี่ก็หันกลับมาอย่างสงสัย เขามองไปที่นางเหยียน แล้วมองไปที่โจวเสี่ยวเทา

 

นางเหยียนก็กล่าวออกมา "เจ้าสามารถบอกให้นางทำทุกอย่างที่บ้านได้"

 

ใบหน้าของโจวเสี่ยวเทาเปลี่ยนไป นางต้องการอธิบายอย่างกระวนกระวาย นางมาดูแลลูกพี่ลูกน้องของนาง ไม่ได้ช่วยพวกเขาทำงาน

 

แต่นางเหยียนรีบมองโจวเสี่ยวเทา ส่งสายตาว่านางอย่าพูดเรื่องไร้สาระ เจ้าสามารถอยู่ต่อได้ หากเจ้าไม่พูดเรื่องไร้สาระออกมา

 

โจวเสี่ยวเทา มองไปที่ชายหล่อเหลาราวกับหยกบนเตียง เขาหล่อเหมือนชายในภาพวาด และในที่สุดนางก็ถอนหายใจ

 

เพื่อที่จะแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องผู้นี้ นางจะต้องอดทน

 

โจวเสี่ยวเทา หันกลับมามองหลู่เจียว แล้วพิจารณา

 

ในสายตาของนาง หลู่เจียวไม่ใช่คนสวยอะไร ทั้งอ้วน ที่ขี้เหร่ อีกไม่นานเซี่ยหยุนจินจะต้องชอบนางแน่

 

ในห้อง เมื่อต้องเผชิญกับท่านผู้เฒ่าและเหล่าผู้อาวุโสหลายคนในตระกูล นางเหยียนรู้สึกกดดันและรีบพูดขึ้นว่า "เอาล่ะ ให้นางอยู่ต่อ ข้าจะกลับก่อน"

 

นางเหยียนหันหลังและเดินจากไป และโจวเสี่ยวเทาก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก นางยังรู้สึกกลัวไม่หาย

 

เดิมที หลู่เจียว ต้องการจัดการให้นางทำสิ่งต่างๆ แต่นางยังไม่ทันได้พูดอะไร เด็กน้อยทั้งสี่ก็พูดออกมาก่อนว่า "เจ้ามาช่วยพวกเราทำงาน"

 

โจวเสี่ยวเทา ยิ้มรับทันที หลังจากได้ยินคำพูดของต้าเป่า พยายามอย่างเต็มที่ แสร้งทำเป็นว่าอ่อนโยน

 

“ตกลง”

 

ต้าเป่าตัวสั่นเมื่อเห็นร่างเล็กๆ ของนาง มันน่าเกลียดจริงๆ

 

คนอื่นๆ ในห้องเมื่อเห็นเขาตัวสั่น ก็รู้สึกเป็นห่วงเด็กๆเล็กน้อย เพราะเข้าใจว่าเขาสั่นด้วยความหวาดกลัว หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่าก็มองดูเขาอย่างเป็นห่วง

 

หลู่เจียว เห็นโจวเสี่ยวเทา ออกไปพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสี่ นางไม่กังวลว่าเด็กน้อยทั้งสี่จะถูกเกลี้ยกล่อม เพราะพวกเด็กน้อยทั้งสี่นั้นฉลาดมาก

 

ในห้องนั้น หลู่เจียวก็เชิญให้หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่า และคนอื่นๆ นั่งลง และไปที่ห้องครัวเพื่อเอาถ้วยชาที่นางซื้อครั้งล่าสุดไปชงชาให้หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่า

 

“หยุนจิน พวกเรามาที่นี่เพราะเราไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และข้าต้องการให้เจ้าช่วยตัดสินใจ”

 

เซี่ยหยุนจิน เป็นบัณฑิตเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน โดยปกติหัวหน้าหมู่บ้านและท่านผู้เฒ่าจะฟังความคิดเขา เกี่ยวกับเรื่องสำคัญใดๆ ในตระกูล

 

ดังนั้นคราวนี้พวกเขาจึงตัดสินใจไม่ได้และมาคุยกับ เซี่ยหยุนจิน อีกครั้ง

 

เซี่ยหยุนจิน ไม่ได้ปฏิเสธและมองดูผู้อาวุโสด้วยท่าทางอ่อนโยน "เกิดอะไรขึ้น?"

 

ผู้เฒ่ากล่าวว่า "เจ้าไม่ได้ขอให้ภรรยาของเจ้า สอนชาวบ้านให้รู้จักสมุนไพรดอกหรือ? ปัญหาคือ จะสอนเฉพาะคนในตระกูลเซี่ย หรือสอนคนในหมู่บ้านไปด้วย"

 

“เมื่อเปรียบเทียบกับหมู่บ้านอื่นแล้ว คนในหมู่บ้านเซี่ยเจีย ค่อนข้างจะสามัคคีกัน ถึงแม้จะมีคนไม่ดีอยู่บ้างในหมู่บ้าน โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาก็สามัคคีกันดี"

 

"ถ้ามีเพียงในตระกูลเซี่ย ได้รับการสอนให้รู้จักยาสมุนไพรในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างแซ่ จะโกรธเคืองกันได้ และในอนาคตชาวบ้านในหมู่บ้านเซี่ยเจีย จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มในอนาคต ซึ่งคงไม่ดีกับกับคนในหมู่บ้าน"

 

"ถ้าสอนกันทั้งหมู่บ้าน ก็เกรงว่าคนในตระกูลเองก็จะบ่นว่า พวกเขาอาจหาเงินได้มากกว่า หากมีเฉพาะพวกเขาที่รู้ ก็จะหาเงินได้มากกว่านี้ และพวกเขาอาจจะกลัวจะทำเงินได้ไม่มากในแต่ละวัน"

 

หัวหน้าหมู่บ้าน ก็รู้สึกอายเล็กน้อย เมื่อตอนหลู่เจียวบอกว่าอยากสอนให้ชาวบ้านรู้จักยาสมุนไพร เขารู้สึกมีความสุขมาก แต่เมื่อปรึกษากับผู้อาวุโส ก็พบว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ พวกเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมาคุยกับเซี่ยหยุนจินเพื่อช่วยกันคิดว่าจะเอายังไง

 

เซี่ยหยุนจิน ไตร่ตรองดูปัญหาที่กล่าว ในไม่ช้าเขาก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านและผู้เฒ่าและกล่าวว่า

 

“งั้นก็สอนทั้งหมดในหมู่บ้าน ไม่แบ่งแยก หัวหน้าหมู่บ้านก็ควรจัดประชุม ให้คนในตระกูลเซี่ย และคนต่างแซ่ในหมู่บ้านเซี่ยเจีย ทั้งหมดมีส่วนร่วม และให้คนต่างแซ่รับทราบว่า ภูเขาใกล้หมู่บ้านเซี่ยเจีย จะสงวนไว้สำหรับคนแซ่เซี่ย หรือคนตระกูลเซี่ย หากพวกเขาต้องการเก็บรวบรวมสมุนไพร พวกเขาต้องไปที่ภูเขาลูกอื่นที่อยู่ถัดออกไป”

 

“ที่นี่มีภูเขามากมาย และไม่ได้มีแค่ภูเขาใกล้หมู่บ้านเซี่ยเจีย นอกจากนี้ พวกท่านก็อย่าลืมบอกพวกเขาว่า นี่ไม่ใช่การดำรงชีวิตระยะยาว แต่จะเป็นการสร้างรายได้ชั่วคราว ในอนาคต ข้าจะพยายามคิดหาวิธีการดำรงชีพระยะยาวสำหรับพวกเขา ดังนั้น เป็นการดีที่สุด หากทุกคนไม่ขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นในตอนนี้”

 

พอเซี่ยหยุนจินพูดจบ หัวหน้าหมู่บ้าน และเหล่าผู้เฒ่า ก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ ก่อนอื่นก็ให้คนต่างแซ่ หาสมุนไพรที่ภูเขาอื่น เพื่อเอาใจชาวแซ่เซี่ย และยังให้โอกาสชาวต่างแซ่ทำเงินได้ พวกเขาก็ไม่น่าจะขัดแย้งกัน

 

ต่อมา หยุนจิน ยังกล่าวว่า เขาจะคิดหาวิธีเลี้ยงชีพอื่น ที่สามารถใช้ระยะยาวสำหรับพวกเขา ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนสกุลเซี่ย หรือต่างแซ่ แต่ก็ไม่อยากสร้างปัญหา เพราะเรื่องเล็กน้อย

 

ท่านผู้เฒ่าลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข "ตกลง ทำตามที่หยุนจินพูด"

 

พอท่านผู้เฒ่าพูดจบ ก็คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง หลู่เจียวเป็นคนสอน อาจจะมีใครบางคนที่นางไม่อยากสอนด้วยหรือไม่

 

“แล้วภรรยาของหยุนจินคิดว่ายังไง”

 

หลู่เจียวมองไปที่ผู้เฒ่าและกล่าวว่า “ให้พี่สะใภ้รอง มาเรียนที่บ้านเราได้ นอกจากนั้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าใครอีกแล้ว”

 

คำกล่าวนี้หมายถึงคนที่บ้านพ่อแม่สามีของนาง จากนั้นนางก็พูดเกี่ยวกับ บ้านของแม่ม่ายหลี่ “ครอบครัวเสิ่นของแม่ม่ายหลี่ ก็ให้เซี่ยเหลียน ที่เป็นลูกสะใภ้ของนางมาเรียน ไม่ต้องให้แม่ม่ายหลี่มา”

 

เซี่ยเหลียน ยังคงพอรับได้ แต่แม่ม่ายหลี่ อาจสร้างปัญหาให้กับนางมากกว่าจะมาเรียน

 

ส่วนป้ากุ้ยฮวาที่เคยทะเลาะกับนางมาก่อน ทุกคนก็ขอโทษแล้ว และนางก็ไม่ต้องเป็นห่วง

 

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่านางจะสอนพวกเขาให้รู้จักยาสมุนไพร อันที่จริง ยาเหล่านี้ก็ทำเงินได้ไม่มาก เพียงทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเล็กน้อย

 

ท่านผู้เฒ่าเห็นด้วยก็กล่าว "ตกลง ให้ฟู่กุ้ยช่วยจัดการเรื่องนี้"

 

เซี่ยฟู่กุ้ย พยักหน้าทันที "ตกลงข้าจะช่วยแจ้งให้ทุกคนทราบ และให้พวกเขามาในวันพรุ่งนี้เพื่อเรียนรู้เรื่องสมุนไพร"

 

หลังจาก เซี่ยฟู่กุ้ย พูดจบเขาก็ คิดว่ามีคนจำนวนมากในหมู่บ้าน และห้องนี้ ก็ไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากได้

 

“ภรรยาหยุนจิน ถ้าทุกคนมาที่นี่ ข้าเกรงว่า ทุกคนคงไม่สามารถยืนได้”

 

หลู่เจียวก็คิดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นางชี้ไปที่ด้านนอก ที่เป็นลานบ้าน แล้วกล่าวว่า “ทุกคนสามารถนำเก้าอี้หรือทั่งนั่งมาเอง เราจะนั่งเรียนกันข้างนอก อันที่จริง เป็นเพียงการอธิบายสมุนไพร ไม่จำเป็นต้องจด ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะจำได้หรือเปล่า ดังนั้น ข้าอาจจะต้องให้สมุนไพรแก่พวกเขาไปเป็นตัวอย่าง แล้วพวกเขาจะจดจำได้เอง หลังจากเก็บพวกมันมาสองสามครั้งแล้ว”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลู่เจียวรู้สึกว่าสมุนไพรที่นางหยิบก่อนหน้านี้อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นพรุ่งนี้เช้า นางขึ้นไปเก็บสมุนไพรมาเพิ่มเติม

 

หลังจากได้ยินคำพูดของนาง หัวหน้าหมู่บ้านและเหล่าผู้เฒ่า ผู้อาวุโส ก็พากันพยักหน้าอย่างมีความสุขในทันที "ตกลง เรากลับไปจัดการเรื่องนี้กันเถอะ"

 

ทุกคนในห้องหัวเราะ และทันใดนั้นก็มีเสียงร้องไห้อยู่ข้างนอก

 

ทุกคนหันไปมองที่ประตูโดยไม่รู้ตัว และโจวเสี่ยวเทาก็ร้องไห้ออกมา

 

“ลูกพี่ลูกน้อง พวกเขาขอให้ข้าทำความสะอาดบ้านหมาและเก็บขี้หมา”

 

โจวเสี่ยวเทามองเซี่ยหยุนจินบนเตียงอย่างน่าสงสาร ดูเหมือนว่านางกำลังถูกรังแก

 

น่าเสียดายที่ตอนนี้ ใบหน้าของนาง ไม่หลงเหลือความงามเลย ใบหน้าของนางเหลืองซีด ถูกเปิดเผยเพราะเหงื่อที่ไหลอาบแก้ม และนางดูน่าเกลียดกว่าเมื่อก่อน

 

บนเตียง เซี่ยหยุนจิน ขมวดคิ้วมองไปที่โจวเสี่ยวเทา ด้วยดวงตาที่เย็นชา

 

โจวเสี่ยวเทา ตกใจกับสายตาเช่นนี้ นางลืมร้องไห้ไปชั่วขณะหนึ่ง

 

หัวหน้าหมู่บ้านและผู้เฒ่ามองไปที่ โจวเสี่ยวเทา แล้วมองไปที่ เซี่ยหยุนจิน และ หลู่เจียว โดยไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

 

ในตอนนี้ ทุกคน คล้ายรู้สึกไม่ดีกับนางเหยียนมากกว่าเดิม

 

ในห้อง หลู่เจียว ก็ไม่สามารถมองตรงไปที่ใบหน้าของโจวเสี่ยวเทาได้ ดังนั้นนางจึงพูดอย่างโกรธเคือง "ข้าเพียงปล่อยให้เจ้าทำความสะอาดคอกสุนัข และเจ้าก็มาร้องไห้แบบนี้ แล้วเจ้าจะทำอะไรได้ เจ้าทำอะไรที่บ้านโจว หรือว่าเจ้าอยู่ไปวันๆ”

 

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของนาง นางก็ผอมมากจนไม่มีร่องรอยของเนื้อหนัง และนางไม่ได้กินดีอยู่ดี ในบ้านโจว แต่เพราะเป็นแบบนี้ ก็คงไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบคุณหนู จึงเป็นเรื่องปกติที่จะต้องทำงาน ให้อาหารสุกรและไก่ที่บ้าน และทำความสะอาดเล้าหมูและเล้าไก่ และตอนนี้หากจะทำความสะอาดคอกสุนัข มันก็น่าจะไม่ลำบากขนาดนั้น...

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป