Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (ช่วยดูแลครอบครัว)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

ช่วยดูแลครอบครัว

  • 31/05/2565

หลู่เจียว มองนางเหยียน และพูดอย่างหยาบคายว่า "แม่ทำไมข้าถึงไม่รู้ว่ามีเราญาติพี่น้อง"

 

คงมีบางอย่างผิดปกติในความคิดของนางเหยียน ถ้าหากนางต้องการให้เซี่ยหยุนจิน มีผู้หญิงคนอื่น ถึงยังไงก็ต้องมองหาคนสวยและคนฉลาดๆ อย่างน้อยๆก็ต้องสวยและฉลาดกว่าหลู่เจียว และที่สำคัญต้องเข้ากับเด็กๆได้ดี แต่ผู้หญิงคนนี้ มองยังไงก็ขี้เหร่ ไม่กลัวว่ามันจะราคายตาลูกชายของนางดอกหรือ? หรือว่านางคิดว่าลูกชายของนางจะเหมือนกับผู้ชายทั่วไป ที่มองผู้หญิงที่หน้าตาและนิสัยเหมือนกับมารดาของตัวเองเป็นคนสวย

 

ในขณะที่กำลังคิด หลู่เจียว ก็มองไปที่โจวเสี่ยวเทา ที่อยู่ตรงหน้า แล้วนางก็คิดว่า หากเทียบกับเสิ่นซิ่วก่อนหน้านี้ นังนับได้ว่า นางยังสวยกว่าอีก

 

และสตรีนางนี้ ก็ยังอายุน้อยเกินไป นางน่าจะอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี นางผอม หน้าตาธรรมดา และร่างกายของนางก็ธรรมดายิ่งกว่า แต่นางก็ค่อนข้างแสแสร้งเก่ง

 

เพียงแต่นางอาจไม่รู้ว่าตอนนี้หน้านางอัปลักษณ์แค่ไหน น้ำตาก็ไหลอาบเครื่องสำอาง จนทำให้เลอะเทอะ ทั้งน่าเกลียดและน่าตลก

 

เด็กน้อยทั้งสี่คน ในห้องก็รวมตัวกันแล้วกระซิบเบาๆ คล้ายจะมีใจตรงกับมารดา

 

"นางน่าเกลียดมาก"

 

"หน้าเหมือนผี"

 

"น่ากลัวกว่าผีอีก"

 

"ข้าไม่เคยเห็นคนขี้เหร่ขนาดนี้มาก่อนเลย"

 

เด็กน้องทั้งสี่คิดว่าพวกเขากำลังกระซิบ แต่ทุกคนในห้องล้วนได้ยินพวกเขา

 

โจวเสี่ยวเทา ร้องไห้เศร้าใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ นางเหยียน ก็มองไปที่เด็กๆทั้งสี่ ด้วยความโกรธและด่าตำหนิออกมา

 

“ต้าเปา เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร นี่คือลูกพี่ลูกน้องของเจ้า เจ้าจะหยาบคายกับลูกพี่ลูกน้องของเจ้าได้อย่างไร”

 

เด็กทั้งสี่ไม่สนใจนาง และพวกเขาก็หันมามองหลู่เจียว

 

หลู่เจียว มองไปที่ นางเหยียน อย่างไม่รีบร้อนและพูดว่า "แม่ข้าจำไม่ได้ว่าเรามีลูกพี่ลูกน้อง ตอนข้าแต่งงานกับหยุนจิน ทำไมข้าไม่เห็นนาง"

 

นางเหยียน พอได้ยินคำพูดของหลู่เจียวที่ทำให้นางเสียหน้า นางแทบจะอยากตบหน้าผู้หญิงคนนี้ทันที

 

เพราะนังสารเลวคนนี้ ลูกชายคนที่สามของนางถึงได้ถูกพรากไป ไม่อย่างนั้น ลูกสามของนาง ก็ยังเชื่อฟังนางอยู่ จะดื้อรั้นอย่างนี้ได้ยังไง เมื่อก่อนลูกชายคนนี้เชื่อฟังนางมาก แต่ตอนนี้ เขาเหมือนไม่คิดถึงคนในครอบครัวอีกเลย

 

แม้ว่านางเหยียน จะเกลียดหลู่เจียวแค่ไหน แต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ และนางก็อดกลั้นไว้ เมื่อคิดถึงความสูญเสียที่นางได้รับเมื่อครั้งก่อน

 

นางมองไปที่หลู่เจียว โดยไม่ยิ้มและพูดว่า "ทำไม จะไม่? ป้าของเจ้าแต่งงานกับนางโจว นี่คือลูกสาวของพี่เขยของนาง ไม่ใช่นับเป็นลูกพี่ลูกน้องของหยุนจิน ได้ใช่ไหม"

 

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุด หลู่เจียว ก็รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าลูกพี่ลูกน้องมาได้อย่างไร กลายเป็นหลานสาวของป้าของเซี่ยหยุนจิน นางเหยียนคงพยายามอย่างเต็มที่ๆจะขับไล่นางออกไป แม้แต่ป้าคนนี้ที่ไม่เคยคุยกันกับนางเหยียน นางก็สามารถพาหลานสาวของนางมาได้อย่างไรก็ดีทั้งหลานสาวทั้งป้า ก็คงเห็นแก่ประโยชน์ของเซี่ยหยุนจิน ที่ต้องการผูกมิตรไว้ ก็เลยส่งโจวเสี่ยวเทามาที่นี่

 

หลู่เจียว ยิ้มอย่างสบาย ๆ ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้  "โอ้ กลายเป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งของตระกูลโจว ว่าแต่ ทำไมลูกพี่ลูกน้อง ถึงมาทำอะไรที่นี่"

 

ทันทีที่คำพูดของหลู่เจียวจบลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางเหยียน "ตอนนี้ มันยากเกินไปสำหรับเจ้าที่จะดูแลลูกสามคนเดียว เพราะเจ้าจะต้องดูแลเด็กๆอีกสี่คน ดังนั้นข้าจึงขอให้เสี่ยวเทามาช่วยดูแลลูกสาม

 

เมื่อคำพูดของนางเหยียนจบลง เด็กๆทั้งสี่คล้ายไม่ยินยอม พูดออกมาด้วยความโกรธ

 

“ท่านพ่อ ไม่อยากให้นางดูแลเขา”

 

“นางน่าเกลียดมาก ข้าไม่อยากให้นางอยู่ใกล้พ่อ”

 

“แม่จะดูแลพ่อเอง”

 

"นางไม่ได้รับการต้อนรับในครอบครัวของพวกเรา"

 

ต่างคนต่างพูดออกมา แม้จะเป็นคำพูดของเด็ก แต่ก็ทำให้ซ้ำใจไม่น้อย โจวเสี่ยวเทาก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง มองไปที่เซี่ยหยุนจินที่อยู่บนเตียงด้วยความอับอาย และต้องการให้เซี่ยหยุนจิน ช่วยพูดให้นาง โชคไม่ดี ที่เซี่ยหยุนจิน เหมือนจะไม่ใส่ใจเลย เขามองไปที่นางเหยียนอย่างเย็นชา ดวงตาสีเข้มของเขาเหมือน พายุ ข้างหน้าท้องฟ้า นางเหยียนไม่ได้สังเกตการแสดงออกของเซี่ยหยุนจิน นางเพียงแค่จ้องไปที่เด็กชายทั้งสี่อย่างโกรธแล้วเงยหน้าขึ้นและตำหนิ หลู่เจียว

 

"หลู่เจียว ดูสิ่งที่เจ้าสอนเด็กสี่คนนี้สิ? ถ้าไม่รู้จะสอนยังไง เดี๋ยวข้าจะช่วยสอนพวกเขาเอง"

 

ทันทีที่คำพูดของนางเหยียนหายไป ออร่าของหลู่เจียวก็เปลี่ยนไป ทั้งร่างกายของนางก็ก้าวร้าว คิ้วของนางดูเคร่งขรึม

 

นางมองไปที่นางเหยียน และทันใดนั้นก็ถามด้วยการเยาะเย้ย " แม่คะ ท่านบอกว่าเด็กที่ข้าเลี้ยงนั้นไม่ดีหรือ"

 

คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของนางเหยียนเย็นชา นางจ้องไปที่หลู่เจียวอย่างดุเดือดและพูดว่า “หลู่เจียว เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

 

มุมปากของ หลู่เจียว ยิ้มน่าเกียจ เห็นได้ชัดว่าหน้าอ้วน แต่นางก็ส่องประกายแบบอ้วนๆ

 

"ปรากฎว่าแม่ไม่รู้ว่า การเป็นคนมีคุณธรรมเป็นแบบไหน เพราะหากรู้ ก็คงไม่พูดว่าข้าสอนลูกไม่ดี เอาล่ะข้ายอมรับ เด็กที่ข้าสอน อาจจะไม่ดีมากเท่าไหร่นัก แต่มันก็คงมากกว่าเด็กที่ท่านสอนมาก"

 

ใบหน้าของนางเหยียน กลายเป็นสีดำทันทีด้วยความโกรธเคือง นางจ้องไปที่หลู่เจียว และด่าออกไป "หลู่เจียว เจ้ากล้าพูดแบบนี้ กับแม่สามีได้อย่างไร" หลังจากนั้น นางก็หยุดมองหลู่เจียว และหันไปมองเซี่ยหยุนจินบนเตียง "ลูกสาม เจ้าเห็นไหม นั่นคือสิ่งที่ลูกสะใภ้ปฏิบัติกับแม่ของเจ้า เจ้ายังมีแม่คนนี้อยู่ในใจอีกหรือเปล่า"

 

ดวงตาสีเข้มของ เซี่ยหยุนจิน เย็นชาและไม่แยแส ไม่มีอารมณ์ในดวงตาของเขา

 

นางเหยียนเอง ก็ดูเหมือนว่าจะรู้ว่า ทัศนคติของเซี่ยหยุนจิน ที่มีต่อหลู่เจียว นั้นเปลี่ยนไป คงเพราะนางทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างแม่กับลูกชาย ดังนั้นแล้ว คงเป็นอะไรที่สมควรแล้ว ที่นางจะให้เสี่ยวเทาเกลี้ยกล่อมหยุนจิน และขับไล่หลู่เจียวออกไป

 

ทันใดนั้น นางเหยียนก็ร้องไห้ออกมาในขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ และพูดอย่างเศร้า

 

"ข้ามีเจตนาดี ต้องการหาคนมาช่วย แต่ข้ากลับได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากเจ้า ข้ารู้ว่ามันเป็นความผิดของข้าที่ให้เจ้าแยกบ้านมาก่อน ข้าถึงได้พยายามคืนดีกับเจ้า หาคนมาช่วย ไม่เพียงแต่เจ้าไม่ซาบซึ้ง แต่เจ้ายังปฏิบัติกับแม่แบบนี้ เจ้ายังเป็นคนอีกหรือเปล่า"

 

หลังจากที่นางเหยียนพูดจบ นางอยากจะวิ่งออกไป และหลู่เจียวก็รั้งนางเอาไว้ แล้วกล่าวออกมา

 

“แม่คะ กลายเป็นว่าพวกเราเข้าใจผิด ถ้าท่านส่งคนมาที่นี่เพื่อช่วยงานพวกเรา เช่นนั้นก็ให้นางอยู่เถอะ พวกเราจะได้มีคนช่วยทำงานบ้าน”

 

หลู่เจียวกังวลว่าที่บ้านจะยุ่งเกินไป เป็นการดีที่นางเหยียนจะส่งคนงานคนหนึ่งมาให้ฟรีๆ

 

นั่นเพราะว่า เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ นางจะเริ่มสอนชาวบ้านให้รู้จักสมุนไพร และนางยังจะต้องดูแลเด็กน้อยทั้งสี่ และเซี่ยหยุนจินไปด้วย ดังนั้นมีงานหลายอย่างที่บ้านในตอนนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกัน หากจะมีคนมาช่วยงาน

 

ในห้องนั้น นางเหยียนรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้องนัก โจวเสี่ยวเทา ก็มีใบหน้าน่าเกลียด นางต้องช่วยดูแลหยุนจิน กลับช่วยพวกเขาทำสิ่งต่างๆ คำนี้หมายความว่าอย่างไร ทำไมมันฟังดูเหมือนคนรับใช้

 

ขณะที่โจวเสี่ยวเทากำลังจะพูด ด้านนอกประตู  หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่าและเหล่าผู้อาวุโสสองหรือสามคนในหมู่บ้านก็เดินเข้ามา

 

ทันทีที่เดินเข้าไปในกลุ่มก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบรรยากาศในห้อง

 

ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านและผู้เฒ่าเห็นนางเหยียน ต่างก็นึกในใจว่านางเหยียน คงมาก่อเรื่องอีกแล้ว ท่านผู้เฒ่า ที่เป็นผู้นำกลุ่ม ก็กล่าวออกมาว่า “ลูกสะใภ้สี่ เจ้าต้องการทำอะไร?”

 

เวลานี้ หลู่เจียวก็กล่าวออกมาว่า "ท่านผู้เฒ่า ท่านแม่ เห็นว่าข้ามีงานที่ต้องทำมากเกินไป จึงพาคนมาช่วยข้าทำงานในบ้าน"

 

การแสดงออกของ นางเหยียน และ โจวเสี่ยวเทา เปลี่ยนไปและ โจวเสี่ยวเทา ก็พยายามจะเปิดปากพูด แต่ท่านผู้เฒ่าก็พูดขึ้นก่อน "ลูกสะใภ้สี่ เจ้าจริงใจหรือเปล่า"

 

นางเหยียนกลัวท่านผู้เฒ่าและเหล่าผู้อาวุโส คนพวกนี้ไม่เคยชอบนาง และเคยต้องการให้เซี่ยหยวนเซินหย่ากับนาง อาจบางที พวกเขาจะกลับมามีความคิดแบบนั้นอีกหรือเปล่า ดังนั้นชะตาชีวิตของนาง ก็ขึ้นอยู่กับเหล่าผู้เฒ่าผู้อาวุโสในตระกูลด้วยเช่นกัน

 

ดังนั้นนางเหยียนจึงขยิบตาให้โจวเสี่ยวเทาและตอบอย่างรวดเร็วว่า “ใช่ ข้าคิดว่า ลูกสะใภ้สามของข้าเหนื่อยเกินไป ข้าก็เลยหาใครสักคนมาช่วยนางดูแลครอบครัว”

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป